...ก็ต้องขออนุญาตเอาข้อมูลของมิกซ์ดิจิตอลมาเล่าสู่กันฟังสักนิดครับ...
...ในห้องมิกซ์มือสองในช่วงนี้สักเกตุว่า ช่วงนี้มิกซ์ดิจิตอลเข้ามาในบ้านเรามาก ไม่ว่าจะมาจากทางยุโรป อเมิกา หรือทางบ้านเราเองก็คือเจแปน ส่วนใหญ่ก็จะไม่พ้นยี่ห้อยามาฮ่าที่มีมากที่สุดครับ ในช่วงนี้กระแสของมิกซ์ดิจิตอลเริ่มมีบทบาทมากขึ้นครับ เพราะเทคโนโลยี ที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว มิกซ์ดิจิตอลหลายค่ายเริ่มที่จะเข้ามาผลิตที่จีนเป็นส่วนใหญ่ ก็แปลว่าช่วงนี้ของใหม่ในปี 2013 ยังไม่มีใครปล่อยออกมาให้เห็น ถึงแม้จะปล่อยออกมาแต่เรื่องราคาก็คงไม่ต่ำมากเหมือนของพี่ยุ่นอย่างแน่นอน..
...กลัวอะไรกับมิกซ์ดิจิตอล...เล่นยาก เล่นไม่เป็น หรือ ไม่เคยเล่น...
...มันไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยครับ หรือ ท่านคิดว่ามันแพง เรื่องราคานี่ผมว่าหลายท่านอาจจะไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ในส่วนตัวผมคิดว่ามิกซ์ดิจิตอล ที่สมาชิกหลายท่านเอามาจำหน่ายในห้องมือสองของห้องนี้ ผมว่าราคากับเทคโนโลยี มันแทบจะเทียบกันไม่ได้ครับ ผู้ผลิตคิดจนปวดหัวกว่าจะได้มิกซ์มาแต่ละตัว แต่เราผู้ใช้กลับไม่กล้าที่จะใช้กลัวสาระพัดครับ กลัวแฮ้ง กลัวเสีย เล่นไม่เป็น เล่นยาก ไม่เข้าใจ สิ่งต่างๆเหล่านี้ผมคิดว่าถ้าหากเราไม่เล่น ไม่เรียนรู้ เราก็จะอยู่อย่างเต่าๆ คลานไปเรื่อยๆในขณะที่เทคโนโลยี วิ่งเร็วอย่างกระต่ายตื่นตูมตอนเจอลูกตาลหล่นใส่ ฉะนั้นถ้าคิดจะเล่นไม่ต้องกลัวครับ และผมคิดว่าเมื่อใครได้เล่นมิกซ์ดิจิตอลจนเป็นแล้วก็ไม่อยากที่จะกลับไปเล่นมิกซ์แบบอนาล็อคอย่างแน่นอน และความคิดก็จะเริ่มหามิกซ์ดิจิตอลที่รุ่นใหญ่และลูกเล่นใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามาอีกอย่างแน่นอน...
...อนาล็อคกับดิจิตอลต่างกันอย่างไรบ้าง...
...ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือ มิกซ์ดิจิตอล มันสามารถเซฟข้อมูลที่เราใช้อยู่ประจำเก็บไว้ในตัวเครื่องได้เป็นร้อยโปรแกรมในรุ่นใหญ่ๆ รุ่นเล็กๆก็รองลงมาครับอาจจะซัก 3-40 โปรแกรมก็ได้ ...
..การเก็บโปรแรมดีอย่างไร..
...ในเมื่อมีภาคเมมโมรี่ที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วเราไม่ต้องมานั่งเซ๊ตระบบใหม่เหมือนอนาล็อคครับ อย่างเช่นเราเล่นงานนี้ 20 แชลเนลที่ต้องใช้งาน เมื่อเซ๊ตระบบเสร็จ เราก็เก็บข้อมูลไว้ และเมื่อเวลาผ่านไปเรากลับมาเล่นที่เดิมอีกหรือเล่นแบบซ้ำๆเราก็เรียกเมมโมรี่ที่เราเก็บไว้มาเล่นได้เลย เพียงแต่การเข้าหัวสายที่เกี่ยวกับชิ้นดนตรีเราก็เข้าให้เกมือนเดิมเท่านั้นเองครับ เมื่อถึงเวลาเทสระบบ เราจะใช่เวลาไม่กี่นาที ทุกอย่างก็เรียบร้อย นี่ก็เป็นข้อดีที่ระบบอนาล็อคทำไม่ได้เท่านั้นเอง..
...ก่รสร้างโปรแกรมอย่างชาญฉลาดของผู้เล่นมิกซ์ดิจิตอล อาจจะใช้เมมโมรี่ให้เป็นประโยชน์ อย่างเช่นเล่น คาราโอเกะ เล่น ความจำที่ 1 เล่นสดใช้ความจำที่ 2 พอเริ่มพิธีการใช้ความจำที่ 3 คัดความถี่ ปล่อยเอฟกฟกเท่าที่จำเป็น มิ้วช่องที่ไม่จำเป็นให้หมด เปิดแค่ช่องที่ใช้งานเท่านั้น..นี่ก็เป็นข้อดี ฉะนั้นผมถึงบอกว่ามิกซ์ดิจิตอลมีอะไรหลายๆอย่างที่ผู้ใช้ สามารถออกแบบเลือกทำได้ดั่งใจที่ต้องการครับ..
..ถ้าก้าวกระโดดจะได้ไหม..
...แน่นอนครับใครที่จะเก่งมิกซ์ถ้าไม่มีพื้นฐานจากอนาล๊อคมาก่อนแล้ววิ่งเร่เข้ามาจับดิจิตอลเลยจะได้ไหม?..
ก็มีสมาชิกหลายท่านนะครับที่เป็นแบบนี้แต่น้อยมาก เพียงแต่ส่วนใหญ่ก็มีประสพการณ์จากอนาล๊อคมาแล้วทั้งสิ้นครับ เพียงแต่ว่าพื้นฐานแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน บางคนมีความจำดี เข้าใจง่าย ติดตามได้เร็วและมีพื้นฐานอีเล็กทรอนิคพอควร และ ที่แน่ๆที่สำคัญที่สุด ต้องอ่านภาษาอังกฤษออก ก็จะดีมาก ก็จะ เข้าใจง่ายขึ้น แต่บางท่านก็ยังไม่เข้าใจถึงสัญลักษ์ต่างบนตัวมิกซ์ว่า ตัวนี้กดแล้วเป็นอะไร มีผลต่อเสียงอย่างไร ก็ต้องทำความเข้าใจกันไปเรื่อยๆครับ เล่นมิกซ์ดิจิตอลบางทีเราอาจจะต้องวาดภาพจิตนาการไปพร้อมๆกับการลงมือกระทำตรงๆที่ตัวเครื่องจริงๆเลย ก็จะทำให้ผู้เล่นๆได้เป็นเร็วยิ่งขึ้นครับ...
...ผมมองถึงช่วงหนึ่งที่ครอสอนาล็อคเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อสักเกือบ 10 ปีก่อน มีเพื่อสมาชิกมาคุยให้ฟังว่า ท่านเล่นหรือยัง เดี๋ยวนี้เรื่องครอสดิจิตอลมีอะไรมากมายกว่าที่คิด มีระบบจัดการอยู่ในตัวมันเองทุกอย่าง ไม่ว่า EQ COM LIMITER PRE EQ FBS DELAY สมัยนั้นผมเองก็ยังงๆตามประสาคนไม่เคยจับครับ เพื่อนสมาชิกบอกว่าเดี๋ยวนี้ dbx ทำออกมาแล้วรุ่น DRIVERACK PA ก็คงเป็นที่ฮือฮามากครับสำหรับมือใหม่อย่างบ้านเรา ราคาตอนนั้นก็ 3 หมื่นกว่าบาท ผมก็รอราคาลงมานานมากครับซื้อมือหนึ่งเลยของมหาจักรน่าจะ 2 หมื่นกลางๆได้ครับแล้วเอามาเล่นดูตามประสาคนที่ไม่กล้วเทคโนโลยีครับ มันจึงทำให้เรามีประสพการณ์ได้ความรู้เพิ่มเติมมามากมายครับตั้งแต่วันนั้นมา..
...และแล้ววันแรกที่ผมเล่นมิกซ์เป็นของตัวเองตัวแรกเมื่อ 4-5 ปีก่อนนั่นก็คือ O2R ครับ งงเป็นไก่ตาแตกที่ไอ้โต้งบ้านนอกอย่างเราได้แต่เขี่ยหนอนแมลงปลวกในดินกิน ที่ไม่เคยเจออาหารเม็ดมาก่อน รสชาดมันอร่อยไปหมด มันสำเร็จรูปไปหมดจริงๆ ทุกอย่างอยู่ในนั้นหมด นิยามแห่งความกลัวหมดสิ้นไปเมื่อเราได้เล่นได้สัมผัส ถึงกับคิดอยู่ในใจตลอดว่า นี่มันเอาคนบ้าๆมาทำมิกซ์หรือยังไง มันคิดได้ยังไงที่ออกแบบการทำงานของมิกเซอร์ได้อย่างฉลาดขนาดนี้ ผมถึงบอกไงครับง่า ในบางครั้งเราเสียเงินเพื่อซื้อเทคโนโลยีบ้างเผื่อสมองที่ทื่อๆของเราอาจจะแหลมคมเพื่อที่จะได้เดินตามให้ทันกับคนในโลกนี้บ้างและอย่างน้อยการเรียนรู้ให้เป็นแต่ไม่ต้องเก่งเป็นถึงผู้สร้างหรอกครับ แค่เดินให้ทันตอบให้ถูกบ้าง เราก็ไม่ใช่คนล้าหลังอีกต่อไป...
...ทุกอย่างอยู่ในนั้นหมดสิ้นเหมือนบะหมี่สำเร็จรูป...
...ข้อดีในมิกซ์ดิจิตอลเกือบทุกรุ่นมีอะไรมากมายกว่าที่เราคิดครับ พื้นฐานที่เขาใส่มาให้ก็คือการปรับค่าความถี่ ค่าความถี่คืออะไร? ก็คือโวลลุ่ม แหลม กลาง ต่ำ นั่นเอง ท่านสังเกตุว่ามิกซ์แต่ละตัวจะให้ค่า EQ มีไม่เท่ากัน อย่างเช่น SOUNDCRAFT ต่างๆก็จะมี EQ 5 ก้าน(เอาภาษาชาวบ้านมาใช้ดีกว่าเข้าใจง่ายดี) บางรุ่นหรือบางยี่ห้ออาจจะมีถึง 6-8 ก้านก็มีครับ ในบางครั้งมันมีก้านให้ปรับมากๆก็จะเกิดข้อดีก็คือ เราสามารถคัตหรือบูตความถี่เฉพาะงานได้ดีครับ.
...ในมิกซ์ดิจิตอลหรือทั่วๆไปก็จะมีดังนี้ครับ..
...HIGHT
MID HIGHT
MID LOW
LOW
เมื่อเราเข้าหน้า EQ ในแต่ละย่านก็จะมีปลีกย่อยออกไปอีกอย่างละ 3 ค่าก็คือ..
..ค่า Q ก็คือการปรับค่าความลาดชันของความถี่ข้างเคียงว่าเมื่อเราบูตหรือเราคัตเราจะดึงความถี่ข้างเคียงตามไปด้วยหรือเปล่านั่นเองหรือเจาะจงความถี่เฉพาะที่เราต้องการจริงๆ...
..ค่า F ก็คือการตั้งค่าความถี่ที่ต้องการของช่องนั้นๆนั่นเอง แต่ที่จริงคำว่า LOW
MID LOW
MID HIGHT
HIGHT
มันเป็นปุ่มสมมุติขึ้นมาว่าเรากำลังปรับค่าความถี่เท่าไหร่ เพื่อที่จะให้ตรงกับย่านหรือความต้องการตอนใช้งาน ที่จริงปุ่มแต่ละปุ่มของ F มันสามารถกวาดหรือสแกนได้ตลอดย่านความถี่เสียงนั่นคือตั้งแต่ 20 Hz-20KHz อยู่แล้วครับ เพียงแต่เรากำหนดชื่อย่านความถี่ออกมาเป็น 4 ปุ่ม เพื่อให้ง่ายต่อการดูนั่นเอง...
..ค่า G ก็คือค่า GAIN ขยายนั่นเองหรือค่า บูตหรือคัต ก็เรียกกันไป ปุ่ม G จะมีความสำคัญที่สุด ถ้าปุ่มนี้อยู่ที่ ตำแหน่งกลางหรือ 0 db เมื่อเราปรับค่า Q หรือค่า F ความถี่ของเสียงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเราไม่ได้บูตหรือคัต นั่นเอง ค่า G อาจจะออกแบบมาให้ถึง +/- ที่ 12-15 db เลยทีเดียว..
...เมื่อเรารู้ค่า 3 ค่านี้แล้วคือ Q/F/G และปุ่มปรับความถี่ LOW..MID LOW..MID HIGHT..HIGHT เมื่อเรานึกถึงตอนปรับเราจะเห็นว่ามิกซ์ดิจิตอลมีปุ่มปรับ 4 ย่านความถี่ แต่ละความถี่มีให้ปรับได้อีก 3 ค่า ก็หมายความว่ามิกซ์ดิจิตอลมีก้านทั้งหมด 4X3 ก็เท่ากับมีก้าน EQ ถึง 12 ก้านของช่องมิกซ์แต่ละช่องเลยทีเดียว...
...ในมิกซ์ดิจิตอลบางรุ่นอาจจะทำค่า EQ สำเร็จรูปมาให้ด้วย ก็หมายความว่า ถ้าผู้ใช้ไม่ถนัดในการปรับ EQ เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ของเสียงต้นทางที่เข้ามาว่าเป็นอะไร เช่น กระเดื่อง สแนร์ เสียงร้อง เครื่องเป่า เครื่องเคาะต่างๆ เหล่านี้ เมื่อผู้ใช้งานยังไม่คล่องปรับไม่เป็น EQ ที่สำเร็จรูปเหล่านี้ก็พร้อมที่จะถูกเรียกมาใช้งานได้ทันที ซึ่งมีให้มากมายครบครันเลยทีเดียว และเมื่อเราได้ EQ สำเร็จรูปมาแล้ว ถ้าหากเราฟังเสียงดูแล้วยังไม่ถูกใจ เราก็ยังสามารถเอาค่า EQ ที่เราเรียกมาใช้ปรับแต่งเพิ่มเติมได้อีกและก็ SAVE เก็บไว้ในความจำแล้วตั้งชื่อใหม่เพื่อเรียกใช้ต่อไปได้อีกอย่างง่ายดาย...
...EFFECT
ในมิกซ์ดิจิตอล...
..ในมิกซ์ดิจิตอลส่วนใหญ่ก็จะบรรจุเอฟเฟกมาให้ด้วยแล้วแต่ว่าจะใส่ให้กี่ชุด อย่างน้อย 2 ชุดเป็นส่วนใหญ่และเป็นเอฟเฟกแบบขนานนะครับและออกแบบการใช้งานในรูปแบบของ AUX SENT เป็นส่วนใหญ่ ถ้าใครเล่นมิกซ์ดิจิตอลยามาฮ่า จะรู้จักกันดี ซึ่งบางท่านอาจไม่เข้าใจคำว่า 2 ชุดหมายความว่ามิกซ์ทั้งตัวที่มีช่องใช้งานเท่าใดก็แล้วแต่ จะใช่เอฟเฟกได้เพียง 2 ชุดหรือ 2 ชื่อเท่านั้นนะครับ บางท่านบอกว่า ผมใช้ช่อง 1 เป็นรีเวิป และช่อง 2 เป็น ดีเลย์ ส่วนช่อง 3 จะใช้ ECHO อย่างนี้ไม่ได้นะครับ เพราะบอกแล้วว่ามีแค่ 2 ชุด เราจะต้องเลือกมาใช้ 2 เสียงเท่านั้น แต่ค่าพารามิเตอร์สามารถปรับแต่งได้ทุกช่องครับ เราต้องเข้าใจอย่างนี้...
...EFFECT ก็เช่นกัน เราสามารถเรียกใช้ในรูปแบบสำเร็จรูปได้เช่นกันเพื่อให้ตรงกับเสียงที่มาจากต้นทาง เช่นเสียงร้อง เราก็สามารถดึงเอฟเฟกเสียงร้องสำเร็จรูปมาใช้ อาจจะเขียนไว้ในรูปแบบ VOCAL PLATE 1 หรือ 2 หรือเสียงผู้หญิง เสียงผู้ชาย หรือแม้กระทั่งเอฟเฟกที่ใช้กับเครื่องเป่าเครื่องเคาะต่างๆ มันก็มีให้หมดครับ เราก็ RECALL เรียกมาใช้ได้ทันที และ เช่นกันถ้าหากเราไม่พอใจในเสียงสำเร็จรูป เราก็สามารถ EDIT แก้ไขพารามิเตอร์ต่างๆ เสร็จแล้วเราก็สามารถ SAVE แล้วตั้งชื่อเก็บไว้ในโฆมด EFFECT ได้อีกเช่นกัน...
...COMP
ในโหมดนี้แน่นอนครับ มิกซ์ดิจิตอลมีมาให้เสร็จเราก็สามารถเรียกใช้ได้ทันทีเช่นกัน ถ้ายังปรับหรือใช้ไม่เป็นอีก มันก็เหมือนกับค่า EQ ค่า EFFECT ค่า COMP มันก็จะมีโปรแกรมสำเร็จรูปเช่นกัน เราก็สามารถเรียกมาใช้ให้ตรงกับเสียงต้นทางได้เช่นกัน แต่เรื่องของ COMP เป็นเรื่องของรายละเอียดสูง ผู้ใช้ต้องมีความชำนาญเป็นอย่างมากในการเข้าใจถึงชื่อต่างๆที่อยู่ในโปรแกรมว่า ชื่อนั้นๆคืออะไร ปรับแล้วเกิดอะไรขึ้น อะไรอยู่หน้า อยู่หลังปรับแล้วทำไมไม่มีผล หลักการนี้ก็จะคล้ายๆกับ การปรับ EQ ก็คือปรับค่า F ก็แล้ว ปรับค่า Q ก็แล้วแต่ไม่มีผลเพราะอะไรก็เพราะเรายังไม่ได้ปรับค่า G ขึ้นหรือลงก่อนนั่นเอง ค่า COMP ก็เหมือนกันครับ ตรงนี้ต้องศึกษาให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งครับ แล้วเราจะเป็นมือซาวด์ที่ดีโดยไม่ต้องพึ่งใคร...
...ในการใช้โหมดต่างๆดังที่ได้กล่าวมาแล้วจะมีส่วนๆหนึ่งที่สำคัญนั่นคือเราจะใช้หรือไม่ใช้จะมีปุ่มอยู่ปุ่มหนึ่งคือปุ่ม ON หรือ OFF การ ON ก็คือจะใช้งานในหมวดนี้ หรือ OFF ก็ไม่ใช้นั่นเองครับ เราก็ทำความเข้าใจง่ายๆก็แล้วกัน...
...ส่วนประกอบอื่นที่มันอยู่ในตัวมิซ์ดิจิตอลอีกหลายๆหมวดก็คือ..
...DELAY
PAN
...PAIR..
GROUP
BUS
AUX
MUTE
พารามิเตอร์ต่างๆเหล่านี้จะถูกบรรจุอยู่ในมิกซ์ดิจิตอลทั้งหมดที่ไม่แตกต่างกับมิกซ์อนาล็อคครับ เพียงแต่การเข้าถึงนั้นต้องมีความเข้าใจก่อนว่าเราจะดูหรือจะปรับอะไร เช่นเข้าหน้า DELAY ก็จะบอกว่าทั้งหมดทุกช่องมีการใช้ DELAY ที่ช่องไหนบ้าง การใช้ PAN เมื่ออยู่หน้า PAN มันก็จะบอกเราว่าทุกช่องมีการใช้ PAN ซ้ายหรือขวา ช่องไหนบ้าง GROUP หมายถึงการจัดหมวดหมู่ ว่าเราจัดหมวดหมู่ของกลุ่มใช้งานอะไรบ้างเช่นกลุ่มไมค์ 4 ช่องต่อ 1 กรุ๊ฟ กลุ่มกลองใช้ 8 ช่อง ต่อ 1 กรุ๊ฟ ส่วน PAIR ก็หมายถึงการจับช่องคู่กัน ก็จะมีการบังคับว่าการจับคู่ช่องจะจับได้แค่คู่ร่วมต่อกันเท่านั้น เช่นคู่ช่อง 1+2 หรือ 3+4 หรือ 5+6 แต่จะจับแบบ 1+3 หรือ 2+3 หรือ 8+9 ไม่ได้เท่านั้นเอง หน้าตาเหล่านี้เราก็สามารถเรียกดูและ EDIT ได้ทันทีครับ นี่ก็เป็นข้อดีของมิกซืดิจิตอลที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและมีการเข้าถึงอย่างรวแร็ว และเช่นกันพารามิเตอร์เหล่านี้เราสามารถสร้างและเก็บเป็น MEMORY ได้หมดโดยอิสระต่อกันครับได้ทุกอย่างตามที่เราต้องการ
...ดิจิตอลมิกเซอร์ ยังมีอะไรที่มากมายที่เรายังนึกไม่ถึงว่า มันสามารถทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ มันยังมีอะไรพิเศษอีกมากมายครับที่เรายังเรียนรู้ไม่หมดหรือแม้กระทั่งผมเองได้เล่นมาเกือบทุกรุ่น ยกเว้นรุ่นใหม่ๆที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสมันครับ เพราะเราไม่ได้อยู่ในวงการเต็มตัวเหมือนเพื่อนสมาชิกท่านอื่น มีอะไรที่เราได้เรียนรู้ ผมก็จะนำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง ไปน้ำขุ่นๆบ้าง งูๆปลาๆบ้าง ก็ยังดีครับ...
...คราวหน้าจะมาเล่าสู่กันฟังกับมิกซ์รุ่นใหม่ๆกับคำว่า PLUG IN (แปลง่ายๆก็เหมือนกับเอามันมาเสียบใช้งานนั่นเอง)คำๆนี้ยังไม่มีในมิกซ์รุ่นเก่าๆครับ จะใช้กับรุ่นใหม่ๆหรือเทคโนโลยีใหม่ๆเท่านั้นเอง ปลั๊กอิน ส่วนใหญ่จะเป็นออฟชั่นซะมากกว่า หรือที่ใส่มาก็จะเป็นแบบพื้นๆเล่นง่ายๆ อย่างพวกรุ่น o1V96 หรือ O2R96 รวมถึง X-32 พวกซาวด์คร๊าฟรุ่นใหม่ๆเหล่านี้ล้วนเป็น PLUG IN ทั้งสิ้น บางทีมันจะมีเอฟเฟกให้ 4-10 ชุดก็เป็นไปได้ครับ บางคนบอกหาเอฟเฟกไม่เจอหา COMP ไม่เจอ พวกนี้จะใช้ควบคู่กับ INSERT ครับ ถ้าเราไม่ใส่มันเข้าไปมันก็จะไม่ทำงาน มันไม่เหมือนการ PARAREL แบบมิกซ์ดิจิตอลรุ่นเก่าครับ แล้วเราจะได้พูดคุยกันต่อไป..
...ด้วยความหวังทั้งหมดที่เล่ากันฟังก็เพื่อต้องการให้เพื่อนสมาชิกได้ลองได้สัมผัสกับเทคโนโลยีของมิกซ์ดิจิตอลกันบ้าง เพื่อให้ทันยุคทันสมัย แต่ก็ไม่ใช่ว่ามิกซ์แบบอนาล็อคจะไม่ดี มิกซ์มันดีทุกตัวครับ เพียงแต่เราจะชอบหรือจะรักมันมากน้อยขนาดไหนเท่านั้นเอง รวมถึงการลงทุนอะไรซักอย่างที่มันควรคุ้มค่า มิกซ์ดิจิตอลเดี๋ยวนี้ ราคาถูกลงมากครับเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่เราได้มันมา มันคุ้มกับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน อย่างเช่นในรุ่น PRO MIX-01 บอกคำเดียวว่าโคตรคุ้มแค่เอฟเฟกก็แสนจะคุ้ม โดยเฉพาะมือสองที่เราได้เห็นเพื่อนๆสมาชิกนำมาขายกัน ซื้อได้ครับ ไม่ว่าท่านจะซื้อจากใครมา หรือซื้อมาเองนำเข้ามาเอง เมื่อไม่เข้าใจ โทรถามผมได้ตลอดครับไม่ต้องเกรงใจ อะไรตอบได้ก็จะตอบถ้าตอบไม่ได้ก็อย่างว่ากัน คนที่ไม่รู้เขาไม่ใช่คนโง่ คนไม่รู้ก็คือคนไม่รู้เขาไม่ใช่คนโง่แต่อย่างใดครับ เพียงแต่การเรียนรู้มันเรียนกันไม่มีวันสิ้นสุดไม่มีวันจบ เพียงแต่เราจะยอมรับหรือเปิดใจให้สิ่งนั้นเดินเข้ามาหาตัวเราเหลือเพียงแค่ตัวเราเท่านั้นที่จะยอมรับมันเข้ามาหรือผลักใส่ไล่ส่งมันออกไป เท่านั้นเอง...