ตอนนีเรามาต่อกันที่วิธีปรับ ที่จะเป็นแนวทาง ให้ทุกท่านได้นำไปใช้ ได้ทุกรุ่นครับ
ตา ดู หู ฟัง มือ ปรับ หลักหลักเลยคอมเพรซเซอร์จะมีปุ่มปรับพื้นฐานอยู่ 4 ปุ่ม คือ attack release ratio และ thresholdส่วนใหญ่ถ้าผู้ไม่เคยใช้หรือไม่มีเทคนิคในการเซ็ตอัพค่าเบื้องต้นอาจจะสับสนได้ครับเนื่องจากจับปุ่มนี้ทีอันนั้นที วกไปวนมาจนสับสนไปเลยก็มีอลองใช้เทคนิคนี้ครับ วีธีการนี้ข้อนข้างเรียบง่ายแต่ต้องมีขั้นตอนนิดหน่อย อันดับแรกให้ปรับไปค่าเริ่มต้นก่อน คือ ปุ่ม ratio หมุนไปทางค่าที่มากที่สุดเท่าที่เครื่องมีอยู่ ส่วนปุ่ม rerelease หมุนไปค่าที่เร็วที่สุด เท่าที่เครื่องมีอยู่เช่นกัน ส่วนปุ่ม attack ปรับไว้ตรงกลางก่อนต่อไปก็ส่งสัญญาณที่ต้องการทำการ คอมเพรซเข้าไป เบื้องต้นปรับตรงปุ่ม threshold ให้คอมเพรซเซอร์ทำงานถี่ถี่ไปก่อน จังหวะนี้ไม่ต้องตกใจครับเสียงอาจจะไม่ดี แต่ไม่ต้องไปสนใจครับ
ตอนนี้ต้องทำตามขั้นตอนต่อไป คือปรับปุ่ม attack time ต่อครับ ตอนนี้ตอนปรับปุ่มนี้พยายามฟังให้ดีการปรับปุ่มนี้จะมีผลกับ จุดเริ่มต้นของเสียงที่จะถูกกดฟังดีๆ ฟังเฉพาะเสียงและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการหมุนปุ่มนี่ท่านั้น ห้ามยุ่งกับปุ่มอื่น เมื่อหมุนไปยังตำแหน่งต่างๆ การปรับปุ่ม attack time นี้จะเป็นจุดกำหนดการเริ่มต้นของการกดเสียง ปรับไปดูว่ามันต่างกันอย่างไรในตำแหน่งต่างต่างฟังดูว่าเกิดผลกระทบ ความหนาบาง ของเสียง ปรับให้ได้เสียงตามต้องการซึ่งต้องคำนึงถึงธรรมชาติของเสียง และไดนามิค ของเสียงที่ทำการเปิดปิด และคอมเพรซ หลักการคือเราต้องช่วยทำให้มันดีกว่าเก่า เท่านั้น
เมื่อปรับค่าattack จนเป็นธรรมชาติและเกิดความพอดีแล้ว ลำดับต่อไปคือปุ่ม release time ปุ่มนี้ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดว่าหลังจากที่สัญญาณได้ถูกทำการกดแล้วจะใช้เวลาเท่าไหร่ที่จะหยุดการกดสัญญาณ
แนวคิวในการปรับจูนปุ่มนี้คือ อาศัยความเป็นธรรมชาติของเสียงดนตรีชิ้นนั้นนั้นเป็นหลักเช่นกัน พยายามฟังและหมุนหาตำแหน่งที่ปรับแล้วมันเสริมความเป็นธรรมชาติ และทำให้เสียงที่ออกมาโดยรวมนิ่งและกระชับแต่ต้องให้ค่า relese time นั้นเร็วและพร้อมที่จะกดเสียงถัดไปที่ตามมาก็เป็นอันจบ
สำคัญที่สุดต้องคงความเป็นธรรมชาติของเสียงไว้และฟังเสียงที่ออกมาโดยรวมหลังจากผ่านคอมเพรซเซอร์แล้ว เสียงต้องดีกว่าเดิม
ขั้นตอนต่อไปต่อไปคือปุ่ม ratio ปรับไปตำแหน่งค่ามากที่สุดตอนแรก ซาวด์โดยรวมตอนนี้เสียงจะถูกกดเกินความจำเป็นอยู่มากเนื่องจากตอนแรกที่ต้องปรับปุ่มนี้ไว้สุดเพราะจะทำให้การปรับ ค่า attack และ releaseได้ชัดและง่ายเวลาฟัง ทีนี้เรามาปรับค่า ratio หรือปรับอัตรตราส่วนการกดสัญญาณ ใหม่กันเลยวีธีการคือค่อยๆ หมุนปุ่มนี้มาหาค่าที่น้อยลงทีละนิด จำไว้ว่าเสียงถ้าถูกคอมเพรซหรือถูกกดสัญญาณ เสียงที่ออกมาจะเล็กแน่น แต่ถ้าเสียงถูกคอมเพรซหรือถูกกดน้อย เสียงจะฟังดูใหญ่กว้างแต่แน่นน้อยกว่า ตรงนี้เราก็ใช้แนวคิดในการปรับค่าว่าเราต้องการเสียงที่ออกมาแบบไหนแค่ไหน
และหาจุดที่เหมาะสมในการกดสัญญาณที่ออกจากคอมเพรชเซอร์นั้น ให้ได้ตรงกับตามความต้องการ
โดยอิงหลักธรรมชาติของเสียงเป็นหลักโดยใช้แนวคิดที่ว่า คอมเพรซเซอร์คืออุปกรณ์ที่ใช้เปิดปิดสัญญาณ และจัดระดับสัญญาณขาเข้าที่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่คงที่ เช่นเสียงจากไมค์โครโฟน หรือ จากเครื่องดนตรีโดยเฉพาะพวกกลอง เมือสัญญาณแรงเกินไปคอมเพรซเซอร์จะเป็นตัว เปิดปิด และกดสัญญาณ ให้อออกมาได้ในระดับความดังที่เท่ากันเสมอ และช่วยให้สัญญาณที่ออกมานั้นถูดกำหนดด้วยค่าความแรงที่เรากำหนดไว้
ทำให้ได้สัญญาณที่มีคุณภาพมีความแรงสูงสุดที่พอดีและเท่ากันทุกครั้ง จึงทำให้ควบคุมเสียงได้ง่ายและลดความเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆได้
ส่วนใหญ่เสียงที่ต้องการใช้งานคอมเพรซเซอร์ นั้นยกตัวอย่างเช่น เสียงจาก แสนร์ กระเดื่อง ไมค์จ่ออุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงไมค์ร้องหลัก รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องการให้เสียงที่ออกมานั้นมีความดังตามต้องการ และได้สัญญาณที่ออกมาไม่พีค หรือไม่สวิงวูบวาบได้ หลังจากปรับปุ่ม ratio แล้วมาต่อด้วยการปรับปุ่ม threshold ค่อยค่อยปรับหมุนทีละนิด หมุนไปฟังไป หาตำแหน่งที่คอมเพรซเซอร์จะทำงาน ควรให้คอมเพรซเซอร์ทำงาน เมื่อจำเป็นต้องการลดระดับความแรงของเสียงด้านเข้าที่ดังมาก เท่านั้น อย่าไหนคอมเพรซเซอร์ทำงานตลอด คือสัญญาณถ้าไม่แรงเกินไปก็ควรปล่อยให้ผ่านไปได้ ควรปรับหรือกำหนดการทำงานของคอมเพรซเมื่อสัญญาณขาเข้าที่มีความผิดปรกติ หรือสัญญาณที่แรงเกินไปเท่านั้น ถึงจะทำการกดสัญญาณ หากให้คอมเพรซเซอร์กดสัญญาณตลอดจะทำให้เสีย dynamic ของเสียงถูกทำลายเสียงที่ออกมาเป็นธรรมชาติ แนวคิดตรงนี้คือปล่อยให้ dinamic ของเสียงยังคงอยู่ แต่ให้อยู่ในการควบคุมของคอมเพรซเซอร์กดเฉพาะสัญญาณที่เกินมา ให้พอเหมาะและกำลังดีและไม่เสียลักณะโดยรวมของ ไดนามิคเรนท์ ของเพลงหรือของเครื่องดนตรีนั้นนั้น การใช้งานคอมเพรซเซอร์ต้องใช้กับสิ่งที่จำเป็นเท่านั้นมากไปไม่ดี และอย่าลืมว่าใช้ใการควบคุมเสียงเท่านั้น อย่าพยายามใช้เพื่อหวังจะได้เสียงที่ดีรวมกันเป็นก้อน เพราะอาจทำให้ไดนามิกของเสียงเดิมจะถูกทำลายหมด ยิ่งกดมากยิ่งเพี้ยนไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากบางที ที่จำเป็นจริงๆที่ต้องการเสียงในลักษะที่กล่าวมาข้างต้น ก็ให้ไตร่ตรองก่อนว่าต้องการเสียงที่ใหญ่เล็กแน่น เป็นก้อน มากน้อยแค่ไหนและลองทำดูตามรูปแบบที่ผมได้อธิบายไปแล้ว รับรองว่าไม่ยากครับ สวัสดีครับ
ทิกเกอร์ซาวด์ 14 12 2010