..เป็นแบบที่ท่านอรพงษ์ว่ามาครับ..มันคนละแนว คนสไตล์เสียงกันก็อยู่ที่ใครชอบสไตล์แนวไหน..dbx จะให้เสียงที่หนา หนักแน่น กระหึ่มกว่า สัญญาณจะแรงกว่า Rane เพราะ input +output เป็นแบบบาลานซ์แคนนอน..เหมาะกับงานที่ต้องการเสียงดัง หนักแน่น กระหึ่มมากๆ แต่ถ้าฟังละเอียดโดยเปรียบเทียบกับ Rane จะฟังออกว่าไม่เคลียร์ ออกมาแบบบานๆรวมๆกัน..เบสกระเดื่องจะไม่เป็นลูกกระชับเท่าไร ออกมาแบบหนักแน่น กระหึ่มรวมๆกันอย่างเดียว กลาง แหลม ขาดความสดใสกระชับ...
..ส่วน Rane เสียงจะเคลียร์กว่า ฟังแล้วแต่ละความถี่เสียงแยกกันชัดเจน จึงออกมากระชับ สดใส คมชัดกว่า เบสกระเดื่องกระชับ หนักแน่น เป็นลูก เป็นก้อนกว่าแต่กระหึ่มน้อยกว่า กลางจะคมชัด สดใส โปร่งกว่าจึงมิกซ์ให้ปลายเสียงคมออกมาซิบๆได้ดีกว่า แต่ความแรงจะน้อยกว่า dbx ผมจึงต้องเร่ง Input จนสุดเพื่อให้ได้ความดังพอๆกับ dbx ตามที่ต้องการ แต่เร่งจนสุดแล้วปรากฎว่าเสียงไม่เพี้ยน ไม่พร่าเลยครับ
....dbx ก็ถือว่าสร้างความเชื่อถือ เป็นหน้าเป็นตากับระบบแล้ว คุณภาพเสียง โดยทั่วไปก็ OK เป็นที่ยอมรับกัน ถ้าไม่เอาไปฟังเปรียบเทียบ ประชัน ขันแข่งกับใคร โดยจับประเด็นๆอย่างละเอียดอย่างผม ที่บ้าไม่เหมือนใคร และเคยเป็นพวกบ้าหูทอง เล่นเครื่องในบ้านไฮเอนมาก่อน ..ปัจจุบันมาเล่นเครื่อง PA ก็บ้าสุดๆ เสียเงิน เสียทองซื้อมิกซ์+พาวเวอร์ +อุปกรณ์ต่างๆมาเต็มบ้าน หมดเงินไปหลายแสนแล้ว ออกงานทีได้เงินหักแล้วคงเหลือไม่เคยเกิน 3000 สักที แถมเหนื่อย ไม่ได้หลับได้นอนอีก บางงานเจ้าภาพที่เป็นผู้ใหญ่ ที่ผมเคารพรู้จัก พอใจในผลงานของผมที่ทำให้งานของเขาออกมาสนุกสนาน ดี จะแถมเงินเพิ่มให้ผมก็ไม่เอา..มันเพราะลูกบ้า +ความชอบ+สนองตัญหาความต้องการของตน และเวลาได้เล่นดนตรีขึ้นเวที ได้ร้องเพลง ได้จัดคิวเพลง ได้พูดคุย แซว เล่นกับแขก ได้คุม ปรับ มิกซ์ระบบเสียง แล้วมันเป็นอะไรที่ชอบมากๆ มีความสุข และเมื่อผมทำระบบออกมาได้คุณภาพดีๆ คนชมชอบ แล้วมันเหมือนผมได้ชัยชนะต่อตนเองและคนอื่น มันท้าทายตัวเองดี มันก็เท่านั้น.เท่านั้นจริงๆ