ถ้าเงินสามสี่พันไม่ใช่ปัญหาสำหรับชีวิตท่านและครอบครัว ซื้อมันมาใช้เลยครับ alesis ก็ถูกดี การป้องกันเสียงแหลมขาดมันอาจเป็นปัจจัยสำคัญ ตามที่เจ้าของกระทู้เขียนไว้ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ (ความเห็นส่วนตัว) ถ้าท่านใช้งานมันเป็น ก็ศึกษาจากกระทู้นี้กับกระทู้อื่นๆ หลายๆ กระทู้ ประมวลผลกัน ใช้งานมันให้เป็น เสียงไมค์ร้องของท่านก็จะไพเราะเพาะพริ้งเป็นยิ่งนัก จนท่านหลงเสียงตัวเอง เพื่อนฝูงไม่ยอมวางไมค์ (มันบีบอัดและรักษาสมดุลของเสียงร้องท่านครับ) ตรงนี้แหละเป็นสาระสำคัญของคอมเพรสเซอร์สำหรับผม การป้องกันขี้เมาตะโกนมันเป็นแค่ผลพลอยได้ครับ ก็ขอบอบคุณเจ้าของกระทู้ที่อุตส่าห์สละเวลาอันมีค่าเขียนให้ความรู้แก่เพื่อนๆ สมาชิกอย่างสูง แค่ผมเขียนแค่นี้ผมยังขี้เกียจเลยครับ
ใช่ครับผมเองเพียงยกประโยชน์เชิงต้น มาพอได้ทราบนะครับ
จริงๆแล้วเขาก็ทำได้หลยอย่าง
อย่างประโยชน์ที่ได้ก็คือเสียงที่จะออกไปที่ลำโพงจะไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ทำให้เสียงที่ออกมาไม่แตกพร่า หรือลำโพงขาด แอมป์ไหม้ เสียงที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่สมดุล
และถ้าเป็นวงจรที่ถูกออกแบบมาดี ๆ หน่อยเสียงที่ผ่านกระบวนการนี้จะเป็นเสียงที่ดีขึ้น หนักแน่นขึ้นนิดหน่อย ขอย้ำว่านิดหน่อยนะครับ หรือที่ภาษานักดนตรีเรียกว่า เสียงมันเหนียวขึ้น
***ส่วนอันนี้ขอยืมมาจาเฟรช น้าแอส เทนเยียอาฟเตอร์ครับ
--เคยไหมทำงานที่เปิดเพลงบรรยากาศ คลอในงาน
พอจะมี อะไรประชาสัมพันธ์ ก็จะต้องพูดไมค์ และลดเสียง
เพลงบรรยากาศ ลง เพือจะได้ยิน ว่าพูดอะไรชัดๆ
compressor ทำหน้าที่ ลด dynamic range ใช่ไหมครับ
ในอีกแง่นึง เอามาใช้ ลดความดังก็ได้ คิดตามนะครับ
เขาก็เลย เอา compressor มา insert ไว้ที่ช่อง ของ เสียงเพลงบรรยากาศ แล้ว เอาสัญญาน จากช่อง ไมค์ ประชาสัมพันธ์ นั่นแหละ (เอาจาก direct out ก็ได้ Aux ก็ได้ มาต่อเข้าที่ช่อง side chain ของ compressor ที่เราต่อ ไว้ที่ช่องเพลง
ทีนี้ พอ พูดไมค์ ปุ๊บ เสียงจะไปสั่งให้ compressor ทำงาน
จะกดมากหรือน้อย อยู่ที่เราปรับ compressor ครับ
พูดปุ๊บ เพลงก็จะเบาลงเอง พูดเสร็จ เพลงกลับไปดังเหมือนเดิม
เอาไปประยุกต์ใช้ ได้เพียบ ใช้กับ bass กับ kick ก็ได้ เบสเล่นอยู่
กระเดื่องเบาลงหน่อย ช่วงไหน ไม่เล่น กระเดื่องดังเท่าเดิม
หรือ ใช้ กับ Lead vocal กับ chorus ก็ได้ครับ