คำอธิบายนี้ เข้าท่าดี ถือว่าเป็นความรู้ใหม่เลย ต้องขอบคุณเป็นอย่างสูง....... การต่อลักษณะนี้จะมีจุดที่ สัญญาณ หายไป (ไม่ขยาย)คือ ณ.จุดเวลาที่ สัญญาณ(ก่อนกลับเฟส) ทั้งสองเส้น เป็น + เท่าๆกัน และ จุดที่เป็น - เท่าๆกัน ส่วน จุดที่ สัญญาณ แตกต่างกันน้อย ก็จะขยายน้อย ส่วนที่ที่มันแตกต่างกันมากก็จะขยายมาก(แบบนี้เรียกว่า ดิฟเฟอร์เรนเชียล).....
คำอธิบายนี้ ก็น่าสนใจและน่าทดลองทำตามดู ขอบคุณอีกเช่นกัน....... ถ้าต่ออีกวิธีคือเอาresistor ค่าเท่ากัน 2ตัว ต่อจาก hot ของ ไฮ และ มิด มารวมกัน ออกป็น hot และเอา resistor ค่าเท่ากัน กับ2ตัว แรก ต่อจากcold ของ ไฮ และ มิด มารวมกัน แล้วออกเป็น cold (เรียกว่า คอมโพสิท)แบบนี้ เมื่อถึงปลายทาง สัญญาณ จะมีครบครับ ไม่มีการหักล้างกันเองในบางช่วง และถ้ามีสัญญาณแปลกปลอม(noise)มันก็จะไม่ขยายครับ.....
เยี่ยมมากเลยครับ....ดูที่ MIX.ราคารากหญ้าหรือเครื่องขยายแบบบ้านๆถ้ามีการเอาสํญญาน 2 แหล่งขึ้นไปมารวมกัน จะใช้อุปกรณ์ที่ง่า่ยที่สุดรวมสัญญานคือ ตัวต้านทาน เพื่อไม่ให้ความถี่บางช่วงมันสูญเสีย.....ขออนุญาติแสดงความคิดเห็น.จากความรู้อันน้อยนิด.. อีกครั้งครับ..ที่กล่าวมาทั้งหมด ...เรียกว่า Buffer (บัฟเฟอร์)ครับท่าน...เพื่อความปลอดภัยของวงจรทั้ง2แหล่ง.........
ลองดูเล่นๆนะครับ... ท่านลองเอาเครื่องเล่น..CDหรือเครื่องขยายเสียง..อันโปรดของท่านเอา L+R รวมกันดื้อๆเลยแล้วเปิดฟัง....ลองดูผลที่ตามมาในเวลาอันสั้นและระยะยาว....เสียงดีขึ้นหรือCDอันโปรดของท่านจะเจ็บตัวก่อนอิอิ.....ลองดู....
....... ขออภัยนะครับเป็นความคิดในอีกแง่หนึ่ง.......
...พี่ๆข้างบนอธิบายได้แจ่มแจ้งมากเลยครับ... smileyy
เรียนถามนะครับก่อนอื่นต้องขออภัยท่านเจ้าของแนวความคิดก่อนว่า ผมขออนุญาต แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปหวังว่าท่านคงไม่ถือโทษนะครับ....
ส่วนตัวผมคิดว่า การเอา hot ของเสียงกลาง แล้วเอา cold ของเสียงแหลม (หรือจะกลับกันก็แล้วแต่)มาทำเป็น บาลานซ์ (mid+hi) ถ้าตามหลักวิชาการ ลักษณะรูปร่างของสัญญาณ ของทั้ง 2เส้น จะไม่เหมือนกัน เพราะคนละย่านความถี่กัน การต่อลักษณะนี้จะมีจุดที่ สัญญาณ หายไป (ไม่ขยาย)คือ ณ.จุดเวลาที่ สัญญาณ(ก่อนกลับเฟส) ทั้งสองเส้น เป็น + เท่าๆกัน และ จุดที่เป็น - เท่าๆกัน ส่วน จุดที่ สัญญาณ แตกต่างกันน้อย ก็จะขยายน้อย ส่วนที่ที่มันแตกต่างกันมากก็จะขยายมาก(แบบนี้เรียกว่า ดิฟเฟอร์เรนเชียล).....
ขออธิบายง่ายๆดังนี้ คือ ตามปกติวงจรบาลานซ์เมื่อถึงปลายทางก็จะกลับเฟส cold(-)เสียใหม่ แล้วไปเปรียบเทียบกับ hot(+) ถ้าสัญญาณเหมือนกัน แสดงว่า นั่นคือเป็นสัญญาณที่แท้จริง ส่วนสัญญาณที่ไม่เหมือนกันมันก็คือของปลอม จะไม่ขยาย(นี่คือการทำงานปกติของ บาลานซ์ เพื่อป้องกัน NOISE...เหมือนกันคือของจริง/ไม่เหมือนกันคือของปลอม) ถ้าต่อแบบนี้ จะมีทีจุดที่ไม่เหมือนกันแยอะมาก (ซึ่งจริงๆแล้วมันคือของจริงของทั้งคู่)ถามว่ามีเสียงดังใหม ตอบว่ามีเสียงดัง(เหมือนจะปกติ) แต่ถ้าถามว่าครบใหม ตอบได้ว่าไม่ครบ แต่จะฟังรู้หรือปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง..(แต่ออสซิลโลสโคป รู้แน่)..........
แต่ถ้าต่ออีกวิธีคือเอาresistor ค่าเท่ากัน 2ตัว ต่อจาก hot ของ ไฮ และ มิด มารวมกัน ออกป็น hot และเอา resistor ค่าเท่ากัน กับ2ตัว แรก ต่อจากcold ของ ไฮ และ มิด มารวมกัน แล้วออกเป็น cold (เรียกว่า คอมโพสิท)แบบนี้ เมื่อถึงปลายทาง สัญญาณ จะมีครบครับ ไม่มีการหักล้างกันเองในบางช่วง และถ้ามีสัญญาณแปลกปลอม(noise)มันก็จะไม่ขยายครับ
ขออภัยที่เห็นต่างอีกครั้งครับ
ครับ
(http://image.ohozaa.com/iw/3520081015153735.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=ce97ae8d3e49723f6426eeb2c1c48e38)
ปัจจุบันผมใช้วิธีตามภาพนี้แหละครับ ซึ่งเสียงที่ได้ แตกต่างกันมากเลยกับการกดปุ่มที่ครอส 3 ทางเป็น 2 ทาง
ครับ
(http://image.ohozaa.com/iw/3520081015153735.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=ce97ae8d3e49723f6426eeb2c1c48e38)
อยากจะบอกว่า ถ้าต่อตามรูปไปเข้าเพาเวอร์ 2 ทาง เป็นความเข้าใจผิดครับ เวลาเราต้องการให้ครอสแบ่งความถี่ออกเป็น 2 ทาง เราก็กดปุ่มเปลี่ยนมันเป็น 2 ทาง แล้วเราก็ใช้ขั้วขาออกแค่ 2 ชั้วต่อข้างครับ คือ Low กับ Hi แค่นั้นพอ ส่วน จุดตัดแบ่งความถี่ ก็ปรับได้ที่หน้าเครื่องครับ และต้องปรับ EQ 1/3 octave ให้แฟลต เสมอ
smiley4 smiley4 smiley4 smiley4 smiley4 smiley4 smiley4
....ตำราในห้องเรียน กับ นอกห้องเรียน...............ต้องเรียนรู้ทั้ง 2 อย่างครับ
.....สมัยเรียน ผมก็ใช่ว่า ขี้ๆ นะครับ อันดับต้นๆในห้องเลยนะครับ
......ทุกอย่าง มีเหตุ มีผล ทำมาแล้ว และ อธิบายได้ ถึงแนะนำให้ทำ
.....ลองทำดูก่อนครับ ได้ผลประการใด ค่อยมาว่ากันครับ
.....ถ้ายังไม่ได้ลอง แนะนำให้ ลองก่อนครับ
.....ไม่มีอะไรเสียหายครับ
....ด้วยความเคารพ
ยังสงสัยเรื่องสาย balance กับ unbalance ครับสงสัยจริงๆครับ....
ถ้าหากเรานำมาใช้งานร่วมกันจะมีผลหรือไม่ อย่างไรครับ เช่น
เรานำสายไมค์ที่จ่อเครื่องดนตรีต่างๆ หรือไมค์ร้องบนเวทีซึ่งใช้สายเป็น unbalance
นำมาต่อเข้าบ๊อกมัลติคอร์ที่มันเป็นสาย balance เพื่อมามิกซ์หน้าเวที
หรือถ้าจะให้สมบูรณ์แบบทั้งระบบต้องเป็นสาย balance ทั้งหมดเลยหรือเปล่า.....
ยังสงสัยเรื่องสาย balance กับ unbalance ครับสงสัยจริงๆครับ....
ถ้าหากเรานำมาใช้งานร่วมกันจะมีผลหรือไม่ อย่างไรครับ เช่น
เรานำสายไมค์ที่จ่อเครื่องดนตรีต่างๆ หรือไมค์ร้องบนเวทีซึ่งใช้สายเป็น unbalance
นำมาต่อเข้าบ๊อกมัลติคอร์ที่มันเป็นสาย balance เพื่อมามิกซ์หน้าเวที
หรือถ้าจะให้สมบูรณ์แบบทั้งระบบต้องเป็นสาย balance ทั้งหมดเลยหรือเปล่า.....
รอดูมาหลายวันยังไม่มีใครมาให้ความกระจ่าง
แชร์ด้วยคน
ประสบการณ์จาก สนามแข่งเรือ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร อยุธยา
มิกซ์ที่จ่ายสัญญาณออกเป็น Unbalance (ช่องโฟน) แปลงเป็น XLR แล้วส่งผ่านสาย Balance 300 เมตร
ไม่มีจี่ ไม่มีฮำครับ *** เหตุผล ลองใช้มิกซ์อีกตัว โดนทั้งคลื่นวิทยุ และ ฮำเมื่อเร่งสัญญาณมากๆ
แต่....มิกซ์ที่ เมนเอาต์ เป็น Balance อยู่แล้ว ก็จ่ายผ่านสายไกลๆ ได้ดีอยู่แล้ว
เคล็ดไม่ลับ.....ก่อนจ่ายสัญญาณจากเมนมิกซ์ไปจุดต่างๆ ก็ทำให้เป็น Balance ซะก่อน คราวนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพสายสัญญาณแล้วล่ะ (ของผมบอส 100 ม เส่นละ 1,600 แต่ไม่วางกับพื้นสนาม มันชื้น)
ปล......ผมใช้ มิกซ์ Behringer SL3242FX Pro ไม่เคยผิวหวังเรื่องสัญญาณรบกวน (กรณีใช้ของเราล้วนๆ)
แชร์ด้วยคน
ประสบการณ์จาก สนามแข่งเรือ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร อยุธยา
มิกซ์ที่จ่ายสัญญาณออกเป็น Unbalance (ช่องโฟน) แปลงเป็น XLR แล้วส่งผ่านสาย Balance 300 เมตร
ไม่มีจี่ ไม่มีฮำครับ *** เหตุผล ลองใช้มิกซ์อีกตัว โดนทั้งคลื่นวิทยุ และ ฮำเมื่อเร่งสัญญาณมากๆ
แต่....มิกซ์ที่ เมนเอาต์ เป็น Balance อยู่แล้ว ก็จ่ายผ่านสายไกลๆ ได้ดีอยู่แล้ว
เคล็ดไม่ลับ.....ก่อนจ่ายสัญญาณจากเมนมิกซ์ไปจุดต่างๆ ก็ทำให้เป็น Balance ซะก่อน คราวนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพสายสัญญาณแล้วล่ะ (ของผมบอส 100 ม เส่นละ 1,600 แต่ไม่วางกับพื้นสนาม มันชื้น)
ปล......ผมใช้ มิกซ์ Behringer SL3242FX Pro ไม่เคยผิวหวังเรื่องสัญญาณรบกวน (กรณีใช้ของเราล้วนๆ)
แปลงอย่างไร บอกเพื่อนๆด้วยครับ
ของผมเองเป็นเครื่องเสียงรากหญ้าจริงๆคนอื่นๆเขาไม่ใช้กัน แต่ผมทำแบบท่าน ท่านถาวร และท่านมิตรได้กล่าวไว้
ทำตามนั้นและมันก็ได้ดีจริงๆครับ สายลำโพงให้มันสั้นเข้าไว้ ส่วนสายมันติคอร์ลยาวเท่าไหร่ก็เอายาวจนหลีกอะไรๆ
ได้ ที่ไม่โดนรถทับ หรือไม่โดนขาเก้าอี้ทับจนเป็นอันรายกับสาย เพราะสายมันติคอร์ลเป็นสาย บาล้าน สายค้อนข้างแพง ต้องถนอมมันด้วย
คอบคุณผู้รู้หลายๆท่านที่มาให้ความรู้กับพวกรากหญ้าเราๆจะได้ทำมาหากิน ให้เจ้าภาพพอใจมากที่สุด
ขอวิธีการต่อสายสัญญานจากซาวด์การ์ดให้เป็นบาลานหน่อยครับ
สอบถามครับ Mixer phonic AM440D ตรงไหนคือรู insert ครับ
1.ในคู่มือบอกไว้ว่ามี INSERT 4 ช่องไม่แน่ใจว่าใช่ช่องที่อยู่ใกล้ๆกับ แจ๊ค XLR หรือไม่
ถ้าคู่มือไม่พิมพ์ผิด ผมว่าท่านคงเข้าใจผิด
2.ถ้าใช้แจ๊คแบบ TRS แทน XLR เสียงต่างกันไหมครับช่องที่ 1-4
ถ้าดูจากวงจรต่างกันเล็กน้อยครับ
3.ช่องต่อ 5,6 หรือ 7,8 ต้องต่อแจ็คแบบ TRS ทั้งคู่เลยหรือไม่ครับ ถึงจะ Full balance หรือต่อแบบไหนอย่างไรครับ
ต้อง TRS ครับ
สงสัยผมคงเข้าใจผิด กำลังศึกษาการใช้งานอยู่ครับ(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/07/07/100073_1404697594.png)สอบถามครับ Mixer phonic AM440D ตรงไหนคือรู insert ครับ
1.ในคู่มือบอกไว้ว่ามี INSERT 4 ช่องไม่แน่ใจว่าใช่ช่องที่อยู่ใกล้ๆกับ แจ๊ค XLR หรือไม่
ถ้าคู่มือไม่พิมพ์ผิด ผมว่าท่านคงเข้าใจผิด
2.ถ้าใช้แจ๊คแบบ TRS แทน XLR เสียงต่างกันไหมครับช่องที่ 1-4
ถ้าดูจากวงจรต่างกันเล็กน้อยครับ
3.ช่องต่อ 5,6 หรือ 7,8 ต้องต่อแจ็คแบบ TRS ทั้งคู่เลยหรือไม่ครับ ถึงจะ Full balance หรือต่อแบบไหนอย่างไรครับ
ต้อง TRS ครับ
น่าจะผิดทางเขา ดูแล้วที่มี insert มัน am442D
อยากทราบสัญาญาณขาออกXLRของมิกซ์TASCAMรุ่นM2524ขาไหน+ขาไหน-ขาไหนกราวด์ครับมิกรุ่นนี้ ถ้าใช้สัญญาณเข้า ออก ร่วมกันทั้ง โฟนปลั๊ก 6mm และ แคนน่อน XLR คือ เฟสจะกลับ ไปมา ต้องไล่เรียงให้ดี ทั้งสายและระบบทั้งหมด โดยโรงงานกำหนดให้ XLR ขา 3 เป็น + และ ขา2เป็น- ส่วน 1=gnd โดยอ้าง โฟนปลั๊ก TRS Tip=hot/Ring=cold/Sleeve=gnd เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
อยากทราบสัญาญาณขาออกXLRของมิกซ์TASCAMรุ่นM2524ขาไหน+ขาไหน-ขาไหนกราวด์ครับมิกรุ่นนี้ ถ้าใช้สัญญาณเข้า ออก ร่วมกันทั้ง โฟนปลั๊ก 6mm และ แคนน่อน XLR คือ เฟสจะกลับ ไปมา ต้องไล่เรียงให้ดี ทั้งสายและระบบทั้งหมด โดยโรงงานกำหนดให้ XLR ขา 3 เป็น + และ ขา2เป็น- ส่วน 1=gnd โดยอ้าง โฟนปลั๊ก TRS Tip=hot/Ring=cold/Sleeve=gnd เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2016/04/30/1686_1462019944.jpg)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2016/04/30/1686_1462019969.jpg)
สายสัญญาณทั่วไปต่อไมค์ได้เลยทุกช่องครับ แต่ไม่ควรใช้ input ที่เป็นปลั๊ก TRS ร่วมกันในบอร์ดที่ช่องสัญญาณเข้าที่เหลือของ 1-24อีก เพราะมัน out phase กับ xlr ไม่ต้องทำอะไรกับสายแต่ด้านออกจากมิกจะต้องเป็น แบบ xlr แล้วอินพุทของครอสจะต้องรับเข้าเป็นสัญญาณ balance แล้วทุกอย่างจะมาตรงเฟสของมันเอง
แบบในรูปต่อเข้าครอสได้เลยใช่ไหมครับ ขอบคุณช่างแอ๊ดมากๆ ขอถามอีกนิดสายสัญญานไมค์ทั่วๆไปที่ขา1กราวด์ขา2+ขา3-ใช้เสียบช่อง1-24ได้เลยใช่ไหมครับ
สายสัญญาณทั่วไปต่อไมค์ได้เลยทุกช่องครับ แต่ไม่ควรใช้ input ที่เป็นปลั๊ก TRS ร่วมกันในบอร์ดที่ช่องสัญญาณเข้าที่เหลือของ 1-24อีก เพราะมัน out phase กับ xlr ไม่ต้องทำอะไรกับสายแต่ด้านออกจากมิกจะต้องเป็น แบบ xlr แล้วอินพุทของครอสจะต้องรับเข้าเป็นสัญญาณ balance แล้วทุกอย่างจะมาตรงเฟสของมันเอง
แบบในรูปต่อเข้าครอสได้เลยใช่ไหมครับ ขอบคุณช่างแอ๊ดมากๆ ขอถามอีกนิดสายสัญญานไมค์ทั่วๆไปที่ขา1กราวด์ขา2+ขา3-ใช้เสียบช่อง1-24ได้เลยใช่ไหมครับ
*ที่ไปครอสให้ใช้สาย xlr 3 pin ต่อตรงทุกขา ถ้าทำแบบในรูป จะต้องสลับขา 2<>3 ที่อินพุททั้งหมด
สายสัญญาณทั่วไปต่อไมค์ได้เลยทุกช่องครับ แต่ไม่ควรใช้ input ที่เป็นปลั๊ก TRS ร่วมกันในบอร์ดที่ช่องสัญญาณเข้าที่เหลือของ 1-24อีก เพราะมัน out phase กับ xlr ไม่ต้องทำอะไรกับสายแต่ด้านออกจากมิกจะต้องเป็น แบบ xlr แล้วอินพุทของครอสจะต้องรับเข้าเป็นสัญญาณ balance แล้วทุกอย่างจะมาตรงเฟสของมันเอง
แบบในรูปต่อเข้าครอสได้เลยใช่ไหมครับ ขอบคุณช่างแอ๊ดมากๆ ขอถามอีกนิดสายสัญญานไมค์ทั่วๆไปที่ขา1กราวด์ขา2+ขา3-ใช้เสียบช่อง1-24ได้เลยใช่ไหมครับ
*ที่ไปครอสให้ใช้สาย xlr 3 pin ต่อตรงทุกขา ถ้าทำแบบในรูป จะต้องสลับขา 2<>3 ที่อินพุททั้งหมด
ผมต่ออย่างนี้ถูกไหมครับ xlr outที่มิกซ์ขา1กราวด์ขา2-ขา3+ ด้านเข้าครอสขา1กราวด์ขา2+ขา3-
สายสัญญาณทั่วไปต่อไมค์ได้เลยทุกช่องครับ แต่ไม่ควรใช้ input ที่เป็นปลั๊ก TRS ร่วมกันในบอร์ดที่ช่องสัญญาณเข้าที่เหลือของ 1-24อีก เพราะมัน out phase กับ xlr ไม่ต้องทำอะไรกับสายแต่ด้านออกจากมิกจะต้องเป็น แบบ xlr แล้วอินพุทของครอสจะต้องรับเข้าเป็นสัญญาณ balance แล้วทุกอย่างจะมาตรงเฟสของมันเอง
แบบในรูปต่อเข้าครอสได้เลยใช่ไหมครับ ขอบคุณช่างแอ๊ดมากๆ ขอถามอีกนิดสายสัญญานไมค์ทั่วๆไปที่ขา1กราวด์ขา2+ขา3-ใช้เสียบช่อง1-24ได้เลยใช่ไหมครับ
*ที่ไปครอสให้ใช้สาย xlr 3 pin ต่อตรงทุกขา ถ้าทำแบบในรูป จะต้องสลับขา 2<>3 ที่อินพุททั้งหมด
ผมต่ออย่างนี้ถูกไหมครับ xlr outที่มิกซ์ขา1กราวด์ขา2-ขา3+ ด้านเข้าครอสขา1กราวด์ขา2+ขา3-
เสียงออกเหมือนกัน แต่เสียงจะกลับเฟสจากต้นทางครับ 2- 3+ เข้าครอสก็ควรจะ 2- 3+ ครับ
สายสัญญาณทั่วไปต่อไมค์ได้เลยทุกช่องครับ แต่ไม่ควรใช้ input ที่เป็นปลั๊ก TRS ร่วมกันในบอร์ดที่ช่องสัญญาณเข้าที่เหลือของ 1-24อีก เพราะมัน out phase กับ xlr ไม่ต้องทำอะไรกับสายแต่ด้านออกจากมิกจะต้องเป็น แบบ xlr แล้วอินพุทของครอสจะต้องรับเข้าเป็นสัญญาณ balance แล้วทุกอย่างจะมาตรงเฟสของมันเอง
แบบในรูปต่อเข้าครอสได้เลยใช่ไหมครับ ขอบคุณช่างแอ๊ดมากๆ ขอถามอีกนิดสายสัญญานไมค์ทั่วๆไปที่ขา1กราวด์ขา2+ขา3-ใช้เสียบช่อง1-24ได้เลยใช่ไหมครับ
*ที่ไปครอสให้ใช้สาย xlr 3 pin ต่อตรงทุกขา ถ้าทำแบบในรูป จะต้องสลับขา 2<>3 ที่อินพุททั้งหมด
ผมต่ออย่างนี้ถูกไหมครับ xlr outที่มิกซ์ขา1กราวด์ขา2-ขา3+ ด้านเข้าครอสขา1กราวด์ขา2+ขา3-
เสียงออกเหมือนกัน แต่เสียงจะกลับเฟสจากต้นทางครับ 2- 3+ เข้าครอสก็ควรจะ 2- 3+ ครับ
สัญญาณออกของมิกซ์รุ่นนี้ ถึงแม้เป็นแจ็ค XLR ก็เถอะ แต่สัญญาณเป็นอ้นบาลานซ์นะครับ
และสัญญาณบวกจะออกที่ขา 3 เราต้องมาแปลงสัญญาณบวกให้ไปออกที่ขา 2 เพื่อส่งต่อให้อุปกรณ์อื่นที่รับสัญญาณบวกที่ขา 2 ก็ถูกต้องแล้วครับที่ท่านนาโพธิ์ทำมา แต่ถามหน่อยมิกซ์ m2524 ท่านนาโพธิ์ได้แต่ใดมา ถ้าท่านรับมาจากท่านประธานนิมิตร ท่านไม่ต้องทำอย่างใดเลย ท่านประธานได้สลับขา XLR out มาให้เรียบร้อยแล้ว และมิกซ์รุ่นนี้สัญญาณขาออกแรงเหลือๆแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นบาลานซ์อีกต่อไป
สายสัญญาณทั่วไปต่อไมค์ได้เลยทุกช่องครับ แต่ไม่ควรใช้ input ที่เป็นปลั๊ก TRS ร่วมกันในบอร์ดที่ช่องสัญญาณเข้าที่เหลือของ 1-24อีก เพราะมัน out phase กับ xlr ไม่ต้องทำอะไรกับสายแต่ด้านออกจากมิกจะต้องเป็น แบบ xlr แล้วอินพุทของครอสจะต้องรับเข้าเป็นสัญญาณ balance แล้วทุกอย่างจะมาตรงเฟสของมันเอง
แบบในรูปต่อเข้าครอสได้เลยใช่ไหมครับ ขอบคุณช่างแอ๊ดมากๆ ขอถามอีกนิดสายสัญญานไมค์ทั่วๆไปที่ขา1กราวด์ขา2+ขา3-ใช้เสียบช่อง1-24ได้เลยใช่ไหมครับ
*ที่ไปครอสให้ใช้สาย xlr 3 pin ต่อตรงทุกขา ถ้าทำแบบในรูป จะต้องสลับขา 2<>3 ที่อินพุททั้งหมด
ผมต่ออย่างนี้ถูกไหมครับ xlr outที่มิกซ์ขา1กราวด์ขา2-ขา3+ ด้านเข้าครอสขา1กราวด์ขา2+ขา3-
เสียงออกเหมือนกัน แต่เสียงจะกลับเฟสจากต้นทางครับ 2- 3+ เข้าครอสก็ควรจะ 2- 3+ ครับ
สัญญาณออกของมิกซ์รุ่นนี้ ถึงแม้เป็นแจ็ค XLR ก็เถอะ แต่สัญญาณเป็นอ้นบาลานซ์นะครับ
และสัญญาณบวกจะออกที่ขา 3 เราต้องมาแปลงสัญญาณบวกให้ไปออกที่ขา 2 เพื่อส่งต่อให้อุปกรณ์อื่นที่รับสัญญาณบวกที่ขา 2 ก็ถูกต้องแล้วครับที่ท่านนาโพธิ์ทำมา แต่ถามหน่อยมิกซ์ m2524 ท่านนาโพธิ์ได้แต่ใดมา ถ้าท่านรับมาจากท่านประธานนิมิตร ท่านไม่ต้องทำอย่างใดเลย ท่านประธานได้สลับขา XLR out มาให้เรียบร้อยแล้ว และมิกซ์รุ่นนี้สัญญาณขาออกแรงเหลือๆแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นบาลานซ์อีกต่อไป
ได้มาจากอาจารย์สุริยาครับผมสลับสายข้างนอกเอาครับ ขอบคุณมากๆครับ
สายสัญญาณทั่วไปต่อไมค์ได้เลยทุกช่องครับ แต่ไม่ควรใช้ input ที่เป็นปลั๊ก TRS ร่วมกันในบอร์ดที่ช่องสัญญาณเข้าที่เหลือของ 1-24อีก เพราะมัน out phase กับ xlr ไม่ต้องทำอะไรกับสายแต่ด้านออกจากมิกจะต้องเป็น แบบ xlr แล้วอินพุทของครอสจะต้องรับเข้าเป็นสัญญาณ balance แล้วทุกอย่างจะมาตรงเฟสของมันเอง
แบบในรูปต่อเข้าครอสได้เลยใช่ไหมครับ ขอบคุณช่างแอ๊ดมากๆ ขอถามอีกนิดสายสัญญานไมค์ทั่วๆไปที่ขา1กราวด์ขา2+ขา3-ใช้เสียบช่อง1-24ได้เลยใช่ไหมครับ
*ที่ไปครอสให้ใช้สาย xlr 3 pin ต่อตรงทุกขา ถ้าทำแบบในรูป จะต้องสลับขา 2<>3 ที่อินพุททั้งหมด
ผมต่ออย่างนี้ถูกไหมครับ xlr outที่มิกซ์ขา1กราวด์ขา2-ขา3+ ด้านเข้าครอสขา1กราวด์ขา2+ขา3-
เสียงออกเหมือนกัน แต่เสียงจะกลับเฟสจากต้นทางครับ 2- 3+ เข้าครอสก็ควรจะ 2- 3+ ครับ
สัญญาณออกของมิกซ์รุ่นนี้ ถึงแม้เป็นแจ็ค XLR ก็เถอะ แต่สัญญาณเป็นอ้นบาลานซ์นะครับ
และสัญญาณบวกจะออกที่ขา 3 เราต้องมาแปลงสัญญาณบวกให้ไปออกที่ขา 2 เพื่อส่งต่อให้อุปกรณ์อื่นที่รับสัญญาณบวกที่ขา 2 ก็ถูกต้องแล้วครับที่ท่านนาโพธิ์ทำมา แต่ถามหน่อยมิกซ์ m2524 ท่านนาโพธิ์ได้แต่ใดมา ถ้าท่านรับมาจากท่านประธานนิมิตร ท่านไม่ต้องทำอย่างใดเลย ท่านประธานได้สลับขา XLR out มาให้เรียบร้อยแล้ว และมิกซ์รุ่นนี้สัญญาณขาออกแรงเหลือๆแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นบาลานซ์อีกต่อไป
ได้มาจากอาจารย์สุริยาครับผมสลับสายข้างนอกเอาครับ ขอบคุณมากๆครับ
ด้านหลังมีสติกเกอร์ K-ONE Music หรือไม่ครับท่านนาโพธิ์