บทนำ
สาเหตุที่ตั้งกระทู้ว่ามุมมองในการจัดแสงของผม ก็เพราะสิ่งที่จะสื่อและเป็นความเห็นส่วนตัว อันได้มาจากประสบการณ์ส่วนตัว ของเด็กคนหนึ่งที่ได้มีโอกาศหยิบจับอุปกรณ์ มาตั้งแต่อายุ 18 ส่วนใหญ่จะได้มาการประสบการณ์ จากโปรแกรม 3D ซะมากกว่าจนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้งบมาสร้างสตูเพื่อทดลองการจัดแสงและเรียนรู้ การใช้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่พื้นที่เล็กๆที่บ้านและเมื่อเร็วๆนี้ก็ได้โอกาส ทำงานในโรงละครโรงหนึ่งครับ
ปฐมบทที่ 1 สิ่งที่ควรรู้ในการออกแบบแสง
จากประสบการณ์อันน้อยนิด จึงทำให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดแสง นั้นมันไม่ใช่แค่อุปกรณ์ราคาแพง หรือ จำนวนแต่มันคือ คอนโทรลที่ไว้ใจได้ดีๆ ซักตัว คำว่าไว้ใจได้นั้นไม่ได้หมายความว่า ต้องดี ต้องแพง แต่ต้อง เป็นคอนโทรลที่เราสามารถดึงความสามารถ ของมันมาใช้ในงานและจุดประสงค์ที่เราต้องการได้ทั้งหมด และตำแหน่งไฟที่เราติดตั้งแต่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากมาก เช่น เราตั้ง moving head แล้วเราpanมันจนสุด แต่ยังไม่ได้ตำแหน่งทีเราต้องการนั้น แสดงว่าเราอาจติดตั้งโดยหันทิศทางโคมไม่ถูกตำแหน่ง หรือ ความเข้าใจในการใช้คอนโทรลของเรามีปัญหาซะแล้ว
ปฐมบทที่ 2 สิ่งที่จำเป็นและควรได้จากอุปกรณ์
อันนี้ผมขอพูดถึงเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้สัญญาณมาตรฐานในการ คอนโทรล คือระบบสัญญาณ DMX512 เท่านั้นนะครับ ขอไล่ตั้งแต่
- Controller ที่ดีควรมี ระบบการตั้งค่า
- Fade time Wait time ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากในการโปรแกรมไฟ
- Fade in , Fade out อันนี้จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการเปิดไฟและปิดไฟแต่ละดวง โดยเราจะสามารถตั้งค่า เข้า และ ออก ของ Steps นั้นๆ หรือ Scenes นั้นๆ ได้อย่าง นิ่มนวล โดยไม่ต้อง ดึง CH ช่วย เช่น ถ้าเราต้องการเปิดไฟ ดวง นึงโดยตั้งเป็น Scenes ไว้แล้ว เมื่อเรากดปุ่ม ไฟก็จะติด ขึ้นมาทันที และเมื่อเราดับไฟก็จะดับทันที แต่ถ้าเรามีคำสั่ง Fade in , Fade out ในบอร์ด เราก็สามารถตั้งค่าให้ไฟเรา ค่อยๆ Fade ขึ้น เมื่อเราเข้าโปรแกรมได้ และสามารถ Fade ออก เมื่อเรายกเลิกหรือ ออกโปรแกรมได้เช่นกัน
- Scenes , steps ยิ่งมาสามารถสร้างได้มากยิ่งเป็นผลดี
- ที่สำคัญที่สุดคือความยืดหยุ่นในการใช้งาน เช่น เราสามารถใช้ Scenes เก่า หรือ steps เก่ามาใช้ แต่เราสามารถเพิ่ม ลูกเล่น หรือ ความสามารถต่างๆของตัวโคมเข้าไปได้ อันนี้จะมีประโยชน์มากๆ และทำให้ สีสันบนเวทีไม่จืดชืดเกินไป
- Dimmer Pack ที่ดีควรมี ระบบการ Fade ไฟที่นิ่มนวล และสามารถป้องกันการ จี่ ของสัญญาณได้ในละดับหนึ่งที่เราพอใจ
- Par เนื่องจากการใช้งาน Par มีจุดประสงค์มากมายในการใช้ดังนั้น ความเข้าใจใน เบอร์หลอด Par มีความสำคัญมาก เช่น cp60 cp61 cp62 ให้แสงที่ออกมาในลักษณะไหน และจุดประสงค์ในความต้องการไฟดวงนั้นตำแหน่งนั้นเพื่ออะไร
- Moving head , scan , city color , color ch อันนี้ผมขอแค่ มี ch ที่สามารถ Dim แสงได้เท่านั้น เพราะคำสั่งนี้จำเป็นมากในงาน คอนเสริท แต่ถ้าเป็น ตาม ผับ ก็ไม่เท่าไหร่ ที่เหลือ ก็อยู่ที่ ตัวแทนที่สามารถ ดูแลให้เราได้หากอุปกรณ์ เกิดการเสียหาย เพราะไฟพวกนี้ มีความละเอียดอ่อน สูง
# ความเข้าใจในอุปกรณ์แต่ละชิ้นอันนี้สำคัญมากครับ ก่อนที่เราจะใช้งานอุปกรณ์เราควรทำความเข้าใจกับมันก่อนว่า มันสามารถทำอะไรได้บ้าง และข้อจำกัดของมันมีอะไรบ้าง
ปฐมบทที่ 3 สิ่งที่ควรได้จาก โปรแกรมแต่ละโปรแกรม
ถ้าโปรแกรมแต่ละโปรแกรมของคุณ สามารถใส่ลูกเล่นและมีความเข้าใจ ในหัวข้อเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ก็จะทำให้งานของคุณน่าสนใจมากขึ้นได้มากเท่านั้น
1Source
2Contrast
3Surface
4Colour
5Movement
6Fuction
7Form
8Space
9Boundary
10Scale
11Image
12Magic
ปฐมบทที่ 4 คำศัพท์ที่ควรรู้ในการจัดแสง
1 key light คือไฟหลักที่สว่างที่สุดเพื่อเน้นถึงความเด่นของตัวละครหลักใน ฉากนั้นๆ
2 Fill light เนื่องการไฟหลักเป็นไฟที่สว่างที่สุดจึงทำให้เกิดเงาจึงเป็นหน้าที่ของ ไฟเสริมในการลบเงาที่เกิดจากไฟหลัก ดังนั้นแสงของไฟเสริมควรเป็นแสงที่ อ่อนกว่าไฟหลัก
3 Separation light เป็นไฟที่สร้าง มิติให้กับฉาก และเป็นไฟที่เน้นรายละเอียดให้กับ ฉากนั้นๆ
4 Front light คือตำแหน่งไฟที่อยู่บริเวณหน้าสุดของเวที
5 Side light คือไฟที่ติดตั้งตำแหน่งข้างเวที
6 Background light คือไปที่ส่องไปยังฉาก
7 center spotlight คือไฟที่ตามตัวนักแสดง
sora [IP=124.121.72.227]
น้องโฮมน้องชายป้าเอิ้น เป็นพ่อของน้องโฟน เด็กผู้หญิงที่ตามป้าเอิ้นไปในที่ต่างๆนั่นแหละค่ะ ทำใว้ในเวปๆหนึ่งลองๆอ่านดูเป็นแนวทางค่ะ หรือมีอะไรแนะนำเชิญได้เลยค่ะ