20 เรื่องที่ลูกต้องรู้เพื่อการใช้เงินอย่างถูกต้องรายการ "หมอเงินหมอความ" นำเสนอหัวข้อ Money As You Grow (20 things kids need to know to live financially smart lives) ซึ่งเป็นโครงการของทางสหรัฐเพื่อให้ประชาชนมีสติในการใช้สตังค์มากขึ้นก่อน ที่ประเทศจะเละตุ้มเป๊ะ ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็เลยอยากนำมาแนะนำต่อครับ โดยเนื้อหาจะแบ่งไปตามช่วงอายุและจะมีตัวอย่างกิจกรรมที่แนะนำให้ทำด้วย
ขอบคุณทางรายการที่แนะนำอะไรดีๆ ครับ และขอบคุณต้นฉบับด้วย
http://moneyasyougrow.orgอายุ 3-5 ปี1. เราใช้เงินเพื่อซื้อของ
- หัดนับเหรียญ
- แยกแยะได้ว่าอะไรฟรี อะไรเสียตัง เช่น การเล่นกับเพื่อน, ไอศครีม, เติมน้ำมัน, เสื้อผ้า
2. เงินได้มาจากการทำงาน
- อธิบายให้ลูกฟังว่าพ่อแม่ทำงานอะไร
- อธิบายให้ลูกฟังว่าเพื่อนบ้านทำงานอะไร เช่น หมอ, ตำรวจ, คนขับรถ
- อธิบายให้ลูกฟังว่าบางคนเปิดร้านทำธุรกิจเอง เรียกว่านักธุรกิจ
- กระตุ้นให้ลูกคิดว่าลูกจะหาเงินได้อย่างไรบ้าง เช่นขายขนม
3. รู้จักรอก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออะไร
- เวลารอคิว อธิบายให้ลูกฟังว่าบางทีเราก็ต้องรอเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
- หากระปุก 3 กระปุกให้ลูกเพื่อ เก็บสะสม, ใช้จ่าย และแบ่งปัน
- สอนให้เด็กเก็บเงินในกระปุกจนมีมากพอเพื่อซื้อของหรือขนม
4. แยกให้ออกระหว่างสิ่งที่เราจำเป็น (need) กับสิ่งที่เราอยากได้ (want)
- เวลาซื้อของ ให้ลูกช่วยแยกแยะว่าอะไรเป็นของจำเป็น อะไรเป็นของที่อยากได้ซึ่งไม่ซื้อก็ได้
อายุ 6-10 ปี5. หัดตัดสินใจเวลาใช้จ่าย
- ให้ลูกช่วยตัดสินใจเวลาซื้อของว่าจะซื้อชิ้นไหนดี
- ให้เงินลูกจำนวนนึงแล้วให้เขาเลือกซื้อผักผลไม้ให้
6. หัดเปรียบเทียบสินค้าก่อนซื้อ
- พาลูกไปด้วยเวลาต้องเปรียบเทียบสินค้าจากหลายๆ ร้าน
- ใช้คูปองหรือบัตรส่วนลดในการซื้อของ
7. การแชร์ข้อมูลออนไลน์อาจเป็นอันตรายได้
- เรียนรู้ว่าลูกเข้าเว็บไหนบ้าง และบล็อคเว็บที่ไม่น่าไว้วางใจ
- ตั้งกฏกับลูกว่าไม่ให้ใส่ข้อมูลส่วนตัวลงในเว็บไซต์ เช่น วันเกิด, ที่อยู่, เบอร์โทร, โรงเรียน
- ไม่ให้ซื้อของออนไลน์ (รวมถึงเกมส์) เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
8. สอนให้ฝากเงิน
- พาลูกไปธนาคาร
- สอนให้รู้ว่าฝากเงินกับธนาคารจะได้รับดอกเบี้ย
- เปิดบัญชีเงินฝากให้ลูก
อายุ 11-13 ปี9. สอนให้รู้จักเก็บเงินเอง (ไม่ใช่พ่อแม่เก็บให้)
- แนะนำให้ลูกเก็บเงินไว้อย่างน้อย 10% ของเงินที่ได้รับ
- พาลูกไปฝากเงินที่ธนาคารปีละ 2-3 ครั้ง ชี้ให้ดูจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น
- เพื่อเป็นการกระตุ้น พ่อแม่อาจจะเสนอฝากเงินเพิ่มให้อีก 25% ทุกครั้งที่ลูกฝากเงิน
10. การใส่ข้อมูลการเงินบนเว็บอาจโดนขโมยได้
- แนะนำว่าการใส่ข้อมูลบัตรประชาชน, เลขที่บัญชีธนาคาร, เลขที่บัตรเครดิต อาจะเป็นอันตรายยังไง
- สอนว่าโจรอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปปลอมแปลงแล้วขโมยเงินเราได้
- เตือนว่าระวังอะไรก็ตามที่บอกว่า "ฟรี" ออนไลน์เช่นเกมส์ เพราะเราอาจถูกหลอกได้
- ห้ามเปิดหรือตอบอีเมลล์จากคนที่ไม่รู้จัก และห้ามคลิ๊กโฆษณาป๊อบอัพเด็ดขาด
11. ยิ่งออมเร็ว เงินยิ่งเติบโตเร็ว
- สอนให้รู้จักดอกเบี้ยทบต้น และคำนวณให้ดู
12. รู้จักบัตรเครดิต
- อธิบายว่าการใช้บัตรเครดิตก็เหมือนกับการกู้ยืม ถ้าไม่สามารถจ่ายได้หมดก็จะโดนดอกเบี้ย
- ให้ลูกหาข้อมูลอัตราดอกเบี้ยและโปรโมชั่นบัตรเครดิตของหลายๆ สถาบัน
- สอนการซื้อของออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตอย่างปลอดภัย
อายุ 14-18 ปี13. ประเมินค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเลือกมหาวิทยาลัย (ในสังคมอเมริกัน เด็กมักจ่ายค่าเทอมเองหรือกู้)
- ชี้ให้เห็นว่าคนที่เรียนจบปริญญาตรีมักจะมีรายได้สูงกว่าคนที่ไม่เรียน
- คุยกับลูกว่าพ่อแม่จะช่วยจ่ายได้แค่ไหน
- เปรียบเทียบค่าเทอม, เงินกู้, ค่างวด, ค่าใช้จ่ายอื่นๆ และอัตราการเรียนจบของแต่ละสถาบัน
14. หลีกเลี่ยงการใช้บ้ตรเครดิตถ้าไม่สามารถจ่ายคืนได้เต็มจำนวน
- ตามนั้น
15. รู้จ้กกับภาษี
- สอนให้รู้ว่าเรายได้ที่ได้รับจะโดนหักภาษี
- อธิบายว่าเงินภาษีไปไหน
- สอนเรื่องฐานภาษี, การลดหย่อนภาษี และการจ่ายภาษีประจำปี
16. รู้จักวางแผนเกษียณ
อายุ 18 ปีขึ้นไป17. สอนการใช้บัตรเครดิต
- การค้างชำระบัตรเครดิตส่งผลต่อประวัติทางการเงินในอนาคต อาจไม่สามารถทำบัตรหรือกู้เงินได้ หรือได้ในดอกเบี้ยที่แพงกว่าปกติ
- เลือกใช้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยต่ำ, ฟรีค่าทำเนียม, ระยะปลอดดอกเบี้ยยาว, โปรโมชั่นเหมาะกับเรา
18. จำเป็นต้องมีประกันสุขภาพ
- สอนวิธีเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะสม
- ดูว่าพ่อแม่มีประกันสุขภาพที่คุ้มครองถึงลูกด้วยหรือไม่
- แนะนำประกันชนิดอื่นๆให้รู้จัก เช่นอัคคีภัย, ประกันรถยนต์
19. เก็บเงินให้พอใช้อย่างน้อย 3 เดือนของรายจ่ายประจำในกรณีฉุกเฉิน
20. สอนให้รู้จักการลงทุนและความเสี่ยง
- การกระจายความเสี่ยง
- แนะนำให้รู้จักกองทุนรวม ผลประกอบการ ค่าธรรมเนียม
- ให้ลูกนึกถึงรายจ่ายในอนาคตและวางแผน เช่นซื้อบ้านในอีก 10 ปี, ซื้อรถในอีก 5 ปี
ที่มา:http://pantip.com/topic/33377935