Tigger Sound
ห้องสมุด คลังความรู้ต่างๆ ในแวดวงเครื่องเสียง
=> สำหรับผู้ผลิตพบผู้บริโภค หรือต้องการสอบถามด้านเทคนิค เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเสียง เชิญได้ที่ห้องนี้ครับ => ข้อความที่เริ่มโดย: อรุณซาวด์ เพชรบุรี ที่ สิงหาคม 08, 2011, 01:58:36 pm
-
http://www.udon108.com/board/index.php?topic=108143.15
เข้าไปดูกันนะครับ
ทีนี้ ถ้าเขาส่งมาให้ผมเทสจริงๆ ผมจะควรจะเทสด้วยวิธีใดบ้างวานทีมช่างช่วยชี้แนะครับ
-
ตามที่ท่านโฟส นะครับ หาค่าไฟเฉลี่ยออกมา ใช้กับไม่ใช้ จบข่ smiley4าว
-
แหกตาประชาชน frusty
-
ตัวนี้มันก็ต้องใช้ ไฟฟ้า เหมือนกัน แล้วมันจะประหยัดได้ไงหว่า หรือมันไปทำอะไรกับมิตเตอร์ วัดไฟเปล่า
แล้วผิดกดหมาย..ม้ายอ่า
-
มันช่วยลดได้จริงกับอุปกรณ์ที่เป็นขดลวด มากน้อยแล้วแต่มันจะแม็ตกันมากน้อยเท่าไร
-
ตามหลักการของไฟA.C. กำลัง P=VI(cosVI) โดย cosVI คือตัวประกอบกำลัง(power factor)
เจ้าตัวประกอบกำลังนี่แหละคือตัวที่จะทำให้กระแสในวงจรมากหรือน้อย (ถ้าอธิบายจริงๆจะยาวและใช้เวลาทำความเข้าใจมากหน่อย) เอาเป็นว่าถ้าสามารถทำให้เจ้าpfนี้มีค่าใกล้ 1 ยิ่งจะทำให้ลดกระแสได้มาก
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใส่capacitorเข้าไปในวงจรไฟA.C ซึ่งในทางปฏิบัติต้องคำนวณโหลดของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นตัวเหนี่ยวนำ เช่นพวกมอเตอร์ต่างๆ(ในโรงงานต่างๆจึงมีปัญหานี้มากกว่าในบ้านเพราะต้องใช้เครื่องที่เป็นมอเตอร์เยอะ)
ที่ต้องคำนวณก็เพื่อทำให้เฟเซอร์ไดอะแกรมของความต่างศักย์(V)กับกระแส(I) ทำมุมกันน้อยที่สุด(มุมมีค่าเข้าใกล้ 0)เพื่อให้ค่าcosVIเข้าใกล้1 กระแสจะได้ใช้น้อยลง
ท่านยังจำกันได้ไหมที่สมัยก่อนประมาณ30กว่าปีมาแล้วที่การไฟฟ้าบังคับให้เราใส่capacitorในวงจรของหลอดฟลูออเรสเซนต์(ที่ชาวบ้านเรียกหลอดนีออน)นั่นแหละ เหตุผลก็เพื่อลดกระแสไฟฟ้าลง ทีนี้ถ้าเราทำทั้งบ้านก็ยิ่งดี ทำง่ายๆก็โดยการหาcapacitorตัวใหญ่ๆค่าหนึ่ง(ผมก็ยังไม่ได้ลองคำนวณว่าซักกี่ไมโครฟารัด)มาใส่เข้าไป วิธีใส่ก็ง่ายๆครับ เสียบเข้าไปกับปลั๊กตัวใดตัวหนึ่งที่ใดที่หนึ่งเลย(ต่อขนานกับวงจร เพราะต่อขนานกระแสจะน้อย ต่ออนุกรมกระแสจะมากถ้าอยู่ในภาวะเรโซแนนซ์) แต่ถ้าเสียบไว้ที่ต้นทางใกล้ๆสะพานไฟที่ไฟเข้าบ้านน่าจะดี
ทั้งหมดนี่เป็นหลักการทางฟิสิกส์(ที่ผมสอนอยู่) ใครลองเอาไปทำดูได้ผลยังไงมาบอกเล่ากันมั่งนะครับ
วิธีตรวจสอบว่ากระแสในวงจรมากหรือน้อย ผมว่าน่าจะใช้แอมป์มิเตอร์กระแสสลับวัดได้เลย (ผมจะใช้ ซีแคลมป์วัดกระแสครับ จะง่ายที่สุด)
-
การไฟฟ้าเขาชอบนะครับ ที่เราลดการใช้กระแสไฟฟ้า เพราะเขาก็จะได้ไม่ต้องส่งไฟฟ้ามามาก เขาถึงมีอัตราการเก็บค่าไฟฟ้าโรงงานที่ปรับค่าความต่างเฟสของความต่างศักย์กับกระแสไฟฟ้า ในอัตราที่ต่างกัน
เรื่องนี้จึงเป็นไปได้ที่น่าจะทำนะครับ ผมว่าจะลองๆๆ จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ลองซักที
-
ลองแล้วครับ ตามไปดูตามลิ๊งใด้เลยครับข้างบน
ผลน่ะหรือ ตามที่เพื่อนสมาชิกกว่าเอาไว้นั่นแหละ
พูดง่ายๆ กินหนักกว่าเก่าครับ
-
frusty
-
รู้สึกว่าอุปกรณ์ตัวนี้ข้างในจะเป็น คาปาซิสเตอร์ หากนำไปต่อกับระบบไฟฟ้าก็จะช่วยแก้ค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นประเภทขดลวดเช่นมอเตอร์ ซึ่งจะช่วดลดกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งจะต้องคำนวนค่าเพาเวอร์เฟคเตอร์ว่ามีค่าเท่าไหร่ จะต้องใช้คาปาซิเตอร์กี่ไมโคร ถึงจะแก้ไขค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ได้พอดี และแก้เป็นจุดๆไปเท่านั้น แต่กล่องแบบนี้ออกแบบมาให้นำไปเสียบใช้เลยโดยไม่คำนึงถึงค่าดังกล่าว จึงทำให้เห็นผลได้น้อย ยิ่งเข้าใจผิดว่าเอาไปเสียบตามบ้านแล้วค่าไฟจะลด ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะในบ้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นขดลวดมีไม่มาก ตู้เย็น เครื่องซักผ้า บัลลาส และแก้ไขค่าก็ไม่ตรงจุด ทำให้ไม่เห็นผล บางทีทำให้เปลืองไฟกว่าเดิม บางบ้านอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีปัญหาตามมาอีก อุปกรณ์ตัวนี้ช่วยประหยัดไฟได้จริง แต่ต้องใช้ให้ถูกจุด ถูกต้องและเหมาะสมเท่านั้น ถึงจะเห็นผล แต่ถ้าซื้อมาเสียบมั่วๆตามบ้าน บอกได้เลย เปลืองเงินเปล่าๆ วิธีเทส ลองต่ออุปกรณ์ตัวนี้ขนานเข้ากับมอเตอร์แล้วลองวัดกระแสต้นทางของทั้งสองตัว คิดว่ากระแสคงจะลดลงบ้าง มากน้อยขึ้นอยู่กับค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ของมอเตอร์ แต่ถ้าไปต่อกับกับหลอดใส้ เตารีด หรืออุปกรณ์ที่ไม่ใช่ขดลวดเหนี่ยวนำ คิดว่ากระแสคงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมจากการขนานอุปกรณ์นี้เข้าไป พูดง่ายๆ กินไฟเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแน่ (จากที่ได้เรียนมาหลายปีละ ผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ)
-
ทุกอย่างต้องลงตัวหรืออยู่ในกรอบค่าที่คำนวณทางไฟฟ้าของอุปกรณ์นี้จึงจะเกิดประสิทธิภาพ มากน้อยก็ว่ากันไป
เหมือนจะหลอกลวงแต่จริงแล้วเป็นเรื่องของทางเทคนิควิศวกรรมครับ ผู้ใช้ทั่วๆไปเลยตกเป็นเป้าหมาย
-
ผมเอาเจ้าเคื่องของเขา ต่อผ่านหลอดไฟ มันสว่าง เท่ากับว่า มันกินไฟด้วยตัวมันเอง
และบอกเจ้าของเขาแล้ว
เจ้าของบอกว่า ให้เสียบคาเอาไว้ แล้วค่าไฟมันจะลดลงมาเอง อืมๆ
เขาบอกต่อไปอีกว่า มันต้องใช้ร่วมกับเครื่องใช้ประเภทมอเตอร์ครับ จึงจะเห็นผล
ผมลองแล้ววันนี้ ประกฏว่า ยังไง มันก็กินไฟด้วยตัวมันเอง
พอเสียบปลั๊กปุ๊บ มิเตอร์มันจะหมุนทันทีครับ แต่ช้าหน่อย จะช้าหรือจะเร็ว มันก็หมุนนั่นแหละ
พอเอาเครื่องไช้พวกมอเตอร์เช่น พัดลง เครื่องดูดฝุ่น เครื่องเป่าลม มันก็หมุนเหมือนเดิม
ไม่ประหยัดแต่อย่างใด เดี๋ยวว่างๆ จะถ่ายวีดีโอ พร้อมสาธิตวิธีการทดลอง ลงยูทูบให้เจ้าของเครื่องเถียงไม่ออกซักที เจ้าของเขาโทรมาคุยกับผม ยังไงเขาก็ยืนยันว่า มันใช้ใด้ครับ ปวดหัวตึ๊บ
-
พี่อรุณเอาจริงนะครับนี่
นานมาแล้ว ผมทำงานในอาคาร มีความสัมพันธ์กับช่างไฟฟ้าเพราะคอมพิวเตอร์ และ วิดีโอ
พี่หัวหน้าไฟฟ้าอธิบายให้ฟังเรื่อง เพาว์เวอร์แฟ็คเตอร์ กับ กำลังงานไฟฟ้า ก็ตามที่อาจารย์ และพี่ ๆ ข้างบนอธิบายไว้ละครับ
ในระบบไฟฟ้าที่น่าสนใจคือ ห้องควบคุมระบบไฟฟ้าของลิฟท์
มันจะมีตู้ แค็บแบ็งค์ (ก็ตู้เก็บ C นี่แหละครับ มีวงจรควบคุม)
ที่น่าสนใจคือ มันจะต่อตามโหลดให้ได้ค่าเหมาะสม ไม่ใช่ต่อตลอดเวลา เพื่อลดค่าไฟฟ้า
ผมเองไม่ใช่ช่างไฟฟ้าเลยได้แต่ประหลาดใจ
แต่เห็นด้วยกับพี่อรุณ เพราะในเวลาปกติ C เองยอมให้ไฟ AC ไหลผ่านได้ตามค่าความจุของมัน ทำให้เป็นโหลดเสียเอง หากใช้ค่าไม่ถูกต้องไม่ใส่ดีกว่า (และตามบ้านเรือนทั่วไปก็คงเดาสภาพการใช้งานยากจริง ๆ )
จะว่าไปเจ้าของเครื่องเขาก็เปิดเผยดีนะครับ กล้าให้ลอง กล้าเปิดให้ดู แต่หากจะให้ได้ผลจริงจังต้องมีวงจรควบคุมและวิเคราะห์ค่าอีกเยอะ (อ่านไม่หมดครับ ข้อมูลเขาหลายหน้า)
-
ลองหาแคลมป์มิเตอร์วัดกระแสดูว่า เวลา เปิดสว่านไฟฟ้าต่อปกติกับผ่านตัวนี้อันไหนกินกระแสมากกว่ากันครับ
-
เป็นไงน่าใช้ไหมครับ
-
เป็นไงน่าใช้ไหมครับ
ดูเอาเองเลยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=1kennQIZXtI
ที่ผมเอามอเตอร์มาทดสอบเพราะว่า
ก่อนหน้านั้น ผมทดสอบแล้ว มันไช้ไม่ใด้ เจ้าของเขาบอกว่า ไช้ไม่ใด้กับเครื่องไช้ไฟฟ้าอื่นๆ
มันจะต้องใช้กับมอเตอร์ จึงจะประหยัดครับ
-
อันนี้ เป็นตอนที่2 ครับ
ช่วยดูทีว่า มันประหยัดตรงไหนบ้างครับ
http://www.youtube.com/watch?v=O7D-smy2Lqs&feature=player_embedded (http://www.youtube.com/watch?v=O7D-smy2Lqs&feature=player_embedded)
-
ผลการทดลองครั้งสุดท้าย ออกมาแล้วครับ เข้าไปดูตามลิ๊งด้านบนในหัวข้อสรุปสุดท้ายครับ
มันช่วยใด้จริงๆครับ แต่ น้อยมากเกินไปหรือเปล่า
สรุป มันประหยัดใด้จริงครับ
-
ขอบคุณครับที่โชว์ให้ดูตั้งหลายตอน
-
ได้ มากน้อยก็ถือว่าได้ แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือคนขายทนได้ยังไง brow
-
ได้ มากน้อยก็ถือว่าได้ แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือคนขายทนได้ยังไง brow
เนอะ
-
ได้ มากน้อยก็ถือว่าได้ แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือคนขายทนได้ยังไง brow
หุหุ ประเด็นที่ผมต้องการพิสูจน์ก็คือ มันใด้หรือไม่ใด้ เท่านั้นครับ
ตอนจบคือ มันใด้ครับ แต่ถ้าจะมองในทางความคุ้ม คงคุ้มยากครับ
ผมต้องใช้มอเตอร์ขนาดใหญ่ เปิดนานๆ จึงเห็นผล แถม 2ชั่วโมงเต็มๆกับมอเตอร์3แรง
ประหยัดใด้แค่ไม่ถึงครึ่งหน่วย ถือว่า น้อยมาก เมื่อเทียบกับราคา
ที่เขาต้องทนเพราะด้วยเหตุนี้ และที่ต้องทนมากกว่านั้นก็คือ เขาโฆษณาเกินจริงครับ
เขาบอกว่าถึง40เปอเซ็น ที่ประหยัดใด้สูงสุด ความจริง มันไม่ถึงอย่างที่เห็นครับ
และที่ต้องทนคือ ครั้งแรก ที่บรรยายสัพคุณ มันไม่ใช่อย่างที่เห็นตอนนี้ครับ
เขาบอกว่า ใช้ใด้กับบ้านทั่วๆไป ความจริง มันใช้ไม่ใด้นี่ครับ เพราะขนาดมอเตอร์3แรง ยังประหยัดแค่นิดเดียว
แล้วพัดลมธรรมดา มันจะรู้สึกอะไร ยิ่งแอร์รุ่นไหม่ๆด้วยแล้ว มันมีอยู่แล้วครับ มันไม่ใด้ช่วยอะไรใด้เลย
เขาจริงใด้ไปแก้การบรรยายสัพคุณไหม่ไงครับ ที่แรก มันไม่ใช่อย่างที่เห็นตอนนี้
ประการต่อมาคือ ผิดกฏหมายหลายข้อครับ ที่เห็นๆคือ ฉลาก ผิดกฏหมาย เพราะไม่ระบุที่มาที่ไปอย่างชัดเจน
ข้อต่อมา โฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค พูดง่ายๆ ถ้าผมแจ้งความ จบข่าวเลย จริงไหมครับ
เรื่องนี้ เพิ่งจะโดนจับกันไปที่นครปฐมเมื่อไม่นานมานี้ แต่เรื่องทางกฏหมาย ไม่เกี่ยวกับผมโดยตรง
ผมก็เลยไม่ยุ่งดีกว่า ทางใครทางมันครับ ยกเว้น ว่าถ้ามันเกินไป หรือไม่ใด้ช่วยอะไรเลย ผมแฉแหลก
แต่เมื่อมันพอประหยัดใด้ ก็ต้องยอมรับ แม้มันจะแค่นิดเดียวก็ตาม
-
ได้ ไม่เท่า เสีย
นี่ถ้าราคามันแค่ค่าอุปกรณ์ + ค่าฝีมือสักสองสามร้อยก็น่าสนนะครับพี่อรุณ แต่นี่...
ถ้าจำไม่ผิดเครื่องทำนองนี้เคยมีมาโฆษณาขายในทิกเกอร์ซาวด์เราเหมือนกัน นานมาแล้ว
-
ได้ มากน้อยก็ถือว่าได้ แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือคนขายทนได้ยังไง brow
หุหุ ประเด็นที่ผมต้องการพิสูจน์ก็คือ มันใด้หรือไม่ใด้ เท่านั้นครับ
ตอนจบคือ มันใด้ครับ แต่ถ้าจะมองในทางความคุ้ม คงคุ้มยากครับ
ผมต้องใช้มอเตอร์ขนาดใหญ่ เปิดนานๆ จึงเห็นผล แถม 2ชั่วโมงเต็มๆกับมอเตอร์3แรง
ประหยัดใด้แค่ไม่ถึงครึ่งหน่วย ถือว่า น้อยมาก เมื่อเทียบกับราคา
ที่เขาต้องทนเพราะด้วยเหตุนี้ และที่ต้องทนมากกว่านั้นก็คือ เขาโฆษณาเกินจริงครับ
เขาบอกว่าถึง40เปอเซ็น ที่ประหยัดใด้สูงสุด ความจริง มันไม่ถึงอย่างที่เห็นครับ
และที่ต้องทนคือ ครั้งแรก ที่บรรยายสัพคุณ มันไม่ใช่อย่างที่เห็นตอนนี้ครับ
เขาบอกว่า ใช้ใด้กับบ้านทั่วๆไป ความจริง มันใช้ไม่ใด้นี่ครับ เพราะขนาดมอเตอร์3แรง ยังประหยัดแค่นิดเดียว
แล้วพัดลมธรรมดา มันจะรู้สึกอะไร ยิ่งแอร์รุ่นไหม่ๆด้วยแล้ว มันมีอยู่แล้วครับ มันไม่ใด้ช่วยอะไรใด้เลย
เขาจริงใด้ไปแก้การบรรยายสัพคุณไหม่ไงครับ ที่แรก มันไม่ใช่อย่างที่เห็นตอนนี้
ประการต่อมาคือ ผิดกฏหมายหลายข้อครับ ที่เห็นๆคือ ฉลาก ผิดกฏหมาย เพราะไม่ระบุที่มาที่ไปอย่างชัดเจน
ข้อต่อมา โฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค พูดง่ายๆ ถ้าผมแจ้งความ จบข่าวเลย จริงไหมครับ
เรื่องนี้ เพิ่งจะโดนจับกันไปที่นครปฐมเมื่อไม่นานมานี้ แต่เรื่องทางกฏหมาย ไม่เกี่ยวกับผมโดยตรง
ผมก็เลยไม่ยุ่งดีกว่า ทางใครทางมันครับ ยกเว้น ว่าถ้ามันเกินไป หรือไม่ใด้ช่วยอะไรเลย ผมแฉแหลก
แต่เมื่อมันพอประหยัดใด้ ก็ต้องยอมรับ แม้มันจะแค่นิดเดียวก็ตาม
เรียนท่านอรุณ
ผมนึกว่าเราสองคนจบการทดลองด้วยดีนะครับ แล้วทำไมท่านถึงกล่าวแบบนี้ ผมไม่เข้าใจ ผมสู้กับคุณในเชิงวิชาการณ์อย่างเปิดๆ ไม่เคยดูถูกคุณแม้แต่น้อย คำทุกคำที่ผมพิมพ์ก็ไม่เคยแก้ ผมเห็นมีแต่คุณที่แก้ข้อความมาตลอด
และผมลองอ่านเวปทุกเวปที่คุณลงให้ดู เห็นแต่คุณวิจารณ์ว่าผมมาตลอด ผมก็ไม่เข้าใจ คุณทำไปทำไม่ครับ
คุณเป็นช่างผมว่าคุณน่าจะรู้ดีเรื่องของการคำนวนกำลังไฟฟ้าอยู่แล้ว คุณจะให้ผมพูดให้คุณเสียเลยไหม กับอีแค่ทดลองมอเตอร์3แรง 2ชม.เนี่ย ทดลองอะไรก็ไม่เคยที่จะมีการวัด มีแต่มองดูมิเตอร์ ผมว่าถ้าเอาตามหลักความจริงแล้ว บ้านเรามีการอัฟโหลดตลอดอยู่แล้ว แล้วบ้านใครก็ไม่ได้มีแค่หลอดไฟหลอดเดียว หรือ มอเตอร์3แรงตัวเดียวหลอกนะครับ ที่ผมกล้าสู้ที่จะทดสอบกับคุณนี้ ผมเห็นว่าคุณเป็นช่างที่กล้าท้าทดสอบแบบผู้มีความรู้จริง นำหลักการใช้จริงมาทดสอบ ก็แค่นั้น คำอธิบายในการขายผมก็ลงไว้ไม่ได้เวอร์หรือเกินจริง คุณน่าจะทำความเข้าใน หรืออ่านดีๆก่อนนะครับ ก่อนที่จะมาว่าใคร
และผมก็มั่นใจ ว่ามันไม่ลดแค่10บาทต่อเดือนหลอกนะครับท่าน บางอย่างอย่าพูดเกินความจริง อย่าให้ร้ายผู้อื่นเลย
ถ้าเค้ามาเจอทีหลัง มันจะหมดศัทธาเอานะครับ และอีกอย่าง คุ้มไม่คุ้ม คุณยังไม่เคยลองใช่คุณรู้ได้ยังไงครับ และถ้าไม่คุ้ม ผมจะมีลูกค้าเก่าๆมาสั่งอีกทำไม แล้วไอ้คำว่าทนเนี้ย ผมไม่ได้ทนครับ ขอบอก เรา2คนตกลงที่จะทดสอบกันไม่ใช่หรือครับ โปรดทำความเข้าใจด้วนนะครับ คำโฆษณาผมบอกว่า20%-40%นะครับ แล้วถ้าคุณลองเอาหน่วยที่คุณทดสอบ มาทำการคำนวนเป็นเปอร์เซ็นสิครับว่าได้เท่าไหร่ ผมคำนวนให้แล้วกันนะครับ 6.25%จากตัวเลขที่คุณให้มานะครับ นี่แค่การทดลองในแบบคราวๆของคุณนะครับ แล้วถ้าเกิดจากการใช้จริงล่ะครับ คงไม่มีแค่มอเตอร์ตัวเดียวหลอกมั่งครับที่ใช้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเบอร์5ตามที่ท่านว่า ทุกวันนี้ผมก็ใช้ ลูกค้าท่านๆอืนๆก็ใช้อยู่ ทำไมมันถึงเห็นผลล่ะครับ ผมว่าท่านเองนั้นเหละที่ไม่เข้าใจในเรื่องของเพาเวอร์แฟคเตอร์เลย
ปล.ผมไม่เคยที่จะออกมาโต้ตอบหรืออะไรเลย แต่ครั้งนี้ผมว่ามันแรงไปนะครับท่าน อะไรที่ท่านไม่รู้จริงอย่าพูดเถอะครับ ผลเสีย มันอาจจะเป็นผมหรือท่านเท่านั้นเอง ผมจะจบแค่เวปนี้นะครับ จะไม่ไปที่เวปอื่น
(คนเรานั้นถ้าไม่มีคำว่า ซื่อสัตย์ และ จริงใจ ทำอะไรไม่เจริญหรอกครับ)
-
เข้าไปดูได้นะครับ ว่าผมเคยแก้ไหม นี้เป็นเวปที่ผมขายประจำ และผมขายอยู่ที่นี้เวปเดียวไม่เคยไปเร่ขายที่ไหนครับ สาบาน ผมลูกผู้ชายพอ กล้าทำกล้ารับ ไม่เคยให้ร้ายใครครับ
http://www.dd-pra.com/pages/auction/detail.aspx?id=1189509
-
ผมจำใด้ว่า ผมพูดไปแล้วนานี่ว่า เครื่องไช้ไฟฟ้าแทบทุกชนิด มันมีอยู่แล้ว
แอร์อินเวอร์เตอร์ ไม่มีผลอย่างแน่นอน เครื่องไช้ไฟฟ้าประเภทหม้อแปลง หลอดไฟแบบไส่ หัวแร้ง หลอดตะเกียบ
ทีวี วิทยุ เครื่องเสียง ช่วยไม่ใด้แน่ครับ จะช่วยใด้ก็คือ มอเตอร์ เท่านั้น ทีนี้ มอเตอร์ที่ว่า ก็ต้องเป็นพวกแอร์ขนาดใหญ่ เช่น ตามโรงงาน ตามฟามเลี้ยงสัตว์ ที่ต้องใช้มอเตอร์หลายๆตัว จึงจะเห็นผล
หากตามบ้านทั่วๆไป คงจะเห็นผลยาก และ การเสียบทิ้งเอาไว้โดยไม่ใด้ไช้ไฟ ผู้รู้หลายท่านลอกว่า มันจะรับประทานไฟซะเอง (เท่าที่ลอง มันไม่กิน) มันจะช่วยก็ตอนมอเตอร์ทำงานเท่านั้น (ตามไปดูในเวปลิ้งอีคลับไทยใด้)
แต่การใช้ตัวนี้ ท่านให้เสียบไฟคาเอาไว้เลย ตามบ้านทั่วๆไป หามอเตอร์ขนาดไหญ่ คงจะยากครับ
เรื่องความคุ้มค่า คงต้องใช้เวลาหลายปี จึงจะคุ้มตามความเห็นของผม ตัวละหลายร้อย แต่ช่วยใด้เดือนละไม่กี่หน่วย หน่วยละไม่กี่บาท อายุการใช้งานน้อยปี ผมลองด้วยมอเตอร์3แรง2ชั่วโมง ใด้ไม่ถึงครึ่งหน่วย แล้วถ้าเป็นพัดลมเล็กๆล่ะ คงไม่ต้องพูดถึง มันจะใด้สักกี่เศษส่วนของหน่วย
สามแรงม้า เท่ากับเทียบกลับมาเป็นแรงไฟ 750วัตส์ เท่ากับ1แรงม้า 3แรงม้า เท่ากับ2100วัตส์ แต่มอเตอร์พัดลม แค่60วัตส์ เครื่องซักผ้าฝาบนใหญ่ๆหน่อยก็300วัตส์ เล็กๆก็แค่180วัตส์ ในบ้านใครในเวปนี้ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทมอเตอร์ใหญ่สุดกี่วัตส์ครับ?
เรื่องทางกฏหมาย ที่ผมไม่ใด้พูดถึง เดี๋ยวจะก็อปมาให้ดูบ้างก็ใด้
ถามว่า ผมทำไปทำไม ตอบว่า เป็นเพียงการพิสูจน์ให้ทุกคนใด้รู้เท่านั้น จะจริงหรือไม่จริง ให้อ่านและวิเคราะห์กันเอาเอง เพราะผมใด้ถ่ายทำและ มีการโพสต์แสดงการทดลองมาตลอด ไม่มีการปิดบัง ไม่มีส่วนใด้ส่วนเสีย
จะผิดจะถูก ก็พิจารณาดูกันเอาเองครับ จริงๆแล้ว ผมอาจจะผิดก็ใด้ ก็ดูกันครับ แล้วที่ผมพูดมา จริงหรือไม่ครับ
และข้อความของท่านในการโฆษณาช่วงแรก ท่านแก้ไหม่แทบทั้งหมดจริงไหมล่ะครับ
ท่านโฆษณาเกินจริงไหมล่ะครับ ถ้าไม่เกินจริง ท่านต้องไปแก้ไขข้อความความประหยัดสิครับว่า มันช่วยใด้ซักกี่เปอร์เซ็นตามที่ท่านยกมาช่วงหลัง
จริงๆเรื่องนี้ มันจบไปแล้ว ผมไม่ใด้โพสต์อะไรต่อไปอีกเลยด้วยซ้ำ แต่ที่ผมโพสต์ในนี้อีกเพราะมีคนสงสัยในข้อที่ผมตอบ แล้วที่ผมกล่าวมา จริงไหมครับ? ถ้าไม่จริง เชิญเอาข้อมูลมาแย้งเลยครับ
-
ตลาดนัดมีเครื่องโฆษณาว่าทำให้ประหยัดไฟฟ้าบ้าน หรือมิเตอร์หมุนช้าลง วางขาย บอกเวลาใช้ให้เสียบเครื่องไว้ที่ปลั๊กตัวเมียในบ้านไว้เฉยๆ มีหลายขนาดตามการใช้ไฟฟ้า
เห็นวางขายตัวละ 200 กว่าบาท แค่เสียบเครื่องนี้เข้ากับปลั๊กไฟบ้าน ก็จะประหยัดไฟ 10-30% ในใบโฆษณาเขียนว่า
-สามารถปรับแต่งแรงดันและคลื่นไฟฟ้าที่เกิดอย่างรุนแรงอย่างกระทันหัน
-เก็บสะสมพลังงานในส่วนที่ใช้ไม่หมด
-กะเทาะคาร์บอนของสายไฟตลอดเวลาเพื่อให้กระแสผ่านสะดวก
-ปรับแต่งแฟกเตอร์กำลังลดความสินเปลืองกระแสไฟ
--------------------------------------------------------------------------------
จุดสังเกตุ
ผู้ขาย จะนำโหลดไส้ มาทดลองให้ดูเท่านั้น แต่จะไม่เอาหลอดนีออนมาทดลอง
--------------------------------------------------------------------------------
กำลังไฟฟ้าในระบบไฟฟ้ากระแสสลับทั่วไป สามารถแบ่งออกได้เป็นสองส่วนคือ
1. กำลังไฟฟ้าที่ใช้งาน หรือกำลังงานจริง (active or real power) มีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ (kW) ซึ่งจะเป็นกำลังงาน
ที่เครื่องจักรอุปกรณ์จะนำไปใช้งานจริง เช่น เปลี่ยนเป็นความร้อน แสงสว่าง หรือไปเป็นทอร์กที่ใช้ในการ
ขับเคลื่อน
2. กำลังรีแอคตีฟ (reactive power ,Q (VAR) ) เป็นพลังงานที่ใช้สร้างสนามแม่เหล็ก เพื่อเป็น ตัวกลางในการ
แปรรูปพลังงานในอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ , หม้อแปลง , หลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ ล้วนแล้วแต่ต้อง
การกำลังรีแอกตีฟในการทำงานทั้งสิ้น แต่พลังงานจริงๆ ที่ได้รับจากอุปกรณ์ เหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากกำลัง
รีแอกตีฟ แต่เกิดจากกำลังไฟฟ้าที่ใช้งาน ดังนั้นถ้าในโรงงานมีอุปกรณ์เหล่านี้ จำนวนมาก ความต้องการ
กำลังรีแอกตีฟก็จะมากขึ้นด้วย กำลังรีแอกตีฟจะส่งผลให้กระแส ไฟฟ้าที่ไหลเข้าอุปกรณ์มีค่ามากขึ้น ซึ่งการ
เพิ่มขึ้นของกระแสไฟฟ้าจะส่งผลเสียกับระบบไฟฟ้าดังนี้
2.1 อุปกรณ์ป้องกันระบบไฟฟ้าในโรงงานจะต้องมีอัตราพิกัดการทนกระแสสูงขึ้นตาม
2.2 กระแสไฟฟ้าที่ไหลในสายไฟฟ้าจะมีค่าสูงขึ้น ทำให้เกิดการสูญเสียในสายไฟฟ้ามากขึ้น รวมถึงเกิด
แรงดันตกคร่อมในสายไฟฟ้าสูงขึ้นตาม
2.3 เมื่อกระแสไฟฟ้าทั้งโรงงานเพิ่มสูงขึ้น หม้อแปลงซึ่งเป็นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้าก็จะต้องทำงานหนักขึ้น
และทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าใดนัก
3. อุปกรณ์หรือเครื่องจักรกลไฟฟ้านั้นต้องการผลรวมแบบเวกเตอร์ของกำลังงานทั้งสองส่วนนี้ จะได้กำลังงาน
ปรากฏ (apparent power ) มีหน่วยเป็นกิโลโวลต์แอมแปร์ (kVA) ซึ่งก็คือกำลัง งานที่ต้องจ่ายให้กับเครื่องจักร
หรืออุปกรณ์ไฟฟ้านั้น ๆ ค่ากำลังงานปรากฏ จะมีค่าเท่ากับค่าแรงดันคูณกับค่ากระแส ค่านี้วัดออกมาในรูปของ
ค่า RMS หากในระบบไฟฟ้ามีการใช้ค่า กำลังรีแอกตีฟ อยู่ จะทำค่ากำลังงานปรากฏ มากกว่าค่ากำลังไฟฟ้า
ที่ใช้งานเสมอ ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ ( power factor , pf ) ก็คือค่าอัตราส่วนระหว่างกำลังงานจริงต่อกำลังงาน
ปรากฏ โดยค่านี้จะทำให้เราทราบว่าเครื่องจักรอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือระบบไฟฟ้าต่างๆ นั้นใช้กำลังงานจริงเป็น
..ส่วนเท่า ไร ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์สูง ย่อมแสดงถึงประสิทธิภาพในการใช้งานเครื่องจักรอุปกรณ์ หรือระบบ
นั้นสูงตามไปด้วย ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ จะมีค่าอยู่ระหว่าง 0 - 1
--------------------------------------------------------------------------------
เครื่องประหยัดไฟมีอยู่จริงคับ แต่จะใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นประเภทมอเตอร์ (ที่มีขดลวด) เช่น ปั๊มน้ำ แอร์รุ่นเก่า เป็นต้น เป็นการแก้ค่า PF ให้มีค่าเท่ากับ 1 หรือใกล้เคียง ซึ่งจะต้องคำนวณจากโหลดที่ใช้ด้วย
--------------------------------------------------------------------------------
เครื่อง Power saver ลดค่าไฟได้จริงครับ อาศัยหลักการทางวิศวกรรมไฟฟ้า
จริงๆแล้วในอาคารที่มีขนาดใหญ่เช่น โรงแรม, คอนโด, โรงงาน, ห้างสรรพสินค้า หรือ อาคารอื่นๆ ที่มีการใช้ไฟมาก ผู้ออกแบบระบบไฟฟ้าจะ ออกแบบให้มีอุปกรณ์ช่วยปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลัง (Power factor controler, P.F.) ตามที่กำหนดโดยการไฟฟ้า คือต้องพยายามให้มีค่า P.F. ใกล้ค่า 1 ที่สุด เพื่อให้อาคารนั้นๆ ใช้กระแสไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่มีการสูญเสียในอุปกรณ์มาก โดยเฉพาะอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขดลวดเป็นส่วนประกอบหลัก (Inductive load)
ถ้าโหลดในระบบไฟฟ้ามีค่า P.F.สูง จะเป็นผลดีกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผลิตไฟฟ้ามา 100% ต้องใช้ให้ได้เกือบ 100% ต้องให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด จะได้ไม่เป็นภาระกับการไฟฟ้า ที่จะต้องใช้ทุนมหาศาลในการผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นการช่วยชาติโดยตรง
แต่สำหรับอาคารประเภทบ้านพักอาศัยซึ่งมีการใช้ไฟน้อย การไฟฟ้าไม่ได้มีข้อกำหนดเรื่องการปรับปรุง ค่า P.F. แต่ได้มีการรณรงค์ให้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 แทน เพื่อช่วยลดภาระของการไฟฟ้า
--------------------------------------------------------------------------------
นายวิฑูร สุขพูล พาณิชย์จังหวัดนครปฐมเปิดเผยว่าในระยะปลายปี 2547 ได้มีผู้แอบอ้างขายอุปกรณ์ประหยัดไฟวางขายย่านคลองถม บ้านหม้อ หรือบางทีก็เร่ขายตามตลาดนัดต่าง ๆ ใกล้แหล่งชุมชน โดยแอบอ้างสรรพคุณว่าเป็นอุปกรณ์สามารถช่วยประหยัดไฟได้ 10-30 เปอร์เซ็นต์ อุปกรณ์ดังกล่าวมีหลายรูปแบบ บางแบบมีลักษณะคล้ายที่เสียบปลั๊กไฟ ใช้เสียบกับปลั๊กไฟที่บ้าน บางชนิดเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ราคาขายอันละ 100-200 บาท จนถึงประมาณ 30,000 บาท ซึ่งผู้จำหน่ายจะใช้วิธีหว่านล้อมต่าง ๆ นานา เช่น นำมิเตอร์ไฟฟ้าจำลองมาให้ดู แล้วทดลองเสียบปลั๊กอุปกรณ์พลังงาน เพื่อให้ผู้ซื้อเห็นว่ามิเตอร์ไฟฟ้าเดินช้าลง ซึ่งแท้จริงแล้วมีการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับแสดงประกอบการขาย
แต่จากการทดสอบพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ทำให้ค่ากระแสไฟฟ้าลดลงแต่อย่างใด
และผู้ขายยังแอบอ้างผลการตรวจสอบจากสถาบันต่าง ๆ ในหลายประเทศด้วยกัน ทั้งในทวีปยุโรป เอเชีย รวมถึงประเทศไทย ซึ่งในข้อเท็จจริงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเอกสารจริงหรือเท็จ แต่เอกสารที่กลุ่มดังกล่าวอ้างว่าเป็นเอกสารรับรองจากการไฟฟ้านครหลวงนั้น ทางการไฟฟ้าฯ ได้มีการยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารรับรองหรือรับประกัน แต่เป็นเพียงผลการทดสอบและวัดค่าทางไฟฟ้า ซึ่งตามปกติบริษัทหรือผู้ใช้ไฟฟ้า สามารถส่งตัวอย่างอุปกรณ์ที่ต้องการทราบรายละเอียดมาให้การไฟฟ้านครหลวงทดสอบได้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลว่าอุปกรณ์นั้น ๆ มีค่าทางไฟฟ้าอย่างไรบ้าง แต่ใบรายงานผลการทดสอบไม่ได้เป็นใบรับประกันหรือใบรับรองอุปกรณ์หรือสินค้านั้น ๆ การกระทำดังกล่าวถึงว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ และการไฟฟ้านครหลวง จึงได้เข้าตรวจค้นและจับกุมร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องประหยัดไฟ ณ ตลาดคลองถม โดยได้ทำการยึดของกลางมาเพื่อประกอบการดำเนินคดี และได้แจ้งข้อหาผู้กระทำความผิด ดังนี้
1. กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 52 กรณีการจำหน่ายสินค้าที่ควบคุมฉลากไม่ถูกต้อง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 กรณีมีเจตนาขายสินค้าโดยการหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในคุณภาพแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จึงใคร่ขอเตือนประชาชนผู้บริโภคทุกท่าน โปรดระมัดระวังอย่างหลงเชื่อซื้อสินค้าดังกล่าวไปใช้ถ้าพบเห็นสินค้าประเภทนี้วางขายอยู่ที่ใด หรือพบเห็นสินค้าหรือบริการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นอันตรายหรือหลอกลวง สามารถแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ทราบได้ทางโทรศัพท์สายด่วนผู้บริโภค 1166
..
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม
เมษายน 2548
--------------------------------------------------------------------------------
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เตือนระวังถูกหลอกลวงขายสินค้าเครื่องประหยัดไฟฟ้าฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ย้ำ ผู้ฝ่าฝืนจำหน่ายมีความผิดต้องระวางโทษทั้งจำทั้งปรับ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า จังหวัดแพร่ได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบบริเวณคลองถม เซ็นเตอร์ ซึ่งมีกลุ่มบุคคลทำการจำหน่ายประเภทอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าให้แก่ประชาชน โดยมีการกล่าวอ้างว่า สามารถประหยัดค่าบริการไฟฟ้าได้ร้อยละ 10 -14 รวมถึงมีการแสดงฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยที่สินค้าดังกล่าวจำหน่ายตั้งแต่ราคา 99 บาท ถึง 3,500 บาท ทั้งนี้ทางการไฟฟ้านครหลวงได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่สามารถประหยัดไฟฟ้าได้ตามที่กล่าวอ้าง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มิได้ให้รับรองฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แต่อย่างใด ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจึงร่วมกับกองบังคับการทะเบียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมผู้จำหน่ายในข้อหาขายสินค้าฉลากเป็นเท็จ ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค 2522 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและซื้ออุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าดังกล่าว หากพบมีการฝ่าฝืนแจ้งต่อกลุ่มงานยุทธศาสตร์ฯ สำนักงานจังหวัดแพร่ งานคุ้มครองผู้บริโภค โทรศัพท์ 0-5453-1750
--------------------------------------------------------------------------------
จับพ่อค้าคลองถมหัวใสหลอกขายเครื่องประหยัดไฟจากจีน พร้อมยึดของกลางมูลค่า1.5 แสน เผยขายเครื่องละ 3.5 พัน อ้างประหยัดไฟได้ 10-40 เปอร์เซ็น
วันนี้ ( 17 พ.ย.2552) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 15.00 น.
-พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ.พร้อมด้วย
-พ.ต.อ.กฤศ โบสุวรรณ รอง ผบก.ปคบ.
-พ.ต.อ.การุณย์ บัวเผื่อน ผกก.1 บก.ปคบ.
-นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และ
-นายชเนศ เลิศวณิช ผอ.กองคดีค่าไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง แถลงข่าวจับกุม
1. นายวิทยา สิทธิเดชเดชากุล
2. น.ส.ภัทราภร นรคง
3. นายสุธีร์ อินทรทิพย์
4. นายคมสันต์ ใจยาเขียวแก้ว
5. น.ส.แดง แก้วกองสี และ
6. นายธราดล บุญสอน
พร้อมของกลาง
เครื่องประหยัดไฟฟ้า จำนวน 160 เครื่อง มูลค่าประมาณ 1.5 แสนบาท
จับกุมได้ที่บริเวณแผงค้าภายในตลาดคลองถมเซ็นเตอร์ ถนนมหาจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.
พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มี ประชาชนร้องเรียนว่าได้ซื้อเครื่องประหยัดไฟฟ้าที่อ้างว่าจะช่วยประหยัดไฟได้ 10-40% ในราคา 3,500 บาท จากตลาดคลองถม แต่ภายหลังนำมาใช้แล้วกลับไม่เป็นดังที่กล่าวอ้าง จึงร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ก่อนมีการประสานให้ตำรวจ บก.ปคบ.สืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด นอกจากนี้สินค้าดังกล่าว ทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เคยตรวจสอบแล้วพบว่าไม่สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ซึ่งถือว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค
พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของกลางพบว่ามีการนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยไม่มีฉลากสินค้า บางส่วนที่มีฉลากก็แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่องลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุม พ.ศ.2541 ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา
ตามความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ
พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวอีกว่า ทาง กฟน.ตรวจสอบแล้วว่าเครื่องดังกล่าวไม่สามารถช่วยประหยัดไฟได้จริงตามที่มีการกล่าวอ้าง ที่ผ่านมาก็มีการติดตามจับกุมมาโดยตลอดแต่ก็ยังไม่หมด ซึ่งหลังจากนี้ทาง บก.ปคบ.จะร่วมกับ สคบ.และ กฟน.ดำเนินการแบบไตรภาคีติดตามปราบปรามอย่างต่อเนื่องเพราะถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างมาก (http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/08/20/8960_1313801627.jpg)
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/08/20/8960_1313801717.jpg)(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/08/20/8960_1313801796.jpg)
-
จริงๆแล้ว ผมจบแล้วนะครับ แต่ที่ผมกลับมากล่าวอีกเพราะมีคนสงสัยเท่านั้น
-
ขอออกความเห็นเล็กน้อยนะครับ ผมก็ว่าได้ความรู้ทางด้านวิชาการจริงครับ อย่างซียอมให้ไฟเอซีผ่านตัวมันได้นี่แหละครับความรู้พื้นฐานเลยครับ แต่ในความคิดที่เกิดขึ้นมาในเมื่อมันประหยัดได้ น้อยมากไม่สำคัญ ถือว่าประหยัดได้ แล้วก้ไม่เจาะจงไปเลยครับว่าประหยัดกับพวกมอเตอร์ น่าจะทำปลักตัวเมียติดกล่องเลยครับแล้วก็ มีเป็นรุ่นๆ ก็เจาะไปเลยครับรุ้นนี้ใช้กับเครื่องซักผ้า รุ่นนี้ใช้กับพัดลม คนชื้อจะได้ไม่ซื้อไปใช้กับทีวีหรือหม้อหุงข้าวเตารีดครับ แต่ว่าราคาจะคุ้มกับการใช้ไฟฟ้ากี่ปีกี่เดือนนั้นกับเครื่องที่เป้นมอเตอร์เท่าใหร่นั้นอยู่ที่ผู้บริโภคแล้วครับ หรือว่าจะเอาค่าเครื่องประหยัดไฟไปจ่ายค่าไฟ หรืออาจจะไม่เสียค่าไฟ ก็แล้วแต่ว่าใช้ไฟมากน้อยครับ เหอๆๆๆ ใหนก็ติดตามดูไปหลายที่แล้วครับ ขอออกความเห็นแค่นี้ครับ ขอบคุณครับ
-
มันประหยัดไฟได้จริง แต่ความประหยัดการไฟฟ้าเป็นคนได้ครับ
ตามอาคารบ้านเรือนที่คิดค่าไฟผ่านมิเตอร์ประหยัดไฟไม่ได้ครับ
คือจ่ายค่าไฟเท่าเดิม
-
แหกตาประชาชน
-
ถ้ามันเป็น c มันก็ไม่น่าจะผิดกดหมายนะครับ เป็นการแก้power factor ส่วนมากจะอยู่ในระบบ 3เฟส
มันเป็นเรื่องของกระแส ที่เกิดจาก R L C แต่ l c ตัวปัญหา เพราะกระแส มัน จะ นำหน้ากับล้าหลัง ซึ่งมันจะสัมพันกัน จึงไม่ควรมีค่าอะรัยที่จะมากกว่ากัน ที่บอกใช้กับ มอเตอร์เพราะมันเป็นL เลยเอาCมาแก้ การแก้ต้องมาจากสูตรคำนวณทางไฟฟ้า และ c ในช่วงเวลาหนึ่ง มันจะลิทชาจ เก็บและคายประจุ มันจะลดการกระชากของกระแสด้วย ถ้าเอาแคม ไปวัดคงจะมองได้ยาก