(http://www.ubmweb.com/tigger/images/content23112550104637.JPG)
ACTOR AT4800BJT
แอคเตอร์ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่ผลิตแอมป์เอง ที่สามารถก้าวไปอยู่ในระดับต้น ๆ ของประเทศไทย แอมป์ของบริษัทนี้มีหลายรุ่นซึ่งแต่ละรุ่นมักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควรแต่สำหรับซีรีย์นี้นับว่าน่ากลัวสำหรับคู่แข่งเลยทีเดียว !!
ตามปรกติหน้ากากของแอมป์แอคเตอร์ออกแบบมาแต่ละตัวจะมีสีสันค่อนข้างมากไปหน่อย แต่เที่ยวนี้แน้นไปทางมาดขรึมแต่ก็ยังไม่วายที่จะยังมีวงรีสีฟ้าแจ่มๆ คาดตรงช่องระบายอากาศด้านหน้า และที่โลโก้ของแอมป์แอคเตอร์จะเป็นโลโก้สีแดงและเขียว ซึ่งเมื่อสกรีนลงหน้าปัทแอมป์ที่เป็นสีดำแล้วดูไม่ค่อยจะโดดเด่นสักเท่าไหร่ ที่หน้าปัทด้านหน้าทำด้วยแผ่นอลูมิเนียม สีดำ อโนไดซ์ ค่อนข้างหนามีปุ่มปิด / เปิดอยู่ตรงกลาง มีวอลลุ่มขนาบทั้ง ซ้ายและขวา มีไฟบอกบอกสถานะการทำงานข้างละ 4 ดวง โดยข้างล่างสุดบอกสถาวะ โปรเทค ถัดมาเป็นสภาวะ แอคทีฟ ต่อมาเป็นสภาวะ ซิกแนล บนสุดเป็นสภาวะ คลิป
เมื่อเปิดฝาดูมองจากด้านบนจะเห็นความแตกต่างจากแอมป์แอคเตอร์รุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด ซีรี่ย์ถือว่ามีงานที่ออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว เน้นความเรียบง่าย มีบอร์ดหลักทั้งหมด 4 บอร์ดด้วยกัน หม้อแปลงอยู่ตรงกลางเครื่องพอดี วึ่งหม้อแปลงตัวนี้ใช้เป็นแบบอาร์คอร์ มีทองแดงคาดอยู่ตรงกลางหม้อแปลงเพื่อลดสัญญาณรบกวน แรงไฟเอาท์พุทของหม้อแปลงระบุ 71-0-71 ด้านหน้าของตัวเครื่องซึ่งเป็นที่อยู่ของแผงภาคจ่ายไฟมีตอนเดนเซอร์ฟิลเตอร์ค่า 10000 ไมโคร 100 V เรียงอยู่เป็นตับเลย ด้านซ้ายและด้านขวาของแอมป์ยังเป็นโมดูลภาคขยายซึ่งมองได้เห็นทรานซิสเตอร์เบอร์ยอดนิยมคือเบอร์ C5200 และ A1943 จำนวนที่ใช้ข้างละ 16 ตัว ตรงแผงด้านหลังใกล้กับขั้วต่อลำโพงจะเห็นภาคเอาท์พุท/อินพุท และวงจรบริดจ์
(http://www.ubmweb.com/tigger/images/bank/tigger/paamp/at4800/at18.JPG)
ที่โมดูลขยายทั้ง 2 ข้าง ที่หงายปริ้นขึ้นมา ตามสไตล์ของแอคเตอร์ ซึ่งมองเห็นแผ่นอลูมิเนียมระบายความร้อนขนาดใหญ่ หันครีบลงทางด้านล่างของตัวเครื่องโดยที่ท้ายของแผ่นอลูมิเนียมระบายความร้อนมีพัดลมขนาดไม่ใหญ่นัก ถ้าจะถอดโมดูลขยายนี้ออกเพื่อทำการซ่อมต้องได้บัคกรีสายออกจำนวน 5เส้น เท่านั้น
(http://www.ubmweb.com/tigger/images/bank/tigger/paamp/at4800/at7.JPG)
(http://www.ubmweb.com/tigger/images/bank/tigger/paamp/at4800/at3.JPG)
ที่โมดูลภาคขยายทั้งซีกซ้าย/ขวา จะสังเกตเห็นรอยต่อของปริ้นมาอีก 2 ท่อน สำหรับรุ่น 4800 สำหรับท่อนแรกนั้นจะมีทรานซิสเตอร์อยุ่ 1 คู่ ท่อนหลังจะมีทรานซิสเตอร์อยู่ 2 คู่ นั้นย่อมแสดงว่าโมดูลขยายนี้สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนพาวเวอร์ทรานซิสเตอร์ได้ โดยถ้าถอดออก 3 คู่ น่าจะเป็นรุ่น ซีรีย์2400 ถ้าถอดออก 1 คู่น่าจะเป็นซีรีย์ 3600 ซึ่งเท็จจริงประการใดจะรู้ต่อเมื่อได้ผ่าแอมป์รุ่น 2400และ 3600 ต่อไป แต่รอยต่อเชื่อมปริ้น 2 ท่อน ที่ว่านี้ทำได้เรียบร้อยดี(แอคเตอร์ออกแอมป์ซีรี่ย์นี้มา 3 รุ่น คือ รุ่น 4800BJT,3600BJT,2400BJT)
(http://www.ubmweb.com/tigger/images/bank/tigger/paamp/at4800/at8.JPG)
(http://www.ubmweb.com/tigger/images/bank/tigger/paamp/at4800/at10.JPG)
ณ ที่จุดนี้จะเห็นภาคเรกกูเลตเตอร์ ซึ่งมีคอนเดนเซอร์ 10000ไมโคร 100โวทล์ ทำงานร่วมกับไดโอดบริดจ์ตัวถังเหล็กขนาดใหญ่ ขนาดน่าจะประมาณ 60A ซึ่งไดโอดตัวนี้มีแผ่นระบายความร้อนค่อนข้างเล็ก ที่ด้านริมซ้ายสุดและริมขวาสุดของแผงนี้มีวงจรป้องกันลำโพงซึ่งทำงานอิสระ ทำงานแยกกันอิสระทั้งด้านซ้าย/ขวา เป้นที่น่าสังเกตอย่างยิ่งว่า BJT4800 รุ่นนี้ไม่มีฟิวส์ DC แม้แต่ตัวเดียวเครื่องทั้งเครื่องจะมีฟิวส์ AC แค่ตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งงทางวิศวกรของแอคเตอร์คงจะมั่นใจกับประสิทธิภาพของเครื่องมาก...
ที่แผงอินพท /เอาท์พุท จะเห็นวงจรบริดจ์และวงจรซัพฟิลเตอร์กล่าวคือ แอมป์แอคเตอร์รุ่นนี้ สามารถเล่นเป็นแอมป์ซัพวูฟเฟอร์ โดยไม่ต้องมีครอสโอเวอร์ได้ ทำได้โดยการกดปุ่มข้างบนเท่านั้น ซึ่งปุ่มที่ว่านี้จะสังเกตว่าโผล่ออกมาด้านนอกที่ด้านหลังของแอมป์คุ่กับปุ่มบริดจ์โมโน ซึ่งปุ่มที่โผล่ออกมาในลักษณะที่ชัดเจนนี้น่าจะสร้างปัญหาได้ในอนาคต
(http://www.ubmweb.com/tigger/images/bank/tigger/paamp/at4800/at13.JPG)
(http://www.ubmweb.com/tigger/images/bank/tigger/paamp/at4800/at17.JPG)
สืบเนื่องมาจากปุ่มที่กล่าวด้านบนที่เป็นปุ่มซัพและปุ่มบริดจ์ที่โผล่ออกมาทางด้านหลังใกล้ๆกับจุดต่อสายลำโพง เวลาต่อสายลำโพงมักจะพลาดเอามือไปกดปุ่มนี้เข้าไปเสมอ จะทำให้แอมป์ตัวนี้ถ้านำไปใช้กับเสียงกลาง จะทำให้เสียงกลางไม่ออกซึ่งทางร้านได้ประสบปัญหานี้มาแล้ว คือเราได้นำเครื่องรุ่นนี้ไปส่งที่อบต.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งต้องขับรถออกจากตัวอำเภอขึ้นดอยไปอีก 35 กม.ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ตอนทดลองเครื่องดีหมด ต่อมาอีกวันหนึ่งทางเจ้าหน้าที่อบต.ต้องขับรถมาโทรศัพท์ที่ตัวอำเภอให้เราไปแก้ไขเครื่องเสียงซึ่งมีแต่เสียงเบส ทางร้านได้ไปดูแลให้พร้อมกับนำลำโพงไปด้วยเนื่องจากคิดว่าลำโพงเสียงกลางขาด แต่หลังจากที่ต้องขับรถไปอีกร่วม 400 กม.เพียงเพื่อไปกดปุ่มเล็กๆปุ่มนี้เพียงปุ่มเดียวเท่านั้น !! ซึ่งเป็นข้อคิดสำหรับคนที่นำเครื่องเสียงรุ่นนี้ไปใช้ ถ้าท่านใช้หลายคน และคนใช้ไม่ค่อยเป็นขอให้ท่านได้ดึงเอาปุ่มสีแดงและสีเหลืองนี้ออกและทำการตัดต่อสวิตนี้ให้สั้น แล้วทำการกดปุ่มสองปุ่มนี้ไปตำแหน่งที่ท่านต้องการเท่านั้น ทางร้านก็เลยตั้งชื่อปุ่มนี้ว่า "ปุ่มแม่ลาน้อย".. ที่จุดต่อลำโพงนั้นสามารถต่อได้ทั้งแบบสเปคคอน และแบบดำ - แดง อินพุทเสียบได้ทั้งแบบโฟนอย่างเดียว และมีแจ็คลิ้งค์ติดมาให้พร้อม
สำหรับนางสาวAT4800นางนี้ ถือว่ามีรูปร่างหน้าตาที่ผ่านฉลุยเลย แต่อาจจะสะดุดในช่วงรอบแสดงความสามารถและตอบคำถามก็เป็นได้ แต่ถ้ากองเชียร์ล้นเหลือ ลูกโป่งเยอะ ก็ไม่แน่