Tigger Sound

ห้องโชว์กิจกรรม นันทนาการ และงานอดิเรกของเพื่อนสมาชิก
=> โชว์ กิจกรรมยามว่าง จากสมาชิกทิกเกอร์ซาวด์ => ข้อความที่เริ่มโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 01:08:26 pm

หัวข้อ: *_* ความนิ่งในใจ - รู้โลก ไม่สู้รู้ตน
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 01:08:26 pm
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/204333/1.jpg)

ปัจจุบันนี้โลกไซเบอร์กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ในการเรียนรู้ ระยะหลัง ๆ มีคำคมจำนวนมากมายหรือมีวลีอันเป็นคติสอนใจให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ประมาทได้เยอะแยะมากมายด้วยครับ วันนี้ผมเองก็คงจะหยิบยกมาหนึ่งข้อ ที่คิดว่าสอดคล้องกันกับโลกปัจจุบัน อันเป็นโลกที่การสื่อสาร การสร้างมายาคติ การเสริมสร้างและปรับความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมได้เยอะแยะมหาศาลด้วยครับ

ข้อคิดที่ผมได้รับมา (ต้องขออภัยว่า ผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าต้นกำเนิดมาจากท่านใด แต่ขอให้เครดิตสำหรับผู้ที่คิดด้วยนะครับ) เป็นเรื่องที่ว่าด้วย “ข่าวลือ” ข้อคิดที่ว่าเค้าบอกเอาไว้ครับว่า “ข่าวลือ เกิดขึ้นจากผู้ที่ไม่หวังดี ไม่ปรารถนาดี ถูกขยายผลโดยคนที่ไร้สติกลั่นกรอง และถูกเชื่อโดยคนที่หูเบาไม่หนักแน่น”

ที่ผมอยากจะหยิบยกขึ้นมา เพราะว่าโลกใบนี้ของเราเป็นโลกที่อิทธิพลการสื่อสารนั้นยิ่งใหญ่เหลือประมาณ มากกว่ายุคใด ๆ เราจะสังเกตได้ครับว่า ท่าทีที่มนุษย์เรากำหนดขึ้น จนกระทั่งเป็นสิ่งดีงามหรือชั่วร้าย สมานฉันท์ปรองดองหรือแตกแยกขัดแย้งกันนั้น ล้วนแล้วแต่มีจุดเริ่มต้นมาจาก “ความเชื่อ” และสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อเรานั้น ในอดีตคือประสบการณ์ตรง ต่อมาก็เป็น “สื่อ” แต่ระยะหลัง สื่อนั้นมีการเติบโตขยายตัวและสามารถที่จะเข้าถึงคนต่าง ๆ ได้ในรูปแบบที่ซับซ้อน เข้าถึงตัว และทำให้มีอิทธิพลมากกว่าประสบการณ์โดยตรงที่คนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะมีต่อกันและกันได้เหมือนในอดีต ต้องยอมรับว่าปัจจุบันคนเรานั้น ดูเหมือนจะเชื่อสื่อมากกว่าเชื่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ตนเอง หรือแม้แต่ผู้ที่ปรารถนาดีกับตัวเอง

ยิ่งเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้ข่าวสารข้อมูล (รวมถึงข่าวลือ ข่าวเท็จ ข่าวลวง) นั้นเข้ามามีอิทธิพลต่อตัวเราได้ต่อเนื่องรุนแรงมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องอะไรมากมายครับ เทคโนโลยี สามจี บนคลื่นความถี่ใหม่ สร้างคุณอนันต์ แต่หากว่าเราไม่รู้เท่าทันแล้วละก็ เราก็จะกลายเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีการสื่อสารที่อยู่ในมือของผู้มีมิจฉาทิฐิได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน เช่นเดียวกับการสื่อสารในรูปแบบโทรทัศน์แต่เดิมมีไม่กี่ช่อง ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีมหาศาล ทำให้เราดูโทรทัศน์ได้หลากหลายช่องมากยิ่งขึ้น ข่าวสารข้อมูล หลั่งก็คือไหลเข้ามา และที่เรารับเข้ามาคู่กันคืออิทธิพลทางความคิดที่สอดใส่เข้ามาในเนื้อหา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ล้วนแต่มีผลต่อความรู้สึกนึกคิดของเราทั้งสิ้น

สิ่งสำคัญจึงเป็นเรื่องของ “ความรู้เท่าทันสื่อ” และการที่จะ “ไม่ตกเป็นเหยื่อ” ของ ข่าวสารข้อมูลจำนวนมากมายที่จะหลั่งไหลมาหาพวกเรา

นอกจากนี้ในสังคมที่ผู้คนชอบเสพเรื่องราวต่าง ๆ ที่เน้นความสนุก (ที่บางคนเรียกว่า “ดราม่า”) บางทีความเป็นจริง หรือข่าวจริงมันจืดชืดไร้ความสนุกเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน มนุษย์เราโดยเฉพาะในสังคมที่ชอบความสนุกมากกว่าความจริงจึงมีความโน้มเอียงที่จะเลือกไปเชื่อข่าวลือที่ดูเร้าใจมากกว่าจะเพลินอารมณ์ และร่วมกันขยายผลข่าวที่เป็นเพียงข่าวลือจะสนุกเสียกว่า โดยบ่อย ๆ ครั้งคนที่เริ่มต้นสื่อสาร ผู้ขยายผลด้วยการกระจายข่าว ไม่ได้ทำไปด้วยเจตนารมณ์ไม่ดี แต่อาจจะไม่ได้ใช้สติช่วยคัดกรอง หรือไม่ได้คิดตระหนักถึงผลของความเข้าใจที่ผิด ๆ ว่าจะมีผลเสียอย่างไรต่อสังคมและร่วมกันขยายผลไปเรื่อย ๆ

ในฐานะที่เราอยู่ในช่วงที่โลกหมุนเร็วขึ้น เทคโนโลยีช่วยให้เราสื่อสารกันได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น เข้าถึงผู้อื่นได้เร็วขึ้น สิ่งที่ต้องเร็วยิ่งกว่าระบบปฏิบัติการต่าง ๆ หรือการส่งผ่านดาต้าที่ซับซ้อนสูงขึ้นด้วยความเร็วที่มากขึ้นมหาศาล คือการพัฒนาสติของเรา “ความยั้งคิดของเรา” ในฐานะส่วนหนึ่งของเครือข่ายการสื่อสาร ให้เร็วยิ่งกว่าเทคโนโลยีเหล่านั้น
หนึ่งในวิธีที่เอาชนะความเร็วของการสื่อสารในโลกดิจิทัลนี้คงเป็นเรื่องของการเจริญสติ ...ยั้งคิด... คิดจากความว่าง .. หรือแม้แต่การ “หยุดคิด” เพื่อกลับมาตั้งสติกันใหม่

หนึ่งในเทคนิคที่ผมได้มาจากการฟัง เพื่อนที่ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ว่า ระหว่างพูดคุย ระหว่างการสนทนา เราสามารถเจริญสติได้ด้วยการ พักการพูดคุย สักนิดนึง ก่อนที่จะกลับมาสนทนากันใหม่

ความว่าง การหยุด การสร้างความนิ่ง ในใจเรา จะทำให้เราเป็นผู้รู้เท่าทันโลก จากการรู้เท่าทันตนเอง.

ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน


ที่มา:
http://www.dailynews.co.th/article/630/204333
หัวข้อ: Re: *_* ความนิ่งในใจ - รู้โลก ไม่สู้รู้ตน
เริ่มหัวข้อโดย: กล้วยหอม ศรีสะเกษ ที่ มิถุนายน 20, 2013, 11:45:16 pm
เยี่ยมครับ