-
อยากทราบว่าการกลับเฟสลำโพง ถ้าเราใช้ไปนานๆจะมีผลต่อดอกลำโพงหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะดอกเสียงเบส
-
ขอมารอคำตอบด้วยคนครับ..ไม่แน่บางทีอาจจะต่อสายผิดอยู่1ใน4ดอก smiley4
-
ต่อกลับเฟสไม่มีผลกรับดอกลำโพงครับ เพราะถ้าทั้งระบบต่อกลับทั้งหมดก็คือถูก แต่ถ้ากลับดอกใดดอกหนึ่งหรือหลายดอกมีผลต่อคุณภาพเสียงและพลังเสียงเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีเครื่องเช็คเฟสก็เอาง่ายๆใช้ถ่าน1.5vเขี่ยให้ตรงตามขั้วบวกลบถ้าถูกขั้ว ลำโพงจะเด้งออก ถ้าฮุบเข้าแสดงว่าผิด ถึงแม้จะเขี่ยตรงขั้วแล้วก็ตาม.โชคดีครับ(ถ้า9vอย่าจี้มนาน)
-
เฟสผิด เสียงหายไป 50% เลยนะครับ
ผิดเฟสดอกไม่เป็นไรครับ แต่พอเสียงไม่ดังเราก็อัดมาก อัดมากๆเข้า งานก็เข้าแหละครับ
ทางที่ดีหาซื้อเครื่องเช็กเฟสมาใช้เถอะครับ มีตั้งแต่ ราคา 4,000 ขึ้นไป ลงทุนอีกนิดเพื่อคุณภาพของงานดีกว่าครับ
(http://i690.photobucket.com/albums/vv269/montrevej/Snapbucket/465105C3-orig.jpg)
-
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ ถึงแม้ว่าผม จะต่อถูกแล้ว แดง กับ แดง ดำ กับ ดำ
เปิดทีละข้าง ดังแน่น มาก ๆ พอเปิดพร้อมกัน แย่ลงเยอะ ต้องกลับ ดอกใด ดอกหนึ่ง งงครับ ท่านผู้รู้ชี้แนะด้วย ครับ
-
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ ถึงแม้ว่าผม จะต่อถูกแล้ว แดง กับ แดง ดำ กับ ดำ
เปิดทีละข้าง ดังแน่น มาก ๆ พอเปิดพร้อมกัน แย่ลงเยอะ ต้องกลับ ดอกใด ดอกหนึ่ง งงครับ ท่านผู้รู้ชี้แนะด้วย ครับ
ใช้เครื่องเช็กดีกว่าครับบอกไม่ได้
ปล.
ให้ยืมเครื่องวันนึง เอาปะพี่.........เลี้ยงข้าวผมนะ
-
รู้สึกว่าจะมีขายนะครับของคนไทยเนี่ยแหละเช็คได้หมดสายแลนก็เช๊คได้ยี่ห้อ IZound ครับเห็นผ่านตา หน้าจะห้องเบ็ดเตล็ดอะครับ
-
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ ถึงแม้ว่าผม จะต่อถูกแล้ว แดง กับ แดง ดำ กับ ดำ
เปิดทีละข้าง ดังแน่น มาก ๆ พอเปิดพร้อมกัน แย่ลงเยอะ ต้องกลับ ดอกใด ดอกหนึ่ง งงครับ ท่านผู้รู้ชี้แนะด้วย ครับ
ใช้เครื่องเช็กดีกว่าครับบอกไม่ได้
ปล.
ให้ยืมเครื่องวันนึง เอาปะพี่.........เลี้ยงข้าวผมนะ
สงสัยต้องยืมหลายวัน เพราะ ตอนนี้ อุปกรณ์ทั้งหมดอยู่มหาสารคาม เตรียมออกงานวันที่ 3 มีนาคมนี้ขะรับ อิอิ ข้าวอย่างเดียวหรือครับพี่ กับหล่ะ....
-
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ ถึงแม้ว่าผม จะต่อถูกแล้ว แดง กับ แดง ดำ กับ ดำ
เปิดทีละข้าง ดังแน่น มาก ๆ พอเปิดพร้อมกัน แย่ลงเยอะ ต้องกลับ ดอกใด ดอกหนึ่ง งงครับ ท่านผู้รู้ชี้แนะด้วย ครับ
อาการเดียวกันเลยครับ คือผมใช้งานมาสักพักแล้วพึ่งนึกได้ก็เลยลองถามดูกลัวว่าดอกที่กลับมาตั้งนานจะมีผลต่ออายุการใช้งานของดอกลำโพงครับ ขอบคุณครับสำหรับคำตอบของทุกท่าน
-
การต่อลำโพงสลับขั้วแล้วดังดีขึ้น
สำหรับท่านที่ไม่รู้ ไม่เคยลอง แล้วอยากจะลอง ทำดูบ้าง
ความรู้ที่ขัดต่อความรู้สึก ถ้าไม่ลองไม่รู้ครับ
เคล็ดลับ...ที่ไม่ได้ลับ บางท่านอาจเคยลองทำแล้วก็เป็นได้ครับ
ก่อนอื่นต้องถามท่านว่า เคยเจอปัญหานี้ไหม
ใช้ตู้ลำโพงดีแสนดี แต่เสียงออกมาแมวไม่กัดเสียงที่ออกมาด้านหน้าตู้ลำโพงดังทะแม่งๆ ไม่หนักแน่นเร้าใจ ในทางกลับกัน เสียงที่ออกไปด้านหลังตู้ลำโพง กลับดังดี หนักแน่นกว่าด้านหน้าตู้ลำโพงเสียอีก (ความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ)
บทความนี้...ใช้เฉพาะที่เท่านั้น
1.ใช้เฉพาะ ตรูดสู้ เอ๊ยย...สูตรตู้ ลำโพง ดับเบิ้ลยู (ดับบลิว)
2.ใช้เฉพาะ สูตรตู้ ลำโพง สูตรเทอร์โบ
3.หรือ ฝังดอกลำโพงในตู้ ที่หันปากดอก ไปยังด้านหลังตู้ (พอนึกภาพออกไหม)
ขั้นตอนการทำดังนี้ครับ
1.ต่อขั้วสายลำโพงจากเพาเวอร์แอมป์ไปยังลำโพงปกติเหมือนที่ท่านเคยทำมา ขั้วแอมป์(+)ก็ไปเข้าขั้วลำโพง(+) และ ขั้วแอมป์(-)ก็ไปเข้าขั้วลำโพง(-) ทุกตัว อย่างที่ทุกท่านต่อตามปกติ ทุกๆตัว ทั้งชั้นเสียงแหลม กลาง และ เบส
2.เมื่อได้ตามข้อ 1 ดูข้อ 3 ต่อเลยครับ
3.ให้ท่านถอดสายที่ เฉพาะแอมป์ขยายเสียงเบส ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จะถอดที่แอมป์ หรือที่ตู้ลำโพงก็ได้ ให้เลือกถอด ที่จุดต่อจุดเดียวทั้งขั้วบวกลบ ทั้ง2 ด้าน ซ้ายและขวา
4.จากนั้นให้ท่านสลับขั้ว จากเอาท์พุทแอมป์ ขั้วบวก ให้เข้าลำโพงขั้วลบ
5.จากนั้นให้ท่านสลับขั้ว จากเอาท์พุทแอมป์ ขั้วลบ ให้เข้าลำโพงขั้วบวก
6.ทำเหมือนกันทั้งซ้ายทั้งขวา ระวังอย่าให้สายลำโพงบวกและลบแตะกันนะครับ ไม่งั้นเพาเวอร์แอมป์ของท่านได้กลับบ้านเก่าแน่ๆ หากไม่มีระบบป้องกันที่ดีพอ
7.การสลับขั้วลำโพง ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อลำโพงและ เพาเวอร์แอมป์ใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่เสียงจะมีมิติ ที่แตกต่างไปเท่านั้นครับ
8.ขอย้ำ เฉพาะ แอมป์ตู้เบส (ซัพวู้ปเฟอร์) และลำโพงเบสเท่านั้น ส่วนชุดของเสียงกลางและชุดของเสียงแหลม ต่อตามปกติ ไม่ต้องสลับขั้วใดๆทั้งสิ้น
ดังรูปครับ ขอย้ำ...ใช้ทดสอบกับ สูตรตู้ลำโพง ดับบลิว และ เทอร์โบเท่านั้น ดอกลำโพงที่หันหน้าออกด้านนอกไม่ต้องลอง
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2012/03/01/31251_1330586973.jpg)
ต่อลำโพงแบบปกติ ( Normal connector )
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2012/03/01/31251_1330587094.jpg)
ต่อลำโพงแบบสลับขั้ว ( Unnormal connector )
ผลข้างเคียงที่จะได้รับ
ได้เสียงที่หนักแน่นขึ้นแบบเต็มๆ ฟังดูแล้วรู้สึกโปร่งขึ้น อย่างเห็นได้ชัดครับ
คำถามที่พบบ่อย
1.แล้วทำเช่นนี้ลำโพงไม่เสียหายหรือ
ตอบ :ไม่เสียหายครับ ไม่เกี่ยว ที่จะทำให้เครื่องขยายเสียง หรือ ลำโพงเสียหาย เพราะเราไม่ได้ต่อให้ขั้วลำโพงทั้ง 2 ขั้วช็อตกัน
2.แล้ว ลำโพงไม่ดูดว้อยซ์เข้าด้านใน แม่สนามเหล็กหรือ(ถามแบบชาวบ้านสงสัย)
ตอบ :ไม่ครับ เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่เราสามารถรับรู้ได้ด้วยการฟังหรือได้ยิน เพราะคลื่นเสียงที่ออกจากเครื่องขยายเสียง ไปยังลำโพง เป็นคลื่นไฟฟ้าแบบกระแสสลับACโวลท์(Alternating current) ที่มาในรูปของคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่างกัน ไม่ใช่ไฟดีซีโวลท์ (direct currect)ซึ่งทำให้ก่อเกิดความเสียหาย ถ้าปริมาณไฟดีซี ไหลผ่านขดลวดทองแดงที่ว้อยซ์ลำโพงมากๆ ทำให้ช็อตรอบ และเครื่องขยายเสียงก็จะเสียหายได้
3.จะได้ผลจริงหรือถ้าต่อสลับขั้ว
ตอบ : จริงครับ เพราะลองกันมาหลายคนแล้ว และได้ลองเองด้วย ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด แต่ได้เฉพาะ สูตรตู้ลำโพง ที่ใส่ดอกลำโพง หันหน้าดอกลำโพงไปด้านหลัง หรือดอกลำโพงที่กึ่งคว่ำเฉลียงหันหน้าดอกออกไปด้านหลัง อย่างเช่น ลำโพงกลางแจ้ง สูตรตู้เทอร์โบ และ ดับเบิ้ลยู (ดับบลิว) จะได้ผลชัดเจน แต่ถ้าเป็นตู้ลำโพงสูตรอื่น ที่หันดอกลำโพงด้านหน้า จะไม่ได้ผล แถมเสียงจะบางลงไปอีกตะหาก
4.ทำไมตู้ลำโพง สูตรนี้ถึงเป็นเช่นนั้น
ตอบ : ในทางทฤษฎี ก็พอรู้งูปลาๆครับลืมไปหมดแล้ว แต่ในทางปฏิบัติ คิดว่า หน้าจะเป็นเพราะสูตรตู้ลำโพง ที่หันหน้าดอกไม่เหมือนกัน ระหว่าง ตู้ลำโพงเสียงกลาง และเสียงแหลม หันหน้าดอกออกมา ซึ่งมีความไวแรมด้าของคลื่นเสียงมากกว่า ซึ่งหูคนเราสามารถสัมผัสหรือได้ยินก่อน ส่วนสูตรตู้ลำโพงหน้าปิด ที่หันหน้าดอกไปด้านหลังนั้น
ย่อมเกิดการสูญเสีย หรือเกิดพลังงานการสะสมของคลื่นเสียงนั้น ก่อนที่จะปล่อยแรมด้าของคลื่นเสียงออกมาผ่านลิ้นหรือช่องระบายอากาศ ของสูตรตู้ลำโพงนั้นๆ จึงเกิดการหักเห ของคลื่นเสียง จึงทำให้แรมด้าของเสียงตัดกัน ระหว่างดอกลำโพงที่หันหน้าออกครับขอสรุปได้ว่า ไปลองต่อใช้กันครับ ถ้าใครมีข้ออธิบายที่ดีกว่านี้ โปรดชี้แนะ....
ผม copy บทความนี้มาจากเว็ปแห่งหนึ่งนะครับ ขอขอบคุณเจ้าของบทความด้วยน่ะครับ
ส่วนที่ถามว่าใช้ไปนานๆจะมีผลเสียอย่างไรหรือเปล่าผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาน่ะครับ
-
ตามที่เข้าใจถูกผิดยังไงแก้ไขด้วย คือการต่อบแบบที่ว่านี้คือ ออกจากแอม + - ไปที่ลำโพง จาก +- แอมไปขั้วลำโพง +- แต่เอา + ของแอมไปเข้า-ลำโพง และ เอา -จากแอมไปเข้า + ลำโพงเข้าใจแบบนี้ถูกป่าวไม่รู้
-
ตามที่เข้าใจถูกผิดยังไงแก้ไขด้วย คือการต่อบแบบที่ว่านี้คือ ออกจากแอม + - ไปที่ลำโพง จาก +- แอมไปขั้วลำโพง +- แต่เอา + ของแอมไปเข้า-ลำโพง และ เอา -จากแอมไปเข้า + ลำโพงเข้าใจแบบนี้ถูกป่าวไม่รู้
ก็ใช่ครับ แต่ไม่ทั้งหมด อยู่ที่สายสัญญาณด้วย หลายสิ่งครับ
อย่างว่าครับ ทางที่ดี เครื่องเช็กเฟส แน่นอนที่สุดครับ
ที่สำคัญ กลาง และ แหลม ก็ต้องเช็กด้วยนะครับ
-
แล้วต้องทำถูกตู้ทั้ง 2 ข้างหรือไม่ หรือทำเพียงตู้เดียวและทำข้างเดียวครับ
-
ผมก็เคยเจออาการแบบนี้ครับ... ( เปิด สองข้าง เสียงเบสหาย เปิดทีละข้าง เสียงแน่ตึ๊บ ).. ทั้งๆที่ต่อถูกขั้วทุกอย่าง.. ก็เลย รื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมด เหลือแต่ แอมป์ อย่างเดียว ต่อตรงครับ.. แล้วดูว่างเสียงเป็นไง
ลองเปิดเสียงทีละข้าง แล้วก็ทั้ง 2 ข้าง ดีครับ.. แล้วก็ เอาอย่างอื่นๆ มาพ่วงเพิ่มทีละอย่าง..แล้วก็เช็คอย่างเมื่อกี้ครับ... อุปกรณ์ ตัวใหนที่เพื่มไปแล้วทำให้เสียงเสีย ก็ตัวนั้นแหละใช่เลย..
ของผมเป็นที่มิ๊กซ์ ครับ ( มิ๊กซ์ตัวเล็ก ซื้อต่อเขามาอีกที ของเขาซ่อมแล้วซ่อมอีกซ่อมเองด้วย )
รื้อออกมา สาเหตุคือ สายสัญญาณข้างใน กลับเฟตครับ...
ฉะนั้น สัญญาณ อินพุท กลับเฟต เสียงก็เสียเหมือนกันครับ..
-
ถามผู้รู้หน่อยครับว่าถ้าเราไม่กลับเฟสข้างใดข้างหนึ่งของลำโพงแต่เราใช้ดีเรย์แทนได้ไหมครับ...ขอบคุณครับ
-
ถามผู้รู้หน่อยครับว่าถ้าเราไม่กลับเฟสข้างใดข้างหนึ่งของลำโพงแต่เราใช้ดีเรย์แทนได้ไหมครับ...ขอบคุณครับ
ไม่เคยลองเหมือนกันครับ ตามหลักการแล้วน่าจะได้นะครับ
แต่
ในกรณีที่ลำโพงมีซ้ายและขวข้างละ1ตู้ ด้านใดด้านหนึ่งกลับเฟส แล้วเราเอาดีเลย์ใส่เพื่อให้เสียงที่ออกมาเท่ากัน เราต้องไปตั้งในครอสที่เป็นดิจิตอล หรือเอาดีเลย์ทาม์มาใส่ จะเป็นการเพิ่มงานหรือเปล่าครับ ถ้าลำโพงมีข้างละ2ตู้ ถ้ากลับ2ตู้ก็เหมือนด้านบนแต่ถ้ากลับตู้เดียว เพิ่มเครื่องเข้าไปอีก ถ้ามีมากกว่าข้างละ4ตู้ ....ไม่อยากคิด
แต่ดีนะครับเป็นการคิดที่นอกกรอบ ผมก็ไม่เคยนึกถึงซะด้วย ท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไรมั่งครับ
-
แล้วถ้าใช้ตู้ W ข้างละ 4 ตู้ ต้องกลับสายลำโพง ขั้ว + ไปใส่ - แล้ว - มาใส่ +ใช่ไหมครับ
กลับที่สายจากแอมส์ไปหาตู้ลำโพงแทนได้ไหมครับ ส่วนในตู้ต่อเหมือนเดิม smiley4
-
การสลับสาย + - นั้นไม่จำเป็นต้องแกะในตู้หรอกครับ กลับที่หลังพาว์เวอร์ได้เลยบ่มีปัญหา
แต่ w ข้างละ 4 ตู้รวมเป็น 8 ตู้ ไม่มีเครื่องเช็กนั้นยากนะครับ ดูเอาก็ได้ เสียเวลาหน่อย
ลองต่อทีละดอกเลยครับ ต่อเฟสถูกเสียงดังมากขึ้น ต่อเฟสผิดเสียงหายลงเห็นๆ ต่อสายก่อนก็ได้ครับ แล้วหมุนวอลลุ่มทีละข้าง หมุนด้านซ้ายแล้วหมุนด้านขวา ถ้าเปิดพร้อมกันแล้วเสียงไม่หายก็ถูกต้อง แต่วิธีการนี้จะเสียเวลาหน่อยนะครับ
อย่างที่บอกครับ เครื่องเสียงเครื่องปรุง รวมราคาก็หลายบาทอยู่ ลงทุนอีกนิดหาเครื่องเช็กเฟสมาใช้ จะทำงานง่ายขึ้นเยอะครับ
-
แล้วถ้าใช้ตู้ W ข้างละ 4 ตู้ ต้องกลับสายลำโพง ขั้ว + ไปใส่ - แล้ว - มาใส่ +ใช่ไหมครับ
กลับที่สายจากแอมส์ไปหาตู้ลำโพงแทนได้ไหมครับ ส่วนในตู้ต่อเหมือนเดิม smiley4
กดกลับเฟสที่ครอส ช่อง LOW ทั้งสองข้างดีกว่าครับ
-
ลองถามต่อ ถ้าตั้งลำโพงทางด้านข้าง ซ้ายมือและขวามือหันหน้าลำโพงเข้าหาหูเราตรงๆ จะต่อลำโพงแบบไหนให้เสียงแรงที่สุด กลับเฟส ตรงเฟส หรือยังงัย สัญญาณที่ป้อนเข้าลำโพงมาจากแหล่งเดียวกัน โมโน สนุกสนุก
-
ลองถามต่อ ถ้าตั้งลำโพงทางด้านข้าง ซ้ายมือและขวามือหันหน้าลำโพงเข้าหาหูเราตรงๆ จะต่อลำโพงแบบไหนให้เสียงแรงที่สุด กลับเฟส ตรงเฟส หรือยังงัย สัญญาณที่ป้อนเข้าลำโพงมาจากแหล่งเดียวกัน โมโน สนุกสนุก
ตอบครับ เฟส ตรงกัน เฟสเร่มต้น 0 องศา แรงที่สุดครับ
-
ความรู้เรื่องของของphase&polarity
phase คือตำแหน่งบนคลื่นนั้นๆ เช่น 0 องศา 90องศา
(http://www.doctronics.co.uk/images/sig_07.gif)
รูปนี้แสดงตำแหน่งต่างๆ(Phase)ของคลื่น สัมพันธ์กับเวลา
(http://images.tutorvista.com/cms/images/83/sound-waves1.PNG)
จากรูปแสดง ความหนาแน่นของ อนุภาคอากาศ ตามตำแหน่งของคลื่น
สังเกตว่า ตั้งแต่ เฟส 0-180 อนุภาคอากาศจะหนาแน่นกว่าตำแหน่ง 180-360 องศา
ดังนั้นถ้า เฟสเริ่มต้นของแหล่งกำเนิดเสียง(ลำโพง) เป็น 180 องศา เราจะได้ยินเบากว่า เฟสเริ่มต้นที่ 0 องศา
เรื่องของเฟสที่เกี่ยวกับ งาน PA
1 คำว่าเฟส ที่ sound EN ชอบเรียกๆกัน ที่จริงควรใช้คำว่า Polarity จึงจะถูก (เอาเป็นว่าใช้คำว่าเฟสหรือ polarityก็ได้)
2 อะไรก็ตามที่มีการกลับทิศทางของสัญญาณในทางเดินของสัญญาณถือว่า กลับเฟส (Inverse phase or inverse polarity) ไม่ว่าจะเป็นการต่อสายสัญญาณ สายลำโพง ตำแหน่งไมค์ หรือ การวางตำแหน่งลำโพงกลับทิศ
3 มี สองคำที่ต้องทำความเข้าใจคือ out of phase กับ inverted phase
Out of phase หรือ เฟสไม่ตรงกัน กล่าวคือ แหล่งกำเนิดเสียง(ลำโพง)อันใดอันหนึ่ง กลับเฟส (เฟสเริ่มต้นต่างกัน 180 ํ) ทำให้เกิด เสียงเบสหาย จากคุณสมบัติการแทรกสอดของคลื่น (ไม่ได้หายทั้งหมดแต่เบาลง) เช่น การต่อขั้วสายลำโพงข้างใดข้างหนึ่งสลับขั้ว วิธีแก้คือ กดบุ่ม reverse phase ของ x-over ข้างนั้น หรืือ สลับขั้วที่ลำโพงหรือที่ขั้วพาวเวอร์แอมป์คืน
Inverted phase คือ แหล่งกำเนิดเสียงทั้งสองกลับเฟส(เฟสเริ่มต้นของทั้งสองไม่ได้เริ่มที่ 0 องศา อาจเป็น 90 ํ 180 ํ 270 ํ ก็ได้) สิ่งที่เกิดขึ้นคือ loss of low nd frequency (loss of Punch)คือ เสียงความถี่เบสช่วงต่ำๆหายย่าน 30-40Hz สังเกตได้จากปกติถ้าเฟสตรงกันโดยเฟสเริ่มเป็น 0 องศา เสียงกลอง kick เวลาเหยียบเสียงที่ได้จะจุกอก อันนี้เรียกว่า Punch ถ้าinverted phase เสียงกระเดื่องจะไม่จุกอก ตัวอย่างของการกระทำที่ทำให้เกิด inverted phase เช่น
4 Inverted phase ที่เกิดจากไมค์ เกิดจากการที่ลมจากการกระแทก เดินทางในทิศทางออกจากDiaphragm ของไมค์ยกตัวอย่างเช่น snare tom เราตีกระทบหน้ากลอง ลมมันจะออกที่ก้นกลอง เวลาเราเอาไมค์ไปจ่อเราเอาไปจ่อบนหน้ากลอง ดังนั้น เฟสที่ได้จะเป็น เฟสกลับ(180องศา) ถ้าดูจาก oscilloscope จะเห็นphase เริ่มต้นเป็นเฟสกลับ(เฟส180องศา) แต่ถ้าเป็นไมค์กระเดื่อง เราเหยียบกระเดื่องลมมันจะพุ่งเข้า ไมค์ตรงๆ อันนี้ได้ เฟสตรงกัน เฟสเริ่มเป็น 0 องศา
4.1ถ้าเราวางไมค์จ่อตู้แอมป์กีต้าร์ โดยห้อยหัวไมค์ลงมารับเสียง เฟสที่ไ้ด้จะ เป็น 90 องศา (เสียงจากแหล่งกำเนิด ตั้งฉากกับ diaphragm ไมค์) อันนี้ไม่ถึงกับ inverted phase แต่เสียง punch มันจะหายไปเล็กน้อย ดังนั้นความเชื่อของการวางไมค์แบบนี้เป็นความเชื่อที่ผิด
ทั้ง 2 ตัวอย่างที่กล่าวมา เรียกว่า Acoustic phase inversion
การแก้ไข Acoustic phase inversion เราแก้ไขโดย การ วางตำแหน่ง ไมค์ ให้หัวdiaphragm ตรงกับ ทิศทางที่มีลมออกมา เช่น snare หรือ tom เราก็เอาไมค์ไปจ่อ ก้นกลองซะ แต่ว่าคงไม่มีใครทำอย่างนั้น ง่ายๆ อีกวิธีคือ กด reverse phase ที่ channel mixer ของ snare หรือ tom นั้นๆ
ลองทดลองดูนะครับ เสียง snare เวลากดปุ่ม reverse เสียงที่ได้จะหนาและแน่น ได้ใจมาก
4.2 การกลับขั้วสายสัญญาณ (line) เช่น สลับ + เป็น - กรณีสาย balance หรือ การกลับขั้ว สายลำโพง + เป็น - - เป็น + เรียกว่า Electric phase inversion จะทำให้เกิดการกลับเฟส เป็น เฟส 180 องศา
เช่น การต่อสาย line balance XLR ต่อ 3 เป็น + 2 เป็น - ไม่ว่าจะเป็น สายไมค์ สาย พ่วง mixer ไป EQ หรือ EQ ไป X-over หรือ x-over ไป power amp
การแก้ไข Electric phase inversion ทำได้โดย การ ต่อ สาย +- ให้ถูกต้อง หรือ กด ปุ่ม reverse phase ที่ channel นั้นๆ ถ้ามี
***การแก้ acoustic phase invert สามารถใช้ electric phase invert แก้ไขได้
การแทรกสอดของคลื่น
(http://nniwat.files.wordpress.com/2010/07/wave-interaction.gif)
รูปนี้แสดงการแทรกสอดของคลื่น
ถ้าคลื่นจาก 2 แหล่งกำเนิด เฟสตรงกัน มาพบกัน ก็จะเสริมกัน ความสูงของคลื่น(Amplitude) หรือความดังก็จะเพิ่มขึ้น เรียก in phase
ถ้าคลื่น 2 แหล่งกำเนิด เฟสเริ่มไม่ตรงกัน และเป็นเฟสตรงข้าม เช่น 180 กับ 0 องศา มารวมกัน คลื่นจะหักล้างกัน เสียงจะเบาลง เรียกว่า out of phase
ข้อควรคิด จากรูปจะเห็นว่า ถ้า out of phase คลื่นจะหักล้างกันสมบูรณ์ ไม่น่าจะได้ยินเสียงเลยในจุดที่มีการหักล้างของคลื่นตามทฤษฎี แต่ในความเป็นจริงนั้น คลื่นเสียงเป็น Complex wave ไม่ได้มีเพียงความถี่เดียว เช่น เสียง กระเดื่อง snare กีตาร์ เบส หรือแม้แต่ คน 2 คน เปล่งเสียง ตัวโน๊ตเดียวกัน ความถี่เท่ากัน แต่ทำไมเสียงที่ได้ยินจึงไม่เหมือนกัน อันนี้เขาเรียกว่า คุณภาพของเสียง ซึ่งเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น คนแต่ละคน มี Harmonics ไม่เท่ากัน เสียงจึงแตกต่างกัน
ดังนั้น ถึงแม้บางความถี่ถูกหักล้างด้วยปรากฏการณ์ การแทรกสอด ก็ยังเหลืออีกหลายความถี่(harmonics) ที่ยังไม่ถูกหักล้าง ระดับความดังเสียงบริเวณที่มีการแทรกสอดแบบหักล้าง จึงได้ยินเสียงบางความถี่ที่เบาลง
(http://www.planetoftunes.com/sound/so_media/harmonics.gif)
รูปแสดง Harmonics ของคลื่น
(http://www.dak.com/reviews/ImagesR/2024_FreqGraph.gif)
(http://i.cmpnet.com/audiodesignline/2008/03/decibel_fig2.18.jpg)
รูปแสดง ความถี่มูลฐาน(fundamental frequency) และ harmonics ของเครื่องดนตรี
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2013/07/23/35980_1374578537.jpg)
จากรูปแสดงการแทรกสอดของคลื่่น จาก แหล่งกำเนิดคลื่นอาพันธ์ 2 แหล่ง (เฟสตรงกัน)
เส้นทึบ เป็น สันคลื่น เส้นประเป็น ท้องคลื่น
เส้นทึบรวมกับเส้นทึบ หรือ เส้นประรวมกับเส้นประ เฟสจะเสริมกัน เสียงจะดังเพิ่มขึ้น จุดที่คลื่นเสริมกัน จะแทนที่ด้วยวงกลมสีดำ
เส้นประกับเส้นทึบรวมกัน เฟสจะหักล้างกัน เสียงจะเบาลง จุดที่คลื่นหักล้างกันนี้ จะใช้รูปวงกลมสีขาว
ดังนั้นจะเห็นว่าถ้าเรา mix เสียงที่จุด A เสียงที่ได้ยินจะดัง
แต่ถ้าเดินถัดมาที่จุด B ซึ่งตรงกับตำแหน่งลำโพง แต่เป็นตำแหน่งที่คลื่นเสียงหักล้างกันพอดี เสียงที่ได้ยินจึงเบาลง
(http://upic.me/i/7f/imax2.jpg) (http://upic.me/show/46100351)
รูปแสดง การกระจายของ SPL ของ ความถี่ 125 Hz bandwidth=1/1 oct
(http://upic.me/i/hf/8max3.jpg) (http://upic.me/show/46100366)
รูปแสดง การกระจายของ SPL ของ ความถี่ 63 Hz bandwidth=1/1 oct
(http://upic.me/i/km/umax4.jpg) (http://upic.me/show/46100482)
(http://upic.me/i/a0/xmax5.jpg) (http://upic.me/show/46100483)
รูปแสดงการแทรกสอดของ ความถี่ 2,000 Hz
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า ที่่ย่านความถี่ที่แตกต่างกัน การแทรกสอด ก็ไม่เหมือนกัน เนื่องจากความยาวคลื่นแปรผกผันกับความถี่
ถ้าความถี่น้อย ความยาวคลื่นจะมาก การแทรกสอดของย่านความถี่ต่ำ เช่น เสียงเบส/กระเดื่องจึง มีโอกาสเกิดการแทรกสอด ได้มากและเป็นบริเวณกว้าง
จึงอธิบายได้ว่า ตำแหน่งที่เราได้ยินแตกต่างกัน ทำไมเบสไม่ตึ๊บ ทั้งที่อยู่ตรงกับลำโพงพอดี
ถ้าอยากให้ตึ๊บๆ ก็ให้ฟังตรงกลางหรือ จองที่ใกล้หน้าลำโพง 5555
-
การต่อลำโพงสลับขั้วแล้วดังดีขึ้น
สำหรับท่านที่ไม่รู้ ไม่เคยลอง แล้วอยากจะลอง ทำดูบ้าง
ความรู้ที่ขัดต่อความรู้สึก ถ้าไม่ลองไม่รู้ครับ
เคล็ดลับ...ที่ไม่ได้ลับ บางท่านอาจเคยลองทำแล้วก็เป็นได้ครับ
ก่อนอื่นต้องถามท่านว่า เคยเจอปัญหานี้ไหม
ใช้ตู้ลำโพงดีแสนดี แต่เสียงออกมาแมวไม่กัดเสียงที่ออกมาด้านหน้าตู้ลำโพงดังทะแม่งๆ ไม่หนักแน่นเร้าใจ ในทางกลับกัน เสียงที่ออกไปด้านหลังตู้ลำโพง กลับดังดี หนักแน่นกว่าด้านหน้าตู้ลำโพงเสียอีก (ความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ)
บทความนี้...ใช้เฉพาะที่เท่านั้น
1.ใช้เฉพาะ ตรูดสู้ เอ๊ยย...สูตรตู้ ลำโพง ดับเบิ้ลยู (ดับบลิว)
2.ใช้เฉพาะ สูตรตู้ ลำโพง สูตรเทอร์โบ
3.หรือ ฝังดอกลำโพงในตู้ ที่หันปากดอก ไปยังด้านหลังตู้ (พอนึกภาพออกไหม)
ขั้นตอนการทำดังนี้ครับ
1.ต่อขั้วสายลำโพงจากเพาเวอร์แอมป์ไปยังลำโพงปกติเหมือนที่ท่านเคยทำมา ขั้วแอมป์(+)ก็ไปเข้าขั้วลำโพง(+) และ ขั้วแอมป์(-)ก็ไปเข้าขั้วลำโพง(-) ทุกตัว อย่างที่ทุกท่านต่อตามปกติ ทุกๆตัว ทั้งชั้นเสียงแหลม กลาง และ เบส
2.เมื่อได้ตามข้อ 1 ดูข้อ 3 ต่อเลยครับ
3.ให้ท่านถอดสายที่ เฉพาะแอมป์ขยายเสียงเบส ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จะถอดที่แอมป์ หรือที่ตู้ลำโพงก็ได้ ให้เลือกถอด ที่จุดต่อจุดเดียวทั้งขั้วบวกลบ ทั้ง2 ด้าน ซ้ายและขวา
4.จากนั้นให้ท่านสลับขั้ว จากเอาท์พุทแอมป์ ขั้วบวก ให้เข้าลำโพงขั้วลบ
5.จากนั้นให้ท่านสลับขั้ว จากเอาท์พุทแอมป์ ขั้วลบ ให้เข้าลำโพงขั้วบวก
6.ทำเหมือนกันทั้งซ้ายทั้งขวา ระวังอย่าให้สายลำโพงบวกและลบแตะกันนะครับ ไม่งั้นเพาเวอร์แอมป์ของท่านได้กลับบ้านเก่าแน่ๆ หากไม่มีระบบป้องกันที่ดีพอ
7.การสลับขั้วลำโพง ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อลำโพงและ เพาเวอร์แอมป์ใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่เสียงจะมีมิติ ที่แตกต่างไปเท่านั้นครับ
8.ขอย้ำ เฉพาะ แอมป์ตู้เบส (ซัพวู้ปเฟอร์) และลำโพงเบสเท่านั้น ส่วนชุดของเสียงกลางและชุดของเสียงแหลม ต่อตามปกติ ไม่ต้องสลับขั้วใดๆทั้งสิ้น
ดังรูปครับ ขอย้ำ...ใช้ทดสอบกับ สูตรตู้ลำโพง ดับบลิว และ เทอร์โบเท่านั้น ดอกลำโพงที่หันหน้าออกด้านนอกไม่ต้องลอง
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2012/03/01/31251_1330586973.jpg)
ต่อลำโพงแบบปกติ ( Normal connector )
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2012/03/01/31251_1330587094.jpg)
ต่อลำโพงแบบสลับขั้ว ( Unnormal connector )
ผลข้างเคียงที่จะได้รับ
ได้เสียงที่หนักแน่นขึ้นแบบเต็มๆ ฟังดูแล้วรู้สึกโปร่งขึ้น อย่างเห็นได้ชัดครับ
คำถามที่พบบ่อย
1.แล้วทำเช่นนี้ลำโพงไม่เสียหายหรือ
ตอบ :ไม่เสียหายครับ ไม่เกี่ยว ที่จะทำให้เครื่องขยายเสียง หรือ ลำโพงเสียหาย เพราะเราไม่ได้ต่อให้ขั้วลำโพงทั้ง 2 ขั้วช็อตกัน
2.แล้ว ลำโพงไม่ดูดว้อยซ์เข้าด้านใน แม่สนามเหล็กหรือ(ถามแบบชาวบ้านสงสัย)
ตอบ :ไม่ครับ เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่เราสามารถรับรู้ได้ด้วยการฟังหรือได้ยิน เพราะคลื่นเสียงที่ออกจากเครื่องขยายเสียง ไปยังลำโพง เป็นคลื่นไฟฟ้าแบบกระแสสลับACโวลท์(Alternating current) ที่มาในรูปของคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่างกัน ไม่ใช่ไฟดีซีโวลท์ (direct currect)ซึ่งทำให้ก่อเกิดความเสียหาย ถ้าปริมาณไฟดีซี ไหลผ่านขดลวดทองแดงที่ว้อยซ์ลำโพงมากๆ ทำให้ช็อตรอบ และเครื่องขยายเสียงก็จะเสียหายได้
3.จะได้ผลจริงหรือถ้าต่อสลับขั้ว
ตอบ : จริงครับ เพราะลองกันมาหลายคนแล้ว และได้ลองเองด้วย ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด แต่ได้เฉพาะ สูตรตู้ลำโพง ที่ใส่ดอกลำโพง หันหน้าดอกลำโพงไปด้านหลัง หรือดอกลำโพงที่กึ่งคว่ำเฉลียงหันหน้าดอกออกไปด้านหลัง อย่างเช่น ลำโพงกลางแจ้ง สูตรตู้เทอร์โบ และ ดับเบิ้ลยู (ดับบลิว) จะได้ผลชัดเจน แต่ถ้าเป็นตู้ลำโพงสูตรอื่น ที่หันดอกลำโพงด้านหน้า จะไม่ได้ผล แถมเสียงจะบางลงไปอีกตะหาก
4.ทำไมตู้ลำโพง สูตรนี้ถึงเป็นเช่นนั้น
ตอบ : ในทางทฤษฎี ก็พอรู้งูปลาๆครับลืมไปหมดแล้ว แต่ในทางปฏิบัติ คิดว่า หน้าจะเป็นเพราะสูตรตู้ลำโพง ที่หันหน้าดอกไม่เหมือนกัน ระหว่าง ตู้ลำโพงเสียงกลาง และเสียงแหลม หันหน้าดอกออกมา ซึ่งมีความไวแรมด้าของคลื่นเสียงมากกว่า ซึ่งหูคนเราสามารถสัมผัสหรือได้ยินก่อน ส่วนสูตรตู้ลำโพงหน้าปิด ที่หันหน้าดอกไปด้านหลังนั้น
ย่อมเกิดการสูญเสีย หรือเกิดพลังงานการสะสมของคลื่นเสียงนั้น ก่อนที่จะปล่อยแรมด้าของคลื่นเสียงออกมาผ่านลิ้นหรือช่องระบายอากาศ ของสูตรตู้ลำโพงนั้นๆ จึงเกิดการหักเห ของคลื่นเสียง จึงทำให้แรมด้าของเสียงตัดกัน ระหว่างดอกลำโพงที่หันหน้าออกครับขอสรุปได้ว่า ไปลองต่อใช้กันครับ ถ้าใครมีข้ออธิบายที่ดีกว่านี้ โปรดชี้แนะ....
ผม copy บทความนี้มาจากเว็ปแห่งหนึ่งนะครับ ขอขอบคุณเจ้าของบทความด้วยน่ะครับ
ส่วนที่ถามว่าใช้ไปนานๆจะมีผลเสียอย่างไรหรือเปล่าผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาน่ะครับ
ตามที่ท่านทำมานั้นถูกต้องแล้วครับ
อธิบายตามหลักของคลื่น
เวลาที่ลำโพงมันหันก้นออกมานั้น เฟสเริ่มต้นที่เราได้ยิน จะเป็นเฟส 180 องศา หรือเฟสกลับ (เฟส 0 ออกที่หน้าดอกลำโพง เสียงเฟส 0 จะฟังได้ที่ ก้ยลำโพง) เสียงที่ได้ยินมันจะบางๆ ไม่ค่อยจุกอก หากเรากลับที่ขั้วลำโพง หรือ กด กลับเฟสที่ crossover output ย่าน low จะทำให้ได้เฟสเริ่มต้นเป็นเฟส 0 องศา เสียงจะแน่นขึ้นเนื่องจากเป็นเฟสที่มีอนุภาคของอากาศอัดกันหนาแน่น
-
ผมได้ลองต่อลำโพง 4 ดอกดูครับ
ลำโพงดอกที่ 1 กับ 2 ต่อ +- ดังปกติครับ
พอต่อเพิ่มอีก ดอกที่3 กับดอกที่ 4 ต้องต่อกลับขั้วกัน จาก +เป็น- จาก - เป็น + ทั้งสองดอก ถึงจะดังตึบๆ ถ้าไม่กลับจะดังเป๊ก ๆ ครับ
หมายเหตุ ดอกที่ 1 กับ 2 เป็น ดอกที่หันหน้าออก ฟูเร้นปกติ
ดอกที่ 3 กับ 4 เป็นดอกคว่ำหน้าลงครับผม
พาวเวอร์แอมป์คราสดีครับ
ดอกลำโพงผ่านการซ่อมมาแล้วอาจมีการเปลี่ยนว้อยมาแล้วอาจสลับขั้ว + - กันได้ ช่างอาจใส่ขั้วมาผิด
ผมลองต่อทีละตู้แล้วเลยต้องต่อแบบนี้
ไม่รู้ของท่านอื่นเป็นอย่าไรบ้างครับ ที่ต่อหลายสูตร รวมกัน
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2013/07/29/89729_1375076637.jpg)
-
เวลาระบบมีปัญหาเรื่องของเฟสต้องพยามหาสาเหตุให้เจอแล้วแก้ที่ต้นเหตุครับ. ถ้ามาแก้ที่ปลายเหตุโดยการกลับขั้วที่หลังแอ็มป์หรือที่ลำโพง
จะกลายเป็นทำผิดให้เป็นถูก แล้วส่วนที่ถูกจะกลายเป็นผิดยุ่งเลยครับ (ในกรณีที่ลำโพงถูกอยู่แล้ว)
-
การต่อลำโพงสลับขั้วแล้วดังดีขึ้น
สำหรับท่านที่ไม่รู้ ไม่เคยลอง แล้วอยากจะลอง ทำดูบ้าง
ความรู้ที่ขัดต่อความรู้สึก ถ้าไม่ลองไม่รู้ครับ
เคล็ดลับ...ที่ไม่ได้ลับ บางท่านอาจเคยลองทำแล้วก็เป็นได้ครับ
ก่อนอื่นต้องถามท่านว่า เคยเจอปัญหานี้ไหม
ใช้ตู้ลำโพงดีแสนดี แต่เสียงออกมาแมวไม่กัดเสียงที่ออกมาด้านหน้าตู้ลำโพงดังทะแม่งๆ ไม่หนักแน่นเร้าใจ ในทางกลับกัน เสียงที่ออกไปด้านหลังตู้ลำโพง กลับดังดี หนักแน่นกว่าด้านหน้าตู้ลำโพงเสียอีก (ความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ)
บทความนี้...ใช้เฉพาะที่เท่านั้น
1.ใช้เฉพาะ ตรูดสู้ เอ๊ยย...สูตรตู้ ลำโพง ดับเบิ้ลยู (ดับบลิว)
2.ใช้เฉพาะ สูตรตู้ ลำโพง สูตรเทอร์โบ
3.หรือ ฝังดอกลำโพงในตู้ ที่หันปากดอก ไปยังด้านหลังตู้ (พอนึกภาพออกไหม)
ขั้นตอนการทำดังนี้ครับ
1.ต่อขั้วสายลำโพงจากเพาเวอร์แอมป์ไปยังลำโพงปกติเหมือนที่ท่านเคยทำมา ขั้วแอมป์(+)ก็ไปเข้าขั้วลำโพง(+) และ ขั้วแอมป์(-)ก็ไปเข้าขั้วลำโพง(-) ทุกตัว อย่างที่ทุกท่านต่อตามปกติ ทุกๆตัว ทั้งชั้นเสียงแหลม กลาง และ เบส
2.เมื่อได้ตามข้อ 1 ดูข้อ 3 ต่อเลยครับ
3.ให้ท่านถอดสายที่ เฉพาะแอมป์ขยายเสียงเบส ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จะถอดที่แอมป์ หรือที่ตู้ลำโพงก็ได้ ให้เลือกถอด ที่จุดต่อจุดเดียวทั้งขั้วบวกลบ ทั้ง2 ด้าน ซ้ายและขวา
4.จากนั้นให้ท่านสลับขั้ว จากเอาท์พุทแอมป์ ขั้วบวก ให้เข้าลำโพงขั้วลบ
5.จากนั้นให้ท่านสลับขั้ว จากเอาท์พุทแอมป์ ขั้วลบ ให้เข้าลำโพงขั้วบวก
6.ทำเหมือนกันทั้งซ้ายทั้งขวา ระวังอย่าให้สายลำโพงบวกและลบแตะกันนะครับ ไม่งั้นเพาเวอร์แอมป์ของท่านได้กลับบ้านเก่าแน่ๆ หากไม่มีระบบป้องกันที่ดีพอ
7.การสลับขั้วลำโพง ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อลำโพงและ เพาเวอร์แอมป์ใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่เสียงจะมีมิติ ที่แตกต่างไปเท่านั้นครับ
8.ขอย้ำ เฉพาะ แอมป์ตู้เบส (ซัพวู้ปเฟอร์) และลำโพงเบสเท่านั้น ส่วนชุดของเสียงกลางและชุดของเสียงแหลม ต่อตามปกติ ไม่ต้องสลับขั้วใดๆทั้งสิ้น
ดังรูปครับ ขอย้ำ...ใช้ทดสอบกับ สูตรตู้ลำโพง ดับบลิว และ เทอร์โบเท่านั้น ดอกลำโพงที่หันหน้าออกด้านนอกไม่ต้องลอง
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2012/03/01/31251_1330586973.jpg)
ต่อลำโพงแบบปกติ ( Normal connector )
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2012/03/01/31251_1330587094.jpg)
ต่อลำโพงแบบสลับขั้ว ( Unnormal connector )
ผลข้างเคียงที่จะได้รับ
ได้เสียงที่หนักแน่นขึ้นแบบเต็มๆ ฟังดูแล้วรู้สึกโปร่งขึ้น อย่างเห็นได้ชัดครับ
คำถามที่พบบ่อย
1.แล้วทำเช่นนี้ลำโพงไม่เสียหายหรือ
ตอบ :ไม่เสียหายครับ ไม่เกี่ยว ที่จะทำให้เครื่องขยายเสียง หรือ ลำโพงเสียหาย เพราะเราไม่ได้ต่อให้ขั้วลำโพงทั้ง 2 ขั้วช็อตกัน
2.แล้ว ลำโพงไม่ดูดว้อยซ์เข้าด้านใน แม่สนามเหล็กหรือ(ถามแบบชาวบ้านสงสัย)
ตอบ :ไม่ครับ เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่เราสามารถรับรู้ได้ด้วยการฟังหรือได้ยิน เพราะคลื่นเสียงที่ออกจากเครื่องขยายเสียง ไปยังลำโพง เป็นคลื่นไฟฟ้าแบบกระแสสลับACโวลท์(Alternating current) ที่มาในรูปของคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่างกัน ไม่ใช่ไฟดีซีโวลท์ (direct currect)ซึ่งทำให้ก่อเกิดความเสียหาย ถ้าปริมาณไฟดีซี ไหลผ่านขดลวดทองแดงที่ว้อยซ์ลำโพงมากๆ ทำให้ช็อตรอบ และเครื่องขยายเสียงก็จะเสียหายได้
3.จะได้ผลจริงหรือถ้าต่อสลับขั้ว
ตอบ : จริงครับ เพราะลองกันมาหลายคนแล้ว และได้ลองเองด้วย ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด แต่ได้เฉพาะ สูตรตู้ลำโพง ที่ใส่ดอกลำโพง หันหน้าดอกลำโพงไปด้านหลัง หรือดอกลำโพงที่กึ่งคว่ำเฉลียงหันหน้าดอกออกไปด้านหลัง อย่างเช่น ลำโพงกลางแจ้ง สูตรตู้เทอร์โบ และ ดับเบิ้ลยู (ดับบลิว) จะได้ผลชัดเจน แต่ถ้าเป็นตู้ลำโพงสูตรอื่น ที่หันดอกลำโพงด้านหน้า จะไม่ได้ผล แถมเสียงจะบางลงไปอีกตะหาก
4.ทำไมตู้ลำโพง สูตรนี้ถึงเป็นเช่นนั้น
ตอบ : ในทางทฤษฎี ก็พอรู้งูปลาๆครับลืมไปหมดแล้ว แต่ในทางปฏิบัติ คิดว่า หน้าจะเป็นเพราะสูตรตู้ลำโพง ที่หันหน้าดอกไม่เหมือนกัน ระหว่าง ตู้ลำโพงเสียงกลาง และเสียงแหลม หันหน้าดอกออกมา ซึ่งมีความไวแรมด้าของคลื่นเสียงมากกว่า ซึ่งหูคนเราสามารถสัมผัสหรือได้ยินก่อน ส่วนสูตรตู้ลำโพงหน้าปิด ที่หันหน้าดอกไปด้านหลังนั้น
ย่อมเกิดการสูญเสีย หรือเกิดพลังงานการสะสมของคลื่นเสียงนั้น ก่อนที่จะปล่อยแรมด้าของคลื่นเสียงออกมาผ่านลิ้นหรือช่องระบายอากาศ ของสูตรตู้ลำโพงนั้นๆ จึงเกิดการหักเห ของคลื่นเสียง จึงทำให้แรมด้าของเสียงตัดกัน ระหว่างดอกลำโพงที่หันหน้าออกครับขอสรุปได้ว่า ไปลองต่อใช้กันครับ ถ้าใครมีข้ออธิบายที่ดีกว่านี้ โปรดชี้แนะ....
ผม copy บทความนี้มาจากเว็ปแห่งหนึ่งนะครับ ขอขอบคุณเจ้าของบทความด้วยน่ะครับ
ส่วนที่ถามว่าใช้ไปนานๆจะมีผลเสียอย่างไรหรือเปล่าผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาน่ะครับ
จริงครับผมเคยอ่านเจอที่ใหนจำไม่ได้แล้ว..อ่านแล้วลองมากลับขั๋วลำโพงทั้งหมดปรากฏว่าเสียงมาเพิ่ม30%เสียงแน่นขึ้น..ออผมกลับที่ตู้เลยครับไม่กลับที่ครอสเพื่อว่าวันใหนไม่ได้เอาครอสไปใช้ปรีขับแบบฟรูเร้นจะได้ไม่ลืมกลับขั่วอีก smiley4
-
ถามต่อครับ สงสัยมานานแล้วเรื่องเฟสเนี่ยพอจะเข้าใจอยู่บ้าง
ดอกลำโพงตอนไม่มีสัญญาณมันจะอยู่ตรงกลางใช่ไหมครับ ป้อนบวกเข้าไปเด้งออกและกับมาตรงกลางเหมือนเดิมและรอเด้งออกอีกทีหรือว่า เด้งไปข้างหน้าแล้วดึงกลับไปต่ำสุดโดยผ่านจุดกึ่งกลางลงไปต่ำสุดแล้วค่อยกลังมานิ่งตรงกลางครับ
-
smiley4
-
นานข้ามปีแล้ว แต่อยากมาแชร์เผื่อมีคนอ่าน
ถามต่อครับ สงสัยมานานแล้วเรื่องเฟสเนี่ยพอจะเข้าใจอยู่บ้าง
ดอกลำโพงตอนไม่มีสัญญาณมันจะอยู่ตรงกลางใช่ไหมครับ ป้อนบวกเข้าไปเด้งออกและกับมาตรงกลางเหมือนเดิมและรอเด้งออกอีกทีหรือว่า เด้งไปข้างหน้าแล้วดึงกลับไปต่ำสุดโดยผ่านจุดกึ่งกลางลงไปต่ำสุดแล้วค่อยกลังมานิ่งตรงกลางครับ
อาการที่ว่าป้อนบวกเข้าบวกแล้วเด้งออกน่ะ มันเป็นหลักการในการใช้ไฟดีซี จากถ่านไฟฉายเช็คเท่านั้นน่ะ
แต่คลื่นไฟฟ้าจากเพาเวอร์เข้าไปที่ลำโพงมันเป็นเอซี มีลููกคลื่นบวกลบแต่ไม่เหมือนไฟดีซี(ดีซีมันบวก ลบคงที่ไม่เปลี่ยน)
เพราะฉนั้น เวลาเราใช้งานจริง ลูกคลื่นบวกวิ่งเข้าไปลำโพงมันเด้งออกพอลูกลบเข้ามันก็เด้งกลับทิศทางกัน เพราะว่ามันเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปตัดกับแม่เหล็กถาวรของลำโพงซึ่งเป็นขั้วแม่เหล็กคงที่
คำว่าเฟสลำโพงมาจากตรงนี้เอง คือแรงอัดอากาศให้เกิดคลื่นเสียงไปกระทบหูคนฟัง
กับคำถามที่มันเด้งออกทางเดียว หรือทั้งออกทั้งเข้าคงเริ่มเห็นภาพราง ๆ แล้ว ถ้าจะให้ขัดเจนขึ้นก็ต้องมีตู้ลำโพงมาเกี่ยวข้อง ทำไม ? ต้องมีตู้สูตรนั้นสูตรนี้ให้วุ่นวายไปหมด ทำไม?
-
เอ้า ช่วยกันมึน
ผมก็อปข้อความของผมเองมาต่อที่นี่นะครับ
อันนี้จะพิสูจน์ยังไงกันดีให้ชัดแจ้ง
คือว๊อย มันเป็นแม่เหล็กก็ต่อเมื่อมีไฟปล่อยเข้ามา
ปรกติ ว๊อย จะลอยอยู่กลางสนามแม่เหล็ก นั่นก็คือ ตูดลำโพงนั่นเอง
ตอนนี้ ว๊อย ลอยอยู่เพราะสไปเดอร์และไดอะเฟรมติดยึดเอาไว้
ทันทีที่ จ่ายไฟ+เข้าตามตามขั้วที่ถูกต้อง ว๊อย จะดันกรวยหรือไออะเฟรมออกมา
หากกลับขั้วโดยจ่ายไป-เข้าไปแทน มันจะดึงกรวยหรือว๊อยละโพงเข้าไปที่ก้นละโพงเพราะ
ว๊อย กลายเป็นแม่เหล็กที่ถูกกลับขั้ว
อันนี้ทุกท่านเข้าใจกันดี
แต่เสียงที่เราปล่อยออกไปจากแอมป์นั้น ไม่ไช่กระแสไฟดีซี
แต่มันเป็นกระแสสลับ มีความถี่ออกมาตามเสียงเพลงหรือตามคลื่นความถี่เสียง
เมื่อปล่อยกระแสสลับเข้าไป ในความถี่หนึ่ง ความแรงระดับหนึ่ง กรวยลำโพง
ก็จะกระพือขึ้นลงที่ระดับหนึ่งเช่นกัน ถูกไหมครับ
หากปล่อยไฟเข้าไปมากขึ้น มันก็จะขึ้นลงรุนแรงขึ้น
ทีนี้ ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า
ไอ้เสียงกระเดื่องที่ดัง ตุ๊บๆๆๆๆ นั้น
ดอกมันจะกระพือขึ้นลงเท่ากัน (ถ้าเป็นเช่นนี้ไม่มีปัญหา)
หรือมันกระแทกออกมา (อันนี้เคยเจอว๊อยออกมาจนสุดออกมาค้างอยู่ที่แกนแม่เหล็ก)
หรือมันกระแทกเข้าไป หากเป็นเช่นนี้ ว๊อยก็จะกระแทกก้นละโพง ว๊อยจะเสียหาย)
อันนี้เราจะพิสูจน์อย่างไรกันดีครับ
สำหรับผม ให้หาแอมป์สักตัว เอาแบบเกินกำลังลำโพงหน่อย
เอาลำโพงราคาไม่แพงมา2ปาก ไหม่ๆ ยี่ห้อเดียวกัน
เร่งเท่ากันทั้ง2ดอก ดอกนึง ต่อถูกขั้ว อีกดอกนึง ต่อกลับขั้ว
แล้วเปิดให้แรงๆ ดูสิว่า ดอกไหนมันจะพัง พังด้วยอะไร
เพื่อนสมาชิกว่าไงกันครับ
-
คือว๊อย มันเป็นแม่เหล็กก็ต่อเมื่อมีไฟปล่อยเข้ามา
ปรกติ ว๊อย จะลอยอยู่กลางสนามแม่เหล็ก นั่นก็คือ ตูดลำโพงนั่นเอง
ตอนนี้ ว๊อย ลอยอยู่เพราะสไปเดอร์และไดอะเฟรมติดยึดเอาไว้
ทันทีที่ จ่ายไฟ+เข้าตามตามขั้วที่ถูกต้อง ว๊อย จะดันกรวยหรือไออะเฟรมออกมา
หากกลับขั้วโดยจ่ายไป-เข้าไปแทน มันจะดึงกรวยหรือว๊อยละโพงเข้าไปที่ก้นละโพงเพราะ
ว๊อย กลายเป็นแม่เหล็กที่ถูกกลับขั้ว
อันนี้ทุกท่านเข้าใจกันดี
แต่เสียงที่เราปล่อยออกไปจากแอมป์นั้น ไม่ไช่กระแสไฟดีซี
แต่มันเป็นกระแสสลับ มีความถี่ออกมาตามเสียงเพลงหรือตามคลื่นความถี่เสียง
เมื่อปล่อยกระแสสลับเข้าไป ในความถี่หนึ่ง ความแรงระดับหนึ่ง กรวยลำโพง
ก็จะกระพือขึ้นลงที่ระดับหนึ่งเช่นกัน ถูกไหมครับ
หากปล่อยไฟเข้าไปมากขึ้น มันก็จะขึ้นลงรุนแรงขึ้น
ทีนี้ ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า
ไอ้เสียงกระเดื่องที่ดัง ตุ๊บๆๆๆๆ นั้น
ดอกมันจะกระพือขึ้นลงเท่ากัน (ถ้าเป็นเช่นนี้ไม่มีปัญหา)
หรือมันกระแทกออกมา (อันนี้เคยเจอว๊อยออกมาจนสุดออกมาค้างอยู่ที่แกนแม่เหล็ก)
หรือมันกระแทกเข้าไป หากเป็นเช่นนี้ ว๊อยก็จะกระแทกก้นละโพง ว๊อยจะเสียหาย)
อันนี้เราจะพิสูจน์อย่างไรกันดีครับ
สำหรับผม ให้หาแอมป์สักตัว เอาแบบเกินกำลังลำโพงหน่อย
เอาลำโพงราคาไม่แพงมา2ปาก ไหม่ๆ ยี่ห้อเดียวกัน
เร่งเท่ากันทั้ง2ดอก ดอกนึง ต่อถูกขั้ว อีกดอกนึง ต่อกลับขั้ว
แล้วเปิดให้แรงๆ ดูสิว่า ดอกไหนมันจะพัง พังด้วยอะไร
เพื่อนสมาชิกว่าไงกันครับ
เรารู้ว่าสัญญาณเสียงเป็นคลื่นเป็น sine wave พอหลายๆความถี่มันก็เป็นดังรูป
(http://www.doctronics.co.uk/images/sig_23.gif)
จะเห็นว่าสัญญาณมันสวิงไปมา ซีกบวกซีกลบใช่ไหมครับ
ดังนั้นถ้าซีกบวกเข้ามา ก็เหมือนต่อตรงถูกขั้ว วอยส์จะดันออกใช่ไหมครับ
พอสัญญาณมันสวิงลงมาเป็นซีกลบ ก็เหมือนการกลับขั้วไฟฟ้า กลับขั้วแม่เหล็ก วอยส์ก็จะถูกดึงเข้ามา
การดึงและดันแบบนี้นี่แหละครับที่ทำให้เกิดความถี่ เกิดเสียง
ส่วนจะดึงหรือดันมากกว่ากันนั้นตอบไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับคนประกอบด้วยว่ายึด วอยส์คอยล์ได้เที่ยงตรงแค่ไหน ไม่ลึกไป ตื้นไป frusty
ปล. เครื่องวัดเฟส ที่เปิดสัญญาณเสียงตึ่กๆเข้าไป แล้วดูที่เครื่องนั้น ใช้ Positive Pulse หรือ Pulse ซีกบวกซีกเดียวครับ
-
คือว๊อย มันเป็นแม่เหล็กก็ต่อเมื่อมีไฟปล่อยเข้ามา
ปรกติ ว๊อย จะลอยอยู่กลางสนามแม่เหล็ก นั่นก็คือ ตูดลำโพงนั่นเอง
ตอนนี้ ว๊อย ลอยอยู่เพราะสไปเดอร์และไดอะเฟรมติดยึดเอาไว้
ทันทีที่ จ่ายไฟ+เข้าตามตามขั้วที่ถูกต้อง ว๊อย จะดันกรวยหรือไออะเฟรมออกมา
หากกลับขั้วโดยจ่ายไป-เข้าไปแทน มันจะดึงกรวยหรือว๊อยละโพงเข้าไปที่ก้นละโพงเพราะ
ว๊อย กลายเป็นแม่เหล็กที่ถูกกลับขั้ว
อันนี้ทุกท่านเข้าใจกันดี
แต่เสียงที่เราปล่อยออกไปจากแอมป์นั้น ไม่ไช่กระแสไฟดีซี
แต่มันเป็นกระแสสลับ มีความถี่ออกมาตามเสียงเพลงหรือตามคลื่นความถี่เสียง
เมื่อปล่อยกระแสสลับเข้าไป ในความถี่หนึ่ง ความแรงระดับหนึ่ง กรวยลำโพง
ก็จะกระพือขึ้นลงที่ระดับหนึ่งเช่นกัน ถูกไหมครับ
หากปล่อยไฟเข้าไปมากขึ้น มันก็จะขึ้นลงรุนแรงขึ้น
ทีนี้ ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า
ไอ้เสียงกระเดื่องที่ดัง ตุ๊บๆๆๆๆ นั้น
ดอกมันจะกระพือขึ้นลงเท่ากัน (ถ้าเป็นเช่นนี้ไม่มีปัญหา)
หรือมันกระแทกออกมา (อันนี้เคยเจอว๊อยออกมาจนสุดออกมาค้างอยู่ที่แกนแม่เหล็ก)
หรือมันกระแทกเข้าไป หากเป็นเช่นนี้ ว๊อยก็จะกระแทกก้นละโพง ว๊อยจะเสียหาย)
อันนี้เราจะพิสูจน์อย่างไรกันดีครับ
สำหรับผม ให้หาแอมป์สักตัว เอาแบบเกินกำลังลำโพงหน่อย
เอาลำโพงราคาไม่แพงมา2ปาก ไหม่ๆ ยี่ห้อเดียวกัน
เร่งเท่ากันทั้ง2ดอก ดอกนึง ต่อถูกขั้ว อีกดอกนึง ต่อกลับขั้ว
แล้วเปิดให้แรงๆ ดูสิว่า ดอกไหนมันจะพัง พังด้วยอะไร
เพื่อนสมาชิกว่าไงกันครับ
เรารู้ว่าสัญญาณเสียงเป็นคลื่นเป็น sine wave พอหลายๆความถี่มันก็เป็นดังรูป
(http://www.doctronics.co.uk/images/sig_23.gif)
จะเห็นว่าสัญญาณมันสวิงไปมา ซีกบวกซีกลบใช่ไหมครับ
ดังนั้นถ้าซีกบวกเข้ามา ก็เหมือนต่อตรงถูกขั้ว วอยส์จะดันออกใช่ไหมครับ
พอสัญญาณมันสวิงลงมาเป็นซีกลบ ก็เหมือนการกลับขั้วไฟฟ้า กลับขั้วแม่เหล็ก วอยส์ก็จะถูกดึงเข้ามา
การดึงและดันแบบนี้นี่แหละครับที่ทำให้เกิดความถี่ เกิดเสียง
ส่วนจะดึงหรือดันมากกว่ากันนั้นตอบไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับคนประกอบด้วยว่ายึด วอยส์คอยล์ได้เที่ยงตรงแค่ไหน ไม่ลึกไป ตื้นไป frusty
ปล. เครื่องวัดเฟส ที่เปิดสัญญาณเสียงตึ่กๆเข้าไป แล้วดูที่เครื่องนั้น ใช้ Positive Pulse หรือ Pulse ซีกบวกซีกเดียวครับ
ตามหลักที่ท่านบอก ถูกครับ
ประเด็นมันก็คือ
เสียงกระเดื่อง ตุ๊บ (ไม่ไช่ตู้ตกเด้อ)
ดอกลำโพงหรือกรวยลำโพง มันจะกระแทกออกมาหรือ กระแทกเข้าไป เออ งงดิ
คือถ้าเสียงเบสคราง อันนี้ดูจากซายเวฟ มันก็เป็นรูปคลื่นอย่างที่ท่านว่านั่นแหละ
แต่ ตุ๊บ คลื่นมันเป็นยังไง ใครมีสโคป จับสัญญาญให้ที
-
นี่พี่ไม่ได้แกล้ง
ใช่ไหม
กระเดื่อง ...ตึ่กๆ โทษทีเกิน กลัวไม่ชัดเจน ไปฟัง
https://soundcloud.com/manynoise/kick/s-VGFqV (https://soundcloud.com/manynoise/kick/s-VGFqV)
ลองดู
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/08/97933_1399567048.jpg)
พี่รู้นะครับว่าเสียงเกิดจากอะไร
-
ตกลง เคลียร์กันยัง
เอิ๊กๆ
-
ผมหาคำตอบว่า กลับเฟส มันมีข้อดีมั๊ย หรือว่ามีแต่ข้อเสีย คือทำให้ย่านความถี่ต่ำเบาลง (เสียงไม่แน่น)
กระทู้นี้ ได้คำตอบว่า ข้อดีของการกลับเฟส ก็มีเหมือนกัน สำหรับตู้ บางสูตร
brow ตกลง เคลียร์กันยัง
เอิ๊กๆ
ลำโพง เด้ง เข้า-ออก ของน้าอรุณ สงสัยต้องหาคำตอบเอง ไม่มี จอมยุทธ ท่านใดมา ไขปริศนา ?
-
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/08/97933_1399567048.jpg)
อืมมม.....
สังเกตุว่า ตึ๊กแรก (Pulse แรก) จะเป็นด้านบวกเสมอ แล้วค่อยตกลงมาด้านลบ
ถ้าต่อเครื่องเสียงถูกต้อง กระเดื่องลงครั้งแรก(Pulse แรก) ลำโพงต้องเด้งออกถูกต้องมั้ยครับ
แต่เราจะจับตาดูทันหรือป่าว ต้องใช้เครื่องวัดอย่างว่าแหละ
-
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/08/97933_1399567048.jpg)
อืมมม.....
สังเกตุว่า ตึ๊กแรก (Pulse แรก) จะเป็นด้านบวกเสมอ แล้วค่อยตกลงมาด้านลบ
ถ้าต่อเครื่องเสียงถูกต้อง กระเดื่องลงครั้งแรก(Pulse แรก) ลำโพงต้องเด้งออกถูกต้องมั้ยครับ
แต่เราจะจับตาดูทันหรือป่าว ต้องใช้เครื่องวัดอย่างว่าแหละ
ไช่ครับ
ติ๊กแรก เป็น+ ดันลำโพงออกมาแล้วดึงกลับลงมาในด้านลบ เกิดการเด้งขึ้นเด้งลงตามแรงไฟ
ให้ดูจากกร๊าฟที่เพื่อนสมาชิกเอามาลงครับ
จะเห็นว่า ช่วงเสียง ตุ๊บ เป็นรูปอย่างไร
หากเบสครางที่ความถี่ไดความถี่หนึ่ง จะเกิดการสั่นสเทือนคงที่
ลำโพง จะขึ้นและลงเท่าๆกัน
ยิ่งดังมาก ลำโพงก็จะวิ่งหรือสั่นขึ้นๆลงๆแรงขึ้น
ส่วนเสียง ตึ๊บ ยังไง๊ยังไง ผมก็เห็นว่า ลำโพง ดันอกมามากกว่าที่มันจะดึงลง
ไม่ไช่สั่นขึ้นและลงที่เสมอๆกัน
อันนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ ไม่ได้บอกว่าผิดหรือถูก
ส่วนคำถามที่ถามนั้น
ในความเป็นจริง ผมอาจจะไม่รู้จริงๆก็ได้
จึงมาถามเพื่อขอความรู้จากเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ
คนเรา ไม่ได้รู้หรือเก่งไปทุกเรื่องทุกอย่าง
หรือ ผมอาจจะรู้
แต่แกล้งโง่ ถามนำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อท่านอื่นๆได้หาความรู้เพื่อศึกษากัน
เรื่องคำถามที่มีประโยชน์ ตอนเด็กๆ ผมเคยเจอนักเรียนด้วยกัน ถามครู
ถามว่า
ครูครับ สภ.ต , สภ.อ มันย่อมาจากอะไรครับ
เออ นั่นสิ
เด็กๆหลายคน วิ่งเข้ามาฟังตำตอบเพราะไม่รู้เหมือนกัน
ครูบอกว่า
มันเป็นคำย่อ คือสถานีตำรวจภูธรอำเภอ กับสถานีย์ตำรวจภูธรตำบล
และครูบอกว่า เป็นคำถามที่มีประโยชน์มาก
เด็กๆหลายคน รวมทั้งผมด้วย ร้องอ๋อ ไปตามๆกัน
-
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/08/97933_1399567048.jpg)
อืมมม.....
สังเกตุว่า ตึ๊กแรก (Pulse แรก) จะเป็นด้านบวกเสมอ แล้วค่อยตกลงมาด้านลบ
ถ้าต่อเครื่องเสียงถูกต้อง กระเดื่องลงครั้งแรก(Pulse แรก) ลำโพงต้องเด้งออกถูกต้องมั้ยครับ
แต่เราจะจับตาดูทันหรือป่าว ต้องใช้เครื่องวัดอย่างว่าแหละ
ก็ไม่เห็นยากอะไรนี่นา ครึ่งบนเหมือนต่อถูกขั้ว ครึ่งหลังเหมือนกับขั้ว ก็กลับไปใช้ถ่านจี้เหมือนเดิมก็ถูกแล้วนี่
ใครประสาทไม่ไวก็ไม่ต้องเขี่ยๆ จี้ค้างไว้เลยวิ 2 วิ มันยังไม่ทันพังตาเรามองไม่ทันหรอก มันขยับตั้งกี่สิบครั้งใน 1 วินาที
ส่วนเรื่องกระเดื่องตึ่กๆนั่น พี่ๆน้าๆลุงๆคงสื่อสารกันไม่เข้าใจ อ่านดูเหมือนลุงเพชรบุรีจะถามว่า กระเดื่อง 1 ที มันจากที่เดิมมันขยับขึ้นหรือลง ส่วนพี่ที่มาตอบ พยายามจะบอกว่าทั้งขึ้นและลง ถ้าถามแบบน้าวินัยว่า pulse แรกขึ้นหรือลง น่าจะคุยกันรู้เรื่อง เรื่องเสียงนี่ตอนเด็กๆครูให้นึกถึงโยนหินลงน้ำ มันจะเกิดคลื่นซ้ำๆจนกว่าน้ำจะกลับไปนิ่งอีก ก็คล้ายๆรูปที่พี่เค้าเอามาให้ดูนั่นแหละ รูปคลื่นจขึ้นลงขึ้นลงแต่ไม่ได้เท่ากันตลอดมันจะเตี้ยลงเตี้ยลงและหายไป
-
เอาละวะ
มีประเด็นขึ้นมาแล้ว
มีความเห็นต่าง
เอางี้ เห็นเขาว่า ความคิดต่างกัน การพนันย่อมเกิด
งั้นมาพนันกันเลยดีไหม
เอาเบียร์มาเลย คนละลัง
ใครถือข้างใครก็ว่ากันไป
ง่ายๆ
ถ้าผมไม่แพ้ เลี้ยงผม
ถ้าผมไม่ชนะ ผมไม่ต้องเลี้ยงเบียร์
นัดมาเลย ที่ไหนก็ได้ (ขอริมๆน้ำ บรรยากาศดีๆ)
หิ้วส้มตำมาด้วย ไก่ย่างมาด้วยก็ดี
เอาลำโพลงซัก12นิ้วมา1คู่ ไหม่ๆเลย
เปิดพร้อมกัน ข้างซ้ายและข้างขวา
เปิดเฉพาะเพลงทดสอบเสียงกลองก็ได้ ตุบ โป๊ตุบุตบ
ดูซิ ดอกกลับเฟสกับเฟสที่ถูกต้อง ดอกไหนจะพังก่อนกัน เออ
มันคงจะขำๆดีนะ เอาไหมเล่าพี่น้องผองพี่
อุปกรณ์ในการทดสอบก็ ลำโพง12นิ้ว1คู่
แอมป์1ตัวพร้อมอุปกรณ์เปิดเพลงได้
ไก่ย่าง เบียร์ เสื่อ ไก่ย่าง เผื่อรอฟังนานๆ
อิอิิ
คือทดสอบทางเทคนิค จริงๆแล้ว พอที่จะจบแล้วนะครับ ทั้งกราฟและคลื่น
มาลองทางปฏิบัติกันมั่ง
smiley4
-
กินทั้งขึ้นทั้งล่องเลยนะครัช sinister ตอนแรกอ่านมาเรื่อยๆก็เข้าใจขึ้นเข้าใจขึ้น ที่พี่หมออธิบายก็พอถูไถ ตอนหลังๆนี่อาการหนัก ไม่เข้าใจอะไรเลย ตกลงอยากรู้อะไรกันแน่ครัช ลำโพงมันเด้งยังไง หรือลำโพงมันพังยังไง แต่ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น
-
ก็ไม่เห็นยากอะไรนี่นา ครึ่งบนเหมือนต่อถูกขั้ว ครึ่งหลังเหมือนกับขั้ว ก็กลับไปใช้ถ่านจี้เหมือนเดิมก็ถูกแล้วนี่
ใครประสาทไม่ไวก็ไม่ต้องเขี่ยๆ จี้ค้างไว้เลยวิ 2 วิ มันยังไม่ทันพังตาเรามองไม่ทันหรอก มันขยับตั้งกี่สิบครั้งใน 1 วินาที
ส่วนเรื่องกระเดื่องตึ่กๆนั่น พี่ๆน้าๆลุงๆคงสื่อสารกันไม่เข้าใจ อ่านดูเหมือนลุงเพชรบุรีจะถามว่า กระเดื่อง 1 ที มันจากที่เดิมมันขยับขึ้นหรือลง ส่วนพี่ที่มาตอบ พยายามจะบอกว่าทั้งขึ้นและลง ถ้าถามแบบน้าวินัยว่า pulse แรกขึ้นหรือลง น่าจะคุยกันรู้เรื่อง เรื่องเสียงนี่ตอนเด็กๆครูให้นึกถึงโยนหินลงน้ำ มันจะเกิดคลื่นซ้ำๆจนกว่าน้ำจะกลับไปนิ่งอีก ก็คล้ายๆรูปที่พี่เค้าเอามาให้ดูนั่นแหละ รูปคลื่นจขึ้นลงขึ้นลงแต่ไม่ได้เท่ากันตลอดมันจะเตี้ยลงเตี้ยลงและหายไป
ไม่ได้หมายถึงจี้ถ่านครับ จี้ถ่านยังไงก็มองออก
หมายถึงเปิดเพลง หรือเปิดกระเดื่อง ตึ๊กๆๆๆๆๆ แล้วจะมองออกหรือป่าว ว่า Pulse แรกมันเด้งออกหรือเด้งเข้า
-
การกลับเฟสลำโพงใช้ได้บางสูตรตู้ครับ เช่น w , เทอร์โบ แบนพาส และสูตรอื่นๆที่ดอกลำโพงหันก้นออกนอก
รูปข้างล่างเป็นรูปที่ผมเซฟเก็บใว้ ในการปรับการวางตู้แบบเดี่ยว แบบผสม ของตู้ลำโพงเพื่อให้ได้เสียงที่ดังดีที่สุดครับ แต่เรื่องเกี่ยวกับเทคนิคฟิสิกส์ฯลฯอื่นๆไม่มีความรู้เลยครับ
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/10/190_1399681958.gif)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/10/190_1399682043.jpg)
-
เรื่องของเฟส เรื่องระยะทาง ความถี่ การหน่วงเวลา อะไรพวกนี้เกี่ยวข้องกัน
ศึกษามากรู้มากก็เวียนหัว รู้ไว้มั่งก็ดีพอได้แก้ไขปัญหาครับ
บางกรณีแค่เลื่อนระยะตู้ก็แก้ปัญหาได้ง่ายกว่ากลับเฟส
ผมไม่พนันนะ รอกินไก่ย่างอย่างเดียว smiley4
-
ขั้วไฟฟ้า คือ DC
เฟสสัญญาณ คือ AC
ตุ๊บ .. ลำโพงต้องเด้งออกจากจุดพักครับ แล้วเด้งกลับมาที่เดิม ไม่ใช่เด้งออกดึงเข้า ด้านหลังมีไว้เผื่อการสั่นค้าง
จุดอ้างอิงสัญญาณซายน์เวฟไม่ใช่ 0v ที่ถูกคือ 1/2 Vp-p เฟสจะอ้างอิงด้าน + หรือ - เท่านั้นเอง
ให้นึกถึงตัวรับเสียง ที่เป็นไดนามิค เวลารับเสียง ตุ้บ ต้องยุบตัวลงไปก็จะให้เฟส + ออกไป แล้วสัญญาณจะกลับขั้วเมื่อคืนตัว คงไม่มีทางที่ Diaphragm จะเด้งลอยออกมาได้นะครับ (ทิศทางเคลื่อนตัวจะกลับกันกับลำโพง)
รูปไม่มีประกอบน่ะ เส้นแบ่งซายน์ไม่ใช่ที่ 0 V dc. ลองนึกๆดู
....ผมก็ไม่พนันน่ะ รอดูโคโยตี้อย่างเดียว smiley4
-
ถามแบบโง่ๆนะครับ ถ้าเราใช้ลำโพงสำเร็จรูปหรือแบรนด์เนม แค่เราต่อสปีคอนถูกขั้วก็ไม่ต้องคิดเรื่องนี้ใช่มั๊ยครับ
ผมเห็นเค้าพูดถึงบ่อยนะเรื่องกลับเฟสเนี่ย ตกลงว่าถ้าต่อถูกแล้วก็โอเคใช่มั๊ยครับ
หรือว่ามีการตั้งใจให้มันกลับขั้วด้วย ผมล่ะงงเรื่องนี้มานาน
-
ขั้วไฟฟ้า คือ DC
เฟสสัญญาณ คือ AC
ตุ๊บ .. ลำโพงต้องเด้งออกจากจุดพักครับ แล้วเด้งกลับมาที่เดิม ไม่ใช่เด้งออกดึงเข้า ด้านหลังมีไว้เผื่อการสั่นค้าง
จุดอ้างอิงสัญญาณซายน์เวฟไม่ใช่ 0v ที่ถูกคือ 1/2 Vp-p เฟสจะอ้างอิงด้าน + หรือ - เท่านั้นเอง
ให้นึกถึงตัวรับเสียง ที่เป็นไดนามิค เวลารับเสียง ตุ้บ ต้องยุบตัวลงไปก็จะให้เฟส + ออกไป แล้วสัญญาณจะกลับขั้วเมื่อคืนตัว คงไม่มีทางที่ Diaphragm จะเด้งลอยออกมาได้นะครับ (ทิศทางเคลื่อนตัวจะกลับกันกับลำโพง)
รูปไม่มีประกอบน่ะ เส้นแบ่งซายน์ไม่ใช่ที่ 0 V dc. ลองนึกๆดู
....ผมก็ไม่พนันน่ะ รอดูโคโยตี้อย่างเดียว smiley4
นั่น
ช่างใหญ่มาแล้วหลายท่าน
งั้นก็อย่างที่ผมเข้าใจน่ะ น่าจะถูกต้อง
ของช่างไม่มีรูป
ของผม มีรูปปลากรอบด้วย ดูตามรูปครับ
(http://1.bp.blogspot.com/_5GrFbG0Rf8Y/TJMSn7twNfI/AAAAAAAAAEw/BPhp9HzEpeM/s320/%E0%B8%A2%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87.gif)
คืออย่างที่เข้าใจตรงกันทุกท่านนั่นก็คือ คลื่นซาย ตามรูปนี้
คือความถี่คงที่
คือถ้าปล้อนความถี่นี้เข้าไป ลำโพงก็จะวิ่งขึ้นลงขึ้นลงในขนาดที่เท่ากันทุกครั้ง หากหยุด มันก็จะหยุดอยู่ตรงกลาง
ทีนี้ ถามว่า แล้วลำโพงมันจะขึ้นหรือลงก่อนละ ตอบว่า มันขึ้นอยู่กับว่า เฟส+หรือ- จะเข้ามาก่อน
หากตามรูป ดอกลำโพง ต้องเด้งขึ้นมาก่อน แล้วลงล่าง
คลื่นแบบนี้ ก็เช่นความถี่ของไฟฟ้าบ้านเรานี่แหละคือ 50 Hz
ง่ายๆ ก็เอาไฟฟ้าจากบ้านเรา ต่อเข้าขั้วลำโพงโลด เหมือนพวกฝรั่งมันทำ
ถ้ากลัวพังเพราะความแรงมันสูงก็ให้ลดกระแสไฟลงซะ แต่ความถี่ยังเท่าเดิม
มันก็จะดัง บื่อๆๆๆๆๆๆๆ
ทดสอบง่ายๆ ก็เอาหม้อแปลง12โวลต์มา ข้างนึง เสียบไฟบ้าน ข้างนึง ต่อเข้าลำโพง
มันก็จะครางหึ่ง นั่นคือความถี่50ที่บอก
หากไฟต่ำเช่นซัก3โวลต์ มันก็จะดังน้อย แต่ความถี่เท่าเดิม
นี่คือลำโพงที่เด้งขึ้นๆลงๆที่เราเข้าใจกัน
(http://www.sap.ac.th/prapruet/wbi/ac/images/visio1/2-1.gif)
ส่วนเสียง ตุ๊บ ตอนกระเดื่องเหยียบลงไปนั้น
มันคนละอย่างกับเสียงเบสที่ครางกระหื่มแล้วค่อยๆหายไป คล้ายเราดีดกีย์ต้าสายเบส
ตามที่เพื่อนสมาชิกเอามาให้ชมในรูปนี้ จะเห็นว่า มันเด้งขึ้นมาจากแกนกลางนะครับ
ไม่ไช่ขึ้นลงที่เท่าๆกันจนหายไปในที่สุด
https://soundcloud.com/manynoise/kick/s-VGFqV
ส่วนรูปเสียงแบบนี้ ลำโพง จะขึ้นและลงเท่ากันครับ
อาจจะช้าบ้าง เร็วบ้างตามความถี่
แต่หลักๆ มันก็จะวิ่งขึ้นลงโดยอ้างอิงจากตรงกลางจากจุดที่ลอยอยู่
รูปความถี่อย่างนี้ ไม่ทำให้ลำโพงพังจากว๊อยกระแทกได้
(http://www.pdamobiz.com/forum/uploads/image8/7CCD1_k.JPG)
ส่วนท่านที่บอกว่า
ก็ไช้แบบกลับขั้วอยู่มานานแล้ว ก็ไม่เห็นมันพังนี่
ก็จริงครับ
ลำโพงแรงๆ มันก็จะไม่พัง บวกกับแอมป์ ไม่แรงมากนัก รวมไปถึงคนเปิดก็เปิดแบบไม่บ้าพลัง
หากแอมป์แรง ลำโพงไม่แรง ผมเชื่อว่า พังครับ
หากแอมป์ไม่แรง แต่ลำโพงแรงหรือทนกำลังสูงๆ ไม่พังครับ
การต่อผิดเฟสหรือผิดขั้ว ไม่ได้ทำให้ลำโพงพัง หากกำลังไม่สูงมากพอ
ส่วนลำโพงบางชนิด เข้ากับพวกไม่ได้ ต้องกลับเฟส อันนี้จริงครับ
เช่น เจบิน 1คู่ แล้วก็ ตู้w 1คู่ เล่นด้วยกันได้ไหม
ไม่ได้ แต่ได้
ไม่ได้ หมายความว่า เบสหักล้างกันแหลก
ถ้าจะให้ดี ควรไปกลับเฟสตู้w ซะ หรือเจบินก็ได้ แล้วเสียงมันจะไปด้วยกันได้ จึงงบอกว่า ได้
ใครมี ลอง แล้วมาบอกกัน
ผม จึงท้าว่า
ให้เอาแอมป์แรงๆมา1ตัว
ลำโพงรากหญ้ามา1คู่
เปิดเพลง1เพลง
แต่ลำโพง ให้ต่อถูกขั้ว1ดอก ผิดขั้ว1ดอก
แล้วเป็นเพลงอัดเบสแรงๆ
ถามว่า ดอกไหน จะพังก่อนกัน เออ
ผม เตรียมเบยร์เอาไว้แล้ว
ใครข้องใจ มาเลย เดี๋ยวซื้อน้ำแข็งยูนิคเพิ่ม ก็กิน เอ๊ย ลองเสียงได้แล้ว อิอิ
-
แจมมั่ง..
แอมป์ไม่แรง ลำโพงวัตต์เยอะ ....
แอมป์แรง ลำโพงวัตต์น้อย ....
ถามแบบโง่ๆนะครับ ถ้าเราใช้ลำโพงสำเร็จรูปหรือแบรนด์เนม แค่เราต่อสปีคอนถูกขั้วก็ไม่ต้องคิดเรื่องนี้ใช่มั๊ยครับ
ผมเห็นเค้าพูดถึงบ่อยนะเรื่องกลับเฟสเนี่ย ตกลงว่าถ้าต่อถูกแล้วก็โอเคใช่มั๊ยครับ
หรือว่ามีการตั้งใจให้มันกลับขั้วด้วย ผมล่ะงงเรื่องนี้มานาน
ลำโพงกลางแหลมยี่ห้อ jbl (ขอเอ่ยนาม) ทุกรุ่น ต่อแบบพาสซืฟ เสียงแหลมกลับเฟสทุกตัวครับ
-
ผมขอมาอ่านๆเฉยๆแล้วกัน ไม่รู้จะเชื่อใครดี smiley4 smiley4
-
คืนที่ผ่าน หลับสบายอาจจะเนื่องถูกกล่อมด้วยเสียงลม เสียงฝน และเสียงฟ้าร้องแต่ไกล มาเป็นระยะ
การกลั่นตัวของไอน้ำที่เกาะกันลอยตัวอยู่บนฟ้า
แล้วกลายเป็นสายน้ำ ตกลงมา
อันนี้ไม่เห็นมีใครถามเลยว่า ทำไมเม็ดน้ำฝนไม่ลอยสูงขึ้น?
Phase เฟส
ในเรื่องของเสียง เฟส หมายถึงเวลา
เวลา มีจุดเริ่มต้น เช่น เวลาในอดีต เวลาในปัจจุบัน เวลาในอนาคต
เสียงเกิดจากการสั่นทั้งสิ้นครับ
-
เสียงเพลงที่เราได้ยิน ในกรณีย ที่ได้ยินจากการผ่านเครื่องเสียง
ดอกลำโพงคือผู้เปล่งเสียงให้เราได้ยิน
เสียงที่ว่านั้น เกิดจากการที่กรวยดอกลำโพงสั่นเข้าออก ตามแนวยาว
เหมือนการสั่นของสปริงที่ข้างหนึ่งยึดอยู่กับที่
อีกข้างสามารถออกแรงดึง แล้วก็ปล่อยให้สปริงกลับที่เดิมด้วยตัวมันเอง
กรวยดอกลำโพงเมื่อสั่นเข้าออกตามแนวยาว
จะไปผลักให้โมเลกุลของอากาศหน้ากรวยดอกลำโพงสั่นให้ "หู" ได้รับรู้
แล้วแปลงเป็นสัญญาณให้สมองประมวลผลเกิดความเข้าใจตามลำดับ
ในระบบเสียง สัญญาญทางไฟฟ้าที่ออกจากพาวเวอร์แอมป์
อย่างที่เรารู้กัน มันเป็นไฟ AC
และมันเป็นลูกคลื่น ในลูกคลื่นมีความยาว ในความยาวมีความถี่
และย่านความถี่คลื่นเสียงที่มนุษย์ได้ยิน ถูกพิสูจน์แล้วว่าอยู่ที่ประมาณ
ขอย้ำคำว่าประมาณ ที่ 20 - 20000 Hz
เสียงเพลงเสียงดนตรี เสียงร้องของคนที่เราได้ยินชัดเจนเป็นหลัก
อยู่ที่ประมาณ 200 - 9000 Hz
นอกจากนั้นเป็นเสียงรองที่เป็นองค์ประกอบที่ห่อหุ้มเสียงหลักอยู่
เสียงที่ต่ำมากอาจได้ยินเป็นเสียงคราง อือ อือ เท่านั้นครับ
-
กลับมาที่เรื่องของเฟส เมื่อ
เฟส = เวลา
ต่างเฟส คือ ต่างเวลา
เฟส หรือเวลา จุดเริ่มต้นที่ ศูนย์องศา ( 0 ) แล้วขึ้นไปสูงสุดที่ 90 องศา
แล้วก็ต่ำลงมา ที่ 180 องศา เป็นครึ่งหนึ่งของลูกคลื่น
จากนั้นก็ต่ำลงไปสุดอีก คราวนี้เรียกว่า 270 องศา
แล้วสูงขึ้นอีก เราเรียกว่า ครบ 360 องศา เต็มหนึ่งลูกคลื่น
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=9D88_536ECBE8&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=9D88_536ECBE8)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
เวลา ณ จุดแรกเกิดของคลื่นเสียงอันเนื่องมาจากกรวยดอกลำโพง
ถ้า เฟส ถูกต้อง กรวยดอกลำโพงจะผลักออก หรือ เด้งขึ้น
นั่นคือจุดเริ่มต้นแรกของเวลา
การผลักออกของกรวยลำโพงไปข้างหน้า ผลักโมเลกุลของอากาศไปข้างหน้า
เมื่อผลักออกจนสุดตามธรรมชาติก็ต้องผลักเข้าหรือเด้งเข้าเพื่อให้ครบเต็มลูกคลื่น 360 องศา
เราจึงเรียกปรากฎการณ์แห่งเวลนี้ว่า เฟสถูกต้อง
หมายเหตุ คือ ณ เวลาจุดเริ่มต้น กรวยดอกลำโพงผลักออก
ถ้าสลับสายลำโพงจาก บวก เป็น ลบ
ณ จุดเริ่มต้น กรวยดอกลำโพงจะผลักเข้าใน แน่นอนที่ด้านหลังกรวยดอกลำโพง
จะเป็นตัวผลักให้โมเลกุลของอากาศ ผลักไปทางด้านหลัง
คลื่นเสียงครั้งแรกจึงอยู่ภายในตู้ ( 0 - 180 องศา )
เมื่อกรวยดอกลำโพงเด้งขึ้น หรือผลักออก เราจึงได้ยินเสียงจากคลื่นที่เป็นครึ่งหลัง (เรียกว่า คลื่นลบ)
และครบ 360 องศา
แต่เป็นการครบที่ต่างเวลาจากจุดเริ่มต้นถึง 180 องศา
เราเรียกว่า Out of Phase = 180 องศา
ชาวบ้านเราเรียกว่า กลับเฟส
-
ถกกันมาเยอะ มีท่านไหนพอจะสรุปได้บ้างครับ
1.กลับเฟส ดี หรือ ไม่ อย่างไร ?
2. ปุ่ม กลับ เฟส ด้านหลังครอส ท่านได้ใช้งาน บ้างไหม ใช้อย่างไร ?
-
เมื่อเรายืน หรือ นั่ง อยู่ต่อหน้าลำโพง
เมื่อ หู รับรู้ ว่าเสียงเพลงเสียงดนตรี ลอยลำหน้าออกมานอกตู้
นั่นคือความถูกต้อง ตามธรรมชาติ ของการรับรู้ของหู
ปรากฎการณ์อย่างนี้เราเรียกว่า ถูกเฟส
เสียงนกร้องที่อยู่ข้างหน้า และเรารู้ว่า เสียงมาจากนกตัวที่อยู่ข้างหน้า
กับเสียงนกที่ร้องอยู่ข้างหลัง เรารับรู้ว่าเสียงนกอยู่ข้างหลังเราแน่นอน
นั่้นคือความถูกต้องที่แท้จริงของธรรมชาติของการรับรู้ของ "หู" กับ ที่มีต่อคลื่นเสียง
ความถูกต้องของการสั่นของโมเลกุลในอากาศ
ที่เกิดขึ้นจากปากของนก ที่อยู่เบื้องหน้า และนกที่ร้องอยู่ด้านหลัง
เล่นเครื่องเสียง คือการเล่นให้เข้าถึง หรือใกล้กับความสมจริงตามธรรมชาติ
ผิด หรือ ถูก หู มนุษย์เป็นผู้ชี้ขาด
ชี้ขาดถึงความถูกต้องสมจริง ครับ
-
ถ้าสลับสายลำโพงจาก บวก เป็น ลบ
ณ จุดเริ่มต้น กรวยดอกลำโพงจะผลักเข้าใน แน่นอนที่ด้านหลังกรวยดอกลำโพง
จะเป็นตัวผลักให้โมเลกุลของอากาศ ผลักไปทางด้านหลัง
คลื่นเสียงครั้งแรกจึงอยู่ภายในตู้ ( 0 - 180 องศา )
เมื่อกรวยดอกลำโพงเด้งขึ้น หรือผลักออก เราจึงได้ยินเสียงจากคลื่นที่เป็นครึ่งหลัง (เรียกว่า คลื่นลบ)
และครบ 360 องศา
แต่เป็นการครบที่ต่างเวลาจากจุดเริ่มต้นถึง 180 องศา
เราเรียกว่า Out of Phase = 180 องศา
ชาวบ้านเราเรียกว่า กลับเฟส
ผมทดลองดู ครับ ต่อสายลำโพงจากแอมป์ ขั้ว+ เข้า ขั้ว- ของลำโพง (กลับเฟส)
แล้วปล่อยเสียง กะเดื่อง จาก คาราโอเกะ ออกลำโพง
แล้วมอง ว่า กลับเฟสแล้ว กรวยลำโพงมันผลักไปด้านหลังหรือไม่
ทำอยู่นาน มองไม่ออกจริงๆ ว่ามันผลักไปด้านหลัง หรือ ดันออกมา frusty
-
เรื่องของการได้ยิน จะอดมิได้ที่จะพูดถึง กระบวนการรับรู้ของ "หู"
ทั้งนี้เพราะ หู คนเรา หรือสัตว์โลก มีสองข้าง
ทั้งนี้อีกนั่นแหละ มีสองข้างเพื่อรับรู้และให้สมองประมวลผลออกมาถึงความถูกต้องสมจริง
ความสมจริงของแหล่งที่ตั้งของจุดกำเนิดเสียง
ซึ่งมี ซ้าย ขวา หน้า หลัง สูง และ ต่ำ
หลัหๆ 6 ทิศ แต่ยังสามารถแยกย่อยได้ทุกองศา เช่น
เสียงนกที่ร้องบนยอดไม้เยื้องไปทางซ้ายมื
เมื่อได้ยินเสียง ตาเราจะหันมองตามได้อย่างถูกต้อง
นั่นคือความสมจริง
ถ้าดอกลำโพงทั้งสองข้าง เสียงเริ่มต้นเวลาเดียวกัน
กรวยดอกลำโพงเริ่มผลักออกมาข้างหน้าพร้อมกัน
ถ้าเซ็ทระบบดีถูกต้อง หูเราจะได้ยินถึง Soumd Stage ที่สมจริง ครับ
แต่ถ้าในเวลาเริ่มต้นเวลาเดียวกัน
กรวยดอกลำโพงข้างซ้ายผลักออก ขั้วบวก ลบ ถูกต้อง
แต่ดอกลำโพงข้างขวา ผลักเข้า เนื่องจากต่อสายกลับข้าง
ความต่างของเฟส หรือ เวลา จะเท่ากับ 180 แองศา
มันกลับเฟสแน่นอน
ผลที่ตามมาเป็นเช่นไร เรารู้ๆ กันอยู่
สงสัยถามได้นะครับ ก่อนที่จะร่ายยาวต่อไป
หรือ ถก กันได้
ได้ความรู้ทุกฝ่ายครับ
-
ผมทดลองดู ครับ ต่อสายลำโพงจากแอมป์ ขั้ว+ เข้า ขั้ว- ของลำโพง (กลับเฟส)
แล้วปล่อยเสียง กะเดื่อง จาก คาราโอเกะ ออกลำโพง
แล้วมอง ว่า กลับเฟสแล้ว กรวยลำโพงมันผลักไปด้านหลังหรือไม่
ทำอยู่นาน มองไม่ออกจริงๆ ว่ามันผลักไปด้านหลัง หรือ ดันออกมา frusty
ต้องลองดูบ่อยๆ ครับ ณ เวลาหนึ่งจะเห็นเองแน่นอน
ซึ่งแม้ยากอยู่บ้าง ครับ
เสียงที่ได้ยินครั้งแรกนั้น ถ้าสลับสายลำโพงผิด กรวยดอกลำโพงผลักเข้าแน่นอน
มีวิธี ที่จะฝึกให้เร็วขึ้น คือการต่อจาก ถ่านไฟฉาย หรือแบตเตอรี่ขนาดเล็กหนึ่งก้อน ไฟ 1.5 V
สายไฟต่อขั้วบวก ลบ กะลำโพง
ส่วนที่ต่อกับถ่านไฟฉาย ให้ข้างใดข้างหนึ่งติดแน่น อีกข้างแตะ แล้วปล่อย แตะ แล้ว ปล่อย
จะเห็นการเด้งของกรวยดอกลำโพงชัดเจนครับ
ไม่ว่าจะเด้งออก คือถูกต้อง
เด้งเข้า คือไม่ถูกต้อง
อย่าลืมแตะสายกับแบตฯ แล้วปล่อย แล้วแตะสลับไปมา
จะเห็นชัดครับ
-
ยังมีต่อนะครับ เอาให้หายสงสัยไปเลย
อย่างที่รู้ว่าผมพิมพ์ได้ช้า และ ได้ครั้งละนิดๆ
ไม่งั้นจะเกิดอาการเวียนหัว เพราะความดันเลือดสูง แม้กินยาคุมมากว่า 30 ปีแล้วก็ตาม
อีกอาการคือ ผลจากโรค Computer Syndrome ครับ
เกิดจากท่านั่งการเล่นคอมที่ไม่ถูกต้อง และนั่งแบบนั้นนาน
จะทำให้ปวดต้นคออย่างแรง ชนิดน้ำตาเล็ด ไล่ขึ้นไปถึงขมับ ครับ
-
อยากทราบว่าการกลับเฟสลำโพง ถ้าเราใช้ไปนานๆจะมีผลต่อดอกลำโพงหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะดอกเสียงเบส
สมาชิกที่ใช้ตู้ cyclops ต้องต่อกลับเฟส ที่รู้จักก็หลายคน ยืนยันมาว่า ยิ่งมีความไพเราะขึ้นทุกวัน
ถ้าลำโพงกลับเฟสไม่ได้ คนออกแบบตู้ลำโพงคงจะไม่กล้าออกแบบการใช้งานแบบกลับเฟสมาหรอกครับ
ใครไม่แน่ใจ ก็ไลน์หรือโทรไปถามวิศวกรออกแบบดอกลำโพงของ p.audio ก็ได้ครับ สนใจเดี๋ยวจะให้ระหัสการติดต่อของวิศวกร มาทางหลังบ้านนะครับ ระวังหน่อย ป๋าเค้าไปเมืองนอกบ่อยเคยโทรไปหาคุยกันตั้งนาน ท้ายสุดแกบอกว่าตอนนี้อยู่อเมริกาอีกหลายวันกว่าจะกลับ 5555 โดนไปหลายร้อย
-
ก่อนที่จะเขียน อยากให้ท่านที่สนใจเรื่องเฟส ย้อนกลับไปอ่่านหน้าที่ 2 ซึ่งคุณหมอ MAX ได้แนะนำไว้
เท่าที่ตามงานของคุณหมอมานานมาก พบว่าคุณหมอมีทักษะ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอย่างดีเยี่ยม
พูดง่ายๆ เรียนรู้ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์กระมัง
ที่ได้เปรียบคือ เรื่องของภาษาประกิต ซึ่งแข็งแรง
http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=161303.15
-
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=752B_536EF68E&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=752B_536EF68E)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=32B8_536EF68E&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=32B8_536EF68E)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
จากรูปจะเห็นโครงสร้างดอกลำโพงนะครับ
การที่กรวยดอกลำโพงซึ่งติดกับสไปเดอร์และมีว๊อยซ์คอยล์ติดอีกด้าน
การที่สไปเดอร์แขวนลอยให้ว๊อยซ์คอยล์อยู่ในช่องว่างที่เรียกว่า แก๊ป ของแม่เหล็ก
เมื่อเป็นดอกลำโพงที่สำเร็จรูปแล้ว
สไปเดอร์จะสามารถผลักเข้าออก หรือเด้งขึ้นลงได้อย่างอิสระ
กรวยเด้งขึ้นหรือผลักออกมาด้านหน้า แล้วกลับมาที่จุดเดิม
เด้งลงหรือผลักเข้าข้างใน แล้วกลับมาที่จุดเดิม
ทำได้ทั้งสองประการ แล้วแต่สัญญาณทางไฟฟ้าที่เข้าไปกระตุ้น
คือถูกขั้ว บวก ลบ กรวยผลักไปข้างหน้า
ถ้ากลับขั้วบวก ลบ กรวยผลักไปข้างหลัง
ไม่ว่าจะต่อแบบใด จะไม่มีผลเสียกับลำโพง
ยกเว้นใช้งานเกินกำลัง กรวยจะผลักอย่างแรง เป็นเหตุให้ขากลับ เสียศูนย์ว๊อยซ์คอยล์เบียด
หรือติดแน่นในช่องแม่เหล็กได้ หรือแม้กระทั่งว๊อยซ์ไหม้ได้ครับ
ส่วนเรื่องของเสียงค่อยมาว่ากันอีกที
เนื่องจากเรื่องของเฟส มันมีที่มาที่ไปได้ตั้งหลายประการครับ
ดูตู้แบบ CYCLOPS แล้วน่าสนใจทีเดียวนะครับ
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=F2EB_536EF68E&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=F2EB_536EF68E)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=8FB0_536EF68E&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=8FB0_536EF68E)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
มีบางเจ้านำหลักการมาใช้ทำตู้ลำโพงบ้านน่าทึ่งทีเดียว
-
ถ้าสลับสายลำโพงจาก บวก เป็น ลบ
ณ จุดเริ่มต้น กรวยดอกลำโพงจะผลักเข้าใน แน่นอนที่ด้านหลังกรวยดอกลำโพง
จะเป็นตัวผลักให้โมเลกุลของอากาศ ผลักไปทางด้านหลัง
คลื่นเสียงครั้งแรกจึงอยู่ภายในตู้ ( 0 - 180 องศา )
เมื่อกรวยดอกลำโพงเด้งขึ้น หรือผลักออก เราจึงได้ยินเสียงจากคลื่นที่เป็นครึ่งหลัง (เรียกว่า คลื่นลบ)
และครบ 360 องศา
แต่เป็นการครบที่ต่างเวลาจากจุดเริ่มต้นถึง 180 องศา
เราเรียกว่า Out of Phase = 180 องศา
ชาวบ้านเราเรียกว่า กลับเฟส
ผมทดลองดู ครับ ต่อสายลำโพงจากแอมป์ ขั้ว+ เข้า ขั้ว- ของลำโพง (กลับเฟส)
แล้วปล่อยเสียง กะเดื่อง จาก คาราโอเกะ ออกลำโพง
แล้วมอง ว่า กลับเฟสแล้ว กรวยลำโพงมันผลักไปด้านหลังหรือไม่
ทำอยู่นาน มองไม่ออกจริงๆ ว่ามันผลักไปด้านหลัง หรือ ดันออกมา frusty
มองไม่ออกหรอกครับ เพราะจริงๆแล้ว มันก็ทั้งดันออกมาและดันเข้าไป คือมันกระพืออยู่ซ้ำๆ
ช้าบ้าง เร็วบ้าง ตามความถี่เสียง
แต่ลำโพง จะเด้งออกมาก่อนหรือดึงเข้าไปก่อน ขึ้นอยู่กับคลื่นเสียงว่า
ซีก+มาก่อนหรือซีก- มาก่อน สุดท้าย มันก็จะไปหยุดที่กึ่งกลางของลำโพงอยู่ดี
ประเด็นของผม มีสมาชิกออกมาเคลียร์จนหมดแล้ว
อ่านแล้วจับใจความให้ดี จะเจอคำตอบ
ง่ายๆนะครับ เอาลำโพงมา1ดอก โอมมิเตอร์1ตัว ตั้งวัดกำลังไฟเเล้วจิ้มขั้วลำโพงเลย
ไม่มีไฟไช่ไหม?
ถูกครับ ไม่มีไฟ แต่ทันทีที่กดหรือเคาะลำโพงลงไปหรือดึงขึ้นมาก็ตาม
ขดลวดที่เป็นว๊อย วิ่งตัดกับแม่เหล็ก เกิดแรงไฟขึ้น มิเตอร์จะแกว่ง
หากกดลง มิเตอร์แกว่งทางหนึ่งแล้วกลับมาที่เดิม
หากดันออกมา มิเตอรืจะแกว่งไปทางนึคงแล้ว กลับที่เดิม
ไอ้ตอนที่มันแกว่งมาทางใดทางนึงแนี่แหละ คือประเด็นที่ผมพูดถึง
คือคล้ายเสื่องกระเดื่องที่เราเหยียบลงไปเกิดเสียง ตุ๊บ
หรือ เมื่อเกิดเสียงตุ๊บ จากการเหยียบกระเดื่อง เสียงนี้ ก็จะเข้าไปที่ว๊อยของไมค์กลอง
เกิดการสั่นของแผ่นไดอะเฟรมในว๊อยไมค์ เกิดคลื่นเสียงขึ้น
หรือเราตบหัวไมค์ดังตุีบๆนั่นแหละ เสียงนี้มันจะดันลำโพง
ไม่ไช่สั่นลำโพงเหมือนดีดสายเบสของกีต้าที่เป็นเบสคราง
จริงๆแล้วทุกคำถามในนี้ มีทั้งหมด และทุกคำตอบในนี้ก็มีแล้วแทบทั้งหมดครับ
จับประเด็นให้ดี แล้วจะมีคำตอบ ท่านบน ตอบไปแล้ว
มีอยู่ครั้งนึง เขาประกวดเครื่องเสียงรถยนต์ ไช้แผ่นเดียวกัน เป็นเพลงเดียวกัน
เพลง คืนข้ามปี กับเพลง เก็บความหลายใจไปไช้ที่อื่น
เจ้าเพลงหลังนี่แหละ ทำให้เห็นเลยว่า ลำโพงเด้ง เพราะมันเป็นตู้ใส
ผมสังเกตุว่า ลำโพงตอนที่มันดัง ตุ๊บ มันเด้งออกมาก่อนที่มันจะกลับไปตรงกลาง
ระหว่างกำลังจะแข่ง หลายคนพร้อมลงสนาม
หลายคัน ไม่พร้อม และรื้อทำไหมข้างๆงานเลย
ทีนี้ ระหว่างที่เปิดทดสอบก่อนลงสนาม ช่างหลายคน เด็กร้านหลายคน รีบช่วยกันต่อ
ลำโพงก็หลายดอก เสียงข้างนอกก็เปิดกันใหญ่ ฟังแทบไม่รู้เรื่อง
สุดท้าย ลำโพงพัง พังยังไง
ก็ไอ้เสียงตุ๊บนี่แหละ ที่มันไปกระแทกก้นลำโพง เพราะมันต่อกันมั่วๆ รีบๆ แถมมืด
ผมสรุปนะครับ
การกลับเฟสลำโพง ไม่มีผลเสียครับ หากกลับให้ถูกต้อง
ตู้บางอย่าง ต้องกลับเฟส บางอย่าง ไม่ต้องกลับเฟส
มันจะมีผลเสียก็ต่อเมื่อ
ไช้แอมป์เกินกำลัง ย้ำ ไช้เกินกำลัง
หากแอมป์กับลำโพง จัดชุดมาเข้ากัน เปิดทั้งปีก็ไม่พัง
หากจัดชุดแอมป์เหลือๆ เผลออัดแรงๆ มันไม่ทันไหม้หรอก ดอกพัง
กระแทกไม่ว๊อยพังก็คอหักกันไปเลย
น่าจะจบแล้วนะครับ คำตอบหลายคำตอบจากด้านบนไม่น้อยเลยทีเดียว
-
แจมมั่ง..
แอมป์ไม่แรง ลำโพงวัตต์เยอะ ....
แอมป์แรง ลำโพงวัตต์น้อย ....
ถามแบบโง่ๆนะครับ ถ้าเราใช้ลำโพงสำเร็จรูปหรือแบรนด์เนม แค่เราต่อสปีคอนถูกขั้วก็ไม่ต้องคิดเรื่องนี้ใช่มั๊ยครับ
ผมเห็นเค้าพูดถึงบ่อยนะเรื่องกลับเฟสเนี่ย ตกลงว่าถ้าต่อถูกแล้วก็โอเคใช่มั๊ยครับ
หรือว่ามีการตั้งใจให้มันกลับขั้วด้วย ผมล่ะงงเรื่องนี้มานาน
ลำโพงกลางแหลมยี่ห้อ jbl (ขอเอ่ยนาม) ทุกรุ่น ต่อแบบพาสซืฟ เสียงแหลมกลับเฟสทุกตัวครับ
ปิ๊ง.งงงง!!! ขอบคุณครับ
-
ก่อนที่จะเขียน อยากให้ท่านที่สนใจเรื่องเฟส ย้อนกลับไปอ่่านหน้าที่ 2 ซึ่งคุณหมอ MAX ได้แนะนำไว้
เท่าที่ตามงานของคุณหมอมานานมาก พบว่าคุณหมอมีทักษะ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอย่างดีเยี่ยม
พูดง่ายๆ เรียนรู้ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์กระมัง
ที่ได้เปรียบคือ เรื่องของภาษาประกิต ซึ่งแข็งแรง
http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=161303.15
ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นครับ ป๋ามะละกอ
ความรู้เรื่อง Phase ถ้าใครได้เรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ก็จะได้เรียนกันทุกคน ในวิชาฟิสิกส์ เรื่องคลื่น และเสียง/แสง/คลื่นแม่เหล้กไฟฟ้า/ไฟฟ้ากระแส ผมเชื่อว่าทุกคน เคยเรียนผ่านมาทั้งนั้นครับ นอกเสียจากคืนอาจารย์ไปหมด หรือไม่ได้ตั้งใจเรียน
สิ่งที่ผมนำมาเขียนมันก็อยู่ในบทเรียนฟิสิกส์นั่นล่ะครับ หาอ่านได้ในหนังสือฟิสิกส์
(สมัยสอบ entrance ไม่อยากจะบอกว่าได้ฟิสิกส์เกือบเต็ม 100 หุหุ smiley4)
สำหรับเรื่อง เฟสและการแทรกสอดของคลื่นเสียง มันไม่ใช่ทฤษฎีครับ แต่มันเป็น "กฎ"
ทฤษฎี คือ สมมุติฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วหลายต่อหลายครั้งด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายปรากฏการณ์ได้แต่อาจจะยังมีข้อสงสัยบางอย่างที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถ้าพิสูจน์แล้วพบว่าทฤษฎีเดิมอธิบายไม่ได้และมีทฤษฎีใหม่มาอธิบายได้มากขึ้น ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
กฎ คือ ทฤษฎีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นจริงทุกประการ สามารถอธิบายปรากฏการณ์ได้ ไม่สามารถหาทฤษฎีอื่นมาหักล้างได้
เรื่องคลื่นนี้เป็น กฎของคลื่นครับ
คลื่นมีคุณสมบัติเฉพาะตัว 4 อย่างคือ สะท้อน หักเห เลี้ยวเบนและแทรกสอด
ไม่ว่าจะเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(คลื่นวิทยุ ไมโครเวพ รังสีเอ็กซ์ แสง) เสียง คลื่นน้ำ ล้วนแต่มีคุณสมบัตินี้ทุกประการ
เรื่องเฟส ก็นำมาใช้ในเรื่องการแทรกสอดของคลื่น ตามที่ได้อธิบายไว้ในหน้า 2
เรื่องการกลับเฟสนั้น ต้องมีความรู้เบื้องต้นก่อน ว่าเราจะกลับเฟสเพื่อแก้ไขปัญหาของระบบเสียงของเรา ให้มันถูกต้องและเป็นไปตามธรรมชาติของเสียงที่สุด
ปัจจัยที่มีผลต่อ เฟสของเสียง ก็ดังที่อธิบายไว้ตั้งแต่หน้า 2 ว่า เริ่มตั้งแต่ การวางทิศทางไมค์ แหล่งกำเนิดเสียง (Acoustic) สายสัญญาณต่างๆ สายลำโพง ขั้วลำโพง (Electrical) การวางดอกลำโพง หันเข้า หันตูดออก เทียบกับตำแหน่งผู้ฟัง (Acoustic)
อีกประเด็นหนึ่งคือ crossover filter shape
ถ้าเป็น LR-12,Butterworth 6,18 ต้องกด invert phase เสมอ เพราะ polar response จะเป็น reverse
ส่วน Bessel 12 ให้กด กลับเฟสทั้ง 2 band
ถ้าเป็น Butterworth 12,24,48 phase response จะ ปกติ แต่ Amplitude ตรงจุดตัดจะ เพิ่มขึ้น 3 dB แก้ด้วยการ ใช้ EQ cut ลง 3 dB
(http://upic.me/i/x1/13ax1.jpg) (http://upic.me/show/47850135)
(http://upic.me/i/zb/9m3x2.jpg) (http://upic.me/show/47850136)
(http://upic.me/i/7g/nb2x3.jpg) (http://upic.me/show/47850139)
อันนี้จาก MDhouse http://forum.mdhousegroup.com/index.php?topic=116.0 (http://forum.mdhousegroup.com/index.php?topic=116.0)
(http://img856.imageshack.us/img856/485/ro53.jpg)
- ลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) เปิดทีล่ะข้างดัง 100 dB เท่ากัน เมื่อเฟสตรงกันเป๊ะ 0* ( สีเขียว ) ควรจะได้ความดังเพิ่ม 6 dB
- แต่ถ้าลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) มีเฟสต่างกัน 90* ความดังจะเพิ่มขึ้นเพียง 3 dB
- แต่ถ้าลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) มีเฟสต่างกัน 120* ความดังจะเพิ่มขึ้นเพียง 0 dB ( ไม่ดังเพิ่มขึ้น ) ต่อให้มีลำโพงเพิ่มเท่าไรก็ดังเท่าเดิม
- แต่ถ้าลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) มีเฟสต่างกัน 180* ความดังจะหายไป -100 dB ( เท่ากับว่าเปิดข้างเดียวดัง เปิด 2 ข้างเงียบ )
ที่เราท่องๆกันว่า ถ้าเพิ่มกำลังขึ้น 2 เท่าจะทำให้ความดังเดิ่ม 3 dB อันนี้ถูกต้องครับ แต่เป็นกรณี incoherent คือ ความดังเท่ากัน แต่ต่างความถี่ เช่นเสียงเบสกับ กีตาร์ 80 dB เท่าๆกัน ถ้าเล่นพร้อมกันจะดัง 83 dB
แต่ถ้าเป็น สัญญาณที่ coherent กัน คือ ความถี่เท่ากัน voltage เท่ากัน รูปคลื่นเหมือนกัน เมื่อคลื่นสองขบวนมาเจอกันจะเสริมกันทำให้ดังถึง 6 dBทีเดียว
จะเห็นว่าถ้าเราจัดการเรื่องเฟสของระบบให้ถูกต้อง เราจะได้ความดัง ความไพเราะของระบบ เพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
และอีกประเด็นที่ทำให้เกิด phase รวมกันแล้วเกิด การหักล้างกันคือ การ delay ซึ่งเกิดได้จาก 3 ประเด็น
1. ระยะห่าง ระหว่าง ตู้ low กับ mid-hi ข้างเดียวกัน ถ้าล้ำกันมาก phase รวมอาจเกิดหักล้างกัน ถึงแม้จะเฟสเริ่มต้นเหมือนกัน แต่จุดที่รวมกัน phase จะไม่ตรงกัน
(http://capsicum.me.utexas.edu/ChE386K/Images/wave_interference.gif)
(http://ffden-2.phys.uaf.edu/212_spring2011.web.dir/michael_hirte/Phase_shift.jpeg)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/12/35980_1399884966.jpg)
(http://www.kwantlen.ca/science/physics/faculty/mcoombes/P1101_Notes/Waves/Waves-Superposition_files/image002.gif)
2. Group delay ที่ Crossover filter สัญญาณเมื่อผ่านวงจรกรองความถี่ที่ crossover ความถี่ย่าน low จะมี delay กว่า mid-hi จึงต้องจัดการทำ delay alignment ก่อน สามารถปรับค่าได้หากเป็น digital crossover แต่ถ้าเป็น Analog crossover เราอาจแก้ไขโดยใช้วิธี เลื่อนตำแหน่งของลำโพง low กับ mid-hi เอา แล้วใช้หูฟังเอาเอง
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/12/35980_1399884571.jpg)
แสดง Group delay ของ filter แบบ ต่างๆ ตามความถี่
จะเห็นว่า ที่ความถี่ต่ำกว่า 1 KHz Group delay จะมากกว่า ความถี่สูง
3. มุมกระจายเสียงของตู้ลำโพง - แบบ vertical/horizontal
(http://www.linkwitzlab.com/images/graphics/summa_FR-s.jpeg)
ถกกันมาเยอะ มีท่านไหนพอจะสรุปได้บ้างครับ
1.กลับเฟส ดี หรือ ไม่ อย่างไร ?
2. ปุ่ม กลับ เฟส ด้านหลังครอส ท่านได้ใช้งาน บ้างไหม ใช้อย่างไร ?
ตอบข้อ 1 ตามที่อธิบายไว้ด้านบนนะครับ ขึ้นอยู่กับระบบของท่าน กลับไม่กลับต้องไปไล่ระบบของท่านอีกที
ตอบข้อ 2 ปุ่มกลับเฟส ที่ crossover ใช้เพื่อแก้ไข ปัญหา invert phase ของลำโพง ถ้ามันหันตูดออก ก็กดกลับซะ สายสัญญาณข้างใดข้างหนึ่งกลับขั้ว ก็กดกลับเฟส เพื่อแก้ไข
สำหรับที่บางท่านบอกว่า ลำโพงยี่ห้อดังๆเขาก็กลับเฟสหมด
มันก็เพราะว่า crossover filter ของเขามันจำเป็นจะต้องกลับเฟส เช่น Butterworth 6,18 เป็นต้นจึงจะมี Acoustic phase response เป็นปกติ
ไม่ใช่ว่า เห็นเขากลับเฟส ก็อยากกลับเฟสตามเขา
ให้ดูที่ระบบของเราว่าใช้ filter แบบใด
-
ขอบคุณ คุณหมอ ครับ
ครบถ้วนกระบวนความ
เลยทำให้ผมไม่จำเป็นต้องเขียนต่อ
ตอนผมเข้าอบรมเรื่อง Basic of PA Sound System ซึ่งมี 10 เรื่อง
เรื่องของ เฟส ก็อยู่ในนั้นด้วย
ผมเล่นเครื่องเสียงบ้านและศึกษาอย่างจริงจังเรื่องของเฟสมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520
การทดลองฟังเพื่อฝึกหู ในเรื่องของเฟส
การฝึกใช้สายตาในเรื่องของการดูกรวยลำโพงเด้งขึ้นเด้งลง
กลุ่มที่เล่นทดลองกันเป็นเดือนเป็นปี ซึ่ง สามารถ ซ.ต.พ. ได้ จนเป็นที่ยอมรับ
ทุกวันนี้ยังทดสอบอยู่ตามแต่โอกาส
เรื่องของ Time Aligment ซึ่งเกี่ยวกับจุดที่ตั้งดอกลำโพง ตั้งแต่ 2 ดอกขึ้นไป
ไม่ว่าจะอยู่ในตู้เดียวกัน ในกรณีย ใช้พาสสีพครอส
หรือ Active Cross เอาปุ่มดีเลย์มาใช้
ค่าขนาดไหน มีบอกใว้ในคู่มือของครอส ยี้ห้อเรน (RANE) โหลดมาอ่านกันได้
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=0722_5370AE07&gif) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=0722_5370AE07)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
แม้จะอยู่ตู้เดียวกัน เฟส หรือเวลา เริ่มต้นต่างกัน วูฟเฟอร์ กับ ทวีทเตอร์ เฟสก็เลื่อนออกไปได้
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=1C31_5370AE07&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=1C31_5370AE07)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
จุดกำเนิดเสียงที่เริ่มต้นผลักกรวยดอกลำโพง ที่ไม่อยู่ในระนาบเดียวกับ
ผมที่ตามมาหลายประการในเรื่องของเฟสด้วยเหมือนกัน ครับ
รูปบน ใช้พาสสีพครอสแบบ บัตเตอร์เวิร์ท
รูปล่าง แก้ไขด้วยการใช้ พาสสีพครอสแบบ Linkwitz- Riley
(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=3AD4_5370AE07&jpg) (http://upload.sodazaa.com/share.php?id=3AD4_5370AE07)Thanks: เกมส์ (http://game.sodazaa.com) ฟังวิทยุออนไลน์ (http://radio.sodazaa.com)
-
ก่อนที่จะเขียน อยากให้ท่านที่สนใจเรื่องเฟส ย้อนกลับไปอ่่านหน้าที่ 2 ซึ่งคุณหมอ MAX ได้แนะนำไว้
เท่าที่ตามงานของคุณหมอมานานมาก พบว่าคุณหมอมีทักษะ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอย่างดีเยี่ยม
พูดง่ายๆ เรียนรู้ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์กระมัง
ที่ได้เปรียบคือ เรื่องของภาษาประกิต ซึ่งแข็งแรง
http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=161303.15
ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นครับ ป๋ามะละกอ
ความรู้เรื่อง Phase ถ้าใครได้เรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ก็จะได้เรียนกันทุกคน ในวิชาฟิสิกส์ เรื่องคลื่น และเสียง/แสง/คลื่นแม่เหล้กไฟฟ้า/ไฟฟ้ากระแส ผมเชื่อว่าทุกคน เคยเรียนผ่านมาทั้งนั้นครับ นอกเสียจากคืนอาจารย์ไปหมด หรือไม่ได้ตั้งใจเรียน
สิ่งที่ผมนำมาเขียนมันก็อยู่ในบทเรียนฟิสิกส์นั่นล่ะครับ หาอ่านได้ในหนังสือฟิสิกส์
(สมัยสอบ entrance ไม่อยากจะบอกว่าได้ฟิสิกส์เกือบเต็ม 100 หุหุ smiley4)
สำหรับเรื่อง เฟสและการแทรกสอดของคลื่นเสียง มันไม่ใช่ทฤษฎีครับ แต่มันเป็น "กฎ"
ทฤษฎี คือ สมมุติฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วหลายต่อหลายครั้งด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายปรากฏการณ์ได้แต่อาจจะยังมีข้อสงสัยบางอย่างที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถ้าพิสูจน์แล้วพบว่าทฤษฎีเดิมอธิบายไม่ได้และมีทฤษฎีใหม่มาอธิบายได้มากขึ้น ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
กฎ คือ ทฤษฎีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นจริงทุกประการ สามารถอธิบายปรากฏการณ์ได้ ไม่สามารถหาทฤษฎีอื่นมาหักล้างได้
เรื่องคลื่นนี้เป็น กฎของคลื่นครับ
คลื่นมีคุณสมบัติเฉพาะตัว 4 อย่างคือ สะท้อน หักเห เลี้ยวเบนและแทรกสอด
ไม่ว่าจะเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(คลื่นวิทยุ ไมโครเวพ รังสีเอ็กซ์ แสง) เสียง คลื่นน้ำ ล้วนแต่มีคุณสมบัตินี้ทุกประการ
เรื่องเฟส ก็นำมาใช้ในเรื่องการแทรกสอดของคลื่น ตามที่ได้อธิบายไว้ในหน้า 2
เรื่องการกลับเฟสนั้น ต้องมีความรู้เบื้องต้นก่อน ว่าเราจะกลับเฟสเพื่อแก้ไขปัญหาของระบบเสียงของเรา ให้มันถูกต้องและเป็นไปตามธรรมชาติของเสียงที่สุด
ปัจจัยที่มีผลต่อ เฟสของเสียง ก็ดังที่อธิบายไว้ตั้งแต่หน้า 2 ว่า เริ่มตั้งแต่ การวางทิศทางไมค์ แหล่งกำเนิดเสียง (Acoustic) สายสัญญาณต่างๆ สายลำโพง ขั้วลำโพง (Electrical) การวางดอกลำโพง หันเข้า หันตูดออก เทียบกับตำแหน่งผู้ฟัง (Acoustic)
อีกประเด็นหนึ่งคือ crossover filter shape
ถ้าเป็น LR-12,Butterworth 6,18 ต้องกด invert phase เสมอ เพราะ polar response จะเป็น reverse
ส่วน Bessel 12 ให้กด กลับเฟสทั้ง 2 band
ถ้าเป็น Butterworth 12,24,48 phase response จะ ปกติ แต่ Amplitude ตรงจุดตัดจะ เพิ่มขึ้น 3 dB แก้ด้วยการ ใช้ EQ cut ลง 3 dB
(http://upic.me/i/x1/13ax1.jpg) (http://upic.me/show/47850135)
(http://upic.me/i/zb/9m3x2.jpg) (http://upic.me/show/47850136)
(http://upic.me/i/7g/nb2x3.jpg) (http://upic.me/show/47850139)
อันนี้จาก MDhouse http://forum.mdhousegroup.com/index.php?topic=116.0 (http://forum.mdhousegroup.com/index.php?topic=116.0)
(http://img856.imageshack.us/img856/485/ro53.jpg)
- ลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) เปิดทีล่ะข้างดัง 100 dB เท่ากัน เมื่อเฟสตรงกันเป๊ะ 0* ( สีเขียว ) ควรจะได้ความดังเพิ่ม 6 dB
- แต่ถ้าลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) มีเฟสต่างกัน 90* ความดังจะเพิ่มขึ้นเพียง 3 dB
- แต่ถ้าลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) มีเฟสต่างกัน 120* ความดังจะเพิ่มขึ้นเพียง 0 dB ( ไม่ดังเพิ่มขึ้น ) ต่อให้มีลำโพงเพิ่มเท่าไรก็ดังเท่าเดิม
- แต่ถ้าลำโพง 2 ข้าง ( ซ้าย-ขวา ) มีเฟสต่างกัน 180* ความดังจะหายไป -100 dB ( เท่ากับว่าเปิดข้างเดียวดัง เปิด 2 ข้างเงียบ )
ที่เราท่องๆกันว่า ถ้าเพิ่มกำลังขึ้น 2 เท่าจะทำให้ความดังเดิ่ม 3 dB อันนี้ถูกต้องครับ แต่เป็นกรณี incoherent คือ ความดังเท่ากัน แต่ต่างความถี่ เช่นเสียงเบสกับ กีตาร์ 80 dB เท่าๆกัน ถ้าเล่นพร้อมกันจะดัง 83 dB
แต่ถ้าเป็น สัญญาณที่ coherent กัน คือ ความถี่เท่ากัน voltage เท่ากัน รูปคลื่นเหมือนกัน เมื่อคลื่นสองขบวนมาเจอกันจะเสริมกันทำให้ดังถึง 6 dBทีเดียว
จะเห็นว่าถ้าเราจัดการเรื่องเฟสของระบบให้ถูกต้อง เราจะได้ความดัง ความไพเราะของระบบ เพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
และอีกประเด็นที่ทำให้เกิด phase รวมกันแล้วเกิด การหักล้างกันคือ การ delay ซึ่งเกิดได้จาก 3 ประเด็น
1. ระยะห่าง ระหว่าง ตู้ low กับ mid-hi ข้างเดียวกัน ถ้าล้ำกันมาก phase รวมอาจเกิดหักล้างกัน ถึงแม้จะเฟสเริ่มต้นเหมือนกัน แต่จุดที่รวมกัน phase จะไม่ตรงกัน
(http://capsicum.me.utexas.edu/ChE386K/Images/wave_interference.gif)
(http://ffden-2.phys.uaf.edu/212_spring2011.web.dir/michael_hirte/Phase_shift.jpeg)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/12/35980_1399884966.jpg)
(http://www.kwantlen.ca/science/physics/faculty/mcoombes/P1101_Notes/Waves/Waves-Superposition_files/image002.gif)
2. Group delay ที่ Crossover filter สัญญาณเมื่อผ่านวงจรกรองความถี่ที่ crossover ความถี่ย่าน low จะมี delay กว่า mid-hi จึงต้องจัดการทำ delay alignment ก่อน สามารถปรับค่าได้หากเป็น digital crossover แต่ถ้าเป็น Analog crossover เราอาจแก้ไขโดยใช้วิธี เลื่อนตำแหน่งของลำโพง low กับ mid-hi เอา แล้วใช้หูฟังเอาเอง
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/12/35980_1399884571.jpg)
แสดง Group delay ของ filter แบบ ต่างๆ ตามความถี่
จะเห็นว่า ที่ความถี่ต่ำกว่า 1 KHz Group delay จะมากกว่า ความถี่สูง
3. มุมกระจายเสียงของตู้ลำโพง - แบบ vertical/horizontal
(http://www.linkwitzlab.com/images/graphics/summa_FR-s.jpeg)
ถกกันมาเยอะ มีท่านไหนพอจะสรุปได้บ้างครับ
1.กลับเฟส ดี หรือ ไม่ อย่างไร ?
2. ปุ่ม กลับ เฟส ด้านหลังครอส ท่านได้ใช้งาน บ้างไหม ใช้อย่างไร ?
ตอบข้อ 1 ตามที่อธิบายไว้ด้านบนนะครับ ขึ้นอยู่กับระบบของท่าน กลับไม่กลับต้องไปไล่ระบบของท่านอีกที
ตอบข้อ 2 ปุ่มกลับเฟส ที่ crossover ใช้เพื่อแก้ไข ปัญหา invert phase ของลำโพง ถ้ามันหันตูดออก ก็กดกลับซะ สายสัญญาณข้างใดข้างหนึ่งกลับขั้ว ก็กดกลับเฟส เพื่อแก้ไข
สำหรับที่บางท่านบอกว่า ลำโพงยี่ห้อดังๆเขาก็กลับเฟสหมด
มันก็เพราะว่า crossover filter ของเขามันจำเป็นจะต้องกลับเฟส เช่น Butterworth 6,18 เป็นต้นจึงจะมี Acoustic phase response เป็นปกติ
ไม่ใช่ว่า เห็นเขากลับเฟส ก็อยากกลับเฟสตามเขา
ให้ดูที่ระบบของเราว่าใช้ filter แบบใด
ความรู้ล้วนๆ ซึ่งผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยฮิๆ
-
ถกกันมาเยอะ มีท่านไหนพอจะสรุปได้บ้างครับ
1.กลับเฟส ดี หรือ ไม่ อย่างไร ?
2. ปุ่ม กลับ เฟส ด้านหลังครอส ท่านได้ใช้งาน บ้างไหม ใช้อย่างไร ?
ตอบข้อ 1 ตามที่อธิบายไว้ด้านบนนะครับ ขึ้นอยู่กับระบบของท่าน กลับไม่กลับต้องไปไล่ระบบของท่านอีกที
ตอบข้อ 2 ปุ่มกลับเฟส ที่ crossover ใช้เพื่อแก้ไข ปัญหา invert phase ของลำโพง ถ้ามันหันตูดออก ก็กดกลับซะ สายสัญญาณข้างใดข้างหนึ่งกลับขั้ว ก็กดกลับเฟส เพื่อแก้ไข
นั่นไง ครับ คำตอบของการกลับเฟส
ความรู้จริงๆ ขอบคุณครับ คุณหมอ และ คุณพ่อมะละกอ ขออนุญาต เอ่ยตาม..
-
ความรู้ทั้งนั้น brow
-
คิดว่าจะไม่ยาวขนาดนี้ รู้เยอะยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่ ใช้หูเรานี่ล่ะ ฟัง ถ้าเพิ่มจำนวนอะไรก็แล้วแต่ การเพิ่มก็คือเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่รู้สึกผลุบลงไป ก็คือเฟสอุปกรณ์แต่ละตัวได้รวมกันไปในทิศทางเดียวกันแล้ว แต่ความเหลื่อมล้ำของคาบเวลาที่มาถึงไม่พร้อมกัน propagation ถ้าไม่มากจริง แยกแยะยากมาก
เป็นที่มาของ concept ที่ใช้ขายว่า phase linear หรือที่ห่างกันมากๆๆๆ ก็ต้องทำ time alignment (delay)
..แต่ ตุ๊บแรก ยังไงลำโพงมาตรฐานก็ควรจะเด้งออกมาด้านหน้าครับ ตามหลักกลศาสตร์
ถึงแม้การยุบลงไปด้านหลังเพื่อที่ทำให้ได้เฟสเสียงที่ตรงกันก็ไม่ได้หมายความว่าผิด แต่...ตัวดอกลำโพงต้องถูกออกแบบไว้แล้ว และการเคลื่อนตัวของอากาศที่ถูกต้องเหมาะสม พวกดอกพิเศษ long stroke
(http://upic.me/i/ps/mvcoilresp.jpg)
(http://upic.me/i/6i/sig_03.jpg)
อัดมากๆ แอมป์แรงขั้นเทพ ผิดประเภทการใช้งาน ..วอยล์เขกกลับหลังบุบแน่นอน
ผมตอบได้ไม่ลึกซึ้งเท่าไรนะครับ พื้นๆ ตามประสาความรู้ช่างบ้านนอก smiley4
-
คิดว่าจะไม่ยาวขนาดนี้ รู้เยอะยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่ ใช้หูเรานี่ล่ะ ฟัง ถ้าเพิ่มจำนวนอะไรก็แล้วแต่ การเพิ่มก็คือเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่รู้สึกผลุบลงไป ก็คือเฟสอุปกรณ์แต่ละตัวได้รวมกันไปในทิศทางเดียวกันแล้ว แต่ความเหลื่อมล้ำของคาบเวลาที่มาถึงไม่พร้อมกัน propagation ถ้าไม่มากจริง แยกแยะยากมาก
เป็นที่มาของ concept ที่ใช้ขายว่า phase linear หรือที่ห่างกันมากๆๆๆ ก็ต้องทำ time alignment (delay)
..แต่ ตุ๊บแรก ยังไงลำโพงมาตรฐานก็ควรจะเด้งออกมาด้านหน้าครับ ตามหลักกลศาสตร์
ถึงแม้การยุบลงไปด้านหลังเพื่อที่ทำให้ได้เฟสเสียงที่ตรงกันก็ไม่ได้หมายความว่าผิด แต่...ตัวดอกลำโพงต้องถูกออกแบบไว้แล้ว และการเคลื่อนตัวของอากาศที่ถูกต้องเหมาะสม พวกดอกพิเศษ long stroke
(http://upic.me/i/ps/mvcoilresp.jpg)
(http://upic.me/i/6i/sig_03.jpg)
อัดมากๆ แอมป์แรงขั้นเทพ ผิดประเภทการใช้งาน ..วอยล์เขกกลับหลังบุบแน่นอน
ผมตอบได้ไม่ลึกซึ้งเท่าไรนะครับ พื้นๆ ตามประสาความรู้ช่างบ้านนอก smiley4
ความรู้ช่างบ้านนอก
แต่รู้ลึกซึ้งถึงแก่น
ตัวหนังสือไทย เมื่อนำมาเรียงกันเป็น วลี เป็น ประโยค อ่านง่าย เข้าใจง่าย
ความรู้มาจากการอ่าน การฟัง การลงมือปฏิบัติ
เมื่อเห็นผลดี ก็นำมาปฎบัติซ้ำจนเกิด ทักษะ และองค์ความรู้ ตามมา
ผมขอคารวะ ช่างแอ๊ด
สามจอกเลยครับ
-
อยากให้นำรูปโครงสร้างลำโพงเหมือนจริงมาประกอบการอธิบายจังเลย คงจะสุดยอดมากๆเลยครับ
-
ผมเองก็ไม่นึกว่าจะยาวขนาดนี้
ผม ไม่เก่งทางทฤษฎีเท่าไหร่
แต่พอรู้บ้างเป็นแนวทาง
ที่ผมเอามาพูด ส่วนมาก มาจากการสังเกตุและปฏิบัต
หลายท่าน เก่งในเรื่องทฤษฎี ก็ว่ากันไป
แต่ผมแปลกใจว่า ทำไม ไม่มีใครทดลองในส่วนที่ผมขอทดสอบ
ขออธิบายเพิ่มเติมครับ
ดอกลำโพงที่กลับเฟส ไม่ไช่ดอกธรรมดาโหลๆ
ส่วนมาก ดอกขั้นเทพทั้งนั้น
ดูตามรูป
จะเห็นตูดลำโพงเป็นรูปถ้วย เพื่อ รองรับช่วงชักให้มากกว่าลำโพงธรรมดา
ดอกแบบนี้ กลับเฟสไม่มีปัญหาแน่ หากไม่อัดด้วยแอมป์แรงจนเกินไป
เพราะเขาออกแบบมารองรับเอาไว้แล้ว
ชักออกมาสุดก็จะติดสไปเด้อร์ ดันเข้าไปสุดก็ติดเช่นกัน
แถมสไปเดอร์ไม่ไช่ชั้นเดียว แข็งกว่าธรรมดา
สังเกตุที่ตูดลำโพงด้วย จะเห็นว่ามันนูนกว่าธรรมดา
(https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQDvOp7M4iiygjAJChol_LPVUzRtbVIWkRcpLeIsPElcZpiFAhJ)
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQe-ADVNXLkV10zBIbhowrQlXXNzyJq9AIwsoDrMHzRFaVx9bOa)
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTyJWlzFDyanyzt335NOBhd0dtCVRvPDBdim1jxQ_mruRkXNwtdmQ)
(http://data:image/jpeg;base64,/9j/4AAQSkZJRgABAQAAAQABAAD/2wCEAAkGBhMSERUUExQVFBUVGRgYGBcVGRobFxsXFxoXFBcXHRcYHCYeFxkkGRcUIC8gIycpLCwsFx4xNTAqNSYrLCkBCQoKDgwOGg8PGiskHyQtLCwsLS8sLCkrLDQsLC8pLCosLCwsLCwsLywsLCwsKiwsKSwsLCwsLCksLCwuLCwsKf/AABEIAOEA4QMBIgACEQEDEQH/xAAcAAEAAgMBAQEAAAAAAAAAAAAABgcDBAUCAQj/xABMEAABAwEEBgYGBwUFBgcAAAABAAIDEQQSITEFBkFRYXEHEyKBkaEyQlKxwfAjYnKCotHhFDOSssJDU4PS8RYXJDRjkxVEc3Sjs8P/xAAbAQEAAgMBAQAAAAAAAAAAAAAAAwUBAgQGB//EADcRAAIBAwEFBQYFAwUAAAAAAAABAgMEESEFEjFBURNhkdHwIjJxgbHBFDNSoeEkQvEVI4KSov/aAAwDAQACEQMRAD8AvFERAEREAREQBERAERfHOAFTgN6A+oubJrDZwadY0mtOzjjzGC2DbdzSo3VguZtuS6G0i4WltMzRseY42vc1pNCXZgE07Ix2KGu6R9IEAtsL8tsE59xCjhcQnndfA2dKSLPRVU/pStzPTsZA4wTN97sFs6P6Zo3FrXxgOJoQC4f0nFSdrE13GWYih3+86BrgJYpo65EtFOeJHlVdyyaz2aSlJWgkVAf2Tjlg6iyqkXwYcWjqovgK+rc1CIiAIiIAiIgCIiAIiIAiIgCIiAIiIAte3aQjhYXyvDGjMu93E8AtHWDWKOyRlz8XeqwHtOPwG8/6KoNOaZntcl+U/ZaK3Wg7A345lRVKqjpzN4wbJzbOlCNxIhaRudICK8QNg5+Cj9r1o68kPeXt3O9HuGVO5ZdCahG0WcPdIWl5NBSoujsivM3jyoudYdHMJ7Ho17JObhsceYpQbK8yeGUnJ5l/B0JJLCJLoLSjgwNs9maXnOR4p4NHaI5lvJZbbpOYuo+Z9dohaAG0xxcMW7sXLjQ6VMbXNo8XQ4kCgDsQ0AuBriXAZGlVwprQ6Sj5HB1bxa3G40NzNzKuwAk19au3XVjBILfaYyDWYH7Ukkh343A7Haojap4LwBkzxqIZsRnXGKuXBTLVzUlk1HTOeL2NyNwaANlXNA8Ggc1JLT0faPDcbO0/afIT43671tTot6tmZ1YLTBUEtoY03obRdFQBec+M1pWlXMYMtnPNbUekLSaXy6Qer1l2Zp5F4cPBdbXDo3svVulhLonRguuOe58ZAxIqauZlsJVd2LSD4w6WPs3BG94FA17HmlHN9HrAS2haBUVNN8rjjREe8sZ5FlxawUI6+EVApVlRgaZxSEjYMi3vUU1stDxJeNH2aR1WlmAJFKtIOTx7LhxyXSjlvC8QSDia1IGWZ2DHatGgvuid6EnZdwOTH82uIIPMbSok8PJtjkdLR+v8sDW/s7rrGgYOxZyuHLmMTwU/1T6V7PaniKX6GU4NJwjecuy4+iScmu7iVRFlZeqD88VryPANKrphmPAhlqfrlFSnR90vmINgtpLoxg2apLmNy7e1zR7WYGdQCRdMcgcAQQQRUEYgg4gg7QulPJGekRFkBERAEREAREQBERAEREAXH1r1jZYrM6Z+JGDG+08+i3gMCSdgBXYVL9MWly+1tgr2YmDD68mJP8IZ5rWTwgbTNGTzsbPM5pkmaJHE1wvAODQ3JrWtIAFdhOZJXh2hmtFb1TsA71t6K0gJbJA8etGBidrcC3uy7l6cTdx2dy4FHebeTplJx0wSXVy3AwtbXFnYocBRuRO+oINOfNR42MwODM2j0CRS8zIEV4UruPisGitLxte5rjQHCp9Gm4nZTY7LfTbKDZmmNzH/AEoPaDqVdlhSnvFKqHhoyXjqiMWm0Nae1G97SHXrgBwyu5ijsiK7lzJdDPI+g+nYKlrRQTsLqVBjP7xpoAS29wpt7ujLC+StDccDdLXhwrka1zGzMd6z2vQLiDWMHeRRza57Csp4McTk6v6XtMAAe+NlMLloq14pXaS0gYba5retvSM0g1kswI/6wOQJPZaanLIY4gZ4LBaP2qH0JJ4xTIhzhvNGu7I3ZLi2jWK0AkCd/c66fKhW0ZvOkn4Iy4xxrFeL+xxNZ7db7WGdTemhkBJEML2NFCBSRzyTSuPaIGGRC5surj4nNEzerFa3AS8uIyMkgox5GHZZgOFcelpG19aQZZXvIxF97n9+JJ3LSltgJGLjzy3ZuyU282QuKz9jp9YSKVIG4HDKmO/DPYuRpG1XKmtXH0RxPrHgMxxpxUls+isA9zXOj2up2K7ADl5rnaR0HHG8zWmrQXGjDhUU7NBWrhXkMFGms6mz7iO6JhIq/ZkBvwPls71x7VEQ40yXQ0lpgOwZgPeua+1/6roinxIZY4GXRsV6eJvtODTyd2T5Eq2+gnXRzmmwSuqWtvwE+yPTj5Ct4DcXDJoVU6NeYw+YmjmtIZX2nVbUbqCvnTELd1AtZh0hZng+jI0dxNwjvBp3qWLNGfqtERSmAiIgCIiAIiIAiIgCIiAL8+dJ7CNITOPtAfhBHkV+g1TvSrYgbY4EelGx/NvaYTzFzwPBaT4GURjUPTrGl9lnJbG4343jEsdvptbsI3Y7FJNMxSR0a7I4tcMWPG9rsiPPeq1tdkLHCtRQ9l42H8+G1SLQGvj4B1Uwa+MnFjxWI12iv7t3h3rjnBp70SeLTWGdCtFtaN1gmgNI3dn2HCrPD1e4hb8UNhtQrFKbM8+pL24zyeO00c6rWtmqFpZiI+tb7UJ6wU5N7Q72qJxZImiQWPpEaaddE4cWEOH8L6U/iXdh1x0fIKOcWfaY8ebajzVSzgsNHVadzgQfA4r5HLVZT7jDRbs9usLx2bSwc5Ke8YZBRW06s6PL3F1rjF4kktmZep/2fKveuDZGjtVrsp4LkaaNJXUxGHuWY7udImHvYxkn7NHaCi9KbrP8SQ+UdFjdrroizVNnsge72rjR+N9XeSqq0PO4rnSTkmmPzwU6ZEyxNOdLtokqIwyEb2i8+n23YDuaFW+mre+Vxe5znE5lxqe8nNdOwaqW2f8Ad2eZw9q45rf4nUb5rpR9H10/8VaGRgZsipNJy7J6tp5u7kW7HUYb0IReXTs2i6C/N2GZgeu7gBs57PCsktrbLZqiCK7s6yY35T7mt5NHeVGLfa3zPqaknfUlbJuXDgatKJjtlrv4AXWj0WjIfPwHId3o+sHWW+zN2dbG532Q9p8SaLgxWQk3QKu3BWN0WaLH7fA1uNwulkdvLWODafVBcAN9Sd1JUsaGnEv1ERSAIiIAiIgCIiAIiIAiIgCr3pZ0PeZHOzB8dQSM7uYPcST3lTu12xsbbzv1J3KvtdtMvLGy07MTxeaNsb/o3d9SwjiAuapc04TVN8WTQozlFzXBFZG0BwIIF7aDg08tx4Zbty05dHxu9GsbtrXeiutpbRza34yC12IpuO78lxnyEYeR+BzCkcSPJjFgkixbeZTd2meGzuouhYtarVFljxYafhf+ZWpHpEt3j3fPcvQnYTjT3eYWN3qY3uhLLF0py0uzEEf9aMkeYLfBbbNc7M/+wsL+LWsB/C4FRSzWNjsWSU4VB/VZX6Lcc7jvtD9Fruam2+0SZ+tFnFS2yRCvsmSnlIFzptYLO8mtlir/AIh8jKR5LhP0Y0ZxRH7rffdWoLA2vox8qfonZodoyb6P0tZQP+TsdRm57Gj+d5C6UeuTY8IzZo+EDA4//C008VDNH2MgdhsY43aH3LfnjeB25mAbcTh4kKJxeTdS0NzSutrpPS62T7RuN/ES7yUYtmkZnVLQGDhif4j+QWzJNAAayl3Bv6D4rSk0hH6oPfieS2UDVyNB2ji7tOcSTvrXxKxhoGDRd8yfzWaWcuywHP4ZJG0D5xUqRGerLZqYUzz39/5DzVl9GMYitLG+vKHk8GNaT/MW+e5QKxUGJUw1JY50r5sRdbcaRUUrQmhGOQ81HWqqjBzfIlpU3UkooupFFrDp6Rpo8328fS7jt7/FSSz2hr2hzTUH57itbW9pXK9nj0fE2rW86XveJlREXYQBERAEREAREQBERARbT9qLpCBkzDvzPwHcoXrR1L2YyydbGT9Ax4DHtIBdfBGNBXAGozClNvY8yyXG3nXnUBNB6VKk7AMzyWhpfR9nkdXqw6gAwoK3cKveB29mGIwXkpVmqsqreuXj13HoqUIbiptZWPWfiVe6R0JLfSjJqK7RXMbjsI3ha84a/Efqp3pvRLJGBoaxl2t26Mv0UCt1idE4hwII2/FXlpewuFjhLp5FZd2kqDyl7PJ/ZmlLHRYgAsskh24rCSu44D31LeK+dVTJzhyK8F/P55rwZSgMjnP/ALx3ifzWNxd7Z8SsTpivPWFDBnBPtOPevQPBa7XlbDBVDJ7C+L6vlVgHomi9wQ1KxNW/o2yyTOuxCu9x9EDmtZyUI70nhG0ISm92KyzMwUIAxPzidwUh/b3wWaIMfcvvNS3FwGAJI7x4Lo6F0IyBpBAkc703OGfAbm8Ft2zVizTtuuDo/smrMSCQWnChoMgvN3G06dWe7/an4npLWz/DwcpLMn80vT4+B09DuPV/v22gVNJG0yw7JoTRwxwJqpHoK2XJLvqvw+9sPw8FCw2PRjWUspNneCZprOS4xvBIa/q3OcXtu+ljUbMqHu6O0lFJR8MjZGgij2nA4Bw5YFppmK0OKhw6U1cU3mOfSa5ZRA5drF05cfWqJ+iIvYFAEREAREQBERAFq6QtwibXach87FtKJ6atl6Q7hgPnmq/aFy7elmPF6LzOm2o9rPD4HOttrLiRkCamm0nHH8lqyy7l50haGxtL3uaxoxLnEADvKjH+3lneZOqvSdW28TS604huBdicSNi8dCnWqtuKb7/5PSw3I4id2RtVqWnRjJRSQVBqBvBpsOxaWqWtAtwlb1dwsu0F69UOrjkKULfMKSdS2IUPadnTYPy9/JYqQnbzxLSSJY14VIezqmQHSepjmi9E6u9r6A9xyPfRRu1WV8TqSNLTucKV5VzVrWiO/n4bF6iswDLpAIObXAObsp2HAjyVtbbZlFYq69/M4LjZtKS3oaPpyKla8b/FHRjgu+LVZn2gwT2BrHh9wus0j4jibod1TrzDmDhRde3dH1mANySdp+sGPHi26r6V3SisyeCnVlUk8RRBHQDcvBhCmMvRywC9+1gNAqb8LxSvEPK0jqhZxnpKzj7jifC8pI16clmMk/miKVvUjo1+z8iNiJewwqZHo4jYKvtTqfUgPvLyupYtQ7Hdq42mSmNLzGDKvqtveaile0IvG8vEkVlWazusrq7TNbVi0XLL+7jc4e1Ts/xHsjxXYdrHFHIxll0dCxznNa185dPJUmmAfkfFWBpOMuZiakEUruFchsHJct3tGNBLCy2dFtYdpLEnp69cSC2LVFoMfXl77xxEVAxjQKkvecccgGg1PrBS+yWRjGUY0MbUXQB5naTxKxWfs8ty6DI6i8zGgy3HevN3V7VuNJcC/ha07b3PExiKma9tK+WbIk4DHPLie5Ruz9INjeaVkbxcw0psNWE+5c1O3qVE3Ti3joZqVoQeJtIl8FpLeRzGw8wsWjtExQve+EXGykF0Y9EPxF4DZeqK8htz1LBpGKZt6KRsg3tINOYzHet2KSh96wpzpvdenVEUoRl7SJvoTTUVqi6yF15tS072vYbrmuGxwPwORC6CpCfSrtDaQbOypstqP00YyvCl5zR7YDr431e3dS6rNaWyMa9hDmvAc1wxBa4VBB3EUX0C3rKtTU48zytWDhNxZlREU5GEREARF8JogIF0pa2dQ2GyRmklpe1ryM2wF4a/kX4tHC/tC8W21AOe5xo1t4k7ABiSqn1k1gNs0i60VN0ysEfCNjgI+VQC7m4qV9JukDHZZWtzlkEf3SXPd4hlO9UG1IOrUpQXNv7FrYtQhOb5IrrWjWSS2zlxJETSerZsDfap7RzJ7l81bi6yV0Lc543xt+3hIwV2VLKV4rlUpgrV6KtXmwwut0gq91WwA7G5F9OJB7m/WXfWnTtaPRLh6/c5aTnUq55ne1e1dj0bAGijrQ8AyP3HMAV9UbBvq47KbBFV8kkLiSTUnErWtekGQtvSODW8czwAzJ4BeKq1J3FTPFs9NSpRowNpnHDivcjt/wCn6LzZLTFMwPY4OacA5uQIzDhm08DQry5j24jEDd+WYWrpuLw0bxkp6pmtNopjpGy3WPe2l1zhVwplRw3bK5LbtOGHivtgcHOLqUu7RvPyVhdJedWuaxOTlhdDZL2vgZZ7O2SNzCaBzacuPioTHqc981HFjWA4vvVvD6oArXnSin8FabMdxK+vB+f9F0Qrzor2eZzThGb9o0bc68s9kcQAQK1wpx2Z/OKw2ivzVZdG4tc3IjEfPgoG3hM6ZflmjZ9V2RSmZsbY3GuIJdQHO7eJDK/V5LpQ3a4Vcfnatd9qjByc873nDwC9Me9wwFBwwHilSUpPLef3NNxpdP2/kwT2e46nuX2zyFpqM/fwO8Ld6loBvEYAk1yApma5cyufDO11C0tc07Qag8QRmFrh4ySRmpLdMWudmlksUjrNmRR7R6QZiZGt4keIvDMqmrKO0TnRrj5UHmQr6sMwa6uQOBAyI+BCr7pG0QLG1whZSO1yB8jwcOx2mRAU7LS4vkO8gDJi9Bse5jF9i+eq8vLw6FDtGi873Qg9ltL4nh8bnMcMQ5pofngcFZupuuH7T9FLQTNFajAPaMyBscNo7xtAqkv2c1s6PtzoZWStzjcHcwMx3io71bXtnC5g017XJ+uRw21zKjLu5lsdIdmEmjnu2xPjeO9wiPlIVv8AQXrWZIn2KQ9qIX4q/wB2TR7fuuIPJ/Ba2tzwdG2qmILYyOXWxkFVvqlpc2K22e0VF0PF4Agnq3diSo2dlzjQ7QFz7Gl/T4fVk20Y/wC7ldD9UovgK+q7K4IiIAo/r9pAw6OtTxgerc0Hc6SkYPi4KQKD9MkhGi3getJEDyvh3vAWGCgCbuI9XEd2PwU16V56thpk6SR45BoA/nUMu1Ui6RJatsYP908+bG93olVVdZuKX/L6FlS0t6j+H1InozR7p544W5yvayu68aE9wqe5Xvaw1rWRMFGRtDWjcAKAeACq3ossd/SDXH+zjlf30EY/+wqyLfag2+92DW1JPAf6Kq21Nucaa9ZOvZdNYc2cvT2nW2dmV57vRbs+0dzff7q6t1ukleXPcXE7dw3AZAcAs9vt7ppHSOrictgAyaOQ+K1XBWthYxtoZfvPi/svWpxXd3KvLT3eXme9HW6SB1+J7mHI0yI3OGThwKmejOkIUAnYWH2o8WniYyat+6e5QqNqzR2cvcGjNxDQPtENHvXTXtaVbWa+fMgo3FSnpB/LkXC20tfZxI0giQBwNCKh2DcDjljjvWmIs810tZLM2GOCFuFGivJoDW/FVnrRpqUTXIpHs6vA3HFtXmhNaHEAUGO2q8nCylWrunH4+voeh/Eqjb9q+b4FiRWYU9L3H3FDZ/reI/VVno3W21NljElof1d5t+81ruxUXsbpdluxUk1g1tjZZ3mG0RmXAMDO0cxUkObQYXs1vW2bWhOMOOeazjjzI6d9CcXPOMdcEjnswp6Q8vivmicJQPaw8R+dFVT9cra7/wAw/wC61jf5WhSbU/TL30Lnuc6N4NXHGhNR5hw8FJW2ZUo09+TWnTJtQvoXDdJZy0+OCW6Q0jZ7OSZHRsJxq9wqa7m4uPcFHNKdJkTaiNr5TvP0cfiavPgF76WdH0kglA9Jr2+BDh73Ku3xldtls6lUpqc8vu4LQrri9qKWI+PFmxp3WW0WrCR1GVqI2AtZXZUeseLiV40Hp+WzO7DqtJq6N3onefqu4jzyWo+Mjly+KxUV32FLc7PdW70K3tqm/v5eepcWhdMMtEYkjPBzT6TXbQffXIro6a0ULXYnwml4CrCdjs2H+LyJVRauaadZZg/EsOEjd7d/MZjvG0q6LBIKgggteMCNoOIK8neW0rOqpQ4cV8uXyL2lcK6pe1xXE/Pro6EgimBwOwjMd1FhY7FSXpCsPVW+VoFA+kg/xAC78Yeou0L11Kp2kFNc0mUE47snHoWxLaOs0I47eojB5sexp/lKrAtqp/o20V0I4bjI38Zf/UFAGqv2ct11Y9JM773WFOXVeR+p9SNIdfo+yyHEuhjvfaDQ134gV3FD+iNxOiLNXdKO4TSgeVFMFcFaEREAUQ6V7Lf0XP8AUMb/AOGRtfw1UvWnpjR4nglhdlKx7Cd15pbXurVGD8shq7+tMPW2GzTj+zcWO5PxH4gB3rizwOY5zXCjmktcNzmkhw7iCpLquWzxS2WQ4PBpwObSOId8FUXjcN2t+l6/B6MtbVKanS6rT4rUw9EZ/wCNf/7eT+eFd/XOYizkD13hp5VLz/KFw+jCB0WkpI3ij2wytI4h0Z9wqOFF09erSGhjXZOkf5DD3rhuUp31NrXn4ak9v7NrNPT/ADghkjl5Ir3L29nD491V8BovQJlM0fQ1drVCzX7ZAMxfvH7gc/3gLjX6KUdHsNbXX2Y3u7yWt/qK57uW7Qm+5m9FZqJd5MtabdR7nHERs8hUqpJjeJc41JqSeJxPmVYOu9poyT61xvjQnyBVeuduwVbseGYSqvi39P8AJY7Tljs6a5LPiY3BeC0gY4rIMdnNfDHur3q8Kc1y3L3beIXf1UnpNQZPaR3jt9+R8VxXECnwXR0PLdljOVHN8CaHyKguIb9KUe46LafZ1Yy6NFkdIjOs0dE8Zxvaa8HgN97lU78DnVW/p+K9o2VudIq/9sh39KqRxrl4Ks2TU36TT5P7I6L6G7P11MLxXb5/BajnfPuW847DjyzWtJGCrhHAY4yrU6PtImSytac4X3Pu4Ob4B1O5VSFOejO1C9K2u2I+N9p9wVZtampW7fTD+33O/Z8sVkuufMxdMMQFsidvhp4SSfBygQarE6ZY/prMd7JB4Paf6lFdWdCftM4af3bO1Idl0bObsuVTsW9pVjC0jOXBL7kdWm5192PF4+h2rVWz6LZGcHTEyEbg+gH4Q09xURBXc1u0t10xDfRbgPh5e8rR0Bog2q0w2dv9q9rTwaT2z3NvFS2UJKDnLjJ58Te+mt9U48IrHmfpPo9sJi0ZZGHA9Sxx5vHWHzcpCvMcYaAAKACgA2AYAL0rA4QiIgCIiAobpZ1fMFtdKB9HaO2Dsv5SDmT2vvFQ6x2wxPDxmPdtC/ROvOrYttkfHTtt7TDtDhu/Lbkvzla7O6N5a4Uc3A/nyUM4J6PgyWnUcWmuKLE0bCyeeK2xkB4a5ko9oEdl3MOAHjuC43SeynUnYXS/0/kuFq9p51mftMZ9IDZxHHhwUy1rsH7bZmSQdtzDeuinaaRR1DvqAacwvNulK1u4Ob9laJ+OnyyXjqRuKEtxavivXUruwW1p7D8Nzt3A8Png7bdCQce47CMqg5EZ/ocFzrRYy33Y5g7QQcjwK8smcMNg2Hww+fyXpI4eqKGXRm91YUw6N/8AmJP/AEj/ADsULhtgOfZPz3hTTozfWeXhH/W1ct+v6efwJrX82PrkZukF2IG9/uZ+qhYwwqpp0iYObzP8oUFcMVBspf00fn9SbaDzW+S+h7lblRey0/6r4G4fOS8ua4bc8cvnFWhwGOVqRu214gj53heyDifncvEJoVgF0jt2N+HpRSebXH4qlgcvnYrv0E29ZI+MY82qliMKDPDDaqDY+jqR719yzv3vNP4ni8sUjOHivVolu+lhtpmceGzfQ0WhJM51RkOfvKvkVpitM25Sjovl/wCJe3fGD/C9n+YqKSM3KadFdiPXyyU7LY7pOyr3NIFd9Gkrj2jj8NPPQ6bJ4rx+J2elCyvnnsscbbzj1oG7ExnE7AAKrk6XtTLDB+ywm9I7GV+9x+HDgBtK7OtetwhqyMh0prjncB/q4KubS5xcS+t44mta+arrCjUrU4KosQWuP1POc/BFjdVIW824PM3/AOdPqYyVbfQbqtV77W8ZC7HX62Z7x5U3qvtVdW32uZrQ2oJpT2j7NdgpiTsFV+mdB6JbZoGRN9UYmlKu2n8hsAA2L0CRSG+iItgEREAREQBVn0l9H4lraIhR2btwJxJP1Sc9xNciVZi+ObXNAflG1NeysTxduuqW0HpZVJGeGRqRTJbmgtYpbK6rDVpNS05V3j2T8lWtr50bh4MsINBsaKuZtwHrs+rmNnCoLdo58TqOGBycPRPI7+BXPUowlFxkspk0KsoveT1JpK+yaSbiepmpmAAfvNycPkUUS0xqpaLNUvbfj2SR4t7xm3vw4rQa6mWFFINFa6zQ4O+kbuOfjtVcrevbfkPej+l/Znc6tC4/NW6+q4fNevkRYivH3qa9FMlLRKCcOq/rasz/APw62YuH7PIfWb2ceI9Fy7mrOrrLIHubL1peRjShDRWgzNcSSThsUF5tCLoShKLjLo139Te3spRqqSaceq+BzOlKW51TqVBcR+H9FX8ekAeHHP4K0NfLGZ7I4taXOjLX0AqSBeD6b6NdXuVUNYK5CvHAqbY81K3x0b8yDaMXGrr0XkdOO1tpn5j819dbGj1gfFaHVHcfEp1Q3FW5XG0bW05nuofyWm62gZVPh+a+mLc1YhZHOcGgdpxDQNtXEAeZCGeJfGqU16xwcWN9wVK260vD3tqGC84UbhkSBjn4q57NGI2BjcmgAU4AD4KvtOdH1pltT3xhojko8Oe6gBcAXCmfpVOW1eW2ZcwhVqObwnr+/wDJeXtvJwTjrqQouHNfYYHyODWNL3HJrQSfAKbs1LsdmxtlpvH2GG75Crz3UXy0a9QwNLLDA2Me04UJ40GJ7yrf8c6mlvBy7+EfFnB+E3da0lH934Gvozo/uN622vELBjcBF48C7JvIVKaV1yYxnU2JgjjGF+lCeQz7zio1pHS0s7r0r3POyuQ5DILXjYXGgFTuCRs5VHv3Mt7uXurz+Zt+JjTW7QWO98f4PjnEmu34rr6O0ZLapA55e6tADm5xyAbtPP3rY0Jq06WRrQ0yPd6LG4+PAeG9XrqXqM2yASS0fORs9GMHY3ed7u4YZ2SiuJxOT6nrUXU1tjjDnACUilBkxudwbzvP+plaItzUIiIAiIgCIiAIiIAofrZ0ex2kOfFdjkOYI+jf9oeqeI7wVMEQH5q1g1Pls77r2OjdsDsWH7LxmPHuUflic30gR7vFfq222COZhZKxr2HNrgCPPbxUA0/0PRvq6yyGIn1JKuZyDvSb33ljAyUcHrZsmlJIz2HubyJp4ZLv6e1BtdmqZbO66PXi7bOdW1u/eAUaNnrk755haSgpLEllG0ZuLzF4ZILLr7ao/Wa4fWFD4touh/vKvCktmik8Pi1Q11mduryKxljhsPguGezraWrh4ZX0OpXtZf3Z+KT/AJJr/tjYT6Vhb3Bn6L2dZtFnOwu/D/mUEvHd5LNFbKNe24HXgACa1bxC1dhTXuuX/Z+Y/FOXvKPh5EydrNosejYD967/AJki1/s0RBhsMbHDJ2AIO/AKC1O4+BX3qXbis/6dSfvbz+Mn5mFdTXBJfImVp6R531LY42+J+IHkuFpDWy1S+lM4Dc3sj8K0GWd3L54LI3R+8+Ckp2NCm/Zgvr9RO7qyWsn9PoaTnkpFC52QJ+d67Wj9DmR12ON0rtzQXn+ED4KdaF6J7ZLQyhtnZ9btPpwY0+8hduDkyV5Z9D7XmnAfmp7qp0bT2gAhvURH13jEj6rTi7maDirM1f6OrJZaOu9bIPXloaH6rfRbzpXipQs4ByNX9V4LGy7C3E+k92L3czu4Cg4LroiyAiIgCIiAIiIAiIgCIiAIiIAiIgC4+ldULHacZrPE8n1rtH/xto7zXYRAQC3dDNjdXqnzQncHB7fB4J81wbZ0Hyf2dqYftxkebXH3K3UQFISdCluGUlnP35B/+awu6GdIb4D/AIjv8ivVEBRcfQvbzm6zt5yO+DCtyDoNtJ9O0Qt+yHu94aroRAVjY+g2EfvbTI77DWs/mvKQ6P6LNHRf2PWHfK5zvw1DfJS1EBhslijibdjY2NvssaGjwAosyIgCIiAIiIAiIgCIiAIiIAiIgCIiAIiIAiIgCIiAIiIAiIgCIiAIiIAiIgCIiAIiIAiIgCIiAIiID//Z)
ส่วนพวกนี้ ลำโพงทั่วไป
(https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQs4v97ijMAneczvThYDOW0MEZGEWlwnUV3eH0cxiHFmfqCvHXdPg)
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR3QrJCXI4wJRlSUlXyMZCpjVyJtfalvXCLaxz10r_zGTRmSAIP)
(http://www.sraudiocenter.com/img/p/1168-1310-large.jpg)
(https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRfODsKelU0d9pYCQheIs_B4-FQb4nMVjUWy3m6U2bwk3YCOm0w)
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcS8TLk1_DkMnevBhqkEI0XIFnuIsl96BZLXzX6H2IHqlJzgKq-mQA)
เห็นไหมครับ ดอกลำโพงทั่วไป ออกแบบมาแบบไหน
หาเอาดอกพวกนี้ ไปกลับเฟส ผมท้าได้เลยว่า ยังไงก็พัง
จริงครับ ตู้บางสูตร ต้องต่อกลับเฟส ก็ไปดูสิครับว่า
เขาวางดอกแบบไหน ไช่คว่ำลงไปหรือไม่ เช่นตู้ w เป็นต้น
แล้วทำไมมันไม่พัง
ก็ไปดูอีกทีสีครับว่า
ดอก เป็นแบบไหน
ไช่แบบข้างบนหรือไม่ ถ้าอย่างนั้น หากไม่ไช้แอมป์ขึ้นเทพอัด ยังไงก็ไม่พัง
เพราะเขาออกมาแบบบมาพิเศษ
ประเด็นที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรู้
ประเด็นของทฤษฎี ที่ผู้รู้ ได้กรุณานำเสนอเพื่อให้เพื่อนสมาชิกได้เข้าใจ ข้าฯน้อย ขอแสดงความนับถือครับ
ส่วนผม ยังยึดติดตามที่ช่างแอ๊ด ได้อธิบายเอาไว้ตามนั้น
ยังไม่มีท่านใด มาลบความเข้าใจผม
ขอถามไหม่ เพื่อประดับความรู้
ผม เอาไมค์กลอง ไปจ่อที่กลองใหญ่
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRGdNeFfXf7oP38UrlDo-gSC-Zj2gJ5MQTpXVUB-iVK0rt-USH3)
ผม เหยียบกลองใหญ่ ตุ๊บ
ผมถามว่า
ดอกลำโพง จะยุบตัวเข้าหรือเด้งออกมา?
การที่จะรู้ว่า ยุบตัวหรือเด้งออกมานั้น
ยึดถือเอาแกนกลาง ช่วงที่ว๊อย ลอยอยู่ในช่วงปรกตินะครับ
และขั้วลำโพง ต่อแบบถูกต้องด้วย
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSmQ0RfYCUhEVUddWzLZUQgaIJdvm8JLGlB8ltcTIADkxUiMMtv)
-
อยากให้นำรูปโครงสร้างลำโพงเหมือนจริงมาประกอบการอธิบายจังเลย คงจะสุดยอดมากๆเลยครับ
ซักวันหนึ่ง ผมคงเอามาเล่าสู่กันฟัง แบบสนุกๆ
ชั่วชีวิตนี้ ถือว่าอยู่ในสมาคม(เถื่อน)บ้าลำโพงแห่งประเทศไทย
จะแจกแจงทั้งด้านวิชาการ และภาคปฏิบัติ
มีทีมาที่ไป มีเอกสารอ้างอิง
ประเทศที่มีข้อมูลมากที่สุดในโลกในเรื่องลำโพง
ซึ่งเก็บเป็นศูนย์กลางของภาครัฐ ที่ให้คนทั่วไป บริษัทเอกชนค้นคว้า
มีห้องแลปให้ใช้บริการ เพื่อพิสูจน์ผลการออกแบบใหม่
ทั้งนี้เป็นแผนงานสร้างสินค้าใหม่ สินค้าที่เป็นหัวใจส่งออกทั่วโลก
เหมือนกับแผนงานสร้างสินค้าส่งออกของรํฐบาลเกาหลีใต้ซึ่งประชุมร่วมกับภาคเอกชน
แล้วสรุปว่า เกาหลีใต้ ต้องขายสินค้าในเชิงวัฒนธรรม จึงจะชนะญี่ปุนได้
แคนาดา คือประเทศที่ผมอ้างถึงครับ
จะเห็นว่า สินค้าเครื่องเสียงของ แคนาดา นั้นก้าวอย่างรวดเร็ว
หัวหอกคือ ลำโพง และแอมป์
หัวใจคือการสั่งลำโพงจากผู้ผลิตทั่วโลก แล้วนำมาดัดแปลง ที่เรียกว่า โมดิฟาย
ตามการออกแบบของทีมงาน เสร็จก็ส่งห้องแลปภาครัฐที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ
นำผลจากห้องแลปมาแก้ไข
ยกตัวอย่างบริษัทโฟกัสออดิโอ สั่งลำโพงมิดเบสจาก เยอรมัน
นำมาเปลี่ยนดัสแคปใหม่
เปลี่ยนชิ้นส่วนที่วิจัยแล้วว่ามันมีผลเสีย
แม้กระทั่งการโค๊ท กรวยกระดาษด้วยกาวชนิดพิเศษเพื่อถ่วงให้สมดุล เหมือนการถ่วงล้อรถ
เอาผลเทสจากห้องแลปมาทดสอบจนได้ผล
เมื่อผลิตออกขาย ในราคาแพง คนก็สั่งซื้อกันชนิดผลิตไม่ทัน
การทดสอบเรื่องการบิดเบี้ยวของกรวยดอกลำโพงซึ่งทำด้วยกรวยกระดาษ
ซึ่งทำด้วยกรวยพลาสติก ซึ่งทำด้วยโลหะ เช่น ทองแดง อลูมิเนียม แม้แต่โลหะที่ใช้ทำปีกเครื่องบิน
การทดสอบด้วยวิธีการใช้แสงเลเซอร์ยิงสแกนทั่วทั้งกรวยเวลาขยับเข้าออก
แล้วเอาผลที่ออกมาเป็นกร๊าฟ เอามาอ่านพิสูจน์ได้
หรือแม้แต่เอามาใช้ในการตรวจสอบ การผลักเข้าออกของว๊อยซ์คอยย์
เพื่อหาจุดในการขยับตัวว่าจากจุดไหนถึงจุดไหน ที่ว๊อยซ์คอยล์เคลื่อนได้ลีเนียร์ที่สุด
นั่นหมายถึงจะเป็นช่วงที่ลำโพงให้เสียงดีที่สุด
เรื่องของเฟสที่ถูกต้อง หรือ กลับเฟส จึงมิใช่เรื่องที่ซับซ้อนแต่อย่างใด
ตัวเลขพวกนี้มีให้อ่านในสเปคของดอกลำโพงที่มีมาตรฐานทั่วไป
เพียงแต่อ่านแล้วทำความเข้าใจ ก็จะสรุปได้ ครับ
การถกเรื่องลำโพงจึงให้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน
สำหรับผู่ที่ชอบทดลองและเล่นครับ
-
แล้วสายลำโพงละครับ จำเป็นมั้ยที่จะต้องใช้สายใหญ่ เพราะหลานชายบอกมาว่า อ่านเจอเว็บนอกสายลำโพงไม่จำเนต้องใหญ่เสมอไป
สาเหตุที่ค้นคว้าก็เพราะ เปลี่ยนว่ยยี่ห้อหนึ่งแล้วพาวเวอร์ร้อนกว่าเดิมมาก....
-
แล้วสายลำโพงละครับ จำเป็นมั้ยที่จะต้องใช้สายใหญ่ เพราะหลานชายบอกมาว่า อ่านเจอเว็บนอกสายลำโพงไม่จำเนต้องใหญ่เสมอไป
สาเหตุที่ค้นคว้าก็เพราะ เปลี่ยนว่ยยี่ห้อหนึ่งแล้วพาวเวอร์ร้อนกว่าเดิมมาก....
เลือกพิจารณาตามนี้เลยครับ
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/02/03/35980_1391446806.jpg)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/02/03/35980_1391447087.jpg)
จากความสัมพันธ์ ความต้านทาน จะแปรผันตาม ความยาว และแปลผกผันกับ พื้นที่หน้าตัด
หมายความว่า ถ้ายิ่งสายยาวๆ ความต้านทานก็จะสูงมากขึ้นตามความยาว สัญญาณไฟฟ้าก็จะสูญเสียไปตามความยาว เหมือนกับ การส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูง แรงดันไฟฟ้าจะลดลงเรื่อยๆ ตามระยะทาง ต้องมีหม้อแปลงไฟขึ้นเป็นระยะๆ
แต่ถ้าพื้นที่หน้าตัดมาก หรือสายเบอร์โตๆ ความต้านทานก็จะน้อย ทำให้ไฟฟ้าไหลผ่านได้ดี
แต่อย่างไรก็ดี การเลือกใช้ ก็ต้องให้เหมาะสมกับงานครับ
-
kisss
แล้วสายลำโพงละครับ จำเป็นมั้ยที่จะต้องใช้สายใหญ่ เพราะหลานชายบอกมาว่า อ่านเจอเว็บนอกสายลำโพงไม่จำเนต้องใหญ่เสมอไป
สาเหตุที่ค้นคว้าก็เพราะ เปลี่ยนว่ยยี่ห้อหนึ่งแล้วพาวเวอร์ร้อนกว่าเดิมมาก....
เรื่องสาย ผมก็มึนๆ
สำหรับผม ไม่จำเป็นต้องใหญ่เช่นกัน
ตามหลักเท่าที่จำได้
สาย จะมีความต้านทานในตัวเอง
ยิ่งเล็ก ก็ยิ่งมีความต้านทานมากขึ้น
และยิ่งยาว ก็ยิ่งต้านทานมากยิ่งขึ้น
หากสายลำโพงเล็กเกินไป แถมลากยาวด้วย อันนี้สำคัญแน่
แต่ถ้าสายลำโพงไม่กี่เมตร กำลังขับไม่มาก ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตอะไรเลย
ยกตัวอย่างง่ายๆ
ลำโพงรากหญ้า15นิ้ว 300w ว๊อย200w เส้นลวดพันว๊อยเส้นนิดเดียวข้างละปาก
ลากสายยาว12เมตร ผมว่า แค่สาย vct 1.0ก็เหลือเฟือแล้ว
ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตอะไรเลย
แต่ถ้าเป็นลำโพงรถยนต์กำลังวัตส์สูงๆ ว๊อยคู่ แม่เหล็กหลายชั้น
แถมว๊อยลวดเส้นเบ้อเร่อ อย่างนี้ แม้สายจะไม่ยาวนัก แต่สายลำโพงก็ควรจะโตกว่าธรรมดา
เท่าที่รู้ ว่ากันว่า
กระแสที่วิ่งไปที่ลำโพง โดยเฉพาะเสียงแหลม
เขาว่า ควรจะไช้สายลำโพงที่เป็นลวดฝอยๆเยอะๆ
เพราะกระแสจะวิ่งไปตามผิวลวด จริงหรือเท็จ เชิญผู้รู้ชี้แนะ
ส่วนเรื่องไช้สายบางชนิดนั้นแล้วแอมป์ร้อน อันนี้ข้าฯเจ้า งง
และคิดวา ไม่น่าจะเกี่ยวกันอะลวกเพ่
-
ผม เอาไมค์กลอง ไปจ่อที่กลองใหญ่
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRGdNeFfXf7oP38UrlDo-gSC-Zj2gJ5MQTpXVUB-iVK0rt-USH3)
ผม เหยียบกลองใหญ่ ตุ๊บ
ผมถามว่า
ดอกลำโพง จะยุบตัวเข้าหรือเด้งออกมา?
การที่จะรู้ว่า ยุบตัวหรือเด้งออกมานั้น
ยึดถือเอาแกนกลาง ช่วงที่ว๊อย ลอยอยู่ในช่วงปรกตินะครับ
และขั้วลำโพง ต่อแบบถูกต้องด้วย
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSmQ0RfYCUhEVUddWzLZUQgaIJdvm8JLGlB8ltcTIADkxUiMMtv)
ถ้าสายในระบบต่อถูกต้อง
ถ้าใช้ไมค์จ่อที่รูหน้ากลอง จะได้คลื่นเสียงที่เป็น positive wave เมื่อมาถึงลำโพง ก็จะเด้งออก
ถ้าเป็น snare จ่อไมค์ข้างบน เวลาตี มวลอากาศจะออกที่ก้นกลอง (ส่วนอัดหรือเฟส 0 องศา) ส่วนขยายจะวิ่งไปกระทบ diaphragmของไมค์ เกิด Negative wave ก่อน เฟสจะกลับ เวลาสัญญาณผ่านไปจนถึง ลำโพงกรวยจะเด้งเข้าก่อน
-
ผม เอาไมค์กลอง ไปจ่อที่กลองใหญ่
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRGdNeFfXf7oP38UrlDo-gSC-Zj2gJ5MQTpXVUB-iVK0rt-USH3)
ผม เหยียบกลองใหญ่ ตุ๊บ
ผมถามว่า
ดอกลำโพง จะยุบตัวเข้าหรือเด้งออกมา?
การที่จะรู้ว่า ยุบตัวหรือเด้งออกมานั้น
ยึดถือเอาแกนกลาง ช่วงที่ว๊อย ลอยอยู่ในช่วงปรกตินะครับ
และขั้วลำโพง ต่อแบบถูกต้องด้วย
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSmQ0RfYCUhEVUddWzLZUQgaIJdvm8JLGlB8ltcTIADkxUiMMtv)
ถ้าสายในระบบต่อถูกต้อง
ถ้าใช้ไมค์จ่อที่รูหน้ากลอง จะได้คลื่นเสียงที่เป็น positive wave เมื่อมาถึงลำโพง ก็จะเด้งออก
ถ้าเป็น snare จ่อไมค์ข้างบน เวลาตี มวลอากาศจะออกที่ก้นกลอง (ส่วนอัดหรือเฟส 0 องศา) ส่วนขยายจะวิ่งไปกระทบ diaphragmของไมค์ เกิด Negative wave ก่อน เฟสจะกลับ เวลาสัญญาณผ่านไปจนถึง ลำโพงกรวยจะเด้งเข้าก่อน
ตอบแบบ เข้าใจประเด็น
ตอบแบบ สั้น ง่าย ได้ใจความ
เนื้อหาแน่น พอๆกับช่างแอ๊ดเลยทีเดียว
ขอบคุณครับ
-
ผม เอาไมค์กลอง ไปจ่อที่กลองใหญ่
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRGdNeFfXf7oP38UrlDo-gSC-Zj2gJ5MQTpXVUB-iVK0rt-USH3)
ผม เหยียบกลองใหญ่ ตุ๊บ
ผมถามว่า
ดอกลำโพง จะยุบตัวเข้าหรือเด้งออกมา?
การที่จะรู้ว่า ยุบตัวหรือเด้งออกมานั้น
ยึดถือเอาแกนกลาง ช่วงที่ว๊อย ลอยอยู่ในช่วงปรกตินะครับ
และขั้วลำโพง ต่อแบบถูกต้องด้วย
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSmQ0RfYCUhEVUddWzLZUQgaIJdvm8JLGlB8ltcTIADkxUiMMtv)
ถ้าสายในระบบต่อถูกต้อง
ถ้าใช้ไมค์จ่อที่รูหน้ากลอง จะได้คลื่นเสียงที่เป็น positive wave เมื่อมาถึงลำโพง ก็จะเด้งออก
ถ้าเป็น snare จ่อไมค์ข้างบน เวลาตี มวลอากาศจะออกที่ก้นกลอง (ส่วนอัดหรือเฟส 0 องศา) ส่วนขยายจะวิ่งไปกระทบ diaphragmของไมค์ เกิด Negative wave ก่อน เฟสจะกลับ เวลาสัญญาณผ่านไปจนถึง ลำโพงกรวยจะเด้งเข้าก่อน
ถามแบบสนุกๆ นะครับ มิได้กวน
หนึ่ง ทำไมกรวยลำโพงถึงเด้งออก ซึ่งแสดงว่า ทำงานถูกตัอง
สอง แล้วทำไม ถ้าหันตูดลำโพงออก ต่อถูกต้อง กรวยลำโพงก็เด้งออก เหมือนกัน
แต่เสียงไม่เพราะ จำเป็นต้องสลับสายขั้วลำโพง
ผมรู้ว่าคุณหมอรู้ดีอยู่แล้ว
แต่ถามเผื่อท่านอื่นนะครับ
-
ขอบคุณทุกๆท่านที่มาช่วยกันแชร์เรื่องข้อมูลที่เป็นประโยชน์
..แต่มีบางเรื่องที่อ่านๆแล้วยังไม่แน่ใจจากความเข้าใจของผมเอง ใครมีข้อมูลและข้อสงสัยก็มาช่วยกันครับ
เรื่อง เฟสของสัญญาณไฟฟ้า
กับ ทิศทางมุมการให้หรือรับเสียง (polarized pattern) ต้องแยกแยะให้ออกก่อน
การรับเสียงของ transducer (ไมโครโฟน) diaphragm ออกแบบการรับเสียงจากด้านหน้า การเคลื่อนตัวจะเป็นไปในทิศทางเดียว คือ ขยับเข้าไป และคืนตัวกลับมาที่เดิม เกิดการสั่น ,เฟสจะเริ่มต้นอย่างไร ขึ้นอยู่กับขั้วไฟฟ้าที่กำกับ
คิดว่าเรื่องนี้ยังต้องร่ายกำลังภายในอีกยาว
บางเรื่อง ที่ไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่รู้จะสรุปอธิบายอย่างไรให้เข้าใจ หรือ อีกนัยนึง คือ ยังไม่รู้จริงอ่ะครับ
..คุณน้า อภินันท ,คุณ หมอฯ สองท่านนี้ข้อมูลเชิงลึกเยอะมาก
ขอคารวะเช่นกัน .. 3 จอก (เมาแน่) +555 smiley4
ตอบ แบบ คร่าวๆ (+อาจจะกวนเล็กน้อย)
หนึ่ง เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักการ ทฤษฏี ตำรา ที่คิดค้นมา
สอง มีบางอย่างจุดกำเนิดเสียงเริ่มพร้อมกัน แต่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่สัมพันธ์กัน
เกิดความคลาดเคลื่อน ทางด้านทิศทางและคาบเวลา ต้องแก้ไขปรับให้ได้ใกล้เคียงกัน
เพื่อหาจุดรวมให้เกิดผลสอดคล้อง เป็นพลังและความชัดเจน
-
ข้อแรกน้าคนพระจันทร์มันเหมือนกฏมือขวารึเปล่าครับ
-
ข้อแรกน้าคนพระจันทร์มันเหมือนกฏมือขวารึเปล่าครับ
กฎมือขวา ผมเองก็ได้ยินครั้งแรกนี่เองครับ
-
ข้อแรกน้าคนพระจันทร์มันเหมือนกฏมือขวารึเปล่าครับ
กฎมือขวา ผมเองก็ได้ยินครั้งแรกนี่เองครับ
(http://www.electrical4u.com/wp-content/uploads/2013/05/fleming-right-hand-rule.jpg)
อะไรประมาณนี้น่ะครับ มันเกี่ยวกันรึเปล่าไม่รู้ สมัยเรียนก็โดดซะบ่อย
-
ปึ 2506 ผมเรียนมัธยมปลายที่อำนวยศิลป์พระนคร
ผมนักเรียนหลังห้อง พอสอบตก
เด็กสอบตกทั้งหมดที่มีสิทธิ์เรียนต่อ ก็มาเรียนรวมกันอยู่ห้องเดียวกัน
ทุกคนในโรงเรียนก็รู้ว่านี่คือเด็กเกเร ไม่ค่อยมีใครสนใจ
ยกเว้นตอนไปเชียร์กีฬา หรือมีเรื่องยกพวกตีกัน
เด็กสอบตกทั้งห้องนี่จะเป็นกองหน้าลุย ครับ
ลองกลับไปอ่านหน้าสอง คุณหมออีกทีครับ อ่านแล้วค่อยๆ ตีความ
บางครั้ง ธรรมชาติ กับ วิทยาศาสตร์ มันเป็นเรื่องเดียว
เพียงแต่ วิทยาศาสตร์ เอาความจริงแท้ (The Truth n.)
มาพิสูจน์หาข้อเท็จจริงต่อ จนได้ข้อสรุปว่า จริง (Fact n.)
-
ถ้านานมากๆๆๆ แล้วดอกลำโพงไม่ได้รองรับการกลับเฟส หมายถึงระยะชักของสไปเดอร์ เจอมาแล้ว ดอกจะหยอนลง แลัวถึงกับกระดาษแตกเลยครับ
-
ปึ 2506 ผมเรียนมัธยมปลายที่อำนวยศิลป์พระนคร
ผมนักเรียนหลังห้อง พอสอบตก
เด็กสอบตกทั้งหมดที่มีสิทธิ์เรียนต่อ ก็มาเรียนรวมกันอยู่ห้องเดียวกัน
ทุกคนในโรงเรียนก็รู้ว่านี่คือเด็กเกเร ไม่ค่อยมีใครสนใจ
ยกเว้นตอนไปเชียร์กีฬา หรือมีเรื่องยกพวกตีกัน
เด็กสอบตกทั้งห้องนี่จะเป็นกองหน้าลุย ครับ
ลองกลับไปอ่านหน้าสอง คุณหมออีกทีครับ อ่านแล้วค่อยๆ ตีความ
บางครั้ง ธรรมชาติ กับ วิทยาศาสตร์ มันเป็นเรื่องเดียว
เพียงแต่ วิทยาศาสตร์ เอาความจริงแท้ (The Truth n.)
มาพิสูจน์หาข้อเท็จจริงต่อ จนได้ข้อสรุปว่า จริง (Fact n.)
smiley4 smiley4
-
ขอบคุณทุกๆท่านที่มาช่วยกันแชร์เรื่องข้อมูลที่เป็นประโยชน์
..แต่มีบางเรื่องที่อ่านๆแล้วยังไม่แน่ใจจากความเข้าใจของผมเอง ใครมีข้อมูลและข้อสงสัยก็มาช่วยกันครับ
เรื่อง เฟสของสัญญาณไฟฟ้า
กับ ทิศทางมุมการให้หรือรับเสียง (polarized pattern) ต้องแยกแยะให้ออกก่อน
การรับเสียงของ transducer (ไมโครโฟน) diaphragm ออกแบบการรับเสียงจากด้านหน้า การเคลื่อนตัวจะเป็นไปในทิศทางเดียว คือ ขยับเข้าไป และคืนตัวกลับมาที่เดิม เกิดการสั่น ,เฟสจะเริ่มต้นอย่างไร ขึ้นอยู่กับขั้วไฟฟ้าที่กำกับ
คิดว่าเรื่องนี้ยังต้องร่ายกำลังภายในอีกยาว
บางเรื่อง ที่ไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่รู้จะสรุปอธิบายอย่างไรให้เข้าใจ หรือ อีกนัยนึง คือ ยังไม่รู้จริงอ่ะครับ
..คุณน้า อภินันท ,คุณ หมอฯ สองท่านนี้ข้อมูลเชิงลึกเยอะมาก
ขอคารวะเช่นกัน .. 3 จอก (เมาแน่) +555 smiley4
ตอบ แบบ คร่าวๆ (+อาจจะกวนเล็กน้อย)
หนึ่ง เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักการ ทฤษฏี ตำรา ที่คิดค้นมา
สอง มีบางอย่างจุดกำเนิดเสียงเริ่มพร้อมกัน แต่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่สัมพันธ์กัน
เกิดความคลาดเคลื่อน ทางด้านทิศทางและคาบเวลา ต้องแก้ไขปรับให้ได้ใกล้เคียงกัน
เพื่อหาจุดรวมให้เกิดผลสอดคล้อง เป็นพลังและความชัดเจน
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/26/35980_1401110310.jpg)
การทำงานของไมโครโฟนก็เหมือนกับ การทำงานของลำโพงครับ แต่จะกลับกัน
ไมค์ เป็น transducer เปลี่ยนจาก Acoustic sound wave เป็น electric current
โดยอาศัย pressure gradient ของอากาศ
ไม่ว่าจะเป็น transducer แบบ dynamic, condenser, ribbon ก็หลักการก็คล้ายๆกัน
กรณีไมค์จ่อ snare ถ้าจอด้านบน มวลอากาศจะเคลื่อนที่ออก จากไมค์ diaphragm ดึงให้เคลื่อนที่ออกมาด้านหน้า ทิศของแรงทำให้ขดลวดเคลื่อนที่ตัดสนามแม่เหล็กในทิศตรงข้าม กระแสที่เกิดขึ้นจะมีทิศทางตรงข้ามกับทิศเดิม ตามกฎของ Faraday
ดังนั้นจะเกิด negative wave เป็นเฟสเริ่มต้นครับ
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/26/35980_1401110149.jpg)
ลองดูบทความของต่างประเทศก็กล่าวเช่นนี้ครับ
http://jaygraydon.net/MIC_TUTORIAL.pdf (http://jaygraydon.net/MIC_TUTORIAL.pdf) ดูหน้า 11
http://www.gearslutz.com/board/newbie-audio-engineering-production-question-zone/928744-snare-bottom-mic-slide-invert.html (http://www.gearslutz.com/board/newbie-audio-engineering-production-question-zone/928744-snare-bottom-mic-slide-invert.html)
เขาใช้ไมค์จ่อบนและล่าง snare แล้ว บันทึก sound wave ที่ได้ phase เริ่มต้นจะเป็น negative สำหรับไมค์ที่จ่อด้านบน
ส่วนตัวล่าง จะเป็น positive wave
ว่างๆก็ลองไปทำดูนะครับ
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/26/35980_1401108641.jpg)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/26/35980_1401108756.jpg)
ดังนั้นเวลาออกงานดนตรีสด ถ้าระบบของเราเฟสถูกต้อง ลองกดกลับเฟส snare ที่ channel mixer ดู แล้วจะพบว่าเสียง snare มาแบบ เต็มๆ โดยไม่ต้องปรับแต่ง EQ ให้ยุ่งยากเลย ใช้หลักการนี้กับ เครื่องดนตรีที่ ใช้ไมค์จ่อด้านบน เช่น tom, bongo, conga ดูครับ แล้วท่านจะพบกับสัจธรรมที่แท้จริง
ข้อแรกน้าคนพระจันทร์มันเหมือนกฏมือขวารึเปล่าครับ
กฎมือขวา ผมเองก็ได้ยินครั้งแรกนี่เองครับ
(http://www.electrical4u.com/wp-content/uploads/2013/05/fleming-right-hand-rule.jpg)
อะไรประมาณนี้น่ะครับ มันเกี่ยวกันรึเปล่าไม่รู้ สมัยเรียนก็โดดซะบ่อย
ใช่ครับ ตาม Right hand screw rule และ กฎของ ฟาราเดย์และเฮนรี่
that a voltage is induced in a circuit whenever relative motion exists between a conductor and a magnetic field and that the magnitude of this voltage is proportional to the rate of change of the flux.
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/05/26/35980_1401110087.jpg)
ภาพจาก คุณ Michael ครับ
ความสัมพันธ์เฟสของสัญญาณกับการขยับของ ดอกลำโพง
http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=254713.msg2843576#msg2843576 (http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=254713.msg2843576#msg2843576)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2013/08/29/9527_1377743131.gif)
-
ถ้านานมากๆๆๆ แล้วดอกลำโพงไม่ได้รองรับการกลับเฟส หมายถึงระยะชักของสไปเดอร์ เจอมาแล้ว ดอกจะหยอนลง แลัวถึงกับกระดาษแตกเลยครับ
โดยปกติ ลำโพงมันก็เคลื่อนไหวตาม cycle ของสัญญาณอยู่แล้วครับ การกลับเฟสเป็นเพียงการกำหนดให้ลำโพงเด้งไปด้านหลังก่อนเท่านั้นไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียหายแต่อย่างใด
-
ความรู้ทั้งนั้นเลย ขอบคุณครับ
-
ตามหัวข้อตู้ผมเทอร์โบบ้านหม้อ ผมกลับเฟสที่ครอส สัญญาณโลว์ไม่กลับขั้วลำโพง มันจะได้ผลเหมือนกันกับกลับขั้วที่ดอกลำโพงไหมครับ
-
ตามหัวข้อตู้ผมเทอร์โบบ้านหม้อ ผมกลับเฟสที่ครอส สัญญาณโลว์ไม่กลับขั้วลำโพง มันจะได้ผลเหมือนกันกับกลับขั้วที่ดอกลำโพงไหมครับ
เหมือนกันครับ
-
ขอบคุณครับ
-
อืม ของผมก็ตู้เทอร์โบทิกเกอร์ เดี๋ยวจะลองกลับเฟสดู
-
เทอร์โบของเจ้าบ้าน เขากลับมาให้เรียบร้อยแล้วครับ
-
ติดตามมาตั้งแต่หน้าแรก ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับ ผมมือสมัครเล่นครับ ผมมีข้อสงสัยยุประเด็นนึงครับเท่าที่ทราบคือการกลับเฟสนั้นไม่มีผลเสียกับดอกลำโพงหากลำโพงนั้นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการกลับเฟสยุแล้ว ปัญหามียุว่าผมใช้ audio divice pa18 ไม่ทราบว่ารุ่นนี้รองรับการกลับเฟสหรือไม่ครับ เห็นบอกว่าหากใช้ไปนานๆหรือใช้กับพาเวอร์แรงๆแล้วมันจะมีผลเสียกับดอกลำโพงครับ ผมใช้ตู้ผีดันหลังครับ (pkw) รู้สึกว่าด้านหลังและข้างตู้เสียงดีมากแต่ไปฟังด้านหน้ารูสึกว่าเสียงบอดครับ ผมจะลองไปกลับเฟสดู รบกวนขอคำชี้แนะจากอาจารย์ทุกท่านด้วยครับ ขอบคุณครับ
-
ติดตามมาตั้งแต่หน้าแรก ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับ ผมมือสมัครเล่นครับ ผมมีข้อสงสัยยุประเด็นนึงครับเท่าที่ทราบคือการกลับเฟสนั้นไม่มีผลเสียกับดอกลำโพงหากลำโพงนั้นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการกลับเฟสยุแล้ว ปัญหามียุว่าผมใช้ audio divice pa18 ไม่ทราบว่ารุ่นนี้รองรับการกลับเฟสหรือไม่ครับ เห็นบอกว่าหากใช้ไปนานๆหรือใช้กับพาเวอร์แรงๆแล้วมันจะมีผลเสียกับดอกลำโพงครับ ผมใช้ตู้ผีดันหลังครับ (pkw) รู้สึกว่าด้านหลังและข้างตู้เสียงดีมากแต่ไปฟังด้านหน้ารูสึกว่าเสียงบอดครับ ผมจะลองไปกลับเฟสดู รบกวนขอคำชี้แนะจากอาจารย์ทุกท่านด้วยครับ ขอบคุณครับ
โดยปกติสัญญาณไฟฟ้าจาก power amp มีทั้ง positive และ negative wave อยู่แล้ว ลำโพงก็คลื่นที่ เข้าและออกผ่านจุดกึ่งกลางอยู่แล้ว การกลับเฟสก็เป็นการสลับสัญญาณจาก positive เป็น negative wave และnegative เป็นpositive wave ลำโพงก็ทำงานตาม สัญญาณเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ดังนั้นการกลับเฟส ไม่ได้เป็นการทำให้ลำโพงทำงานผิดปกติแต่อย่างใด
-
ขอบคุณอาจารย์ max_medkku ครับ เชิญท่านอื่นช่วยชี้แนะครับ ขอบคุณครับ
-
ติดตามมาตั้งแต่หน้าแรก ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับ ผมมือสมัครเล่นครับ ผมมีข้อสงสัยยุประเด็นนึงครับเท่าที่ทราบคือการกลับเฟสนั้นไม่มีผลเสียกับดอกลำโพงหากลำโพงนั้นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการกลับเฟสยุแล้ว ปัญหามียุว่าผมใช้ audio divice pa18 ไม่ทราบว่ารุ่นนี้รองรับการกลับเฟสหรือไม่ครับ เห็นบอกว่าหากใช้ไปนานๆหรือใช้กับพาเวอร์แรงๆแล้วมันจะมีผลเสียกับดอกลำโพงครับ ผมใช้ตู้ผีดันหลังครับ (pkw) รู้สึกว่าด้านหลังและข้างตู้เสียงดีมากแต่ไปฟังด้านหน้ารูสึกว่าเสียงบอดครับ ผมจะลองไปกลับเฟสดู รบกวนขอคำชี้แนะจากอาจารย์ทุกท่านด้วยครับ ขอบคุณครับ
โดยปกติสัญญาณไฟฟ้าจาก power amp มีทั้ง positive และ negative wave อยู่แล้ว ลำโพงก็คลื่นที่ เข้าและออกผ่านจุดกึ่งกลางอยู่แล้ว การกลับเฟสก็เป็นการสลับสัญญาณจาก positive เป็น negative wave และnegative เป็นpositive wave ลำโพงก็ทำงานตาม สัญญาณเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ดังนั้นการกลับเฟส ไม่ได้เป็นการทำให้ลำโพงทำงานผิดปกติแต่อย่างใด
ตามนั้นครับ.......แม้ไม่กลับเฟสในระบบมีกลับเฟสโดยตรงอยู่แล้ว เช่น การวางดอกในตู้ลำโพงซับหันตูดออก ดอกกลาง PA หันหน้าออก หรือ ตู้มอนิเตอร์บนเวทีหันเข้าเวทีสวนกลับชุด PA เฟสเสียงที่พบโดยส่วนมากคือถ้าเฟสไม่เสริมกันเสียงจะดร็อปลงทันที.............
ประสบการณ์ล่าสุด ตู้แผ่นดินไหว Ls118 เปิดพร้อมกับเพื่อนสูตรอื่น ดังอยู่เจ้าเดียวนอกนั้นดร็อปหมด(ส่วนมากตู้ซับอื่นหันหน้าดอกออก) จำนวนตู้เท่ากัน ระบบเหมือนกัน
-
ขอบคุณท่าน 3ออ&Organizer ครับ smiley4
-
ชอบกระทู้นี้คนเล่นเครื่องเสียงกลางแจ้งต้องเจอปัญหานี้แน่นอน
-
สำหรับผม ดอกลำโพงต่อขั่วให้ตรงเฟส ถ้าจะกลับเฟส ให้ไปกลับที่ system แทน เช่น mixer หรือ ครอสโอเวอร์แทนครับ