Tigger Sound

สินค้าเครื่องเสียง จากสมาชิกร้านค้า ทั่วไทย
=> ตลาดกลาง การค้า เครื่องเสียง และอุปกรณ์ทุกชนิด จากร้านค้า ที่ร่วมสนับสนุน => www.STS-AUDIO.com Tel.081-032-2062 => ข้อความที่เริ่มโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 19, 2013, 02:58:49 pm

หัวข้อ: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 19, 2013, 02:58:49 pm

การเข้าสู่หลักธรรม

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/f7fOpkjMIbI
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 30, 2013, 09:38:07 pm
พระพยอม เตือนสติคนไทยปีใหม่ อย่าโง่กว่าปีก่อน
Source - ไอ.เอ็น.เอ็น. (Th) Tuesday, January 01, 2013  10:55

กรุงเทพฯ--1 ม.ค.--ไอ.เอ็น.เอ็น

          พระพยอม เตือนสติการใช้ชีวิตคนไทย เนื่องในวันปีใหม่ 2556 ปีใหม่อย่าโง่กว่าปีเก่า

          พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้ออกมา เตือนสติประชาชนและให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2556 โดยได้ยกธรรมของท่านพระพุทธทาสภิกขุ หรือ พระธรรมโกศาจารย์ ที่ได้กล่าวไว้ว่า

          ปีใหม่อย่าให้โง่กว่าปีเก่า คือ ต้องไม่โง่หาความสุขที่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน เลือกหาความสุขในทางที่ถูกต้อง หมั่นเติมเบญจศีล เบญจธรรมให้แก่ชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่ไม่ดีแทรกเข้ามา พร้อมแนะให้ทุกคนทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น ลดความเกลียดชังต่อกันให้น้อยลง และทุกคนจะต้องเติมพลังที่ทำให้มีพรแก่ชีวิต อีก 4 อย่าง ตามคำสอนของพระพรหมคุณาภรณ์ หรือ (ป.อ. ปยุตฺโต ) เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน ดังนี้

          ปัญญาพลัง คือฉลาดหากินและฉลาดดำรงชีวิต วิริยพลัง คือ มีความขยันหมั่นเพียร ใจสู้ต่ออุปสรรค ไม่ท้อแท้ อ่อนแอต่อการทำงาน อนวัชชพลัง คือกำลังความสุจริต และสังคหพลัง คือกำลังการประสานร่วมมือบำเพ็ญประโยชน์ การช่วยเหลือกัน การเกื้อกูลผู้อื่น การมีความร่วมมือสามัคคีการทำประโยชน์แก่สังคมประเทศชาติ

          นอกจากนี้ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วยังกล่าวถึงผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาและความทุกข์ว่า จะต้องตวาดความทุกข์ให้เป็น เพราะมนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทุกข์ และให้สู้ชีวิตต่อไป ส่วนสังคมไทยต้องเร่งแก้ปัญหาการไม่อยากปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง เพราะการปฏิบัติธรรมคือการทำหน้าที่ และหมั่นรักษาสุขภาพอย่าให้ทรุดโทรม

--จบ--
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 01:40:16 am

หลักชาวพุทธ

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต )

https://www.youtube.com/v/Rvtvj3Hj8R0
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 01:55:35 am


ทุกชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง

หลวงพ่อปัญญา

https://www.youtube.com/v/21sH7RwrOq0
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2013, 01:22:16 am


เลิกพูดกันเสียทีว่าเกิดมาใช้กรรม

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต )

https://www.youtube.com/v/kPKozHlpxno
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2013, 02:09:24 am


ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต )

https://www.youtube.com/v/tfWz7n_GHG4
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2013, 02:12:34 am



คิดให้ดีก่อน

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

https://www.youtube.com/v/Z8Ug5s61GGk

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2013, 02:31:54 am


 ทุกข์มีไว้เห็น ไม่ใช่มีไว้เป็น

โดย พระไพศาล วิสาโล

https://www.youtube.com/v/x41V82QLeSI

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2013, 12:53:42 am

ความสงบบ่อเกิดปัญญา

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/tkb-RVM1dLs

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2013, 01:51:17 am
....วาง.... (นิทานเซ็น)

มีพระพรรษามาก กับ พรรษาน้อย สองรูป เดินทางไปด้วยกันจนกระทั่งทั้งคู่ต้องข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่
จำเป็นต้องเดินข้ามเพราะสะพานข้ามแม่น้ำขาดเสียหาย

พระทั้งสองรูปพบผู้หญิงผู้หนึ่งคนซึ่งไม่สามารถข้ามแม่น้ำไปได้เนื่องจากสะพานขาดนั้น

พระพรรษามากจึงอาสาจะให้ผู้หญิงนั้นขี่หลังแล้วข้ามฟากไป

พระพรรษาน้อยเห็นอย่างนั้นจึงรู้สึกขุ่นเคืองว่าทำไมพระพรรษามากจึงทำอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นพระ
ไม่ควรจะสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้หญิงขนาดนี้ แต่ก็คิดอยู่ในใจไม่ได้ถามพระพรรษามาก

หลังจากที่ข้ามฟากเสร็จพระทั้งสองรูปและผู้หญิงต่างก็แยกย้ายไปตามทางของตน
แต่ในใจของพระพรรษาน้อยยังคงคิดวนเวียน ตั้งคำถามในใจตลอดเวลาว่า
การกระทำของพระพรรษามากนั้นไม่เป็นการสมควรกับนักบวช
คิดวุ่นวายอยู่อย่างนั้นเก็บเงียบอยู่ในใจไม่ถามพระพรรษามาก

ท่านคิดวนเวียนอยู่อย่างนั้น ทำให้ท่านแทบบ้าจนมาถึงจุดหยุดพัก
พระพรรษาน้อยอดทนเก็บเรื่องในใจต่อไปอีกไม่ไหวจึงถามพระพรรษามากว่า
ท่านทำไมไม่สำรวมถึงความเป็นพระเลย ทำไมถึงได้สัมผัสผู้หญิง และผู้หญิงคนนั้น
เป็นคนสวยเสียด้วย ท่านเป็นคนบอกผมเองว่า ท่านเป็นพระที่บริสุทธิ์ไม่ใช่หรือ?

พระพรรษามากประหลาดใจ แล้วย้อนกลับไปถามพระพรรษาน้อยว่า

"ผมวางผู้หญิงสวยคนนั้นไปตั้งหลายชั่วโมงแล้ว เหตุใดท่านยังอุ้มผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกเล่า"

ที่มา:
http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/generate.pl?board=heart&content=1462
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 12:27:13 am

ต่อสู้ความกลัว

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/XpzJ_vXvTIs

 
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2013, 01:56:26 am

กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/lh9CrJJtis8

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 11:23:01 pm

เพลงสำหรับนั่งสมาธิ

https://www.youtube.com/v/-TWk6yNfBx0

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มีนาคม 05, 2013, 01:46:23 am
คอลัมน์: พระพยอมวันนี้: ธรรมะ'พุทธทาส' สอนให้ควบคุมผัสสะ
Source - โลกวันนี้วันสุข (Th)
Friday, March 01, 2013  06:26
          พระพยอม กัลยาโณ
          prapayom@watta.co.th       
 
          อยากจะพูดถึงเรื่องธรรมะของ "หลวงพ่อพุทธทาส" ที่ทุกวันนี้คำสอนของท่านยังใช้ได้เสมอกับสังคมปัจจุบัน ถึงแม้สิ่งที่ท่านสอนหรือคำที่กล่าวไว้นั้นจะผ่านมานานแล้ว ก็ตาม

          คำสอนของท่านยังคงเป็นคำสอนที่โดนใจ และเกิดประโยชน์กับผู้ที่ได้สดับรับฟัง หากนำไปปฏิบัติก็จะทำให้เกิดความสุข ทำให้ชีวิตไม่เครียด ไม่ทุกข์ ไม่ทรมานจนเกินไป

          ทุกวันนี้มีคำสอนของท่านที่ถูกทำออกมา มีทั้งหนังสือเป็นทั้งซีดี ทั้งหมดล้วนเป็นผลสะท้อนว่าทำไมจึงมีผู้คนสนใจนำเอาธรรมะของท่านมาปฏิบัติ อยากศึกษา อยากได้รับประโยชน์จากธรรมะตรงนี้ มีบางคนบอกว่าถ้าไม่ได้รับคำสั่งสอนของท่านก็ไม่รู้ว่าชีวิต จะเหลวแหลกไปอย่างไรบ้าง เพราะได้มาเจอคำสอนนี้ทำให้สามารถจัดทิศทางของชีวิตถูก

          มีคำสอนอยู่ประโยคหนึ่ง ซึ่งอาตมาเชื่อเหลือเกินว่าเป็นคำสอนที่จะเกิดประโยชน์อย่างมากมายหากใครนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง คือ ประโยคที่ว่า "เห็นแล้วๆ ได้ยินแล้วๆ ระวังๆ อย่ารัก

          อย่าชัง อย่าวูบวาบไปกับมัน" นี่เป็นประโยคที่สอนให้รู้จักการควบคุมผัสสะ "ผัสสะ" หมายถึงสัมผัส การกระทบ การถูกต้อง ที่ทำให้เกิดความรู้สึก ผัสสะเป็นความประจวบกันแห่ง 3 สิ่งคือ อายตนะภายใน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ, อายตนะภายนอก รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์และวิญญาณ

          ก็เหมือนกับที่ท่านพูดเสมอว่า "ทุกข์จะไม่เกิดถ้าเราไม่โง่ไปมีผัสสะ ทุกข์จะไม่มีถ้าเราเข้าใจดีเมื่อมีผัสสะ ทุกข์จะเกิดกับเราไม่ได้ถ้าเราเข้าใจควบคุมเรื่องผัสสะ"

          ฉะนั้นเรื่องของการท้องก่อนแต่งหรือท้องในวัยที่ยังไม่ควร จะไม่เกิดหากว่าเยาวชนของเราสามารถควบคุมผัสสะในตัวได้ ยกตัวอย่างถ้าเป็นผู้หญิงได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่มีผู้ชายโทร.มาออดอ้อนรักมากๆ ก็ให้เตือนตัวเองว่า เออได้ยินแล้วๆ ระวังๆ อย่ารัก อย่าชัง อย่าวูบวาบไปกับมัน ถ้าได้เห็นรูปร่างหน้าตาเขาที่ทำให้เราอดชอบไม่ได้ ก็ต้องเตือนตัวเองว่า เห็นแล้วๆ ระวังๆ อย่าวูบวาบไปกับมันให้เตือนตัวเองอยู่อย่างนี้ ถ้าทำกันได้ปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นก็ไม่เกิด

          ถ้าเด็กพวกนี้ได้รับรู้และนำไปปฏิบัติอาตมาเชื่อเหลือเกินว่าเด็กจะต้องไม่เกิดอาการขึ้นๆลง ๆ หวือๆ หวาๆแบบนั้น แต่จะเกิดอาการที่สงบนิ่ง สงบเสงี่ยมเข้ามาแทน รู้จักระมัดระวังตัว รู้จักยับยั้ง แล้วเบรกห้ามยั้งใจ เชื่อว่าผลดีจะเกิดกับสังคมไทยอย่างมหาศาล

          แต่ถ้าถามว่าตอนนี้มีเด็กเอาคำสอนของหลวงพ่อพุทธทาสไปใช้บ้างไหม ตอบเลยว่ามี เริ่มเห็นว่าเด็กบางคนเอาไปใช้ แล้วเขาก็บอกว่าชีวิตเขาสบายใจ กิเลสไม่สามารถไสหัวเขาเหมือนแต่ก่อนได้อีกแล้ว มีเด็กจำนวนมากเริ่มเอาคำสั่งสอนของหลวงพ่อพุทธทาสมาศึกษา ฟังจากซีดีบ้าง อ่านจากหนังสือบ้าง ซึ่งเด็กเหล่านี้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากสิ่งที่หลวงพ่อพุทธทาสให้ไว้แน่นอนถึงแม้ว่าจะยังไม่เห็นผลกันในตอนนี้ แต่ว่าผลที่จะตามมาจะทำให้สังคมอยู่ได้ต่อไปในระยะยาว

          หลวงพ่อพุทธทาสเคยประกาศว่า ท่านจะเป็นพ่อครัวที่คอยปรุงอาหารใจให้กับมนุษย์ ถึงแม้ในเวลานี้คนยังไม่หิว ยังไม่อยากกิน แต่จะปรุงไว้ก่อน นั่นเป็นเพราะผู้คนยังคงรื่นเริงบันเทิงใจกัน ยังเป็นเหยื่อของกิเลสอยู่ แต่เมื่อไรที่เขาต้องการหรือยามที่เขาท้อแท้ ธรรมะจะช่วยเขาได้ทันที เพราะท่านได้ปรุงไว้เรียบร้อยแล้ว

          หลายคนเมื่อลองฟังคำสอนของท่านก็จะอิ่มอกอิ่มใจ เปรียบเหมือนได้รับธรรมะที่ท่านปรุงไว้ ทำให้ชีวิตได้ปลาบปลื้มในความดีความงามกันขึ้นมาก แล้วคงจะได้เห็นภาพอันสดใสในเมืองไทยที่เกิดขึ้นต่อไป

          เจริญพร

--จบ--

          --โลกวันนี้วันสุข ฉบับวันที่ 2 - 8 มี.ค. 2556--
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มีนาคม 11, 2013, 03:40:12 am
คำสอนของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน

(http://upic.me/i/2t/0gov1.gif)

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มีนาคม 11, 2013, 03:43:00 am

โรคร้าย 8 ประการ มีความทุกข์ 4 ประการ

ในสมัยขงจื๊อ ยังมีนักปราชญ์คนหนึ่ง...ที่เหนือกว่าขงจื๊อ เขามีอาชีพประมง ชื่อ หยีฟู่

ขงจื๊อ นั่งดีดพิณร้องเพลง ระหว่างการท่องเที่ยวป่าดำ ชายชราคิ้วขาว หนวดขาวยาวย้อยต่ำ ผมขาวกระจายคลุมไหล่ สองมือยัดใส่แขนเสื้อ ขึ้นจากเรือเดินเข้ามา ได้ยินเสียงเพลงก็นั่งคุกเข่า มือเท้าคาง นั่งฟังอย่างตั้งใจ

เพลงจบ..พอรู้ว่าเป็นขงจื๊อ ผู้แสวงหาทางการเมือง หยีฟู่ก็หัวร่อ “ที่เขาเหนื่อยยากถึงปานนี้ ก็น่ายกย่อง แต่ถ้าเขาขืนทำเช่นนี้ต่อไป ก็น่ากลัวว่าเขาจะห่างไกลจากมรรคออกไปทุกวัน” แล้วก็เดินจากไป

เมื่อ ขงจื๊อทราบ ก็ผลักพิณไปข้างหนึ่ง บอกศิษย์ว่า “ชาวประมงนั้น เป็นคนมีสติปัญญาล้ำเลิศ” แล้วก็เดินตามไปทันหยีฟู่ ที่ริมทะเลสาบ ค้อมคำนับหยีฟู่ แล้วบอกว่า

“ถ้อยคำที่ท่านพูดสักครู่ ดูจะยังไม่จบ ข้าพเจ้าโง่เขลา ใคร่ขอฟังคำสอนจากท่านอีก”

“ท่านนับเป็นคนรักการศึกษา”....“ข้าพเจ้ารักการศึกษามาตั้งแต่เด็ก เวลานี้มีอายุ 69 ปีแล้ว”

“คนเรามีโรคร้าย 8 ประการ มีความทุกข์ 4 ประการ จะไม่สนใจมิได้” หยีฟู่กล่าว

-ทำในสิ่งที่ท่านไม่ควรทำ นี่เรียกว่า แส่เสื๐ก
-คนอื่นเขาไม่เชื่อในถ้อยคำของท่าน แต่ท่านก็พูดไม่รู้จบ นี่เรียกว่า เพ้อพล่าม
-เดาใจของผู้อื่น พูดในสิ่งที่ผู้อื่นเขาอยากจะฟัง นี่เรียกว่าประจบ
-ไม่รู้ดีชั่ว เออออ ตามคนอื่นเขา นี่เรียกว่าสอพลอ
-ชอบ นินทาความผิดของผู้อื่น นี่เรียกว่าใส่ไคล้
 -ทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น นี่เรียกว่ายุแยง
-ยกย่องคนชั่ว ขับไสคนที่เกลียดชัง นี่เรียกว่าเจ้าเล่ห์
-ไม่แยกดีชั่ว ทำดีกับสองฝ่าย เพื่อให้เขาชอบ นี่เรียกว่ากลิ้งกลอก


หยีฟู่สรุปว่า “โรคร้ายทั้ง 8 ประการนี้ ต่อภายนอกก็ก่อกวนคนอื่น ต่อภายในก็ทำร้ายตัวเอง  นี่เป็นสิ่งที่ผู้มีสติปัญญามิยอมชิดใกล้”


“ถ้าเช่นนั้น ที่ว่า ความทุกข์ 4 ประการ  นั้นเล่า คืออย่างไร” ขงจื๊อถามต่อ

หยี ฟู่กล่าว “

-คิดจะทำแต่เรื่องใหญ่ เพื่อหาชื่อเสียง นี่เรียกว่า มักใหญ่
-ทำเป็นอวดฉลาด ทำอะไรตามใจชอบ เอาแต่ความคิดเห็นของตนเอง ไม่คำนึงถึงการล่วงเกินผู้อื่น นี่เรียกว่า ถือดี
-มองเห็นความผิดของ ตน แต่ไม่ยอมแก้ไข ครั้นเมื่อได้ฟังคำตักเตือนของคนอื่น ก็กลับโมโหโกรธา นี่เรียกว่า ยโส
-ถ้าความเห็นนั้นตรงกับของตนก็ว่าถูก ถ้าความเห็นนั้นไม่ตรงกับคนอื่น แม้จะดีก็ว่าไม่ดี นี่เรียกว่า ทะนง
“คนคนหนึ่ง ถ้าหากมีความทุกข์ 4 ประการนี้แล้ว ก็ยากที่จะสนทนา”


ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  คอลัมน์ กิเลน ประลองเชิง
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มีนาคม 11, 2013, 12:46:35 pm
นิทานเซน : เณรจะไปไหน?

(http://www.stock2morrow.com/attachment.php?attachmentid=153890&d=1362926429)

ยังมีอารามเซนสองแห่งตั้งอยู่ใกล้กัน ยามที่เณรน้อยจากอารามหลังแรกจะเดินไปตลาดจะต้องผ่านอารามหลังที่สองซึ่งมีเณรน้อยอีกผู้หนึ่งที่มักจะออกมาล้อเลียนเป็นประจำ

วันหนึ่ง เณรน้อยจากอารามหลังที่หนึ่งออกเดินไปตลาดเหมือนเช่นเคย เณรจากอารามหลังที่สองจึงออกมาร้องถามว่า "ท่านจะไปไหน?"

"เท้าไปที่ใด เราก็ไปที่นั่น" เณรจากอารามหลังแรกตอบ

เมื่อได้ฟังคำตอบ เณรจากอารามหลังที่สองก็อับจนถ้อยคำ บ่ายวันนั้นเขาจึงกลับไปขอให้อาจารย์ของตนแนะนำ

หลังจากได้ฟังเรื่องราว อาจารย์จึงแนะว่า "วันรุ่งขึ้น หากเขาตอบเจ้าเช่นเดิม เจ้าก็จงถามกลับไปว่า 'หากไม่มีเท้า แล้วท่านจะไปไหนได้เล่า' รับรองว่าเณรผู้นั้นต้องหมดคำโต้ตอบแน่"

วันรุ่งขึ้น เณรจากอารามหลังที่สองจึงได้ไปดักรอที่เดิม เมื่อเณรจากอารามหลังที่หนึ่งเดินผ่านมา เขาจึงรีบเอ่ยถามว่า "วันนี้ท่านจะไปไหน?" จากนั้นเตรียมโต้ตอบด้วยคำที่อาจารย์เสี้ยมสอนมาอย่างดี

ปรากฏว่าเณรผู้ไปตลาดกลับตอบว่า "ลมไปที่ใด เราก็ไปที่นั้น"

ได้ยินดังนั้น เณรจากอารามหลังที่สองรู้สึกผิดคาด จึงไม่อาจตอบอะไรได้อีก ตกบ่ายได้แต่กลับไปขอคำชี้แนะจากอาจารย์เช่นเดิม

คราวนี้อาจารย์เริ่มไม่พอใจ ตำหนิศิษย์ว่า "เจ้าช่างโง่งมนัก เหตุใดไม่ถามกลับไปว่า 'แล้วถ้าไม่มีลมพัด ท่านจะไปที่ใด' แล้วถ้าคราวหน้าเณรผู้นั้นเปลี่ยนถ้อยคำเป็นเรื่องใด เจ้าก็จงใช้ถ้อยคำนั้นตอบกลับ เช่น 'น้ำไหลไปไหน เราก็ไปที่นั้น' เจ้าก็จงถามไปว่า 'ถ้าไม่มีน้ำ ท่านจะไปอย่างไร' เข้าใจหรือไม่?"

ได้ฟังคำสั่งสอนของอาจารย์ เณรน้อยจากอารามหลังที่สองยินดียิ่งนัก หมายมั่นปั้นมือว่าคราวหน้าต้องทำให้เณรจากอารามหลังแรกอับจนถ้อยคำให้จงได้

วันรุ่งขึ้น เมื่อเณรซื้อผักเดินผ่านมา เณรจากอารามหลังที่สองก็ร้องถามด้วยความกระหยิ่มใจว่า "วันนี้ เณรน้อยท่านจะไปที่ไหน?"

มิคาด เณรน้อยจากอารามหลังที่หนึ่ง ตอบกลับสั้นๆ ว่า "เราจะไปซื้อผักที่ตลาด" จากนั้นจึงเดินผ่านไป ทิ้งให้เณรจากอารามหลังที่สองยืนนิ่งอึ้งตะลึงงันกับคำตอบที่ไม่คาดคิดมาก่อน


ปัญญาเซน : ความเปลี่ยนแปลงคือไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ที่ไม่รู้จักพลิกแพลงมักอับจนด้วยปัญญา

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มีนาคม 26, 2013, 10:50:31 pm

บทแผ่เมตตา ประโยชน์ของการแผ่เมตตาที่พระพุทธเจ้ากล่า­วไว้มี 11 ประการได้แก่

• ทำให้หลับก็เป็นสุข
• ตื่นก็เป็นสุข
• ไม่ฝันร้าย
• เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
• เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย (ผีเปรต อสุรกาย วิญญาณต่างๆ)
• เทวดาทั้งหลายย่อมคุ้มครอง
• แคล้วคลาดจากภยันอันตราย
• จิตเป็นสมาธิได้ง่าย
• สีหน้าย่อมผ่องใส
• เมื่อจะตายใจก็สงบ (สู่สุคติภูมิ)
• ถ้ายังไม่บรรลุคุณธรรมพิเศษที่สูงกว่า ย่อมเข้าถึงชั้นพรหม

http://www.youtube.com/v/TBHlUCW3VTA
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ เมษายน 07, 2013, 01:14:00 am


สาระธรรมเพื่อมวลชน 2 (กิเลส ทำให้เราโง่ เรามืด เราบอด)

โดย หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
วัดชลประทานรังสฤษฏ์ นนทบุรี


https://www.youtube.com/v/2KlDIUZ-9mc

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ เมษายน 07, 2013, 01:18:49 am


สาระธรรมเพื่อมวลชน 16 (ทุกข์ สุข อยู่ที่)

โดย พระไพศาล วิสาโล
วัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ


https://www.youtube.com/v/ifxzDMiDESc&

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ เมษายน 07, 2013, 01:21:56 am



สาระธรรมเพื่อมวลชน 20 (ค่านิยมทางลัด)

โดย พระไพศาล วิสาโล
วัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ


https://www.youtube.com/v/g5bzbgEaq0k


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ เมษายน 09, 2013, 03:58:37 am
(http://image.ohozaa.com/i/98d/od5XO6.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 12, 2013, 02:56:40 pm
(http://www.dhammadelivery.com/images/webboard/webboard-topic14455.jpg)

หน้าที่ดีก็มีหน้าชูราศี หน้าตาดีแต่ขี้เกียจ คนเหยียดหยาม
หน้าที่นั้น สำคัญกว่า คนหน้างาม
หน้าตาดี หน้าที่ทราม ไม่งามเลย

หน้านอกบอกความงาม
หน้าในบอกความดี
หน้าที่บอกความสามารถ
หน้านอกแต่งแต่พอดี
หน้าในและหน้าที่แต่งให้มาก ๆ

หน้าที่ของมนุษย์ ต้องศึกษา
หน้าที่พ่อค้า ต้องรู้จักผลกำไร
หน้าที่ศิลปิน ต้องรู้จักศิลปะ
หน้าที่ของพระ ต้องรู้จักสอนมนุษย์
หน้าที่ชาวพุทธ ต้องรู้จักปฏิบัติ
หน้าที่ของผู้นำ ต้องรู้จักวินัย
หน้าที่ของผู้ใหญ่ ต้องรู้จักพรหมวิหาร
หน้าที่ของสมภาร ต้องรู้จักปกครอง
หน้าที่ของน้อง ต้องรู้จักเคารพพี่
หน้าที่ของคนดี ต้องรู้จักเว้นชั่ว
หน้าที่ของคนกล้า ต้องรู้จักความจริง
หน้าที่ของผู้หญิง ต้องรู้จักการเรือน
หน้าที่ของเพื่อน ต้องรู้จักเกรงใจ
หน้าที่ของคนใช้ ต้องรู้จักเจ้านาย
หน้าที่ของคนใกล้ตาย ต้องรู้จักพุทโธ
หน้าที่ของคนใกล้บวช ต้องรู้จักอุปัชฌาย์
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 10:48:43 pm


นรกตลอดเวลา

โดย หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ

"นี่ คนมันไม่รู้เรื่องนี้ มันอดทนทำงาน เหมือนกับตกนรกตลอดเวลาที่ทำงาน มันตกนรก
ตลอดเวลานะ เมื่อทำการงานอยู่มันก็ตกนรกด้วยการจำใจทำ เมื่อทำแล้วมันก็เอาเงินไป
ซื้อหาความเพลิดเพลินที่หลอกลวง ให้การเงินมันมีปัญหาหนักเข้าไปอีก มันก็ตกนรกชั้นลึกลงไปอีก"

https://www.youtube.com/v/6FXqroAz7gk

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 10:52:40 pm

รักษาศีลแบบงมงาย

โดย หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ

"บางคนก็รักษาศีลแบบค้ากำไรเกินควร มารักษาศีลอุโบสถสักวันหนึ่ง ก็หวังที่ว่าจะได้วิมานกันไม่รู้กี่หลังต่­อกี่หลัง รักษาศีลอย่างนี้ก็เป็นไสยศาสตร์ไปหมดแหละ ผู้ใหญ่บอกว่ารักษาศีลอย่างนี้ ๆ แล้วได้ไปสวรรค์ มันก็เชื่อมันก็ทำไปอย่างที่ไม่มีเหตุผล มันก็งมงาย"

https://www.youtube.com/v/O00ZN_p25Is
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 10:57:07 pm

หลักการพึ่งตนเอง 

คำสอนท่าน ป.อ.ปยุตโต

"เพราะว่าหลักเศรษฐกิจพอเพียงก็เป็นหลักพึ่­งตนเอง ที่ในหลวงพระราชทานไว้ แล้วก็หลัก
อะไรก็แล้วแต่ที่เราสอนกัน พระศาสนาก็มาตลอดเวลาให้พึ่งตน และเราก็ย้ำกันตลอด
เวลาว่าให้พึ่งตัวเอง แต่ว่า อย่าลืมว่าจะพึ่งตนนั้นต้องมีตนที่พึ่งได้ ทีนี้ จะมีตนที่พึ่งได้
ก็ต้องฝึกศึกษาพัฒนาตนนั้นขึ้นไป"

https://www.youtube.com/v/R9fb3rPq3Tc

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 11:00:26 pm

มนุษย์ประเสริฐได้ด้วยการฝึก

คำสอนท่าน ป.อ.ปยุตโต


"มนุษย์เป็นสัตว์ที่ประเสริฐด้วยการฝึก ถ้าไม่ฝึกหาประเสริฐไม่ มนุษย์ที่ไม่มีการฝึกเป็นสัตว์ที่แย่ที่สุ­ดกว่าสัตว์ใด ๆ ทั้งสิ้น อันนี้เป็นหลักพระศาสนา เพราะฉะนั้น จึงมีพุทธพจน์ว่า ทันโต เสฏโฐ มนุสเสสุ แปลว่า ในหมู่มนุษย์ผู้ที่ฝึกแล้วประเสริฐ"

https://www.youtube.com/v/Jrc8nNwlvfE
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กรกฎาคม 11, 2013, 01:49:01 pm
ว่าด้วยการเข้าใจให้ลึกซึ้งถึง Underlying

(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/p480x480/1044936_10151456204626557_2109164841_n.jpg)

----------------------

"► ท่านได้สอนเน้นถึงว่า คุณธรรมนั้นมีความสำคัญยิ่งนัก เช่นที่เราพากันกราบไหว้พระพุทธปฏิมากรนี้ มิใช่ว่าเราไหว้หรือนอบน้อมต่ออิฐ-ปูน-ทองเหลือง-ทองแดง-ทองคำ-หรือไม้-ดิน เพราะนั่นเป็นแต่เพียงวัตถุก่อสร้างธรรมดาอย่างหนึ่งเท่านั้น เมื่อเราจะกราบไหว้พระพุทธรูป เราต้องกราบไหว้คุณธรรม คือมาระลึกถึงว่า พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านตรัสรู้เองโดยชอบ เป็นผู้ไกลจากกิเลสเครื่องยั่วยวน ซึ่งถ้าไม่ไกลจากกิเลสแล้วเราก็ไม่ไหว้ เราไหว้เฉพาะท่านที่ห่างไกลจากกิเลสเท่านั้น อย่างนี้ชื่อว่า ไหว้พระองค์ท่านด้วยคุณธรรม จึงจะไม่ชื่อว่า ไหว้อิฐ-ปูน- ฯลฯ

► การไหว้พระธรรมซึ่งเป็นคุณธรรมที่มีอยู่ในพระพุทธองค์ก็เช่นกัน โดยกล่าวคำเป็นต้นว่า สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ธมฺมํ นมสฺสามิ-พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการกราบไหว้พระธรรมนั้น เพราะถ้าพระธรรม (คำสอน) ที่กล่าวแล้วไม่ดีและเมื่อพิจารณาเห็นประจักษ์แล้วว่าไม่มีเหตุผล เราก็ไม่ไหว้ไม่นอบน้อม ดังนั้นเราจึงไหว้แต่พระธรรมที่กล่าวดี มิฉะนั้นแล้วเราก็จะกราบถูกเพียงแต่ใบลาน คือใบไม้ เพราะไปเข้าใจว่า ใบไม้คือธรรม นี้ชื่อว่าไม่ถูกต้อง เราจะต้องกราบให้ถูกให้ตรงต่อคำสอน คือพระธรรมของพระพุทธองค์อย่างแท้จริง

► สำหรับพระสงฆ์อันเป็นสาวกผู้สืบพระศาสนาคือหลักธรรมของ พระพุทธเจ้าก็มีนัยเช่นเดียวกัน การที่เราให้ความเคารพกราบไหว้สักการะก็โดยมาระลึกถึงว่า ท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีการเป็นอยู่อย่างสงบ ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ใครๆ พร้อมกันนี้ท่านยังดำรงภาวะเป็นเนื้อนาบุญอันเอกอุของชาวโลก ดังนั้นเมื่อเราจะกราบไหว้เราก็กล่าวคำว่า สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สงฺฆํ นมามิ-พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ชื่อว่าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้านอบน้อมกราบไหว้พระสงฆ์นั้น ถ้าพระสงฆ์มีการปฏิบัติไม่ดีเราก็ไม่กราบ เรากราบผู้ที่ท่านปฏิบัติดี อย่างนี้ชื่อว่า กราบถูก มิฉะนั้นจะเป็นว่าเรากราบคนหรือธาตุ ๔ เท่านั้น ...

สรุปแล้วกราบไหว้ใด ๆ ก็ตามถ้าเรากราบโดยยึดเอาคุณธรรมเป็นที่คงเป็นหลักแล้ว เราจะไม่มีการกราบผิดเลยเพราะการกราบไหว้โดยท้าวความถึงคุณธรรมนั้นจึงจะชื่อว่าเป็นเหตุผล ..."

• "ท่าน" ที่กล่้าวถึงในต้นย่อหน้าแรก ก็ืคือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ใหญ่ของพระธรรมยุตสายกรรมฐาน ในยุคก่อนปีพ.ศ. 2500
• ผู้ที่กล่าวข้อความทั้งหมดข้างต้น ก็คืิอ ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งใน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงปู่มั่นฯ สมัยที่หลวงปู่มั่นฯ ไปจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในภาคเหนือช่วงปีพ.ศ. 2472 - 2484

ืั้ืั้ที่มา: "ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ ฉบับสมบูรณ์" โดยพระญาณวิริยาจารย์ http://bit.ly/18NdPIq (ปัจจุบันคือ พระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101)

------------------------------

เรื่องราวข้างต้น นอกจากจะช่วยให้เข้าใจว่า จริงๆ แล้วเรากราบไหว้พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ (ที่ถูกต้องดีงาม) ไปทำไม ... แล้วยังสามารถนำหลักการพิจารณาเรื่องต่างๆ ให้ลึกซึ้งถึง Underlying ไปประยุกค์กับเรื่องทางโลกและการลงทุนได้ด้วยเช่นกัน

ปล.
• "Underlying" หมายความถึง รากเหง้า เค้ามูล สิ่งที่เป็นหลักอ้างอิง
• ภาพจาก buylove24072539.blogspot.com/2012/10/blog-post.html

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กรกฎาคม 19, 2013, 02:12:09 am
(http://upic.me/i/ri/img_0002_new.jpg)

โยนิโสมนสิการ - วิธีคิดตามหลักพุทธธรรม

เรียบเรียงบางส่วนจาก - พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย
(เผยแพร่ เมษายน ๒๕๕๖)

ข้อมูลพัฒนาการ หนังสือเรื่อง วิธีคิดตามหลักพุทธธรรม เดิมเป็นเนื้อความส่วนหนึ่งในหนังสือ พุทธธรรม ฉบับปรับปรุงและขยายความ (คือ บทที่ ๑๘ บุพภาคของการศึกษา ๒: โยนิโสมนสิการ) ต่อมา เมื่อได้รับคำอาราธนาจาก ศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี จึงได้เขียนเนื้อหาส่วนที่เป็น “ความนำ” เพิ่มเข้าไป และแยกพิมพ์เป็นหนังสือเล่มเล็กต่างหาก พร้อมทั้งตั้งชื่อใหม่ให้เหมาะกับการใช้ประโยชน์
 
ล่าสุด เมื่อจัดพิมพ์ พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย โดยใช้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม พุทธธรรม ฉบับปรับปรุงและขยายความ นั้น ใน พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้ถือโอกาสปรับปรุง-เพิ่มเติมบ้างตามสมควร โดยเฉพาะบทที่ ๑๘ คือ โยนิโสมนสิการนี้ ได้นำเอา “ความนำ” ของเล่ม วิธีคิดตามหลักพุทธธรรม นั้นรวมเข้าไป


คลิ๊กเพื่อดาวน์โหลด =>  http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/yonisomanasikara_thinking_in_ways_of_buddhadhamma.pdf

ที่มา:
http://www.namjaidham.net/forum/index.php?topic=1121.0
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ตุลาคม 13, 2013, 05:47:17 am

หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง .......จังหวัดอุบลราชธานี.

(http://image.ohozaa.com/i/772/2U1evp.jpg)


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ตุลาคม 15, 2013, 01:03:53 pm
ไม่แน่

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา
ภาพประกอบจาก : National Geographic และอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต

http://www.youtube.com/v/GJ1ThKeKTuw



หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ตุลาคม 16, 2013, 02:06:35 pm
ชีวิตคืออะไร 

 ท่านพุทธทาสภิกขุ




http://www.youtube.com/v/fJkcWwNKPa0


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ตุลาคม 29, 2013, 10:46:54 pm


 


http://www.youtube.com/v/PAUONGne5ag


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤศจิกายน 04, 2013, 11:49:41 pm

การฝึกใจ : หลวงพ่อชา สุภัทโท

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/DvtxWZs95vo
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 14, 2014, 09:46:24 pm


ทางสายกลาง : หลวงพ่อชา สุภัทโท

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/oJKkCVfEdzA

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 17, 2014, 10:39:43 pm


ทางพ้นทุกข์  : หลวงพ่อชา สุภัทโท

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/hXwvi0ecwTQ

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 21, 2014, 10:45:57 pm


สองหน้าของสัจจธรรม: หลวงพ่อชา สุภัทโท

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/nosubyg_Nqk


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 24, 2014, 12:24:45 pm

บ้านที่แท้จริง : หลวงพ่อชา สุภัทโท

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/Q3f12dQQcys

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 24, 2014, 10:00:17 pm

อยู่เพื่ออะไรและธรรมะปฏิสันถาร 

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา

http://www.youtube.com/v/HrHuruy6dcU


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 26, 2014, 12:07:19 am


วิมุตติ 

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา

http://www.youtube.com/v/R44FQdN4Jp4


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 28, 2014, 12:08:11 am

ปฏิบัติกันเถิดและสัมมาทิฏฐิฯ 

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา

http://www.youtube.com/v/RszGQjpdwss



หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 28, 2014, 11:02:37 pm

นอกเหตุเหนือผล 

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา

http://www.youtube.com/v/IHGo9HOkjtA




หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 30, 2014, 01:09:15 am

อ่านใจธรรมชาติ 

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา

http://www.youtube.com/v/HMdwhJyNQwM




หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 31, 2014, 11:48:43 pm


ธรรมหยั่งรู้ยาก

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา

http://www.youtube.com/v/_udL82OAYeM


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2014, 08:42:17 pm

วิธีฝึกจิตให้เกิดปัญญา 

 เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง


ให้เสียงโดย ธรรมสภา

http://www.youtube.com/v/gTsHxA9goOc


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2014, 12:16:24 pm
โอวาทปาฏิโมกข์ ตอนที่ ๑
http://www.youtube.com/v/WpyzaKC-hxg

โอวาทปาฏิโมกข์ ตอนที่ ๒.
http://www.youtube.com/v/cW5Dz7Q3qfI
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2014, 12:15:19 am
(http://image.ohozaa.com/i/af5/IrJ9pG.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:24:01 pm

ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมนฺติ

สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นดับ


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2014, 06:50:43 pm
(http://image.ohozaa.com/i/6f3/coFTRS.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2014, 06:54:13 pm
(http://image.ohozaa.com/i/g32/qS9Dul.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2014, 06:57:01 pm
(http://image.ohozaa.com/i/0c4/6WBjBg.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2014, 07:06:41 pm

โลกนี้คนทุกคนเท่ากันไม่ได้ มันต้องมีคนมั่งมี
ต้องมีคนยากจน มีคนโง่ มีคนฉลาด มีคนแข็งแรง
มีคนอ่อนแอ เราจะปรับให้มันเท่ากันไม่ได้หรอก
แต่ว่าเราปรับทางจิตใจกันได้ ปรับจิตใจให้โอนอ่อนเข้าหากัน
ผ่อนสั้นผ่อนยาวเข้าหากัน ไม่อยู่กันด้วยน้ำใจเหี้ยมเกรียม

-หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ-



หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: ars ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2014, 10:26:06 pm
สาธุ... smileyy
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2014, 04:23:52 am
สาธุ... smileyy

(http://image.ohozaa.com/i/4ee/tEigf8.gif)

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ เมษายน 16, 2014, 05:19:52 pm

พุทธวจน - การตาย กรรม นิพพาน ฯลฯ 

http://www.youtube.com/v/Z3aNYBvJpto

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ เมษายน 22, 2014, 02:36:43 pm
(http://image.ohozaa.com/i/4f9/9sfwt4.JPG)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ เมษายน 26, 2014, 01:21:05 am

ท่าน ป.อ.ปยุตฺโต - ไม่ลบหลู่ แต่ต้องเข้าใจ  

http://www.youtube.com/v/E2Kc6dgtTa8

หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 05:49:07 pm
(http://image.ohozaa.com/i/f0a/X7DXGV.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 16, 2014, 12:18:36 am
(http://f.ptcdn.info/985/007/000/1375540692-9704834049-o.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ พฤษภาคม 20, 2014, 05:46:50 am
(http://wiratr.files.wordpress.com/2012/09/lokatham8.jpg?w=640&h=480)

http://wiratr.wordpress.com/2012/09/27/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B9%98/
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ สิงหาคม 26, 2014, 02:27:43 am
ไม่ตามไม่ต้าน-พระไพศาล วิสาโล 

https://www.youtube.com/watch?v=lXtgs2Wvk30


หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กันยายน 01, 2014, 02:34:33 pm
กินเนื้อสัตว์บาปหรือไม่ ?

ที่มา:
http://www.dhammathai.org/webboard/dbview.php?No=437
 
ปัญหา มีพุทธศาสนิกชนบางพวกเห็นว่า การกินเนื้อสัตว์เป็นบาปเพราะเป็นการส่งเสริมให้คนอื่นฆ่า ในเรื่องนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่าไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็น เนื้อที่ตนได้ยิน เนื้อที่ตนรังเกียจ ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของควรบริโภค ด้วยเหตุ ๓ ประการคือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็น เนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล.....”

ชีวกสูตร ม. ม. (๕๗)
ตบ. ๑๓ : ๔๘-๔๙ ตท.๑๓ : ๑๓ : ๔๗
ตอ. Mls. Ii : ๓๓

1. เนื้อที่ได้ยิน เช่น ได้ยินชาวบ้านเขา สนทนากันว่าจะมีการฆ่า หมูตัวนั้นตัวนี้ เพื่อถวายพระคุณเจ้า เป็นต้น...แบบนี้ห้ามรับประเคน
2. เนื้อที่ได้เห็น เช่น เห็นไก่วิ่งเล่นอยู่ สักครู่เดียวได้ยินเสียงมันร้องด้วยความเจ็บปวด สักครู่กลายเป็นต้มยำไก่ มาถวาย...แบบนี้ก็รู้อยู่แล้วเพราะเมื่อกี๊ก็เห็นมันอยู่ แต่ก็ตายเพื่อมาเป็นอาหารแก่ตนโดยเฉพาะ...ห้ามรับประเคน
3. เนื้อที่ตนรังเกียจ ก็คือ เนื้อที่ตนเองรังเกียจด้วยเหตุแห่ง 2 มูลเหตุ ใน 2 ข้อแรก

การกินเจ (ตั้งใจไม่กินเนื้อสัตว์) จริงๆไม่ได้บุญครับ

อธิบายคือ---เราไม่กินข้าวขาหมู แล้วคิด(จิตนาการ)ว่า หมูจะไม่ถูกฆ่า---
เปรียบได้กับ---เรานั่งอยู่บ้านเฉยๆ แล้วคิด(จิตนาการ)ว่า เราไปช่วยสอนหนังสือคนอนาถา---

บุญที่เราไปสอนหนังสือคนอนาถานั้น ไม่มี ไม่เกิด เพราะเรา นึกๆคิดๆไปเองไม่ได้ทำ ไม่ได้กระทำจริง
กินเจ บุญที่เราช่วยชีวิตสัตว์ (มี2ข้อคือ 1.ช่วยมัน 2.ไม่ทำร้ายมัน) ก็ไม่เกิด เพราะเราไม่ได้ลงมือกระทำจริง เป็นเพียงคิดไปเอง

พระเทวทัตเคย มาเสนอให้ชาวพุทธไม่กินเนื้อสัตว์
พระพุทธเจ้าปฎิเสธ พร้อมให้เหตุผลว่า
1.เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของเหม็น อกุศลกรรมต่างหากที่เป็นของเหม็น
2.พระต้อง ควรเป็นผู้เลี้ยงง่าย
3.อนุญาตในการกินเนื้อสัตว์ที่ -ไม่เห็น -ไม่รู้ -ไม่ใช่เนื้อที่ฆ่าโดยเฉพาะให้ตน
4.อาหารเป็นแค่ของเลี้ยงกายไม่ให้ตาย อย่าสนใจมาก


การรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นบุญหรือไม่

การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำอะไร เป็นบุญหรือไม่เป็นบุญนั้น ต้องอาศัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วย บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง คือ
๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานต่างๆ
๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม
๑๐.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความคิดเห็นของตนให้ตรง
เมื่อเทียบเคียงกับบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ วิธี แล้ว ไม่พบว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติ คือ รับประทานแต่พืชผักเป็นวิธีทำบุญข้อใดเลย จึงไม่นับว่าเป็นวิธีทำบุญในพระพุทธศาสนา
ลองคิดดูว่าถ้าการกินพืช เช่น ผัก หญ้า ได้บุญ แล้วสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ก็ต้องได้บุญมากกว่ามนุษย์ เพราะสัตว์พวกนี้กินพืชตลอดชีวิตไม่กินเนื้อสัตว์เลย

การกินเนื้อสัตว์ บาป หรือ ไม่ ?
การที่จะวินิจฉัยว่าบาปหรือไม่บาปนั้น ต้องพิจารณาว่า การกินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นการผิดศีลข้อปาณาติบาต หรือไม่ ศีลข้อปาณาติบาต คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ
๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
๔. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า
๕. เตน มรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง ๕ ข้อ จึงถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อที่ ๑ เป็นบาป แต่ถ้าไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่ได้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ตัวอย่าง เราไปจ่ายตลาด ซื้อกุ้งแห้ง ปลาดุกย่าง ปลาทู เนื้อหมู ฯลฯ เราได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์เหล่านั้นหรือไม่ สัตว์เหล่านั้นย่อมตายก่อนที่เราจะไปซื้อมาเป็นอาหาร ถึงเราจะซื้อหรือไม่ซื้อ สัตว์เหล่านั้นก็ตายอยู่แล้ว เราไม่ได้มีส่วนทำให้ตาย

มีพุทธภาษิตบทหนึ่งว่า
“นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต”
“บาป ไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ”

การกินผักก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์ทางอ้อมไปด้วยเช่นกัน เพราะต้องไถดิน ใส่ปุ๋ย ใช้ยากำจัดแมลง อาจทำให้แมลงต่างๆ ไส้เดือนตายได้...ถ้าแบบนี้บาปก็คงไม่ต้องทำสัมมาอาชีพกันเลย...

หลวงปู่แหวนท่านบอกว่า

"ไอ้วัวควายกินหญู้าตั้งนาน ไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว"

ที่มา:
http://www.dhammathai.org/webboard/dbview.php?No=437
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กันยายน 05, 2014, 09:26:14 pm
.
พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต บรรยายธรรม ม.พะเยา Part 1/2

https://www.youtube.com/watch?v=qZtVbD_94Iw

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต บรรยายธรรม ม.พะเยา Part 2/2

https://www.youtube.com/watch?v=UK8gCy83QSQ
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กันยายน 29, 2014, 01:41:58 am
โคลงโลกนิติ

                 ฝูงหงส์หลงเข้าสู่           ฝูงกา

    สีหราชเคียงโคคลา                    คลาดเคล้า

    ม้าต้นระคนลา                            เลวชาติ

    นักปราชญ์พาลพาเต้า                สี่นี้ไฉนงาม



http://www.youtube.com/v/pgyIUP8zM5w
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ตุลาคม 23, 2014, 02:36:50 pm
(http://image.ohozaa.com/i/62c/pJreps.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 07, 2015, 10:46:18 am
เหตุแห่งความสุขที่แท้จริง

http://www.youtube.com/v/cN7e_pzxUUs


หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 07, 2015, 10:02:05 pm
(http://image.ohozaa.com/i/763/dsTLDh.jpg)
หัวข้อ: Re: *_* ....................ธรรมะ.............ก่อให้เกิดปัญญา............
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 11, 2015, 02:42:56 am

ปีใหม่ต้อนรับหรือท้าทาย - พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

http://www.youtube.com/v/gFakibESa0A


หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ มกราคม 29, 2015, 09:23:04 pm

เทศนาจากพระอ.อลงกรณ์

•   สิ่งที่มีของเราเป็นเรื่องสมมติ เราต่างมีกิเลส ถ้าสละไม่ได้ทั้งหมดก็สละบางส่วน
•   บางคนทำบุญไม่ได้บุญ เพราะทำเอาหน้า ทำตามคนอื่น เงื่อนไขในการทำบุญทำทานคือการสละสิ่งที่เรามีให้ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ สิ่งที่สละออกไปไม่ใช่ของเรา เมื่อออกจากใจเราแล้วก็จะเบาสบายขึ้น ยิ่งให้ก็จะยิ่งได้รับความสุข
•   สมองเรามีอายุจำกัด ต้องเสื่อม ต่อไปก็จะรู้สึกว่าทำงานช้าลง หลงลืม ถ้าคิดมากแล้วเครียด วิตก ไม่มีความสุข ทั้งที่มีเงินมาก บางคนก็หยุดคิดไม่ได้ นอนหลับยังเห็นตัวเลข หลวงพ่อไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ เพราะมีสติรู้เท่าทัน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสภาวะของการปรุงแต่ง ถ้ารู้แบบนี้ก็จะไม่ฟุ้งซ่าน ถ้าอยู่กับปัจจุบันได้ก็จะยิ้มได้ มีความสุขได้ ถ้ายิ่งคิดแล้วเป็นทุกข์ ก็เหมือนการทำร้ายตัวเอง สุดท้ายก็เจ็บป่วย
•   ความสุขของชีวิตก็ได้มาจากหลายกิจกรรม รวมๆแล้วมาจากความคิด -> คิดดี พูดดี ทำดี ก็จะมีความสุข (หลวงพ่อแถมให้พวกเราว่าและมีสตางค์ด้วย)
•   คนเราเอาแน่นอนไม่ได้ อะไรคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความมั่นคง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์คือความไม่เที่ยงแท้ เหมือนหุ้นเราถ้าขึ้นแรงๆใจก็ฟู ถ้าหุ้นลงดิ่งมากเกินไปไม่ทันตั้งตัวก็เจ็บมาก เวลาขึ้นก็อย่ายินดีจนหลงระเริงประมาทไป ชีวิตมี 2 ด้าน ใครที่จะรักษาชีวิตให้เสมอต้นเสมอปลายไว้ได้ก็จะดี แต่ยาก
•   สิ่งที่ทำให้ชีวิตอยู่ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย คือการวางตัว ซึ่งเริ่มจากความคิด
•   สุดท้ายแล้วคนเราก็ไม่ได้เอาอะไรไป มีมากไปก็ไม่ใช่จะดี มีน้อยไปก็ไม่มีความสุข ความสุขแท้จริงอยู่ที่ใจไม่ใช่ทรัพย์สินที่มี คนฉลาดต้องหาวิธีดูแลจิตใจตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ
•   ขอฝากข้อคิดให้เราทั้ง 2 ด้าน ทั้งการสร้างสมบัติมนุษย์ และสร้างอริยทรัพย์ ซึ่งการสร้างทานอย่างหนึ่งในภายภาคหน้า

ที่มา:
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=58514

พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ - กุมภาพันธ์ 2558

https://www.youtube.com/v/cr4jD-db-fU

หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้เอก มิวสิค ที่ มกราคม 29, 2015, 09:59:17 pm
อนุโมทนาสาธุครับ ของดีดีทั้งนั้นเลย
หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2015, 01:19:03 am

ธรรมที่หยั่งรู้ยาก

เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง
ให้เสียงโดย ธรรมสภา

https://www.youtube.com/v/7jPlJSox94Y

หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ กันยายน 16, 2015, 10:40:34 am
(http://www.uppic.org/image-89CC_55F8E453.jpg)
หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ตุลาคม 09, 2015, 11:17:04 am

8 ข้อปฏิบัติเพื่อฝึกหาความสุข

1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้ หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่าเป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดา อย่าเป็นคนสำคัญ เวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา อย่าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป

2. ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม หมายความว่า การสะสมอะไรสักอย่างนั้นเป็นภาระ ไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดี นอกนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย

3. ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ หมายความว่า อย่าไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริง มีแต่คนโง่เท่านั้นที่มองว่า ความสมบูรณ์แบบมีจริง

4. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ หมายความว่า ถ้าอะไรไม่ดีก็อย่าไปพูดมากไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด แต่ถ้ามันไม่ดี เป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูด เพราะการพูด หรือวิจารณ์ในทางเสียหายนั้น มีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำ และขุ่นมัว

5. ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอ หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไป เวลามีความทุกข์ ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไป เวลามีสถานการณ์แย่ๆ เกิดขึ้น ก็ให้รู้ทันว่า เรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้อยู่กับเราจนวันตาย

6. ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทาแน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า "เรามาถูกทางแล้ว" แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลก คนที่ชอบเต้นแร้งเต้นกา กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลก แม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูก คนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่ นับประสาอะไรกับคนอื่น ถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่นได้เมื่อไหร่ ค่อยมาคิดว่า เราจะไม่ถูกนินทา

7. ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รถยนต์ใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน นาฬิกาใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้ ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อน เมื่อรู้จักพอแล้ว ก็ไม่ต้องหาเงินมาก เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน

8. ฝึกให้ตัวเองเสียสละ และยอมเสียเปรียบ หมายความว่า การที่คนๆ หนึ่งยอมเสียเปรียบผู้อื่นบ้าง เป็นเรื่องจำเป็น ใครก็ตามที่บ้าความถูกต้อง บ้าเหตุบ้าผล ไม่ยอมเสียเปรียบอะไรเลย ไม่ช้า คนๆ นั้นก็จะเป็นบ้าสติแตก กลายเป็นคนที่ถูกทุกอย่างแต่ไม่มีความสุข เพราะต้องสู้รบกับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่น

เครดิต ShineStock ครับ
หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ธันวาคม 23, 2015, 10:19:24 pm

🔹🔹 มองไม่เป็น เห็นแต่ทุกข์🔹🔹

มาถึงนาทีนี้แทบไม่มีคนไทยคนใดที่ไม่รู้จัก “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยิ่งแฟนบอลด้วยแล้ว ย่อมรู้ว่าก่อนที่เขาจะเป็นโค้ชปั้นทีมไทยให้กลับมาเป็นหนึ่งในอาเซียนนั้น ซิโก้เป็นนักเตะฝีมือดีระดับซูเปอร์สตาร์ที่คว้าชัยชนะครั้งสำคัญให้แก่ทีมไทยมานักต่อนักแล้ว ต่อเมื่ออิ่มตัวแล้วเขาจึงเบนเข็มไปเป็นนักเตะอาชีพในต่างประเทศ

ราว ๆ ๑๔ ปีก่อนเขากลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อเซ็นสัญญาไปค้าแข่งในอังกฤษ เช่นเดียวกับนักเตะชาวไทยทุกคน เขาใฝ่ฝันมานานแล้วที่จะได้ลงสนามในนามสโมสรอังกฤษ และมีส่วนสร้างสีสันให้แก่ลีกฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดในโลก ความฝันของเขาใกล้จะเป็นจริงแล้ว แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้เล่นเป็นตัวจริงเสียที ได้แต่นั่งอยู่ข้างสนามในฐานะตัวสำรองนัดแล้วนัดเล่า
เขารู้สึกผิดหวังมาก เครียดหนัก รู้สึกด้อยค่า เสียเวลาเปล่า ใช้เวลานานกว่าจะทำใจได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นอีก วันนี้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป “จริง ๆ มันไม่มีอะไรเลย” เขาเคยให้สัมภาษณ์กับวรพจน์ พันธุ์พงศ์ แต่ตอนนั้นเขาทุกข์จนทุรนทุรายก็เพราะ “เราไปคิดมากเอง คิดผิด ๆ”

เมื่อหันกลับมามองใหม่ เขาพบว่าการไปอังกฤษครั้งนั้นไม่ใช่ความล้มเหลวเลย “ไปอังกฤษมีแต่ได้กับได้ ได้บ้าน ได้รถ ได้ภาษา ได้พัฒนาร่างกาย ได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ได้รู้จักคนมากมาย ได้เดินทาง ได้สัมผัสลีกฟุตบอลที่มีสีสันมากที่สุดในโลก เสียแค่ไม่ได้ลงเล่น”
เขาสรุปว่าที่เขาทุกข์นั้นเป็นเพราะ “เรามองไม่ออก มองไม่เห็น”

อะไรทำให้ซิโก้มองไม่เห็นว่าเขาได้อะไรมากมายจากอังกฤษ ใช่หรือไม่ว่าเป็นเพราะเขาหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเดียว นั่นคือ การไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ทั้ง ๆ ที่นั่นเป็นข้อเสียอย่างเดียวของการไปอังกฤษ แต่เมื่อจดจ่ออยู่กับมัน ก็ทำให้ไม่รับรู้สิ่งดี ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

บ่อยครั้งมีสิ่งดี ๆ มากมายผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา แต่เรามองไม่เห็น เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่ถูกใจเรา หลายคนมีอะไรต่ออะไรมากมาย เช่น เงินทอง สุขภาพ คนรัก ความสำเร็จ แต่แทนที่จะเป็นสุข กลับทุกข์เพราะมองเห็นแต่สิ่งที่ตนยังไม่มีหรือเพิ่งเสียไป เช่น ไอโฟนรุ่นใหม่ กระเป๋าหรูเรือนแสน หรือเงินที่ถูกโกงไป

หญิงสาวจำนวนไม่น้อยมีทุกอย่างเท่าที่คน ๆ หนึ่งพึงจะมี แต่กลับมองไม่เห็นว่าตนโชคดีเพียงใด เพราะใจหมกมุ่นอยู่กับสิวไม่กี่เม็ดบนใบหน้า

หลายคนเสียเวลาหลายวันและเงินเป็นแสนเพื่อไปไกลถึงน้ำตาไนแอการ่า แต่ใจไม่อาจซึมซับความงามของทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้าได้เลย เพียงเพราะมัวหงุดหงิดอยู่กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ส่งเสียงดังอยู่ใกล้ ๆ

คนเราส่วนใหญ่ทุกข์ก็เพราะความคิดหรือมุมมอง ถ้ามองไม่เป็น เห็นแต่ข้อเสียหรือข้อผิดพลาด ถึงจะได้โชคลาภมากมายเพียงใด ใจก็มีแต่ความหงุดหงิดขึ้งเครียด
ความสุขนั้นบ่อยครั้งมารออยู่ข้างหน้าแล้ว แต่ผู้คนกลับปล่อยให้มันผ่านเลยไป เพราะมัวจดจ่ออยู่กับจุดเล็ก ๆ ที่เป็นลบแค่ไม่กี่จุดเท่านั้น หากมองข้ามมันไปบ้าง ความสุขก็จะมานั่งในใจเราทันที

พระไพศาล วิสาโล

หัวข้อ: Re: ธรรมะ....ก่อให้เกิดปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: www.STS-AUDIO.com ที่ ธันวาคม 04, 2019, 10:16:54 pm
(https://f.ptcdn.info/167/067/000/q1zug1nfry01ZAAVfJD-o.jpg)