Tigger Sound
ห้องสมุด คลังความรู้ต่างๆ ในแวดวงเครื่องเสียง
=> ห้องสมุด ทิกเกอร์ซาวด์ เครื่องเสียง ตู้ลำโพง ระบบเสียง แสงสี และอุปกรณ์อื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Jenpinjai ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 10:00:31 am
-
ผมขอแชร์ นะครับ เผื่อ ใครจะลองทำบ้าง จากประสบการณ์ มือกลอง อันน้อยนิดของผม
อันดับแรก ไปดู หนัง กลองกระเดื่อง ฝั่งที่ใช้เท้าเหยียบ ว่า มันตึงหรือไม่ ถ้าหากมันตึง
ให้ไปปรับใหม่ครับ คือ ปรับให้มัน ยานโครตๆๆ ย้ำ ยานโครตๆ
ต่อมา ไปดูหนังกระเดื่อง ฝั่ง หน้า(ตรงที่ลมออก) ควรปรับให้ ตึง พอประมาณ ไม่ตึงมากจนเกินไป
ถ้าหาก กระเดื่อง ไม่มี ผ้าซับข้างใน ก็ควรหามาใส่ พอประมาณ 1 ใน 3 ครับ
การจ่อไมค์ จ่อตรงหน้าห่างท่อลมประมาณคืบ และ ผม จ่อ ตรงที่ มีลม ออก มาแรงที่สุด (การเอาไมค์ เข้าไปในกระเดื่อง ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ดังกว่านะครับ ซ้ำยิ่งทำให้ มันหอน เพราะในตัวกลองกระเดื่อง มีการสะท้อนของเสียงมาก) ถ้าใช้ไมค์ตัวเดียว ที่จ่อฝั่งหน้า ปรับ hi mid low เท่ากันครับ ไม่ควร ปรับ เสียง Hi กับ Mid เบา เราะ จะไม่เกิด มิติของ กระ เดื่อง จะทำให้ กระเดื่องมี แต่ เสียงทื่อ ไม่ สมประกอบ และไม่เป็นเม็ด ครับ ใครว่า กระเดื่อง mix แต่เสียง Low ผิดครับ มิกซ์ เสียง Hi-mid ด้วยครับ
มันต้อง มีเสียง การกระแทก หนัง กระเดื่อง จะออก มาเป็นเม็ด ที่ ชัด แจ้ง
ถ้าเกิดใช้ไมค์ สองตัว ตัวแรก อยุ่ ฝั่งหน้า ตัวหลัง อยู่ฝั่ง หลัง
ตัวแรก มิกซ์ เสียง ต่ำ ตัวหลัง มิกซ์ เสียงแหลม ยิ่ง ง่ายครับ
ผิด อันไหนก็ ขอ อภัยด้วยครับ
-
เยี่ยมมาก
-
ขอบคุณครับ
-
โอ้จอร์จ นายยอดมาก
-
อันนี้ล่ะเป๊ะเลยครับ แล้วแต่ คุณภาพของไมค์ด้วยครับสำคัญมากครับ
-
เรื่อง กระเดื่องกระแทก กระเดื่อง นุ่ม ก็ปรับเอาตามใจชอบเลยครับ ผ่าน CrossOver ยิ่งดีมากเลยครับ (เฉพาะเสียงต่ำ แต่ เสียงแหลม ไม่ต้องผ่านครอสก็ได้ัมั้งครับ)
-
ถูกต้องครับ
-
เยี่ยมเลยครับ smiley4 smiley4
-
ผมขอแชร์ นะครับ เผื่อ ใครจะลองทำบ้าง จากประสบการณ์ มือกลอง อันน้อยนิดของผม
อันดับแรก ไปดู หนัง กลองกระเดื่อง ฝั่งที่ใช้เท้าเหยียบ ว่า มันตึงหรือไม่ ถ้าหากมันตึง
ให้ไปปรับใหม่ครับ คือ ปรับให้มัน ยานโครตๆๆ ย้ำ ยานโครตๆ
ต่อมา ไปดูหนังกระเดื่อง ฝั่ง หน้า(ตรงที่ลมออก) ควรปรับให้ ตึง พอประมาณ ไม่ตึงมากจนเกินไป
ถ้าหาก กระเดื่อง ไม่มี ผ้าซับข้างใน ก็ควรหามาใส่ พอประมาณ 1 ใน 3 ครับ
การจ่อไมค์ จ่อตรงหน้าห่างท่อลมประมาณคืบ และ ผม จ่อ ตรงที่ มีลม ออก มาแรงที่สุด (การเอาไมค์ เข้าไปในกระเดื่อง ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ดังกว่านะครับ ซ้ำยิ่งทำให้ มันหอน เพราะในตัวกลองกระเดื่อง มีการสะท้อนของเสียงมาก) ถ้าใช้ไมค์ตัวเดียว ที่จ่อฝั่งหน้า ปรับ hi mid low เท่ากันครับ ไม่ควร ปรับ เสียง Hi กับ Mid เบา เราะ จะไม่เกิด มิติของ กระ เดื่อง จะทำให้ กระเดื่องมี แต่ เสียงทื่อ ไม่ สมประกอบ และไม่เป็นเม็ด ครับ ใครว่า กระเดื่อง mix แต่เสียง Low ผิดครับ มิกซ์ เสียง Hi-mid ด้วยครับ
มันต้อง มีเสียง การกระแทก หนัง กระเดื่อง จะออก มาเป็นเม็ด ที่ ชัด แจ้ง
ถ้าเกิดใช้ไมค์ สองตัว ตัวแรก อยุ่ ฝั่งหน้า ตัวหลัง อยู่ฝั่ง หลัง
ตัวแรก มิกซ์ เสียง ต่ำ ตัวหลัง มิกซ์ เสียงแหลม ยิ่ง ง่ายครับ
ผิด อันไหนก็ ขอ อภัยด้วยครับ
พอจะมีภาพการจ่อไมค์ทั้ง 2 ตัว ให้ไหมครับ *ตัวหน้า **ตัวหลัง จ่อยังไง brow
-
แบบที่น้องเขาร่ายมาให้อ่าน ถูกต้องแล้วครับ หนังหลังหย่อนสุดๆ แผละๆ เลย หนังหน้าตึงพอประมาณ ถ้าตึงมากไป เสียงก็จะสูงขึ้น เกิด เรโซแน๊นซ์ ก้องตามอีก...ซับอย่าให้มีเสียงสะท้อน จะมิกซ์ง่าย ช่องลมกระเดื่อง น้องเขาบอกถูกต้อง ตรงช่อง ลมจะแรงที่สุด หมายถึงเสียงจะพุ่งออกมา ได้มากที่สุดเช่นกัน ไมค้กระเดื่องก็วางตำแหน่งนี้......
กลองสะแนร์ ก็เคยลองใช้ไมค์ 2 ตัวล่างบน เช่นเดียวกัน
เมื่อก่อน ALESIS D4เข้ามาใหม่ๆ น่าจะปี2530-35 เคยใช้ระยะหนึ่ง
ตั้งแต่นั้นมาเลิกใช้ เพราะน้ำหนัก มันไม่ได้ ..ไม่ธรรมชาติ เลยพยายาม หาวิดีโอมือกลอง ต่างประเทศ มาศึกษา ... ถามรุ่นพี่ ถามอาจารย์ ช่วยแนะนำ ครับ
***** เท่าที่เจอมา มือกลอง มักตั้งหนังกลองกระเดื่องตึง หรือเกือบตึง..เวลาเหยียบกระเดื่องนานๆ มันจะเมื่อย ข้อเท้าและขา มาก
******เคยเจอเคสนึง บอกว่า ผมเอากลองมาเองครับพี่ พี่ช่วยมิกซ์ ให้ผมด้วยนะครับ วัยรุ่น....อยากโชว์ของแพง
ติดตั้งเรียบร้อย ก็ลองเสียงกัน บอกให้น้องเขา ลดความตึงของหนังกลองใบหลัง ลงมาๆๆๆ แต่ดูเหมือนเขาจะ ไม่ทำตามที่บอก เลยบอกว่า งั้นพี่ไม่เอากลองออก PA นะ เพราะ มิกซ์ไม่ได้ หมอนหรือผ้าห่มซักผืน จะซับเสียงก็ไม่มี
ดูเขาไม่พอใจ ที่เรา ให้หย่อนหนังกลองลง สักพัก เขาบอกว่า พี่สไตล์ของวงผมเป็นแบบนี้ครับ ..
ก็เลย งงกับสไตล์ของเขา
กลองใหญ่ เสียงก้อง เหมือนกลอง เพล เหยียบที มือเบสสะดุ้ง เบสแทบไม่ต้องดีด เพราะมันกลบเสียงเบสหมดเลย เลยปล่อยเลยตามเลย วงนี้มีไอเดียแปลกๆดี
-
http://www.youtube.com/v/z0rVntds_oY?hl=th_TH&version=3
-
แบบที่น้องเขาร่ายมาให้อ่าน ถูกต้องแล้วครับ หนังหลังหย่อนสุดๆ แผละๆ เลย หนังหน้าตึงพอประมาณ ถ้าตึงมากไป เสียงก็จะสูงขึ้น เกิด เรโซแน๊นซ์ ก้องตามอีก...ซับอย่าให้มีเสียงสะท้อน จะมิกซ์ง่าย ช่องลมกระเดื่อง น้องเขาบอกถูกต้อง ตรงช่อง ลมจะแรงที่สุด หมายถึงเสียงจะพุ่งออกมา ได้มากที่สุดเช่นกัน ไมค้กระเดื่องก็วางตำแหน่งนี้......
กลองสะแนร์ ก็เคยลองใช้ไมค์ 2 ตัวล่างบน เช่นเดียวกัน
เมื่อก่อน ALESIS D4เข้ามาใหม่ๆ น่าจะปี2530-35 เคยใช้ระยะหนึ่ง
ตั้งแต่นั้นมาเลิกใช้ เพราะน้ำหนัก มันไม่ได้ ..ไม่ธรรมชาติ เลยพยายาม หาวิดีโอมือกลอง ต่างประเทศ มาศึกษา ... ถามรุ่นพี่ ถามอาจารย์ ช่วยแนะนำ ครับ
***** เท่าที่เจอมา มือกลอง มักตั้งหนังกลองกระเดื่องตึง หรือเกือบตึง..เวลาเหยียบกระเดื่องนานๆ มันจะเมื่อย ข้อเท้าและขา มาก
******เคยเจอเคสนึง บอกว่า ผมเอากลองมาเองครับพี่ พี่ช่วยมิกซ์ ให้ผมด้วยนะครับ วัยรุ่น....อยากโชว์ของแพง
ติดตั้งเรียบร้อย ก็ลองเสียงกัน บอกให้น้องเขา ลดความตึงของหนังกลองใบหลัง ลงมาๆๆๆ แต่ดูเหมือนเขาจะ ไม่ทำตามที่บอก เลยบอกว่า งั้นพี่ไม่เอากลองออก PA นะ เพราะ มิกซ์ไม่ได้ หมอนหรือผ้าห่มซักผืน จะซับเสียงก็ไม่มี
ดูเขาไม่พอใจ ที่เรา ให้หย่อนหนังกลองลง สักพัก เขาบอกว่า พี่สไตล์ของวงผมเป็นแบบนี้ครับ ..
ก็เลย งงกับสไตล์ของเขา
กลองใหญ่ เสียงก้อง เหมือนกลอง เพล เหยียบที มือเบสสะดุ้ง เบสแทบไม่ต้องดีด เพราะมันกลบเสียงเบสหมดเลย เลยปล่อยเลยตามเลย วงนี้มีไอเดียแปลกๆดี
5555555555 สงสัยกระเดื่อง แก เพิ่ง ออกงานดุริยางค์ มา เลยไม่ต้องหย่อน
ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ ถ้ามี D4 ก็ พอ เคลียได้ แต่ถ้าไม่มี ผมจะไม่มิกซ์ กะเดื่องให้เหมือนกัน ปล่อย แต่ ชิ้นอื่น ออกไปเลย
-
ผมขอแชร์ นะครับ เผื่อ ใครจะลองทำบ้าง จากประสบการณ์ มือกลอง อันน้อยนิดของผม
อันดับแรก ไปดู หนัง กลองกระเดื่อง ฝั่งที่ใช้เท้าเหยียบ ว่า มันตึงหรือไม่ ถ้าหากมันตึง
ให้ไปปรับใหม่ครับ คือ ปรับให้มัน ยานโครตๆๆ ย้ำ ยานโครตๆ
ต่อมา ไปดูหนังกระเดื่อง ฝั่ง หน้า(ตรงที่ลมออก) ควรปรับให้ ตึง พอประมาณ ไม่ตึงมากจนเกินไป
ถ้าหาก กระเดื่อง ไม่มี ผ้าซับข้างใน ก็ควรหามาใส่ พอประมาณ 1 ใน 3 ครับ
การจ่อไมค์ จ่อตรงหน้าห่างท่อลมประมาณคืบ และ ผม จ่อ ตรงที่ มีลม ออก มาแรงที่สุด (การเอาไมค์ เข้าไปในกระเดื่อง ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ดังกว่านะครับ ซ้ำยิ่งทำให้ มันหอน เพราะในตัวกลองกระเดื่อง มีการสะท้อนของเสียงมาก) ถ้าใช้ไมค์ตัวเดียว ที่จ่อฝั่งหน้า ปรับ hi mid low เท่ากันครับ ไม่ควร ปรับ เสียง Hi กับ Mid เบา เราะ จะไม่เกิด มิติของ กระ เดื่อง จะทำให้ กระเดื่องมี แต่ เสียงทื่อ ไม่ สมประกอบ และไม่เป็นเม็ด ครับ ใครว่า กระเดื่อง mix แต่เสียง Low ผิดครับ มิกซ์ เสียง Hi-mid ด้วยครับ
มันต้อง มีเสียง การกระแทก หนัง กระเดื่อง จะออก มาเป็นเม็ด ที่ ชัด แจ้ง
ถ้าเกิดใช้ไมค์ สองตัว ตัวแรก อยุ่ ฝั่งหน้า ตัวหลัง อยู่ฝั่ง หลัง
ตัวแรก มิกซ์ เสียง ต่ำ ตัวหลัง มิกซ์ เสียงแหลม ยิ่ง ง่ายครับ
ผิด อันไหนก็ ขอ อภัยด้วยครับ
พอจะมีภาพการจ่อไมค์ทั้ง 2 ตัว ให้ไหมครับ *ตัวหน้า **ตัวหลัง จ่อยังไง brow
ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ครับ มีวิธีว่าง ไมค์ตัวหน้าคือ เปิดวอลลุ่มไมค์ ซัก กลางไม่ดังมาก เอาไมค์ไปจ่อตรง รู ลมออก ให้อีกคนเหยียบกระเดื่องไปเรื่อยๆ แล้วเลื่อน ตำแหน่งไมค์ หาจุดที่ลมผ่านแรงที่สุด ถ้าถูก จุด มันจะดังเด่น และแน่น จำจุดนั้นไว้แล้วล็อกไมค้ไว้ตรงนั้นด้วยขาไมค์ครับ ผมไม่แนะนำให้ ยัดไมค์เข้าไปใน ตัวกระเดื่องนะครับ ตามความรู้สึก คิดว่าจะดังกว่า แต่ผิดครับ ในกระ เดื่อง มีจุดบอด ของลม เต็มไปหมด เท่านี่ก็เรียบเร้อย
ส่วน ไมค์ ตัวหลัง ฝั่งที่ ใช้เท้าเหยียบ จ่อ ตรงไหนก็ได้ ครับ แต่ พยายามอย่าให้ เสียงสะแนว์ เข้ามาก
มิกซ์ ส่วนที่เป็น เสียงกลางแหลม ลด low ลง มากๆ ให้ได้ยิน เสียง แผลบ หรือ เสียงที่ หนังกระเดื่องกระแทก กับหัวกระเดื่อง เป็นโทนแหลม เล็กน้อย แล้วปรับให้ ไมค์ ทั้งสอง บาลานซ์ กันครับ ตามหูเราชอบ
ที่ใช้ ไมค์ตัวหลัง เพราะ ทำให้ เกิด เม็ดกระเดื่องออกมา เป็นเม็ดๆ เสียงกระชับ มีมิติ โอยไม่รู้จะบรรยายยังไง ส่วนมากที่ผมเห็น เห็นแต่ใช้ไมค์ตัวเดียว ร้อย ละ 90% เลยละมั้ง ของประเทศไทย
-
ขอบคุณครับสำหรับความรู้ดีๆๆ
-
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ขอถามนิดหนึ่ง ไมค์ตัวหลังควรวางจากหัวกระเดื่องประมาณเท่าไหร่ และห่างจากหนังกลองประมาณเท่าไหร่ครับ ถ้าบอกว่าไมค์ตัวหลังรับแค่เสียงกลางแหลม เราควรใช้ไมค์แบบไหนดีครับ
-
ดีจังครับ
-
เอ ถ้าใช้พวก BATA 91 หรือ SUPERLUX E-100 อะไรพวกนี้ จะจ่อแบบไหน เพราะเขาออกแบบมาให้วางในกลองเลย หรือใช้ขาห้อยตามที่เขาเจาะรูมาให้ แต่เท่าที่ผมใช้อยู่ ก็เอา E-100 ใช้ผ้าห่มวางด้านในแล้วเอาตัวนี้วางบนผ้าห่มอีกที มันก็ตึ๊บๆแน่นดีได้เสียงหัวค้อนตามมาด้วย ทีแรกใช้ไมค์ดรัม SUPERLUX DRK-A5 ที่เป็น ไดนามิกจ่อ ปรับแล้วยากมากๆไม่ได้ดังใจ เลยเอา E-100 มาวางด้านใน ว้าว เสียงแน่นเลยได้เป็นเม็ดตามมาด้วยเลยลองเอาตัวไดนามิคจ่อที่รูลมออกเพิ่มโดยวางเฉียงๆ ทำให้ทำซาวด์ดรัมง่ายขึ้น เรียกโทนเสียงได้ตามอารมณ์ ใครมีอุปกรณ์อยู่ลองทำตามนี้ดู แต่ก็อย่างที่ท่านแนะนำมาคือต้องหย่อนหนังกลองมากๆ จะทำให้เบสดรัมลงได้ลึกเหมือน D-4 ยังไงยังงั้น แต่คนตีกลองคนไม่แฮปปี้เท่าไรเพราะมันเมื่อยขา แต่ว่าถ้าเขาไม่ทำตาม ก็ทำอย่างผมทำก็ได้ แต่ที่มิกซ์ ผม มี LOWPASS-HIPASS ที่สามารถ คัท-บูท ได้ตั้งแต่ 400 ถึง 20 Hz เลยทำให้มิกซ์ดรัม และดนตรีอื่นๆ สะดวกขึ้น
-
ครับ
-
เอ ถ้าใช้พวก BATA 91 หรือ SUPERLUX E-100 อะไรพวกนี้ จะจ่อแบบไหน เพราะเขาออกแบบมาให้วางในกลองเลย หรือใช้ขาห้อยตามที่เขาเจาะรูมาให้ แต่เท่าที่ผมใช้อยู่ ก็เอา E-100 ใช้ผ้าห่มวางด้านในแล้วเอาตัวนี้วางบนผ้าห่มอีกที มันก็ตึ๊บๆแน่นดีได้เสียงหัวค้อนตามมาด้วย ทีแรกใช้ไมค์ดรัม SUPERLUX DRK-A5 ที่เป็น ไดนามิกจ่อ ปรับแล้วยากมากๆไม่ได้ดังใจ เลยเอา E-100 มาวางด้านใน ว้าว เสียงแน่นเลยได้เป็นเม็ดตามมาด้วยเลยลองเอาตัวไดนามิคจ่อที่รูลมออกเพิ่มโดยวางเฉียงๆ ทำให้ทำซาวด์ดรัมง่ายขึ้น เรียกโทนเสียงได้ตามอารมณ์ ใครมีอุปกรณ์อยู่ลองทำตามนี้ดู แต่ก็อย่างที่ท่านแนะนำมาคือต้องหย่อนหนังกลองมากๆ จะทำให้เบสดรัมลงได้ลึกเหมือน D-4 ยังไงยังงั้น แต่คนตีกลองคนไม่แฮปปี้เท่าไรเพราะมันเมื่อยขา แต่ว่าถ้าเขาไม่ทำตาม ก็ทำอย่างผมทำก็ได้ แต่ที่มิกซ์ ผม มี LOWPASS-HIPASS ที่สามารถ คัท-บูท ได้ตั้งแต่ 400 ถึง 20 Hz เลยทำให้มิกซ์ดรัม และดนตรีอื่นๆ สะดวกขึ้น
BATA 91 หรือ SUPERLUX E-100 อะไรพวกนี้ ก็น่าจะเอาวางไว้ตามตำแหน่งที่เขาบอกนะครับ ตามความคิด อันที่ผมแนะ นำ ส่วนมากน่าจะเป็นใมค์ ห้วกลม หรือ ไมค์ร้องธรรมดา ราคา 350 บาท บอกตามตรงว่าผมไม่เคยใช้ ไมค์หัวแบน 555555
ส่วนที่มือกลองเมื่อยขานั้น อาจจะเกิดจาก ใช้แป้นกระเดื่อง คุณภาพ ต่ำก็เป็นได้ มั้งคับ เพราะบางยี่ห้อ เหยียบนิดเดียว ก็แรงแล้วคับ ส่วนตัวผมเอง เวลาซ้อมดนตรี ผมเหยียบกระเดื่องหนังยาน สำหรับมิกซ์ มาตลอด ก็ไม่เห็นจะลำบากเกินไปครับ
-
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ขอถามนิดหนึ่ง ไมค์ตัวหลังควรวางจากหัวกระเดื่องประมาณเท่าไหร่ และห่างจากหนังกลองประมาณเท่าไหร่ครับ ถ้าบอกว่าไมค์ตัวหลังรับแค่เสียงกลางแหลม เราควรใช้ไมค์แบบไหนดีครับ
เอาใกล้ๆ เลย ครับ ประมาณ 2-3 นิ้ว เวลามิกซ์ จะได้ ไม่ต้องเร่งมาก และ ไม่ทำให้ เสียงตัวอื่นเข้ามาด้วยครับ
ไมค์ตัวหลังนี้ ไม่ต้องคุณภาพมากเกินไปก็ได้มั้งครับ ขอแค่มีเสียงกลางแหลมออกมาชัดเจนก็พอครับ
-
ขอบคุณ ทุกท่านที่ร่วมแชร์ ความรู้และประสบการณ์
smileyy
-
หย่อนหนังฝั่งที่เหยียบมากๆ ดีจริงหรือครับ?
แล้วถ้าวันดีคืนดีหย่อนไม่ได้จะทำอย่างไรให้มันออกมาดีครับ
ทำไมต้องทำกระเดื่องให้มันลึกๆ มันไม่ใช่เบสนี่ครับ
ลองหาวิธีจูนเสียงกลองดูครับ และลองหาเพลงฟังดูครับว่ากระ้ดื่องมันจะต้องลึกจริงหรือ
ไม่ได้อะไรครับ แต่อยากจะบอกทุกท่านว่า ท่านเข้าใจธรรมชาติของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นแล้วหรือยัง
ผมเห็นเค้าชอบทำซาวด์สดให้กลายเป็นซาวแบบคอมกัน ผมงงมาก เพราะถ้าอย่างงั้นจะเล่นสดกันทำไม
งง
-
ผมว่าเสียงกลองใบใหน เสียงเป็นอย่างไร เสียงมันก็ควรต้องเป็นอย่างนั้น เครื่องขยายมีหน้าที่ถ่ายทอดเสียงนั้นออกมา แค่นั้น เครื่องขยายที่ดีต้อง ขยายสิ่งที่มันรับมาให้ดังขึ้น และเสียงเหมือนเดิม ยิ่งเหมือนเดิมมากเท่าไหรยิ่งดีมากเท่านั้น การไปปรับจูนกลอง ไช่เรื่องง่าย และทำไม่ได้กับทุกวง และไม่ใช่ทางที่ถูก ผิดถูกขออภัย รอท่านต่อไป...
-
ปรับตรงไหนได้ก็แต่งกันไปคนละนิดละหน่อย บางทีก้ได้บางครั้งก็ต้องทัมใจ
กระเดื่องต่ำกว่า 50 สำหรับผมจะไม่เอาแล้วครับ จะเผื่อกำลังไว้ให้เบสสายที่ออคเตปแรก
เรื่องของเสียงมันเป็นศิลป์ชอบใครชอบมัน ..ลองดูครับ
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2013/03/07/1686_1362626696.jpg)
(http://upic.me/i/zk/379652_537711706250984_424324798_n.jpg)
-
ขอบคุณทุกท่านครับ เยี่ยมเลย .....เดี๋ยวงานหน้าจะลองเพิ่มเป็น2 ดู ขอบคุณครับ
-
ตามรู้เลยครับโดนขวด
-
เป็นการแชร์ประสบการณ์มีประโยชน์มากสำหรับท่านที่เริ่มใหม่ไม่มีอุปกรณ์เยอะแบบทุนน้อยมีไมค์ราคาถูก ก็สามารถปรับจูนให้เสียงดีได้ครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
-
จะปรับจะแต่งก่อนอื่นให้ดูระบบของเรา ทดสอบก่อนออกงานก่อน ลำโพง ขยาย อื่นๆ ว่ามันเป็นแนวเสียงไปทางใด บางครั้งที่คิดว่าของแบบนั้นแบบนี้ดี แม้แต้ D4 ปรับแต่งเหมือนของเขาทุกอย่างแต่พอมาใส่ของเรารับไม่ได้ก็มีครับ เหงื่อตกเลยนะถ้าเป็นที่หน้างาน
-
หย่อนหนังฝั่งที่เหยียบมากๆ ดีจริงหรือครับ?
แล้วถ้าวันดีคืนดีหย่อนไม่ได้จะทำอย่างไรให้มันออกมาดีครับ
ทำไมต้องทำกระเดื่องให้มันลึกๆ มันไม่ใช่เบสนี่ครับ
ลองหาวิธีจูนเสียงกลองดูครับ และลองหาเพลงฟังดูครับว่ากระ้ดื่องมันจะต้องลึกจริงหรือ
ไม่ได้อะไรครับ แต่อยากจะบอกทุกท่านว่า ท่านเข้าใจธรรมชาติของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นแล้วหรือยัง
ผมเห็นเค้าชอบทำซาวด์สดให้กลายเป็นซาวแบบคอมกัน ผมงงมาก เพราะถ้าอย่างงั้นจะเล่นสดกันทำไม
งง
การหย่อนฝั่งเหยียบ ไม่ได้ ตั้งใจจะทำให้กระเดื่องลึกครับผม เพราะ หนังฝั่งหน้ายังตึงอยู่ ถ้าเราวางตำแหน่งไมค์ ตรงจุด หนึ่งๆ จะทำให้เสียงแตกต่างกันไป จากที่ผมเคยลองเลื่อนไมค์ไปบางจุด มิกซ์ ออกมาแล้ว เกิดผล ว่า เสี่ยงกระเดื่อง แน่น เกือบแข้็ง เพราะ หนังฝั่งหน้า ตึง ทำให้ แน่น หนังฝั่งเหยียบหย่อน ทำให้ ลมออกมาแรง ถ้ามันลึก บอกได้ว่า คุณ วางตำแหน่งไมค์ผิดครับ ผมบอกได้ว่า ผมเข้าใจธรรมชาติของดนตรี เป็นอย่างดีครับ ไม่งั้น ผม คงไม่แชร์ ประสบการณ์ ถ้าซาวด์ สด มัน ซ่า อึ่ง บวม ผม ก็คงจะเปิดคอม ดีกว่าครับ ถ้าหาก จะเอา กระเดื่อง สดๆ จริงๆ ก็ลองไปตึงหนังฝั่งเหยียบ ไม่ต้องใส่ ผ้าซับ แล้วมิกซ์ดูครับ จะรู้ว่า กลองเพลวัดเป็นอย่างไร ถ้าจะเอาเสียงธรรมชาติ จริงๆ คงไม่ต้องมี อีคิว หรือ ครอส โอเวอร์ ใช่ไหมละครับ งั้น เครื่องเสียง ทั่วไป ก็เสีย เงินซื้อ ทำไมละ?
ต้องบอก ว่า เครื่อง ดนตรีชินไหน ใช้เสียงธรรมชาติ ชิ้นไหนต้องมิกซ์ ยากๆ ถึงจะถูกครับ ถ้าใช้เสียงกลองธรรมชาติ ก็ ล่มทั้งงานคับ
-
brow smiley4สุดยอดครับ
-
......ผมว่าปัญหาระหว่างนักดนตรีกับมือมิกซ์ ส่วนมากมักมีปัญหากันครับ ผมเป็นนักดนตรีรับงานทั่วไปและก็พอมีความรู้ด้านเครื่องเสียงบ้าง รับจ้างมิกซ์เสียงบ้าง เล่นดนตรีแต่ละงานไม่มีเครื่องประจำครับ ต้องเสี่ยงดวงว่าวันนี้จะเจอเครื่องแบบไหน เจ้าที่ดีก็ดีจริงๆช่วยเหลือทุกอย่าง เข้าใจนักดนตรี ทุกอย่างก็ออกมาดี ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ คนมิกซ์เสียงก็ควรจะศึกษาธรรมชาติของแนวเพลง เครื่องดนตรีแต่ละชนิด เปิดใจหาฟังเสียงเยอะๆ ผมเห็นด้วยกับท่านที่บอกว่า ทำไมต้องมิกเครื่องดนตรีสดให้เสียงเหมือนคาราโอเกะ ซาวฟร้อนด้วย เคยเจอมาครับ เครื่องแถวบ้านผมเขาชอบเสียงสแน โต้งๆ ลำซิ่ง แต่นักดนตรีวงผมเขามีกลองชุดที่สแนแบบมีเสียงแส้เยอะๆ ซาวด์กลางๆเล่นได้ทุกแนว ก็เช็คเสียงอยู่ดีๆ มือมิกก็พูดผ่านมอนิเตอร์ว่า เอาเสียงแส้ออกได้ไหม มันเยอะไป มือกลองเลยลองปลดแส้ออกดู โต้งๆ มือมิกบอก เอาเสียงนี้เลย (แส้เยอะก็หมุนเสียงแหลมลงสิครับ) ...... มันไม่ใช่ครับ บางทีเอาทริก D4 5 มาติดกระเดื่อง ก็ไม่ได้ว่าครับ ถ้าจูนเสียงกันดีๆ แต่ถ้าเนื้อเสียงจากกลองมาดีแล้ว มือกลองเขาจะรู้ครับว่ามันโอเคกับแนวเพลงที่วงเขาเล่นแล้ว (เรื่องการวางไมค์ทั้งในกลองและนอกกลอง จะหอนไม่หอนอยู่ที่ระบบครับและการปรับ ไมค์หัวกลมหัวแบนก็เคยมิกซ์มาครับ จูนดีๆ ไม่หอนแน่นอนครับ GATE มีก็ตัดๆกันไป) ก็เป็นธรรมดาครับที่เขาจะไม่พอใจหากโดนสั่งให้จูนกระเดื่องลง ส่วนเรื่องราคากลองอาจจะมองว่าเขาโชว์ของแพง ผมอยากให้ท่านฟังดูดีๆครับ ถ้ากลองแพงดังไม่ดี เขาคงไม่ขายแพงหรอกครับ ในแร็ก ในมิกเราก็มีอีคิว ก็หมุนๆไปให้มันพอใจมือมิกซ์ก็ไม่น่ายากครับ เพราะซาวฝรั่งเขาก็ไม่ได้ปรับลงต่ำมากนะครับ เคยไปเจอเครื่องเจ้าที่เขาเข้าใจกันก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากครับ ถึงให้ปรับกลองก็ไม่มากครับ ไม่ถึงกับยานมากๆ หรอกครับ
****** แนะนำนะครับ เครื่องเสียงที่รับงานเล่นสดประจำ ควรมีกลองชุดดีๆไว้สักชุดแล้วมิกซ์ปรับ จูน ให้ดีที่สุดกับเครื่องเราลองดูครับ เจ้าใหญ่ๆที่ผมรู้จัก เขาซ้อมมิกซ์เป็นวันๆครับ ก่อนจะรับงานทัวร์ เพราะถ้านักดนตรีและมือมิกซ์แฮปปี้ร่วมกันตั้งแต่ก่อนเล่นจริง ทุกอย่างก็จะออกมาดีครับ เพราะนักดนตรีต้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาด้วยความสุนทรีครับ คนเล่นมีความสุข คนฟังก็มีความสุข คนมิกซ์ก็ได้งานต่อไป ครับ..... รักกันไว้เด้อครับ smileyy smileyy smileyy
ขอยกตัวอย่างงานที่เราไปเล่นเครื่องดีๆมาครับ ลองฟังดู
http://www.youtube.com/watch?v=sSr5l7msLZM&feature=share&list=UU5c2MDvrUeUcB1Jyz3UYxLA (http://www.youtube.com/watch?v=sSr5l7msLZM&feature=share&list=UU5c2MDvrUeUcB1Jyz3UYxLA)
-
ผ่านมาศึกษาหาความรู้ครับ ขอบคุณครับ smiley4
-
ขอบคุณครับ ความรู้ดีๆๆมาอีกแล้ว
-
ส่วนตัวผมเอง ผม ไม่ค่อย ชอบเท่าไหร่นัก เสียงโต๊ง ของสแนว์ ผมชอบ เสียง แส้ กับโต๊ง เล็กน้อย
เพราะ ลูกเล่นกับสแนว์ มีเยอะคับ ชอบ เพิ่มเสียงแหลมสแนว์
-
ท่านเจ้าของกระทู้ท่านยังไม่เข้าใจหรอกครับ
ท่านต้าสตูดิโอสิเข้าใจ
ประสบการณ์ผมนิดหน่อยครับ ีทำซาวด์งานเล็กๆ เด็กๆทำครับ
-
แชร์ประสบการณ์กัน สุดยอดครับ
-
ท่านเจ้าของกระทู้ท่านยังไม่เข้าใจหรอกครับ
ท่านต้าสตูดิโอสิเข้าใจ
ประสบการณ์ผมนิดหน่อยครับ ีทำซาวด์งานเล็กๆ เด็กๆทำครับ
ดนตรีไม่ได้ อยุ่แค่เพียง สตูดิโอ ยังมี การทำงานหลายรูป แบบ ที่อยู่ภายนอก สตูดิโอ สตูดิโอ เป็น แค่ ส่วนหนึ่ง ของดนตรี อย่าเอาเพียงแค่สตูดิโอมาตัดสินว่าผม ไม่เข้าใจดนตรี แล้ว รู้ได้ไงว่าผมไม่เคยทำ สตูดิโอ ถึงผมจะอายุ ยังน้อย อย่างน้อยผมก็ นำบทเรียนท่าน ผู้อาวุโส มาแชร์ นะครับ
-
......ผมว่าปัญหาระหว่างนักดนตรีกับมือมิกซ์ ส่วนมากมักมีปัญหากันครับ ผมเป็นนักดนตรีรับงานทั่วไปและก็พอมีความรู้ด้านเครื่องเสียงบ้าง รับจ้างมิกซ์เสียงบ้าง เล่นดนตรีแต่ละงานไม่มีเครื่องประจำครับ ต้องเสี่ยงดวงว่าวันนี้จะเจอเครื่องแบบไหน เจ้าที่ดีก็ดีจริงๆช่วยเหลือทุกอย่าง เข้าใจนักดนตรี ทุกอย่างก็ออกมาดี ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ คนมิกซ์เสียงก็ควรจะศึกษาธรรมชาติของแนวเพลง เครื่องดนตรีแต่ละชนิด เปิดใจหาฟังเสียงเยอะๆ ผมเห็นด้วยกับท่านที่บอกว่า ทำไมต้องมิกเครื่องดนตรีสดให้เสียงเหมือนคาราโอเกะ ซาวฟร้อนด้วย เคยเจอมาครับ เครื่องแถวบ้านผมเขาชอบเสียงสแน โต้งๆ ลำซิ่ง แต่นักดนตรีวงผมเขามีกลองชุดที่สแนแบบมีเสียงแส้เยอะๆ ซาวด์กลางๆเล่นได้ทุกแนว ก็เช็คเสียงอยู่ดีๆ มือมิกก็พูดผ่านมอนิเตอร์ว่า เอาเสียงแส้ออกได้ไหม มันเยอะไป มือกลองเลยลองปลดแส้ออกดู โต้งๆ มือมิกบอก เอาเสียงนี้เลย (แส้เยอะก็หมุนเสียงแหลมลงสิครับ) ...... มันไม่ใช่ครับ บางทีเอาทริก D4 5 มาติดกระเดื่อง ก็ไม่ได้ว่าครับ ถ้าจูนเสียงกันดีๆ แต่ถ้าเนื้อเสียงจากกลองมาดีแล้ว มือกลองเขาจะรู้ครับว่ามันโอเคกับแนวเพลงที่วงเขาเล่นแล้ว (เรื่องการวางไมค์ทั้งในกลองและนอกกลอง จะหอนไม่หอนอยู่ที่ระบบครับและการปรับ ไมค์หัวกลมหัวแบนก็เคยมิกซ์มาครับ จูนดีๆ ไม่หอนแน่นอนครับ GATE มีก็ตัดๆกันไป) ก็เป็นธรรมดาครับที่เขาจะไม่พอใจหากโดนสั่งให้จูนกระเดื่องลง ส่วนเรื่องราคากลองอาจจะมองว่าเขาโชว์ของแพง ผมอยากให้ท่านฟังดูดีๆครับ ถ้ากลองแพงดังไม่ดี เขาคงไม่ขายแพงหรอกครับ ในแร็ก ในมิกเราก็มีอีคิว ก็หมุนๆไปให้มันพอใจมือมิกซ์ก็ไม่น่ายากครับ เพราะซาวฝรั่งเขาก็ไม่ได้ปรับลงต่ำมากนะครับ เคยไปเจอเครื่องเจ้าที่เขาเข้าใจกันก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากครับ ถึงให้ปรับกลองก็ไม่มากครับ ไม่ถึงกับยานมากๆ หรอกครับ
****** แนะนำนะครับ เครื่องเสียงที่รับงานเล่นสดประจำ ควรมีกลองชุดดีๆไว้สักชุดแล้วมิกซ์ปรับ จูน ให้ดีที่สุดกับเครื่องเราลองดูครับ เจ้าใหญ่ๆที่ผมรู้จัก เขาซ้อมมิกซ์เป็นวันๆครับ ก่อนจะรับงานทัวร์ เพราะถ้านักดนตรีและมือมิกซ์แฮปปี้ร่วมกันตั้งแต่ก่อนเล่นจริง ทุกอย่างก็จะออกมาดีครับ เพราะนักดนตรีต้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาด้วยความสุนทรีครับ คนเล่นมีความสุข คนฟังก็มีความสุข คนมิกซ์ก็ได้งานต่อไป ครับ..... รักกันไว้เด้อครับ smileyy smileyy smileyy
ขอยกตัวอย่างงานที่เราไปเล่นเครื่องดีๆมาครับ ลองฟังดู
http://www.youtube.com/watch?v=sSr5l7msLZM&feature=share&list=UU5c2MDvrUeUcB1Jyz3UYxLA (http://www.youtube.com/watch?v=sSr5l7msLZM&feature=share&list=UU5c2MDvrUeUcB1Jyz3UYxLA)
มิกซ์เสียงสแนว์ อย่างนี้ เอาใจผมไปเลย ชอบๆๆๆๆ ไม่โต๊ง มาก มีเสียงแส้ชัดเจนดี
-
......ผมว่าปัญหาระหว่างนักดนตรีกับมือมิกซ์ ส่วนมากมักมีปัญหากันครับ ผมเป็นนักดนตรีรับงานทั่วไปและก็พอมีความรู้ด้านเครื่องเสียงบ้าง รับจ้างมิกซ์เสียงบ้าง เล่นดนตรีแต่ละงานไม่มีเครื่องประจำครับ ต้องเสี่ยงดวงว่าวันนี้จะเจอเครื่องแบบไหน เจ้าที่ดีก็ดีจริงๆช่วยเหลือทุกอย่าง เข้าใจนักดนตรี ทุกอย่างก็ออกมาดี ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ คนมิกซ์เสียงก็ควรจะศึกษาธรรมชาติของแนวเพลง เครื่องดนตรีแต่ละชนิด เปิดใจหาฟังเสียงเยอะๆ ผมเห็นด้วยกับท่านที่บอกว่า ทำไมต้องมิกเครื่องดนตรีสดให้เสียงเหมือนคาราโอเกะ ซาวฟร้อนด้วย เคยเจอมาครับ เครื่องแถวบ้านผมเขาชอบเสียงสแน โต้งๆ ลำซิ่ง แต่นักดนตรีวงผมเขามีกลองชุดที่สแนแบบมีเสียงแส้เยอะๆ ซาวด์กลางๆเล่นได้ทุกแนว ก็เช็คเสียงอยู่ดีๆ มือมิกก็พูดผ่านมอนิเตอร์ว่า เอาเสียงแส้ออกได้ไหม มันเยอะไป มือกลองเลยลองปลดแส้ออกดู โต้งๆ มือมิกบอก เอาเสียงนี้เลย (แส้เยอะก็หมุนเสียงแหลมลงสิครับ) ...... มันไม่ใช่ครับ บางทีเอาทริก D4 5 มาติดกระเดื่อง ก็ไม่ได้ว่าครับ ถ้าจูนเสียงกันดีๆ แต่ถ้าเนื้อเสียงจากกลองมาดีแล้ว มือกลองเขาจะรู้ครับว่ามันโอเคกับแนวเพลงที่วงเขาเล่นแล้ว (เรื่องการวางไมค์ทั้งในกลองและนอกกลอง จะหอนไม่หอนอยู่ที่ระบบครับและการปรับ ไมค์หัวกลมหัวแบนก็เคยมิกซ์มาครับ จูนดีๆ ไม่หอนแน่นอนครับ GATE มีก็ตัดๆกันไป) ก็เป็นธรรมดาครับที่เขาจะไม่พอใจหากโดนสั่งให้จูนกระเดื่องลง ส่วนเรื่องราคากลองอาจจะมองว่าเขาโชว์ของแพง ผมอยากให้ท่านฟังดูดีๆครับ ถ้ากลองแพงดังไม่ดี เขาคงไม่ขายแพงหรอกครับ ในแร็ก ในมิกเราก็มีอีคิว ก็หมุนๆไปให้มันพอใจมือมิกซ์ก็ไม่น่ายากครับ เพราะซาวฝรั่งเขาก็ไม่ได้ปรับลงต่ำมากนะครับ เคยไปเจอเครื่องเจ้าที่เขาเข้าใจกันก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากครับ ถึงให้ปรับกลองก็ไม่มากครับ ไม่ถึงกับยานมากๆ หรอกครับ
****** แนะนำนะครับ เครื่องเสียงที่รับงานเล่นสดประจำ ควรมีกลองชุดดีๆไว้สักชุดแล้วมิกซ์ปรับ จูน ให้ดีที่สุดกับเครื่องเราลองดูครับ เจ้าใหญ่ๆที่ผมรู้จัก เขาซ้อมมิกซ์เป็นวันๆครับ ก่อนจะรับงานทัวร์ เพราะถ้านักดนตรีและมือมิกซ์แฮปปี้ร่วมกันตั้งแต่ก่อนเล่นจริง ทุกอย่างก็จะออกมาดีครับ เพราะนักดนตรีต้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาด้วยความสุนทรีครับ คนเล่นมีความสุข คนฟังก็มีความสุข คนมิกซ์ก็ได้งานต่อไป ครับ..... รักกันไว้เด้อครับ smileyy smileyy smileyy
ขอยกตัวอย่างงานที่เราไปเล่นเครื่องดีๆมาครับ ลองฟังดู
http://www.youtube.com/watch?v=sSr5l7msLZM&feature=share&list=UU5c2MDvrUeUcB1Jyz3UYxLA (http://www.youtube.com/watch?v=sSr5l7msLZM&feature=share&list=UU5c2MDvrUeUcB1Jyz3UYxLA)
หากทุกคนคิดเหมือนท่านวงการนี้คงสายงามขึ้นอีกเยอะ มีเหตุการสดสดร้อนร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมามือมิกส์ขึ้นไปต่อยนักดนตรีบนเวทีจนงานล่มกลางคันสาเหตุตินั่นขอนี่แล้วไม่ใด้ไม่เข้าใจกัน(งานวันเกิดที่ระยอง)
-
สุดยอดเลยครับ
-
ท่านเจ้าของกระทู้ท่านยังไม่เข้าใจหรอกครับ
ท่านต้าสตูดิโอสิเข้าใจ
ประสบการณ์ผมนิดหน่อยครับ ีทำซาวด์งานเล็กๆ เด็กๆทำครับ
ถ้าคิดได้แค่นี้........ ก็เอวัง
น้องเขานำเสนอ การตั้งเสียงกลอง และการวางไมค์กลอง
ส่วนน้องต้า สตูดิโอ นำเสนอ เรื่องมิกซ์ เรื่องกลอง และเครื่องดนตรีอื่นๆ
น้องเอ๋ย.... กลองราคาแพงๆ มันก็ดีอยู่หรอก แต่เด็กตั้งเสียงกลองไม่เป็น กลองกระเดื่อง ออกมาเป็น MARCHING BAND แบบนั้น จริงอยู่ อาจจะใช้ เครื่องมือดีดี ทำให้ออกมาดีได้ แต่....ซาวน์บนเวทีสดๆ เจ้ากระเดื่อง เสียงมันไม่หนวกหู ทั้ง วงหรือ.. ต้องเอาสำลีอุดหูกันแน่นอน ....
อยากร่ายยาวเหมือนกัน แต่เกรงใจคนอ่าน การตั้งเสียงกลองในแบบน้องเขา ใครชอบ ก็เลือกปฎิบัติเอา เหมือนกระทู้สร้างลำโพง มีหลากหลายแบบ นำไปต่อยอด ใครไม่ชอบ ก็นำเสนอมา เป็นทางเลือก...หลายท่านรออ่านอยู่......นะจ๊ะ
สร้างสรรค์ซักนิดเหอะ พ่อคุณทูลหัว..............
-
ขอบคุณทุกท่านครับ ผมแค่อยากร่วมแชร์ประสบการณ์ที่พอมีนิดหน่อยครับ เพราะผมเจอมาจริงๆ และที่ชื่อผมมีคำว่าสตูดิโอ ก็ไม่ใช่ผมจะทำแค่งานสตูดิโอ ผมรับงานเล่นดนตรีเป็นหลักด้วยซ้ำครับ(ถ้าเปลี่ยนชื่อเป็น ต้า สตูดิโอ แอนด์ ซาวด์ แอนด์ นักดนตรี คงจะยาวไป) ข้อมูลที่ผมพิมพ์ลงไป ผมว่ามันสร้างสรรค์อยู่นะครับ ไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นแต่อย่างใด หรือถ้ามันผิดก็ขออภัยครับ ผมอยากแชร์จริงๆเพราะผมเจอเครื่องเสียงมาร้อยแปด อย่างน้อยก็ขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่านครับ ที่เหลือก็อยู่ที่หน้างานแต่ละเจ้าแล้วครับ
ขอโทษด้วยครับที่ทำให้หลายท่านไม่พอใจ ไม่มีเจตนาอื่นแต่อย่างใดครับ
-
เยี่ยมครับ smiley4 เจ้าของกระทู้ นำเสนอได้ดี เป็นการแก้สถาณะการหน้างาน เอาสั้นๆ(ไม่ต้องทะเลาะกันน๊) kisss
ไมค์ถูกธรรมดา+กลองถูกๆ+ผ้าห่ม(ลดฟิดแบ๊คกระเดื่อง)ภาษาชาวบ้านก็ ลดหางเสียงของหนังกลอง ได้ดี (ถ้าใครมี GATE ก็ใช้)
*******************************
*เรื่องที่ต้องจูนก่อนก็คือ มือมิกซ์+นักดนตรี
แก้ปัญหาหน้างานได้ดี >นักดนตรีชอบ
เทสซาวน์ ดิบๆของกลอง ไม่ออกไมค์ ดูว่านักดนตรีชอบยังไง มอนิเตอร์ปรับตามนักดนตรีชอบ
PA ปรับตามใจเรา>คนฟังลุกเต้นเร็ว OK จบรับตังค์
******************************
ยังไม่พูดถึงอุปกรณ์ดีๆ
ง่ายๆเลย
ใช้เครื่องดนตรีดีๆ+ไมค์ดีๆ บนมิกซ์ อีคิว ในแต่ล่ะ Line แทบไม่ต้องแต่ง
(เชื่อเหอะ สุดท้ายก็ต้องปรับ หูคนเรารับฟังเสียงได้ไม่เท่ากัน เถียงกันไปก็ไม่จบ) smiley4
เอาหลักการคร่าวๆ ไปใช้กับระบบของเราที่มีอยู่ ก็พอ
-
การหย่อนฝั่งเหยียบ ไม่ได้ ตั้งใจจะทำให้กระเดื่องลึกครับผม เพราะ หนังฝั่งหน้ายังตึงอยู่ ถ้าเราวางตำแหน่งไมค์ ตรงจุด หนึ่งๆ จะทำให้เสียงแตกต่างกันไป จากที่ผมเคยลองเลื่อนไมค์ไปบางจุด มิกซ์ ออกมาแล้ว เกิดผล ว่า เสี่ยงกระเดื่อง แน่น เกือบแข้็ง เพราะ หนังฝั่งหน้า ตึง ทำให้ แน่น หนังฝั่งเหยียบหย่อน ทำให้ ลมออกมาแรง ถ้ามันลึก บอกได้ว่า คุณ วางตำแหน่งไมค์ผิดครับ ผมบอกได้ว่า ผมเข้าใจธรรมชาติของดนตรี เป็นอย่างดีครับ ไม่งั้น ผม คงไม่แชร์ ประสบการณ์ ถ้าซาวด์ สด มัน ซ่า อึ่ง บวม ผม ก็คงจะเปิดคอม ดีกว่าครับ ถ้าหาก จะเอา กระเดื่อง สดๆ จริงๆ ก็ลองไปตึงหนังฝั่งเหยียบ ไม่ต้องใส่ ผ้าซับ แล้วมิกซ์ดูครับ จะรู้ว่า กลองเพลวัดเป็นอย่างไร ถ้าจะเอาเสียงธรรมชาติ จริงๆ คงไม่ต้องมี อีคิว หรือ ครอส โอเวอร์ ใช่ไหมละครับ งั้น เครื่องเสียง ทั่วไป ก็เสีย เงินซื้อ ทำไมละ?
ต้องบอก ว่า เครื่อง ดนตรีชินไหน ใช้เสียงธรรมชาติ ชิ้นไหนต้องมิกซ์ ยากๆ ถึงจะถูกครับ ถ้าใช้เสียงกลองธรรมชาติ ก็ ล่มทั้งงานคับ
มีเหตุมีผล โดนใจจริงๆ + 100 ดีไหมนี่
-
smiley4 smiley4
ผมทำงานเล็กๆเด็กๆทำครับ ผมไม่ได้บอกว่าท่านยังเด็ก
ผมติดคำว่างานเล็กๆเด็กๆทำเพราะเวลาผมอัพภาพบนเฟสบุคผมจะตั้งชื่อแบบนี้เสมอ
คงไม่ว่ากัน.
-
ดูเหมือนพี่ๆหลายๆคนจะคิดว่าการทำเสียงกลองมันมันจะยากมากๆ แต่สำหลับผมนะผมว่าง่ายนะ
เสียงใหนที่มันเกินก็ตัดลงทำตามความเป็นจริง เราต้องดูว่าเครื่องเสียงเราหรือเครื่องดนตรีเรา
มีขีดความสามารถเท่าใหร่เข้าใจมันทำเท่าที่มันได้ ก็มีความสุขแล้ว
-
จูนกลองให้ดี คนที่เรียนศาสตร์ทางดนตรีมา จะได้เปรียบ ส่วนการมิกซ์ออกทาง PA เป็นอีกศาสตร์ที่มืิมิกซ์ต้องรู้ และเข้าใจ ในเรื่อง เสียงของตู้ในระบบ มิกซ์ แอมป์ อุปกรณ์
เข้ามาอ่านได้ความรู้ครับ
เคยเชิญอาจารย์สอนดนตรีไปตั้งกลองให้ กลองหลักพัน ตั้งจูนให้ใกล้เคียงกลองราคาหมื่น อืม มันน่าคิดนะครับ..
-
แล้วกลองลูกอื่นละ่ครับปรับยังงัย
-
ขอถามท่านทั้งหลายครับ มีอุปกรณ์ตัวไหน ของกลองที่ต้องใช้เอฟเฟ็ก บ้างครับ
และใช้เอฟเฟ็ก เบอร์อะไรครับ (ALESISS MICROVERB 4) มือใหม่กำลัง
ลองมิกส์สดครับ
-
ดูเหมือนพี่ๆหลายๆคนจะคิดว่าการทำเสียงกลองมันมันจะยากมากๆ แต่สำหลับผมนะผมว่าง่ายนะ
เสียงใหนที่มันเกินก็ตัดลงทำตามความเป็นจริง เราต้องดูว่าเครื่องเสียงเราหรือเครื่องดนตรีเรา
มีขีดความสามารถเท่าใหร่เข้าใจมันทำเท่าที่มันได้ ก็มีความสุขแล้ว
smiley4
คมมาก นี่แหละคนดนตรีจริงๆๆ
kisss
-
เชื่อใหม คนทำซาวด์ สิบคน เครื่อง ชุดเดียว กัน ลอง เปลี่ยน ที่ ละคน เสียง ก็ สิบ แบบ ตามความรู้สึก ของแต่ละคน สิ่งที่ดีที่สุด ถ้าเราคิดว่า เสียงกระเดื่อง ที่ออกมา มันใช่ มันก็ใช่ มีความสนุก ความสุขกับมัน ก็พอแล้ว มิกซ์ราคา 4-5 พัน กับ 4-5 หมื่น มันคนละเรื่อง เข้าใจระบบ ๆ มันได้แค่ นี้ ก้ ต้องแค่นี้ จะเน้น จะเค้น อะไรมัน มากมาย จะให้ออกมาแบบมิกซ์เรือนแสนก้ไม่ได้อีก
ผมคนใจกว้าง เคยมิกซ์อยู่ ก็มีคนกินเหล้าอยู่ในงาน บอก เสียงกะเดื่องพี่ น่าจะทำให้เป็นแบบนี้นะ แบบที่เขาพูด สอนเรามาตรงนั้น เดี๋ยวนั้น โอเคครับพี่ ผมจูงมือพี่เขามา ที่ช่องกะเดื่องของมิกซ์ ตามสะบาย ครับท่าน.......................................
เขาก็หมุน ๆ ทำ ๆ คนฟังเริ่ม.....งุนงง สุดท้าย บอก พี่ เอาเหมือนเดิมเหอะ 555
-
ตัวช่วยตัวสุดท้าย เกทต้องดี ผมมิกส์กระเดื่องสดตลอด คนละเรื่องกับ D4 เลย เสียงออกหนักกว่าเยอะ หนังกลองผมใช้หนัง อีแวน ซื้อที่สุพรรณ ราคา1600แบบมีซับติดด้านหน้า
-
ขอบคุณครับ
-
ขอขุดนะครับกำลังเจอปัญหากับกลองถูกถูกที่ซื้อเองครับ มีไมค์ซุปเปอร์ลักซ์แบบไดนามิคที่ติดชุดมาA5C2กับแบบแบนแบนคอนเด็นเซอร์ที่ซื้อมาเพิ่มอีกตัวนึง แต่ผมต้องการใช้ไมค์ไดนามิคธรรมดาเพื่อตัดเรื่องการจ่ายไฟแฟนธ่อม ที่เจอคือเวลาหยุดเล่นมันหอนหึ่งหึ่งครับ ตอนเล่นกลับออกดีปกติ ผมต้องโดนเกทเพิ่มอีกตัวไหมครับ หรือลองไล่อีคิวดีดีก่อน มีอีคิว31ก้านเหลืออยู่แถวนึงไม่ได้ใช้ครับจากอีคิวมอนิเตอร์แบบ231
ปล.ผมต้องการใช้แค่กระเดื่องกับOH ซ้ายขวาพอครับ ยังคิดวิธิใช้ไฟแฟนธ่อมไม่ออกเลยครับ เด็กที่ร้านก็ไม่รู้เรื่องเครื่องเลย
-
ขอขุดนะครับกำลังเจอปัญหากับกลองถูกถูกที่ซื้อเองครับ มีไมค์ซุปเปอร์ลักซ์แบบไดนามิคที่ติดชุดมาA5C2กับแบบแบนแบนคอนเด็นเซอร์ที่ซื้อมาเพิ่มอีกตัวนึง แต่ผมต้องการใช้ไมค์ไดนามิคธรรมดาเพื่อตัดเรื่องการจ่ายไฟแฟนธ่อม ที่เจอคือเวลาหยุดเล่นมันหอนหึ่งหึ่งครับ ตอนเล่นกลับออกดีปกติ ผมต้องโดนเกทเพิ่มอีกตัวไหมครับ หรือลองไล่อีคิวดีดีก่อน มีอีคิว31ก้านเหลืออยู่แถวนึงไม่ได้ใช้ครับจากอีคิวมอนิเตอร์แบบ231
ปล.ผมต้องการใช้แค่กระเดื่องกับOH ซ้ายขวาพอครับ ยังคิดวิธิใช้ไฟแฟนธ่อมไม่ออกเลยครับ เด็กที่ร้านก็ไม่รู้เรื่องเครื่องเลย
พี่ลองกดปุ่ม low cut ที่ช่องมิกซ์กระเดื่องดูหรือยังครับ..... smiley4
-
ขอบคุณครับสำหรับความรู้ดีๆๆ
-
ผมก็ใช้อยู่ ใช้ได้ทีเดียว
-
ขอบคุณครับ วันหลังจะลอง Mix กลองสดดูบ้าง เล่นที่บ้าน ไม่มีใครเป็นเลย (จูนกลองไม่เป็น)
เสียงกลอง(กระเดื่อง) ดัง ป่องๆ ๆๆๆๆ มันไม่ดัง ตึบๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ
smiley4
-
ผ่านมาอ่านกระทู้นี้...ชอบครับ. smiley4
ต่างคนต่างแชร์ความรู้และประสบการณ์...ทำให้หลายๆคนที่อ่านนำความรู้กลับไปทดลองใช้ไม่มาก..ก็น้อย,,,?
ขอบคุณอาจารย์ทุกท่าน...
-
ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า โดยไม่มีตัวช่วยอื่น เยี่ยม
-
เยี่ยมครับผม ความรู้เยอะเลยครับ
-
ขอบคุณครับสำหรับความรู้
-
ต่างคนต่างประสบการณ์นำมาแชร์กันนี่แหละครับสุดยอด ขอบคุณมากครับ
-
ขอแสดงความคิดเอง เรื่องซาวด์กลอง ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นมือกลอง และว่างๆก็มีงานมิกซ์ดนตรีสดบ้าง อย่างแรกจากการไปนั่งฟังหลายๆวง(แถวบ้านผมส่วนมากเป็นดนตรีรำวงเวียนครก หรือรำวงย้อนยุค) ส่วนมากซาวด์กลอง ที่ออกมาอย่างแรก เน้นกระเดื่อง เน้นเสียงเบส เน้นสะแนร์ สะแนร์เสียงออก โป้งๆๆ เหมือนหลายลงความเห็นเอาไว้ มันเหมือนเสียงในคาราโอเกะ มันทำให้รู้สึกว่าเด่นแต่กลองอย่างเดียว จนทำให้เครื่องดนตรีประเภทอื่นหายไปเลย อีกอย่าง เสียงของ ทอม 1 ทอม 2 หายหมด เพราะส่วนมากเน้นแต่กระเดื่อง กับสะแนร์ รสชาติของดนตรี ทุกประเภทไม่ว่า จะเล่นสดหรือ เปิดแผ่น อย่างน้อย ความพอดีของระบบเสียง อย่างน้อยต้องไม่มีอะไรเด่นออกไป นอกจากเสียง solo ไม่ว่าจะ solo เดียว ของดนตรีประเภทใด ถึงจะมีระดับเสียงที่เด่นออกไปได้ แต่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน ถ้านานเกินไปอาจไปกลบกับเสียงร้องนำที่เป็นเสียงเด่นหลัก และต้องทำความเข้าใจชนิดของดนตรีว่า ดนตรีแต่ละประเภทเป็นดนตรี จัดอยู่ในย่านความถี่ระดับใด
การใช้ croossover การหาจุดตัดที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้เครื่องดนตรีแต่ละประเภทไม่ไปทับลายกัน
ผมจะให้ความสำคัญเรื่อง ความเข้าใจหลักการ ระบบ PA มากสุด เครื่องดนตรี รองลงมา อีกอย่างเรื่องกลอง เจอมาหลายงาน การซาวด์กลองแบบ ดิบๆ โดยไม่ผ่าน ระบบPA ส่วนมาก จะเจอแบบ เสียงคนละเรื่องกับการผ่านการมิกซ์แล้ว ส่วนตัวผมซาวด์กลองที่ผมเล่น เวลาไม่ผ่านมิกซ์กับผ่านผ่านการมิกซ์แล้วเสียงจะเหมือนกันหรือคล้ายกัน อย่างแรกต้องรู้จักการแต่งเสียงกลองก่อน ถ้ากลองราคาไม่แพงจะต้องมีการแต่งปรับเสียงอยู่แล้ว แม้แต่กลองที่ราคาแพงๆบางครั้งต้องปรับเหมือนกัน เพราะบางคนแนวเพลงไม่เหมือนกัน เวลาเล่นจริงๆจะได้ความมั่นใจ ในการเล่น การมิกซ์กลองผมจะใช้ compresser ช่วยในการตัดย่านความถี่ที่ไม่ต้องการออกไป ซึ่งช่วยได้มาก แถวบ้านผมส่วนมากจะไม่ค่อยใช้ compresser ช่วย ใช้ลักษณะการแต่งหน้ากลองเป็นสำคัญ มีอีกอย่างความไม่เข้าใจของ Power Ampการใช้งานที่ไม่ตรงตามสเปคเครื่อง เจอมามากเหมือนกัน เอาแต่ให้เสียงดังอย่างเดียว เป็นแบบเสียงดัง เดียวตังค์ก็ได้
(นี้คือความคิดเห็นของผม ถ้าหากใครมีความคิดเห็นเป็นอย่างอืน มาแชร์กันได้นะครับ จะได้นำไปปรับปรุง)
-
ขอบคุณมากครับ แล้วถ้าเป็นกระเดื่องที่ด้านหน้าไม่มีรูลมล่ะครับ ต้องทำแบบไหน...
-
แบบที่น้องเขาร่ายมาให้อ่าน ถูกต้องแล้วครับ หนังหลังหย่อนสุดๆ แผละๆ เลย หนังหน้าตึงพอประมาณ ถ้าตึงมากไป เสียงก็จะสูงขึ้น เกิด เรโซแน๊นซ์ ก้องตามอีก...ซับอย่าให้มีเสียงสะท้อน จะมิกซ์ง่าย ช่องลมกระเดื่อง น้องเขาบอกถูกต้อง ตรงช่อง ลมจะแรงที่สุด หมายถึงเสียงจะพุ่งออกมา ได้มากที่สุดเช่นกัน ไมค้กระเดื่องก็วางตำแหน่งนี้......
กลองสะแนร์ ก็เคยลองใช้ไมค์ 2 ตัวล่างบน เช่นเดียวกัน
เมื่อก่อน ALESIS D4เข้ามาใหม่ๆ น่าจะปี2530-35 เคยใช้ระยะหนึ่ง
ตั้งแต่นั้นมาเลิกใช้ เพราะน้ำหนัก มันไม่ได้ ..ไม่ธรรมชาติ เลยพยายาม หาวิดีโอมือกลอง ต่างประเทศ มาศึกษา ... ถามรุ่นพี่ ถามอาจารย์ ช่วยแนะนำ ครับ
***** เท่าที่เจอมา มือกลอง มักตั้งหนังกลองกระเดื่องตึง หรือเกือบตึง..เวลาเหยียบกระเดื่องนานๆ มันจะเมื่อย ข้อเท้าและขา มาก
******เคยเจอเคสนึง บอกว่า ผมเอากลองมาเองครับพี่ พี่ช่วยมิกซ์ ให้ผมด้วยนะครับ วัยรุ่น....อยากโชว์ของแพง
ติดตั้งเรียบร้อย ก็ลองเสียงกัน บอกให้น้องเขา ลดความตึงของหนังกลองใบหลัง ลงมาๆๆๆ แต่ดูเหมือนเขาจะ ไม่ทำตามที่บอก เลยบอกว่า งั้นพี่ไม่เอากลองออก PA นะ เพราะ มิกซ์ไม่ได้ หมอนหรือผ้าห่มซักผืน จะซับเสียงก็ไม่มี
ดูเขาไม่พอใจ ที่เรา ให้หย่อนหนังกลองลง สักพัก เขาบอกว่า พี่สไตล์ของวงผมเป็นแบบนี้ครับ ..
ก็เลย งงกับสไตล์ของเขา
กลองใหญ่ เสียงก้อง เหมือนกลอง เพล เหยียบที มือเบสสะดุ้ง เบสแทบไม่ต้องดีด เพราะมันกลบเสียงเบสหมดเลย เลยปล่อยเลยตามเลย วงนี้มีไอเดียแปลกๆดี
ผมอีกหนึ่งคนที่เจอเเบนี้ ยิ่งงานเเรกที่ได้จับสด บอกไห้ตั้งหนังกลองยานๆๆ กับบอกเรากับมาว่า ที่เคยๆๆเล่น ก็ตั้งแบบนี้ อุ่ผมล่ะปวดหัว ผลที่ออกมา เสียงฟังไม่ได้เลย จบงานมาถามเรา ตู้วับพี่เล่นสดไม่ได้ อหรอกผมว่าเสียงไม่ผ่าน ผมก้เลยสวนเเบบสอนเด้กไปเลย น้องคราฟ ที่เสียงเป้นเเบบนี้พี่ไม่มี D4 ที่จะมาใช้เพื่อไห้น้องตั้งกลอง แบบไหนก็ได้ พี่บอกไห้นาย ยานหน้ากลอง นายก้ไม่ทำ เเล้วจะไห้พี่ทำงัยหร่ะคราฟ นับต่อจากนั้น ตอนนี้ผมจับสดมาเเล้วสามงาน แต่ไม่ใช่วงเดิม พอพวกน้องๆๆที่มาเล่นไห้งานเเลก อ่าวพี่เสียงดีนิคราฟ ผมก็เลยไม่พูด บอกเเค่ว่า นักดนตรี เขาเข้าจัย คนซาวดื เเค่นั้น
-
ขอบคุณครับ
-
มีรูปให้ดูบ้าวไหมครับนึกภาพไม่ค่อยออก
-
smiley4 ตามเก็บครับ smiley4
-
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ smiley4
-
ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวหน่อยนะครับผม ไม่มีเจตนาไม่ดีแต่อย่างไรเพียงแต่นำประสบการณ์มาแชร์ครับผม
ซึ่งงานนั้นเป็นงานใหญ่หน้าห้างดังภาคเหนือครับ ซึ่งงานจัดเป็นดนตรีอคูสติกซึ่งมีศิลปินแนวนี่3ศิลปินด้วยกัน ว่า ธนกฤต,แสตมป์,room 39 พอไปถึงสถานที่จัดงานเพื่อไปทำการซาวด์เช็ค(ตัวผมเองเล่นเบสแบ็คอัพให้คุณว่านครับผม)มือกลองที่วงได้นำกลองส่วนตัวซึ่งเป็นกลองชุดเล็กเพราะเป็นงานอคูสติก กระเดื่อง18",แสนร์,ไฮแฮท,ฉาบ20" 1ใบ เห็นเวทีตกใจใหญ่มากกก เครื่อเสียงดีมากกกน่าจะเป็นเจ้าใหญ่ๆในท้องถิ่นครับเพราะจากเจ้าหน้าที่บนเวทีพูดภาษาท้องถิ่นกันมาเลยครับ และงานนั้นทางวงไม่มีซาวด์เอ็นไปด้วยจึงต้องให้ซาวด์เอ็นของเครื่องนั้นเป็นคนทำ เริ่มจากเอาไมค์มาจ่อกระเดื่องซึง่ทางเครื่องมีแค่ไมค์shure beta91ซึ่งมันเอาเข้าไปวางไม่ได้เนื่องจากกระเดื่องไม่ได้เจาะรู้ จึงแก้ปัญหาโดยการนำshure58มาจ่อหน้ากระเดื่องแทนซึ่งได้อยู่แล้วเพราะงานอคูสติกไม่ต้องบึ้มมากก็ได้ฟังสบายๆ เริ่มจากทำโทนมอนิเตอร์ก่อนเลยครับดูพี่เค้าหัวเสียมาก พอเริ่มส่งสัญญานเสียงมาที่มอนิเตอร์เสียงที่ได้มันกลับมีแต่โลว์และหางที่จิกมากๆ(จากการวิเคราะห์พี่เค้าน่าจะติดโทนของไมค์91) พอเป็นอย่างนี้ก็เลยรอให้พี่เค้าทำไปเรื่อยๆแต่เหมือนแกจะสิ้นสุดการทำโทนกระเดื่องแล้วเราก็ตกใจเอาเสียงนี้เลยเหรอ เลยให้น้องที่ทำเสต็จของวงลงไปบอกว่ารบกวนลองแฟลตอีคิวที่บอร์ดให้หน่อยพอพี่เค้าทำให้โทนออกมาธรรมชาติ นวลเลยครับ หัวข้อนี้มีแค่เรื่องกระเดื่องเลยขอยกตัวอย่างเท่านี้พอครับ555
เนื่องจากผมทำเครื่องเช่าด้วยและงานผมจะรับของเพื่อนๆกันเองน้องๆนักศึกษาเลยเจอหลายรูปแบบมากครับ เช่นมือกลองวงแจ๊สจูนหนังกระเดื่องตึงมาก และต้องการเล่นไดนามิคดังเบาตลอดเพลงเลยgateหรือcomหนักมากไม่ได้เพราะไดนามิคจะไม่ค่อยออก เจอคนตีดีก็ดีไปคนที่คุมตัวเองไม่ค่อยได้เสียงกระเดื่องก็ไม่เท่ากันอีก เจองานเมทัลแบกกลองกระเดื่องขนาด24"มาแต่ดันเหยียบกระเดื่องคู่ เจ้าพระคุณเอ้ยกระเดื่อง24"เสียงยาวเป็นกิโลเลยแต่ดันเหยือบกระเดื่องคู่ก็ต้องโลว์คัตแบบสุดๆgateให้สั้นสุดกันไปเลยครับเพราะเวลาเหยียบกระเดื่องคู่จะได้ชัดๆแต่ก็ได้แบบไม่ชัดเจนเท่าไร
ก็น่าจะต้องสังเกตุหรือดูคาแร๊ตเตอร์ของวงหรืออุปกรณ์ของผู้แสดงก่อนอ่ะครับผมจะไม่ค่อยยุ่งกับอุปกรณ์ส่วนตัวของผู้แสดงมากนอกเสียงจากว่าอุปกรณ์เค้าไม่สมบูรณ์แล้วมีเสียงไม่พึงประสงค์ออกมาเช่นเสียงสปริงกระเดื่อง เสียงน๊อตล่นในตัวกลองถึงให้เค้าแก้ไข ลองเปิดใจดนตรีไม่มีกฎเกณตายตัวครับถ้าทุกอย่างต้องทำตามทฤษฎีตามกฏเกณจะไม่มีสิ่งใหม่ๆมาให้เราได้ชื่นชมแน่นอนครับ
ขอฝากเนืื้อฝากตัวด้วยนะครับพอดีเพิ่งสมัครได้ไม่นาน บ้านนี้มีแต่ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ
-
smiley4 smiley4 smiley4 ตามเก็บครับ
-
การจ่อไมค์สองตัวทำประมานนี้ครับผม
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/02/02/3936_1391320785.jpg)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2014/02/02/3936_1391320818.jpg)
shure beta91 เป็นคอนเดนเซอร์รับเสียงจิก เสียงกระแทก เสียงบอดี้ขอกลองเอาไว้ด้านในลึกมากลึกน้อยลองขยับกันครับแล้วจะเห็นผลลัพ
shure bet52 เป็นไดนามิคไมค์รบเสียงกระแทกลม และมวลเสียงใหญ่ทำให้ดูมีความใหญ่เอาไว้บริเวณรูระบายลม ยิ่งยัดลึกเสียงจะแข็งขึ้นเรื่อย เอาออกมาไกลก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆครับ
-
smiley4 ขอบคุณครับ รู้ไว้ใช่ว่า..
-
ขอกล่าวขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้แชร์ประสบการณ์ แชร์ความรู้ ให้มาอย่างจริงใจ ผมชอบอ่านความเห็นที่หลากหลายแบบในหัวข้อนี้แหละครับ มันเป็นเรื่องของอุปทานแห่งเสียง เสียงมาตรฐาน เสียงสด เสียงในจินตนาการ ของแต่ละท่านอาจแตกต่างกันในสิ่งที่ชอบ
ผมขอเก็บความรู้จากประสบการณ์ตรง ของท่านทั้งหลายที่ได้ให้มา เพื่อปรับใช้ต่อไป กราบขอบพระคุณมากครับอาจารย์
-
smiley4
-
อันนี้ผมลองเล่นๆนะครับ แต่ได้ผลจริง
ใช้ไมค์ shure 57 ใส่กระเดื่อง ใช้ไฟ 48v ที่มิกซ์ ช่วย
ผลที่ออกมา ตึบๆ เลยครับ ไม่ต้องใส่D4เลย มิกซ์ง่ายมากๆ
แต่กลองก็ต้องดีด้วยนะ
ลองดูครับ ผมลองแล้ว
(แชร์ความรู้ครับ สรรหาอะไรเล่นเฉยๆครับ)
-
อันนี้ผมลองเล่นๆนะครับ แต่ได้ผลจริง
ใช้ไมค์ shure 57 ใส่กระเดื่อง ใช้ไฟ 48v ที่มิกซ์ ช่วย
ผลที่ออกมา ตึบๆ เลยครับ ไม่ต้องใส่D4เลย มิกซ์ง่ายมากๆ
แต่กลองก็ต้องดีด้วยนะ
ลองดูครับ ผมลองแล้ว
(แชร์ความรู้ครับ สรรหาอะไรเล่นเฉยๆครับ)
ใช้ 48V ช่วยทำอะไรครับ?
-
อันนี้ผมลองเล่นๆนะครับ แต่ได้ผลจริง
ใช้ไมค์ shure 57 ใส่กระเดื่อง ใช้ไฟ 48v ที่มิกซ์ ช่วย
ผลที่ออกมา ตึบๆ เลยครับ ไม่ต้องใส่D4เลย มิกซ์ง่ายมากๆ
แต่กลองก็ต้องดีด้วยนะ
ลองดูครับ ผมลองแล้ว
(แชร์ความรู้ครับ สรรหาอะไรเล่นเฉยๆครับ)
ใช้ 48V ช่วยทำอะไรครับ?
ไมค์แบบนี้ไม่ใช่ไฟ48vช่วยจะไม่ดังนะครับ
-
Shure 57 นี่หมายถึง SM BETA หรือ PG?
-
ของผมใช้ Insert EQ ครับ เลือกเสียงได้ดั่งใจครับ แต่ต้องไม่ปรับ EQ ใน Line Mix นะครับ ปล่อย Flat เลย ลองดูครับ
-
อย่าเถียงกันให้เมื่อยเลยพี่น้องครับ ไปซื้อไมค์กระเดื่องที่เขาออกแบบมาแล้วมาใช็จบครับ
-
อันนี้ผมลองเล่นๆนะครับ แต่ได้ผลจริง
ใช้ไมค์ shure 57 ใส่กระเดื่อง ใช้ไฟ 48v ที่มิกซ์ ช่วย
ผลที่ออกมา ตึบๆ เลยครับ ไม่ต้องใส่D4เลย มิกซ์ง่ายมากๆ
แต่กลองก็ต้องดีด้วยนะ
ลองดูครับ ผมลองแล้ว
(แชร์ความรู้ครับ สรรหาอะไรเล่นเฉยๆครับ)
ใช้ 48V ช่วยทำอะไรครับ?
ผมขำจนท้องแข็งแล้วพี่
-
อ่านผู้แชร์ประสบการทีไร ปวดขมับทุกทีไม่รู้จะเชื่อใคร อย่าเถียงกันได้ไหมครับพี่น้อง ขอเป็นแบบว่าแชร์ แชร์แต่ละคนมาดีกว่าครับ ใครดีแบบไหนก็มาแชร์กันไม่ใช่มาสกัดกัน เพราะแต่ละคนเจอมากับตัวเองแบบนั้นเลยมาแชร์ อีกคนไปเจออีกแบบก็มาแย้ง ผมคนอ่าน มึนกันไปเลย
-
อ่านผู้แชร์ประสบการทีไร ปวดขมับทุกทีไม่รู้จะเชื่อใคร อย่าเถียงกันได้ไหมครับพี่น้อง ขอเป็นแบบว่าแชร์ แชร์แต่ละคนมาดีกว่าครับ ใครดีแบบไหนก็มาแชร์กันไม่ใช่มาสกัดกัน เพราะแต่ละคนเจอมากับตัวเองแบบนั้นเลยมาแชร์ อีกคนไปเจออีกแบบก็มาแย้ง ผมคนอ่าน มึนกันไปเลย
smileyy smileyy kisss kisss