Tigger Sound

สินค้าเครื่องเสียง จากสมาชิกร้านค้า ทั่วไทย
=> ตลาดกลาง การค้า เครื่องเสียง และอุปกรณ์ทุกชนิด จากร้านค้า ที่ร่วมสนับสนุน => K-ONE Music Tel.081-9817904 => ข้อความที่เริ่มโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ มกราคม 20, 2010, 03:42:08 pm

หัวข้อ: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ มกราคม 20, 2010, 03:42:08 pm
...หลายท่านมักเข้ามาพูดคุยกันอยู่เสมอเกี่ยวกับเจ้า D4 ที่อาการพบบ่อยๆมากที่สุด นั่นคืออาการไฟตก หน้าจอ Reset ใหม่เสมอ กระเดื่องลงทีหน้าจอวูบที แน่นอนครับ อาการอย่างนี้เป็นได้อย่างเดียวนั่นคือไฟตกครับ หลายๆท่านก็แก้ปัญหากันโดยการเปลี่ยนหม้อแปลงให้ตัวใหญ่ขึ้นกระแสมากขึ้น แต่การทำแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ D4 จะทำงานได้ดีกว่าเดิมนะครับ เพราะความต้องการแรงไฟของ D4 ต้องการที่ 9 VAC กระแสไม่ต่ำกว่า 1 แอมป์ครับ การที่เปลี่ยนให้กระแสมากกว่า 1 แอมป์ แต่แรงดันคงที่ๆ 9 โวลท์ การทำงานของเครื่องก็ยังคงเดิมครับ ไม่ได้ช่วยอะไร พอไฟตกโวลท์ก็ตกตามไปด้วย ทางแรงดัน 9 โวลท์ก็ตกตามลงไปอาจจะเหลือ 7.5-8 โวลท์แค่นี้ D4 ก็จะตายแล้วครับเพราะจากภาคกรองไฟนั้น D4 ใช้การกรองไฟแบบครึ่งคลื่นไม่ได้เต็มคลื่นครับ พูดกันแบบ บ้านๆหละกันไม่ต้องอังกฤษนะครับ การแปลงไฟแบบนี้ ช่วงไซเคิลขาลงไฟบวกจะหายไปครึ่งหนึ่งครับ และ ทางตรงข้ามเมื่อไฟบวกทำงานไฟลบก็จะหายไปครึ่งคลื่นเช่นกัน....
....มีคนเคยถามว่าอย่างนี้ถ้าใช้มากกว่า 9 โวลท์หล่ะครับ อย่างเช่น 12 โวลท์ จะได้ไหม ผมก็ว่าคงไม่ไหวมั้งครับ เพราะเครื่องจะร้อนจัดในสภาวะไฟเต็ม แต่ถ้าตกก็ยังพอไหว แต่ใครจะไปรู้ครับไฟบ้านเรา ผีเข้าผีออก บางทีมากกว่า 220 ก็มี อย่างนี้อาจพาลให้ D4 กลับบ้านเก่าเร็วขึ้นเท่านั้นเอง...ตรงนี้เลยไม่แนะนำครับ...
.....เมื่อไฟตกอาการที่ตามมาก็คือเกิดสัญญานรบกวนมากครับ ถ้ามากเกินกำลังที่จะรับได้ สัญญานขาออกอาจจะบื่อฮัมตามไปเลยฟังไม่รู้เรื่อง และอีกอย่างสัญญานขาออกของ D4 ทั้ง 4 ช่องมันก็มีสัญญานรบกวนมากอยู่แล้วครับ ท่านลองเร่งโวลลุ่มของ D4 ให้สุดแล้วลองเร่งสัญญานที่มิกซ์ดูซิครับมันบื่อให้เราเห็นและได้ยินทันทีเนื่องจากการออกแบบของภาคจ่ายไฟแบบนี้นี่เองที่เป็นอาการแบบนี้ครับ...
....หลังจากที่ผมคิดมานานและเคยโพรสให้อ่านกันว่าผมจะเอา D4 ใส่สวิทชิ่งแทนหม้อแปลงครับ และเมื่อมีเวลาผมก็เลยจัดการผ่าซะเลยครับ ก็ได้จัดหาอุปกรณ์ดังนี้ครับ..
1....หม้อแปลงแบบสวิทชิ่งขนาดไฟเข้า 100-240 โวลทื ขาออกที่ 12 โวลท์ ขนาดกระแส 2 แอมป์ มา 2 ตัว
2....กล่องเอนกประสงค์สามารถยัดวงจรสวิทชิ่งได้ 1 กล่อง
3....สายไฟ 3 คอร์อย่างดียาวพอปณะมาณ 1 เส้น
4....แจ็คตัวผู้ตัวเมีย 1 คู่อย่างดี มีปุ่มล็อคในตัว 1 ชุด
(http://uppic.us/ir/03343.jpg)
(http://uppic.us/ir/r3342.jpg)
....ขั้นตอนแรกเราก็มาชำแหละเจ้าสวิทชิ่งออกทั้งสองตัวให้เหลือแต่ไส้ในครับตามรูป...
(http://uppic.us/ij/j3341.jpg)
...หลังจากนั้นเราก็มาวางรูปแบบ เพื่อให้พอเหมอะพอดีกับกล่องที่เลือกมาแล้ว หลังจากนั้นก็เจาะรู ติดหลอด LED แสดงไฟบวกกับไฟลบ ด้วยเพื่อความสวยงามครับ...
...ขั้นตอนการเดินสายไฟถ้าหลายท่านเป็นช่างไฟอยู่แล้วก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากนะครับ โดยการแบ่งเจ้าสวิทชิ่งออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดแรกทำเป็นแรงดันด้านไฟ + 12 โวลทื และ อีก 1 ตัว เอามาทำเป็นแรงไฟด้านขา -- 12 โวลท์ครับ ตรงนี้คงไม่ยากนะครับ...
(http://uppic.us/il/l3344.jpg)
(http://uppic.us/ip/p3345.jpg)
(http://uppic.us/ir/r3346.jpg)
(http://uppic.us/ie/e3347.jpg)
(http://uppic.us/ih/23348.jpg)
....ส่วนการเก็บรายละเอียดหรือการกำหนดที่ขั่วแจ๊คนั้น ก็อยู่ที่ฝีมือของแต่ละท่าน ว่าจะเรียงยังไง เพราะเมื่อเราเสียบใช้งาน ขั่ว 3 ขั่วเมื่อเสียบกันแล้วต้องตรงกันพอดีครับ คือ บวกตรงบวก และลบตรงลบ ส่วนไฟ 0 โวลท์ก็เหมือนกัน ต้องทดสอบและมาร์คขั่วสายก่อนที่จะทำการเชื่อมต่อกับวงจรของจริงนะครับเพื่อความมั่นใจในความถูกต้องของแต่ละขั่ว....
....เรามาดูทางด้าน D4 ว่าจะวางหรือใสเจ้าแจ๊คตัวผู้เอาไว้ตำแหน่งไหนถึงจะเหมาะ เมื่อเปิดฝาดูก็จะเห็นว่า มันแน่นไปหมด ไม่รู้จะวางตรงไหนดี บังเอิญผมก็คิดได้ว่าเจ้า แจ็คโฟนที่เป็นตัว FOOT SW เราไม่ค่อยได้ใช้หรืออาจจะไม่ได้ใช้เลยเพราะเราไม่ได้เล่นสด ผมก็เลยจัดการบัดกรีมันออกครับ และก็หาถุงใส่และเก็บมันไว้ในตัวเครื่องนั่นหละครับไม่ต้องกลัวหายเผื่อนึกอยากจะทำให้เหมือนเดิมจะได้ไม่ต้องหากันให้วุ่นครับ...
....ด้วยความบังเอิญอีกที่เจ้าแจ๊คคู่นี้มันดันมีไดมิเตอร์หรือเส้นผ่าศูนย์กลางพอดีกับแจ็คโฟนเลยครับ ผมก็เลยจับมันใส่ในช่องนี้ไปเลย และไม่ต้องไปเจาะรูก็เพราะมันไม่มีที่จะให้เจาะนั่นเองและเมื่อติดตั้งเสร็จก็จัดการโยงสายใกล้กับภาคจ่ายไฟเดิมได้ง่ายขึ้นครับ...
(http://uppic.us/it/t3328.jpg)
(http://uppic.us/iu/03327.jpg)
(http://uppic.us/if/f3336.jpg)
(http://uppic.us/is/s3337.jpg)
(http://uppic.us/iz/z3339.jpg)
(http://uppic.us/ic/73351.jpg)
(http://uppic.us/in/83354.jpg)
(http://uppic.us/ij/43355.jpg)
(http://uppic.us/iy/y3349.jpg)
...ก่อนที่จะบัดกรีสายสายไฟทั้ง 3 เส้นที่เป็นไฟ +/-/0โวลท์ ท่านต้องตรวจสอบอีกครั้งนะครับเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากผิดขั่วได้ครับ...
....ในการบัดกรีสายไฟทั้งบวก-ลบ-กราวด ผมก็เลือกจุดที่ใกล้เคียงกับเร็กกูเรเตอร์ได้เลยครับ ทางด้านไฟ + เราบัดกรีเข้าที่ขาที่ 1 ของ IC 7805 ได้เลยครับ ส่วนด้านไฟ - เราก็บัดกรีขา Input ของตัว IC คือขาที่ 2 นะครับ ส่วนด้านกราวด หรือ  0 โวลท์ ท่านก็อาจหาจุดตรงไหนก็ได้ที่บัดกรีง่ายผมก็เลยเลือกเข้าที่ขา 2 ของ IC 7805 ครับ หรือ ถ้าเป็นที่ IC 7905 ก็ต้องเป็นขาที่ 1 ครับ...
....หลังจากบัดกรีเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าเช็คตรวจสอบทางด้านแจ๊คตัวเมียอีกครั้งครับว่ามีไฟ +/- 12โวลท์ครบหรือไม่เมื่อเทียบกับ 0 โวลท์นะครับ เมื่อท่านมั่นใจท่านก็เปิดสวิทช์ที่กล่องภาคจ่ายไฟได้เลย.....
....ในการต่อแบบนี้เราก็จะไม่สามารถที่จะใช้สวิทช์ปิดเปิดที่หน้าเครื่องได้นะครับเพราะเราได้ต่อภาคจ่ายไฟเข้าที่วงจรโดยตรง นั่นก็หมายความว่าเมื่อมีไฟเข้ากล่องภาคจ่ายไฟเจ้า D4 ของเราก็พร้อมที่จะทำงานได้เลย แต่ถ้าถามว่ามันทำงานตลอดเวลามันไม่ร้อนหรือครับ ท่านก็อย่าไปคิดมากครับเครื่องอุปกรณ์ของแพงแต่ละชนิด บางทีไม่มีสวืทช์ปิดเปิดด้วยซ้ำ บางทีมีก็เอาไปซ่อนไว้ด้านหลัง เรื่องแค่นี้ไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัวครับ
....ผลที่ได้รับที่มากกว่าการป้องกันการ Reset ของเครื่องเนื่องจากไฟตกแล้ว ทางด้านขาเข้าที่เป็นแจ๊คตัวเดิมเราก็สามารถที่จะเอาหม้อแปลงเดิมมาเสียบต่อได้อีกเช่นกันครับ ในกรณีที่ภาคจ่ายไฟแบบใหม่อาจชำรุดได้ครับ... ผมได้ทดสอบโดยการเสียบภาคจ่ายไฟเข้าที่หม้อแปลง 110 โวลท์แทน 220 โวลท์
 ผลที่ได้ก็คือ D4 ก็ยังทำงานปรกติครับ เนื่องจากสวิทชิ่งที่ใช้มันสามารถรองรับแรงดันต่ำสุดที่ 100 โวลท์และสูงสุดที่ 240 โวลท์นั่นเองครับ และผลที่ตามมาอีกเรื่องก็คือ สัญญาน Noise ที่ออกทาง OUTPUT ของ D4 ทั้ง 4 ช่องมันเงียบลงไปกว่าเดิมมากถึงจนเกือบเงียบสนิท เมื่อเทียบกับก่อนที่เราจะแปลงภาคจ่ายไฟเสียอีกครับ ตรงนี้หละคือผลพลอยได้ที่ผมเองชอบมากครับ พูดกันง่ายๆว่าในขณะที่เรายังไม่เล่นหรือปล่อยสัญญาน MIDI เข้าที่ D4 ลองเร่งโวลลุ่มที่มิกซ์ สัญญานNoise หรือ ฮัม มีน้อยลงไปมากกว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็น ทำให้เราฟังเสียงดนตรีที่ออกจาก D4 ได้เคลียมากขึ้นใสขึ้นนั่นเองเนื่องจากภาคจ่ายไฟชุดใหม่มันอิ่มตัวและสมบูรณ์กว่าภาคจ่ายไฟของเก่าที่เป็นแบบครึ่งคลื่นนั่นเอง..
.....ผลงานอีกชิ้นที่กำลังทำที่จะตามมาคือการดัดแปลง ภาคจ่ายไฟของ SC-88 PRO ให้เป็นแบบสวิทชิ่งอีกเช่นกัน เพราะปัญหาของ 88Pro ก็ไม่แตกต่างกํบ D4 เลยครับ พอไฟตกหน้าจอวูบก็ Reset เช่นกัน ลองติดตามผลงานกันต่อไปนะครับ ซึ่งการตัดแปลงผมจะใส่สวิทชิ่งเข้าไปในตัวของ
 SC-88 PRO เลยครับไม่ต้องมีกล่องอยู่ข้างนอกครับ...
.......ลองติดตามผลงานชิ้นต่อไปนะครับ....ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านครับ....
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: เก่งฐิติพรมิวสิค_hs6tre ที่ มกราคม 20, 2010, 04:06:07 pm
ยอดเยี่ยมเลยครับ เสียดายจังของผมขายไปแล้ว Onion-064 Onion-071
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: พวงมาลัย มิวสิค ที่ มกราคม 20, 2010, 10:39:06 pm
ขอบคุณท่าน K-ONE จากใจจริงครับ หลายครั้งที่ท่านช่วยแก้ปัญหาให้ครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: เจ.พี.★★ ที่ มกราคม 21, 2010, 12:57:10 am
แจ่มเลยคับ Onion-070 Onion-070 Onion-070
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: prasong101 ที่ มกราคม 21, 2010, 09:47:16 am
สุดยอดมากครับอาจารย์+10 Onion-017 Onion-017 Onion-017 Onion-017 Onion-017
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: SRS ที่ มกราคม 21, 2010, 10:30:33 am
สุดยอดคับ แก้ที่ต้นตอเลย

แต่..สอบถามนิดนึงคับ ใช้สวิทย์ชิ่งตัวเดียวได้หรือเปล่าคับ รึว่าต้องใช้2ตัวแยกบวกลบคับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ มกราคม 22, 2010, 09:44:24 am
สุดยอดคับ แก้ที่ต้นตอเลย

แต่..สอบถามนิดนึงคับ ใช้สวิทย์ชิ่งตัวเดียวได้หรือเปล่าคับ รึว่าต้องใช้2ตัวแยกบวกลบคับ
..ครับ..มันต้องใช้ 2 ตัวครับ เพราะเราต้องแยกออกเป็น 2 ชุดคือ อิงไฟ บวก 1 ชุด และอิงไฟลบ 1 ชุดครับ ที่จริงแล้วกระแสทางด้าน บวกกินไม่ถึงครึ่งแอมป์ครับ ใช้ที่ 1 แอมป์ก็พอครับ ส่วนทางด้านไฟลบ กินน้อยมากครับ ใช้ที่ 500 มิลลิแอมป์ ก็เหลือเฟือครับ ดูการกินกระแสของ D4 ได้ที่รูปนะครับ มันกินน้อยมากแต่เราเผื่อไว้เท่านั้นเอง..
(http://uppic.us/ii/i3356.jpg)
...ด้านไฟบวกเมื่อวัดกระแสสแตนบายดูได้เท่านี้ครับ ช่วงที่ทำงานออปแอมป์ทั้งหมดก็ไม่น่าจะสูงกว่านี้ซัก 3 เท่าก็มากโขแล้วครับ ....
(http://uppic.us/iu/u3357.jpg)
...ทางด้านไฟลบน้อยมากครับแทบจะดูไม่ออกเลย ฉะนั้นเพื่อประหยัดให้มากกว่านี้ ไฟลบเราอาจใช้ สวิทชิ่งกระแสซัก 500 มิลลิอแมป์ก็เหลือเฟือแล้วครับ ขนาดกล่องจะได้เล็กลงไปอีก ทั้งหมดนี้ก็ล้วนแต่ต้องใช้ฝีมือในการออกแบบครับ ที่จริงมัมีอะไรที่ทำได้ดีกว่านี้อีกครับเกี่ยวกับภาคจ่ายไฟ ยังไงจะเสนอให้ดูกันใหม่ครับ โดยการใช้ ไฟบวกด้านเดียวแต่ไปใช้ภาค คอนเวอเตอร์ ด้านไฟลบโดยการอิงแรงดันหลอกให้กับมันเพื่อสร้างไฟลบ คอยดูกันต่อนะครับ จะดัดแปลงให้ดูกัน...
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: Awin ที่ มกราคม 22, 2010, 01:38:18 pm
ขอเรียนสอบถามครับ
ในกรณีที่เราใช้คอมพิวเตอร์มาเล่นด้วย เราใช้ไปจาก UPS ไดหรือเปล่าครับ
ถ้าไฟตก เครื่อง UPS ช่วยได้หรือเปล่าครับ...
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ มกราคม 22, 2010, 03:49:52 pm
...กรณีที่ใช้ UPS ช่วย มันไม่เสมอไปครับ เพราะ UPS บางตัวค่าการทำงานไม่เท่ากันครับ บางตัวมีค่า +/- 5 % ถ้าไฟตกต่ำกว่า 105 โวลท์แล้วถึงทำงาน แบบนี้ก็แย่แล้วครับ ถ้าเครื่องไหนที่เป็น +/- 1 % แบบนี้แจ๋วมากครับ ไม่มีปัญหาแน่นนอนครับ ยังไงก็ต้องพิจารณาตรงนี้ด้วยครับ...
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: พวงมาลัย มิวสิค ที่ มกราคม 22, 2010, 05:57:00 pm
รบกวนท่า K-ONE หน่อยครับ เจ้าสวิทชิ่งตัวนี้หาซื้อได้ที่ไหนครับ เพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องวงจรพวกนี้ เท่าไรครับ เพราะตอนนี้ผมเจอปัญหานี้มากเลยครับ เรื่องของไฟตก D4 มีปัญหาเรื่อยเลย ผม PM ไปแล้วนะครับยังไงช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/01/22/14933_1264157872.jpg)
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: งุ่นสด ที่ มกราคม 22, 2010, 11:13:26 pm
อืมเรื่องที่ใครๆมองข้าม
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: chanachaisound ที่ มกราคม 22, 2010, 11:54:58 pm
ยอดเยี่ยมเลยคับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: inwkrid ที่ มกราคม 23, 2010, 01:50:14 am
แก้ที่ต้นเหตุจริงๆ สุดยอดครับ Onion-005 Onion-005 Onion-005
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: Sab-Sound ที่ มกราคม 23, 2010, 09:08:20 am
ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: รุ่งพงษ์ โพนทอง101 ที่ มกราคม 24, 2010, 10:12:41 pm
มีเรื่อง ที่ จะรบกวน พี่นิมิตร อีกแล้ว.......""เรื่องเงิน ครับ..."""อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: chalat ★★★ ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2010, 02:39:23 pm
ขอบคุณครับ  ไม่ต้องกลัวไฟตกแล้ว Onion-017
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: พวงมาลัย มิวสิค ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:13:53 pm
รอผลงานท่านนิมิตรครับ  Onion-021 Onion-021 Onion-021
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: prateep-ss ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 07:54:16 pm
มาถึงตรงนี้ครับ ผมเจอ สวิทชิ่งเครื่องเล่น DVD ครับ มันมี +12V -12V  ด้วยครับ แต่มันแค่ 250 มิลลิแอมป์เองครับเรามีวิธีเพิ่ม แอมป์ใหมครับ เพราะเห็นขายตามร้านราคาถุกดีครับ ผมว่าน่าเอามาใช้แทนได้ครับถ้าสามารถเพิ่มแอมป์ให้ชุดจ่ายไปตรง +-12 V ได้ครับ ขอบคุณครับ 
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: RIN101 ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 08:19:29 pm
สุดยอดครับ สมแล้วกับตำแหน่งหมอใหญ่ประจำเวปขอบคุณมากน้องชายที่มีแต่เรื่องดีๆให้พี่น้องชาวทิกเกอร์มาตลอด Onion-070
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2010, 03:04:42 pm
...ทำไม่ไ
มาถึงตรงนี้ครับ ผมเจอ สวิทชิ่งเครื่องเล่น DVD ครับ มันมี +12V -12V  ด้วยครับ แต่มันแค่ 250 มิลลิแอมป์เองครับเรามีวิธีเพิ่ม แอมป์ใหมครับ เพราะเห็นขายตามร้านราคาถุกดีครับ ผมว่าน่าเอามาใช้แทนได้ครับถ้าสามารถเพิ่มแอมป์ให้ชุดจ่ายไปตรง +-12 V ได้ครับ ขอบคุณครับ 
ด้หรอกครับ เพราะ D4 ต้องการขั้นต่ำ 1000 มิลลิแอมป์หรือ 1 แอมป์เป็นอย่างต่ำครับ...
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: prateep-ss ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2010, 11:53:14 pm
ขอบคุณครับ ผมนึกว่ามีวิธี เพิ่มแอมป์ให้ชุดจ่ายไฟของ เครื่องดีวีดีครับ มันจ่ายแอมป์ออกมาแค่200 มิลลิแอมปืเองครับ ถ้าเพิ่มได้ก้จะดีมากครับ เพิ่มไม่ได้คงต้องแบบที่พี่นิมิตย์ ทำให้ดุครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: [[ ละ-อ่อน ]] ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2010, 12:05:51 am
มีตัวนี้อยู่ เอามาทำจะคุ้มไหมครับ  Onion-051

(http://www.uppicweb.com/x/i/iz/img0154amedium.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=f90e0fa4d43f9123c8c022de5dfdd5b7)
Thanks: ฝากรูปฟรี (http://www.uppicweb.com) รวมของฟรี (http://www.free.in.th) ดิกชันนารีออนไลน์ (http://www.dictionary.in.th)

หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: ดุริยางค์ 【จุ้น】 มิวสิค ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2010, 12:10:57 am
ส่วนตัวผมเอง นะ ผม ว่าน่าใส่ UPS ของคอมพิวเตอร์ นะครับไฟ้ตกมันร้องทันที กะพวก อีคิว ครอส มิก  เพราะพวกนี้ไฟ้ตกอันตรา ควรระวังไว้ นะ ครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ มีนาคม 11, 2010, 04:08:13 pm
ส่วนตัวผมเอง นะ ผม ว่าน่าใส่ UPS ของคอมพิวเตอร์ นะครับไฟ้ตกมันร้องทันที กะพวก อีคิว ครอส มิก  เพราะพวกนี้ไฟ้ตกอันตรา ควรระวังไว้ นะ ครับ
...การใช้ UPS ก็ช่วยได้นะครับ แต่อย่าลืมว่า UPS รุ่นใหม่ๆประสิทธิภาพห่วยเอามากๆ เพื่อนๆที่ใช้ UPS เมื่อไฟดับหรือไฟตก ท่านลองเอามิเตอร์วัดดูซิครับว่าไฟมันออกเท่าไหร่ เพราะการที่เอา UPS มาใช้กับคอมพิวเตอร์ มันดีตรงที่ภาคจ่ายไฟของคอมพิวเตอร์มันเป็นสวิทชิ่งมันเลยทำงานปรกติ แม้ว่ายามไฟดับ UPS จะจ่ายไฟไม่ถึง 200 โวลท์ก็ตาม แต่ถ้า UPS จ่ายไฟออกมาไม่ถึง 210 โวลท์ปรกติ ถ้าเราเอาหม้อแปลงของ D4 ไปเสียบมันก็ไม่มีประโยชน์ครับ แต่ถ้าหากเราใช้ UPS ที่มีค่าผิดพลาด 1 % ตรงนี้เห็นด้วยครับแต่ถ้า 5% ก็ไม่มีประโยชน์เมื่อไปตก เพราะ UPS จะทำงานเมื่อไฟตกต่ำกว่า 205 โวลท์อย่างแน่นอนครับ ยังไงก็ลองทดสอบดูที่ไฟขาออกก่อนนะครับ จะได้มั่นใจว่า UPS ของเราจ่ายไฟออกมามากน้อยเพียงใดในขณะที่ทำงานปรกติและยามไฟตกและอีกทั้งยามไฟดับ ลองตรวจสอบกันดู....
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: ทูน KALASIN ที่ มีนาคม 21, 2010, 11:10:53 pm
สุดยอดครับท่านแต่ไม่ทราบว่าจะนำไปใช้กับเอฟเฟคได้หรือไม่เพราะผมเจอปัญหาไฟตกบ่อยมาก UPS บอกตรงๆใช้ไม่ได้เลย ผมลองมาหลายตัวแล้ว    ก่อนที่มีบทความนี้ผมลองทำคล้ายๆกับท่านกับ  laxicon Mx100 แล้วใช้ไม่ได้
เสียงเอฟเฟคไม่ออกเลยแต่พอกลับไปใช้หม้อแปลงเดิมๆกลับมีเสียงทั้งๆที่วัดไฟออกเท่ากัน ผมเข้าใจว่าน่าจะเกิดจากสัญญาณ RFI (ไม่รู้ว่าเขียนถูกหรือเปล่า)ที่มาจากสวิตชิ่งเข้าไปกวนภาคถอดระหัส มันจึงไม่ทำงาน (อันนี้ผมคิดเอาเองนะครับเพราะผมสังเกตุไมค์ลอย ระบบVSF แต่ก่อนใฃ้ร่วมกับ วีดีโอคาราโอเกะที่เป็นม้วน วีดีโอเทปไม่มีปัญหา ร้องไกลเกิน50 เมตรได้ แต่พอมีคอมพิวเตอร์เข้ามาไมค์ชุดเก่ากลับได้ระยะทางไม่เกิน10เมตร ผมนึกว่าไมค์ลอยมันเสื่อมตามอายุลองปิดคอมถอดปลั๊กออกกลับได้ระยะไกลเท่าเดิมซึ่งทำให้ผมคิดว่าน่าจะเกิดจาก IRF ของคอมเข้าไปกวนแน่นอน)
แต่มีอีกวิธีหนึ่งน่าสนใจเหมือนกันของท่านหมูต้นฟิลม์ มะขามถุง เขาไม่ใช้สวิตฃิ่งแต่ใช้หม้อแปลง 4แอมป์ 2ตัว และมีวงจรอีกเล็กน้อยแต่ผมยังไม่ลองทำไม่ทราบท่านลองทำหรือยังครับ ดีหรือไม่ดีตรับวิธีไหนชัวว์ที่สุด

http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=12583.0
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ เมษายน 21, 2010, 04:28:22 pm
สุดยอดครับท่านแต่ไม่ทราบว่าจะนำไปใช้กับเอฟเฟคได้หรือไม่เพราะผมเจอปัญหาไฟตกบ่อยมาก UPS บอกตรงๆใช้ไม่ได้เลย ผมลองมาหลายตัวแล้ว    ก่อนที่มีบทความนี้ผมลองทำคล้ายๆกับท่านกับ  laxicon Mx100 แล้วใช้ไม่ได้
เสียงเอฟเฟคไม่ออกเลยแต่พอกลับไปใช้หม้อแปลงเดิมๆกลับมีเสียงทั้งๆที่วัดไฟออกเท่ากัน ผมเข้าใจว่าน่าจะเกิดจากสัญญาณ RFI (ไม่รู้ว่าเขียนถูกหรือเปล่า)ที่มาจากสวิตชิ่งเข้าไปกวนภาคถอดระหัส มันจึงไม่ทำงาน (อันนี้ผมคิดเอาเองนะครับเพราะผมสังเกตุไมค์ลอย ระบบVSF แต่ก่อนใฃ้ร่วมกับ วีดีโอคาราโอเกะที่เป็นม้วน วีดีโอเทปไม่มีปัญหา ร้องไกลเกิน50 เมตรได้ แต่พอมีคอมพิวเตอร์เข้ามาไมค์ชุดเก่ากลับได้ระยะทางไม่เกิน10เมตร ผมนึกว่าไมค์ลอยมันเสื่อมตามอายุลองปิดคอมถอดปลั๊กออกกลับได้ระยะไกลเท่าเดิมซึ่งทำให้ผมคิดว่าน่าจะเกิดจาก IRF ของคอมเข้าไปกวนแน่นอน)
แต่มีอีกวิธีหนึ่งน่าสนใจเหมือนกันของท่านหมูต้นฟิลม์ มะขามถุง เขาไม่ใช้สวิตฃิ่งแต่ใช้หม้อแปลง 4แอมป์ 2ตัว และมีวงจรอีกเล็กน้อยแต่ผมยังไม่ลองทำไม่ทราบท่านลองทำหรือยังครับ ดีหรือไม่ดีตรับวิธีไหนชัวว์ที่สุด

http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=12583.0

...การใช้สวิทชิ่งกับเครื่องอย่างอื่นเช่น เอฟเฟก หรือ ซาวด์แคนวาส พวก 88 PRO ก็ทำได้ครับ แต่อย่างที่ท่านเจอมาก็เพราะว่าสวิทชิ่งที่ท่านใช้มันเป็นของคุณภาพต่ำสักแต่ว่ามีไฟออกมาจริงแต่ไม่มีการกำจัดขยะออกจากแรงดันดีซีเลยทำให้ เลยทำให้ RF ที่ผสมมากับแรงดันดีซี ออกไปกวนอุปกรณ์อย่างอื่นก็เป็นได้ครับ หรืออย่างเช่นมิกซ์ของเบอริงเจอร์ทุกรุ่นที่เป็นสวิทชิ่ง ทุกตัวเป็นสวิทชิ่งราคาถูกที่ทำในจีน สังเกตุว่าอุปกรณ์ที่ใช้ภายในเครื่องร้อนหมดเกือบทุกตัวและเป็นแบบนี้ทุกเครื่องครับ และต่อมาก็คือเครื่องมักจะรวนและหมดสภาพไปในที่สุดซึ่งก็เจอมาหลายรายแล้วครับ ฉะนั้นการเลือกสวิทชิ่งที่ดีต้องดูมวงจรประกอบภายในด้วยครับเป็นดีที่สุด...
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: ทูน KALASIN ที่ เมษายน 23, 2010, 11:47:58 am
อ้างถึง
...การใช้สวิทชิ่งกับเครื่องอย่างอื่นเช่น เอฟเฟก หรือ ซาวด์แคนวาส พวก 88 PRO ก็ทำได้ครับ แต่อย่างที่ท่านเจอมาก็เพราะว่าสวิทชิ่งที่ท่านใช้มันเป็นของคุณภาพต่ำสักแต่ว่ามีไฟออกมาจริงแต่ไม่มีการกำจัดขยะออกจากแรงดันดีซีเลยทำให้ เลยทำให้ RF ที่ผสมมากับแรงดันดีซี ออกไปกวนอุปกรณ์อย่างอื่นก็เป็นได้ครับ หรืออย่างเช่นมิกซ์ของเบอริงเจอร์ทุกรุ่นที่เป็นสวิทชิ่ง ทุกตัวเป็นสวิทชิ่งราคาถูกที่ทำในจีน สังเกตุว่าอุปกรณ์ที่ใช้ภายในเครื่องร้อนหมดเกือบทุกตัวและเป็นแบบนี้ทุกเครื่องครับ และต่อมาก็คือเครื่องมักจะรวนและหมดสภาพไปในที่สุดซึ่งก็เจอมาหลายรายแล้วครับ ฉะนั้นการเลือกสวิทชิ่งที่ดีต้องดูมวงจรประกอบภายในด้วยครับเป็นดีที่สุด...
น่าจะใช่ครับเพราะตัวร้อยกว่าบาทเอง นำเข้ามาจากประเทศจีน แต่ใช้กับอย่างอื่นไม่มีปัญหา มีแต่กับเอฟเฟคนี่หล่ะ
ไม่ได้ ผมกะจะเอาอะแดปเตอร์ของโน๊ตบุคมาทำแต่มันติดตรงแรงดันที่สูงเกินนี่นะสิ ตั้ง 19 V ไม่ทราบว่าถ้าเอามาทำแล้วต่อผ่าน IC เร็คกูเลตอีกที IC จะทนไหวไหม เพราะเครื่องมันต้องการกระแสที่ไม่ต่ำกว่า 1 แอมป์ ส่วนอะแดปเตอร์จ่ายได้ 4 แอมป์กว่าๆ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: joo_takebe 101 ที่ ธันวาคม 15, 2010, 05:32:30 pm
เข้ามาดูแล้วได้ความรู้มากมายจริงๆ สุดยอดเลยครับ อาจารย์
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ยtp sound ที่ ธันวาคม 28, 2010, 01:12:59 pm
เยี่ยมจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: search ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2011, 01:14:07 pm
ไม่ค่อยเก่งเรื่องไฟฟ้า ถ้าจะให้ท่าน K-ONE Music ช่วยดำเนินการจัดทำหม้อแปลง D4 ทั้งหมดค่าแรง+ค่าอุปกรณ์ประมาณเท่าไรครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: ดาบเกียรติ ที่ เมษายน 03, 2011, 09:37:53 am
อาจารย์ครับถ้าเราใช้สวิทชิ่งที่ขายสำเร็จรูปไฟ dc ได้ใหมครับ(dcเข้าac)
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: dam music ที่ มีนาคม 21, 2012, 03:05:45 pm
ผมมีหม้อแปลง แปลง 220VAC เป็น 110VAC ใช้เครื่องสำรองไฟจ่ายให้หม้อแปลงได้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: pkmusic ที่ มีนาคม 27, 2012, 01:28:33 pm
ใช้กับ DM5 ได้ไหมครับ  ท่านK-one ทำขายไหมครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: K-ONE Music Tel.081-9817904 ที่ พฤษภาคม 12, 2012, 04:01:19 pm
..การทำสวิทชิ่งใส่ ตระกูล ALESIS สามารถทำได้ทุกรุ่นครับ ราคาประมาณ 1000 บาท ไม่รวมส่งกลับครับ ทำได้ทั้ง DM 5 / D4 ทำได้หมดครับ..
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: วงดนตรี ทุ่งรวงทอง ตาคลี นครสวรรค์ ที่ สิงหาคม 22, 2012, 02:30:05 pm
..การทำสวิทชิ่งใส่ ตระกูล ALESIS สามารถทำได้ทุกรุ่นครับ ราคาประมาณ 1000 บาท ไม่รวมส่งกลับครับ ทำได้ทั้ง DM 5 / D4 ทำได้หมดครับ..
มีชุดสำเร็จขายมั้ยครับท่าน  smiley4
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: สะออน มิวสิค ที่ พฤศจิกายน 16, 2012, 07:45:42 pm
 browได้ความรู้อีกแล้ว ขอบคุณมากครับ smiley4
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: nanaonic ที่ เมษายน 18, 2013, 03:03:01 pm
ขอบคุณในความรู้ครับ  smiley4
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: noirasi ที่ เมษายน 18, 2013, 03:09:08 pm
..การทำสวิทชิ่งใส่ ตระกูล ALESIS สามารถทำได้ทุกรุ่นครับ ราคาประมาณ 1000 บาท ไม่รวมส่งกลับครับ ทำได้ทั้ง DM 5 / D4 ทำได้หมดครับ..
ท่านประธานถ้ามีเหลือส่งให้ผมสักชุดนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: ชัยนาทนิวส์ ที่ เมษายน 18, 2013, 03:26:24 pm
..การทำสวิทชิ่งใส่ ตระกูล ALESIS สามารถทำได้ทุกรุ่นครับ ราคาประมาณ 1000 บาท ไม่รวมส่งกลับครับ ทำได้ทั้ง DM 5 / D4 ทำได้หมดครับ..
ท่านประธานถ้ามีเหลือส่งให้ผมสักชุดนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ผมต้องการด้วย 1 ชุดครับ ราคาเท่าไหร่แจ้งได้เลยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: densound ที่ มีนาคม 24, 2014, 01:24:07 pm
 ผมสั่งชุดสำเร็จ 1ชุดครับใส่d4 ขอราคาพร้อมส่ง smiley4
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: Boy- By K-ONE ที่ มีนาคม 28, 2014, 11:20:40 am
อาจารย์ครับถ้าเราใช้สวิทชิ่งที่ขายสำเร็จรูปไฟ dc ได้ใหมครับ(dcเข้าac)

ไม่ได้ครับเพราะมันต้องใช้ไฟacครับข้างในมีวงจรแปลงเป็นdcอีกทีครับมีทังไฟ"+"และ"-"ครับ smiley4
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: naruto039 ที่ มีนาคม 29, 2014, 07:10:31 pm
ผมสั่งชุดสำเร็จ 1 ชุดใส่ d5
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: sawaengha6439 ที่ เมษายน 09, 2014, 12:00:12 pm
มีชุดใช้กับD4 ซักชุดไหมครับ ต้องการด่วนเลยครับ เท่าไร พร้อมโอนให้ครับ smiley4
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: พานทองมิวสิค จ.น่าน ที่ เมษายน 28, 2014, 06:17:09 pm
มีชุดสำเร็จ ไหมครับ ต้องการมาก และชุดเอฟเฟคด้วยครับ อย่างละ ชุด
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: kipo ที่ มิถุนายน 18, 2014, 02:14:37 pm
ช่วงนี้สะดวกให้ส่ง D4 ไปโมเป็นสวิตชิ่งมั้ยครับท่าน ไม่รีบเท่าไหร่ครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: jarun music ที่ พฤศจิกายน 05, 2014, 01:07:08 pm
อัฟรูปการต่อม้อแปลง d4 ให้ด้วยได้ไหมครับท่าน รูปมันหายไปครับ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ....เมื่อ D4 ไม่กลัวไฟตก มันต้องทำแบบนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: armonsak ที่ มกราคม 23, 2016, 11:32:01 pm
...หลายท่านมักเข้ามาพูดคุยกันอยู่เสมอเกี่ยวกับเจ้า D4 ที่อาการพบบ่อยๆมากที่สุด นั่นคืออาการไฟตก หน้าจอ Reset ใหม่เสมอ กระเดื่องลงทีหน้าจอวูบที แน่นอนครับ อาการอย่างนี้เป็นได้อย่างเดียวนั่นคือไฟตกครับ หลายๆท่านก็แก้ปัญหากันโดยการเปลี่ยนหม้อแปลงให้ตัวใหญ่ขึ้นกระแสมากขึ้น แต่การทำแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ D4 จะทำงานได้ดีกว่าเดิมนะครับ เพราะความต้องการแรงไฟของ D4 ต้องการที่ 9 VAC กระแสไม่ต่ำกว่า 1 แอมป์ครับ การที่เปลี่ยนให้กระแสมากกว่า 1 แอมป์ แต่แรงดันคงที่ๆ 9 โวลท์ การทำงานของเครื่องก็ยังคงเดิมครับ ไม่ได้ช่วยอะไร พอไฟตกโวลท์ก็ตกตามไปด้วย ทางแรงดัน 9 โวลท์ก็ตกตามลงไปอาจจะเหลือ 7.5-8 โวลท์แค่นี้ D4 ก็จะตายแล้วครับเพราะจากภาคกรองไฟนั้น D4 ใช้การกรองไฟแบบครึ่งคลื่นไม่ได้เต็มคลื่นครับ พูดกันแบบ บ้านๆหละกันไม่ต้องอังกฤษนะครับ การแปลงไฟแบบนี้ ช่วงไซเคิลขาลงไฟบวกจะหายไปครึ่งหนึ่งครับ และ ทางตรงข้ามเมื่อไฟบวกทำงานไฟลบก็จะหายไปครึ่งคลื่นเช่นกัน....
....มีคนเคยถามว่าอย่างนี้ถ้าใช้มากกว่า 9 โวลท์หล่ะครับ อย่างเช่น 12 โวลท์ จะได้ไหม ผมก็ว่าคงไม่ไหวมั้งครับ เพราะเครื่องจะร้อนจัดในสภาวะไฟเต็ม แต่ถ้าตกก็ยังพอไหว แต่ใครจะไปรู้ครับไฟบ้านเรา ผีเข้าผีออก บางทีมากกว่า 220 ก็มี อย่างนี้อาจพาลให้ D4 กลับบ้านเก่าเร็วขึ้นเท่านั้นเอง...ตรงนี้เลยไม่แนะนำครับ...
.....เมื่อไฟตกอาการที่ตามมาก็คือเกิดสัญญานรบกวนมากครับ ถ้ามากเกินกำลังที่จะรับได้ สัญญานขาออกอาจจะบื่อฮัมตามไปเลยฟังไม่รู้เรื่อง และอีกอย่างสัญญานขาออกของ D4 ทั้ง 4 ช่องมันก็มีสัญญานรบกวนมากอยู่แล้วครับ ท่านลองเร่งโวลลุ่มของ D4 ให้สุดแล้วลองเร่งสัญญานที่มิกซ์ดูซิครับมันบื่อให้เราเห็นและได้ยินทันทีเนื่องจากการออกแบบของภาคจ่ายไฟแบบนี้นี่เองที่เป็นอาการแบบนี้ครับ...
....หลังจากที่ผมคิดมานานและเคยโพรสให้อ่านกันว่าผมจะเอา D4 ใส่สวิทชิ่งแทนหม้อแปลงครับ และเมื่อมีเวลาผมก็เลยจัดการผ่าซะเลยครับ ก็ได้จัดหาอุปกรณ์ดังนี้ครับ..
1....หม้อแปลงแบบสวิทชิ่งขนาดไฟเข้า 100-240 โวลทื ขาออกที่ 12 โวลท์ ขนาดกระแส 2 แอมป์ มา 2 ตัว
2....กล่องเอนกประสงค์สามารถยัดวงจรสวิทชิ่งได้ 1 กล่อง
3....สายไฟ 3 คอร์อย่างดียาวพอปณะมาณ 1 เส้น
4....แจ็คตัวผู้ตัวเมีย 1 คู่อย่างดี มีปุ่มล็อคในตัว 1 ชุด
(http://uppic.us/ir/03343.jpg)
(http://uppic.us/ir/r3342.jpg)
....ขั้นตอนแรกเราก็มาชำแหละเจ้าสวิทชิ่งออกทั้งสองตัวให้เหลือแต่ไส้ในครับตามรูป...
(http://uppic.us/ij/j3341.jpg)
...หลังจากนั้นเราก็มาวางรูปแบบ เพื่อให้พอเหมอะพอดีกับกล่องที่เลือกมาแล้ว หลังจากนั้นก็เจาะรู ติดหลอด LED แสดงไฟบวกกับไฟลบ ด้วยเพื่อความสวยงามครับ...
...ขั้นตอนการเดินสายไฟถ้าหลายท่านเป็นช่างไฟอยู่แล้วก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากนะครับ โดยการแบ่งเจ้าสวิทชิ่งออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดแรกทำเป็นแรงดันด้านไฟ + 12 โวลทื และ อีก 1 ตัว เอามาทำเป็นแรงไฟด้านขา -- 12 โวลท์ครับ ตรงนี้คงไม่ยากนะครับ...
(http://uppic.us/il/l3344.jpg)
(http://uppic.us/ip/p3345.jpg)
(http://uppic.us/ir/r3346.jpg)
(http://uppic.us/ie/e3347.jpg)
(http://uppic.us/ih/23348.jpg)
....ส่วนการเก็บรายละเอียดหรือการกำหนดที่ขั่วแจ๊คนั้น ก็อยู่ที่ฝีมือของแต่ละท่าน ว่าจะเรียงยังไง เพราะเมื่อเราเสียบใช้งาน ขั่ว 3 ขั่วเมื่อเสียบกันแล้วต้องตรงกันพอดีครับ คือ บวกตรงบวก และลบตรงลบ ส่วนไฟ 0 โวลท์ก็เหมือนกัน ต้องทดสอบและมาร์คขั่วสายก่อนที่จะทำการเชื่อมต่อกับวงจรของจริงนะครับเพื่อความมั่นใจในความถูกต้องของแต่ละขั่ว....
....เรามาดูทางด้าน D4 ว่าจะวางหรือใสเจ้าแจ๊คตัวผู้เอาไว้ตำแหน่งไหนถึงจะเหมาะ เมื่อเปิดฝาดูก็จะเห็นว่า มันแน่นไปหมด ไม่รู้จะวางตรงไหนดี บังเอิญผมก็คิดได้ว่าเจ้า แจ็คโฟนที่เป็นตัว FOOT SW เราไม่ค่อยได้ใช้หรืออาจจะไม่ได้ใช้เลยเพราะเราไม่ได้เล่นสด ผมก็เลยจัดการบัดกรีมันออกครับ และก็หาถุงใส่และเก็บมันไว้ในตัวเครื่องนั่นหละครับไม่ต้องกลัวหายเผื่อนึกอยากจะทำให้เหมือนเดิมจะได้ไม่ต้องหากันให้วุ่นครับ...
....ด้วยความบังเอิญอีกที่เจ้าแจ๊คคู่นี้มันดันมีไดมิเตอร์หรือเส้นผ่าศูนย์กลางพอดีกับแจ็คโฟนเลยครับ ผมก็เลยจับมันใส่ในช่องนี้ไปเลย และไม่ต้องไปเจาะรูก็เพราะมันไม่มีที่จะให้เจาะนั่นเองและเมื่อติดตั้งเสร็จก็จัดการโยงสายใกล้กับภาคจ่ายไฟเดิมได้ง่ายขึ้นครับ...
(http://uppic.us/it/t3328.jpg)
(http://uppic.us/iu/03327.jpg)
(http://uppic.us/if/f3336.jpg)
(http://uppic.us/is/s3337.jpg)
(http://uppic.us/iz/z3339.jpg)
(http://uppic.us/ic/73351.jpg)
(http://uppic.us/in/83354.jpg)
(http://uppic.us/ij/43355.jpg)
(http://uppic.us/iy/y3349.jpg)
...ก่อนที่จะบัดกรีสายสายไฟทั้ง 3 เส้นที่เป็นไฟ +/-/0โวลท์ ท่านต้องตรวจสอบอีกครั้งนะครับเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากผิดขั่วได้ครับ...
....ในการบัดกรีสายไฟทั้งบวก-ลบ-กราวด ผมก็เลือกจุดที่ใกล้เคียงกับเร็กกูเรเตอร์ได้เลยครับ ทางด้านไฟ + เราบัดกรีเข้าที่ขาที่ 1 ของ IC 7805 ได้เลยครับ ส่วนด้านไฟ - เราก็บัดกรีขา Input ของตัว IC คือขาที่ 2 นะครับ ส่วนด้านกราวด หรือ  0 โวลท์ ท่านก็อาจหาจุดตรงไหนก็ได้ที่บัดกรีง่ายผมก็เลยเลือกเข้าที่ขา 2 ของ IC 7805 ครับ หรือ ถ้าเป็นที่ IC 7905 ก็ต้องเป็นขาที่ 1 ครับ...
....หลังจากบัดกรีเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าเช็คตรวจสอบทางด้านแจ๊คตัวเมียอีกครั้งครับว่ามีไฟ +/- 12โวลท์ครบหรือไม่เมื่อเทียบกับ 0 โวลท์นะครับ เมื่อท่านมั่นใจท่านก็เปิดสวิทช์ที่กล่องภาคจ่ายไฟได้เลย.....
....ในการต่อแบบนี้เราก็จะไม่สามารถที่จะใช้สวิทช์ปิดเปิดที่หน้าเครื่องได้นะครับเพราะเราได้ต่อภาคจ่ายไฟเข้าที่วงจรโดยตรง นั่นก็หมายความว่าเมื่อมีไฟเข้ากล่องภาคจ่ายไฟเจ้า D4 ของเราก็พร้อมที่จะทำงานได้เลย แต่ถ้าถามว่ามันทำงานตลอดเวลามันไม่ร้อนหรือครับ ท่านก็อย่าไปคิดมากครับเครื่องอุปกรณ์ของแพงแต่ละชนิด บางทีไม่มีสวืทช์ปิดเปิดด้วยซ้ำ บางทีมีก็เอาไปซ่อนไว้ด้านหลัง เรื่องแค่นี้ไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัวครับ
....ผลที่ได้รับที่มากกว่าการป้องกันการ Reset ของเครื่องเนื่องจากไฟตกแล้ว ทางด้านขาเข้าที่เป็นแจ๊คตัวเดิมเราก็สามารถที่จะเอาหม้อแปลงเดิมมาเสียบต่อได้อีกเช่นกันครับ ในกรณีที่ภาคจ่ายไฟแบบใหม่อาจชำรุดได้ครับ... ผมได้ทดสอบโดยการเสียบภาคจ่ายไฟเข้าที่หม้อแปลง 110 โวลท์แทน 220 โวลท์
 ผลที่ได้ก็คือ D4 ก็ยังทำงานปรกติครับ เนื่องจากสวิทชิ่งที่ใช้มันสามารถรองรับแรงดันต่ำสุดที่ 100 โวลท์และสูงสุดที่ 240 โวลท์นั่นเองครับ และผลที่ตามมาอีกเรื่องก็คือ สัญญาน Noise ที่ออกทาง OUTPUT ของ D4 ทั้ง 4 ช่องมันเงียบลงไปกว่าเดิมมากถึงจนเกือบเงียบสนิท เมื่อเทียบกับก่อนที่เราจะแปลงภาคจ่ายไฟเสียอีกครับ ตรงนี้หละคือผลพลอยได้ที่ผมเองชอบมากครับ พูดกันง่ายๆว่าในขณะที่เรายังไม่เล่นหรือปล่อยสัญญาน MIDI เข้าที่ D4 ลองเร่งโวลลุ่มที่มิกซ์ สัญญานNoise หรือ ฮัม มีน้อยลงไปมากกว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็น ทำให้เราฟังเสียงดนตรีที่ออกจาก D4 ได้เคลียมากขึ้นใสขึ้นนั่นเองเนื่องจากภาคจ่ายไฟชุดใหม่มันอิ่มตัวและสมบูรณ์กว่าภาคจ่ายไฟของเก่าที่เป็นแบบครึ่งคลื่นนั่นเอง..
.....ผลงานอีกชิ้นที่กำลังทำที่จะตามมาคือการดัดแปลง ภาคจ่ายไฟของ SC-88 PRO ให้เป็นแบบสวิทชิ่งอีกเช่นกัน เพราะปัญหาของ 88Pro ก็ไม่แตกต่างกํบ D4 เลยครับ พอไฟตกหน้าจอวูบก็ Reset เช่นกัน ลองติดตามผลงานกันต่อไปนะครับ ซึ่งการตัดแปลงผมจะใส่สวิทชิ่งเข้าไปในตัวของ
 SC-88 PRO เลยครับไม่ต้องมีกล่องอยู่ข้างนอกครับ...
.......ลองติดตามผลงานชิ้นต่อไปนะครับ....ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านครับ....
ไม่เห็นภาพเลยครับ ช่วยแก้ไข้ให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ