Tigger Sound

ห้องสมุด คลังความรู้ต่างๆ ในแวดวงเครื่องเสียง
=> ผ่าแอมป์ มิกเซอร์ ตู้ลำโพง ครอส อีคิว เอฟเฟค ไมค์โครโฟน เครื่องเสียง ตู้ ลำโพง กลางแจ้ง => ข้อความที่เริ่มโดย: ถาวร ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 10:54:08 am

หัวข้อ: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 10:54:08 am
     เพิ่งเข้าประจำการ ดีกว่าที่มีใช้อยู่

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828443.jpg)

ด้านหน้า : ผ่านศึกพอสมควร ไม่เห็นข้อมูลว่าเลิกผลิต แสดงว่าของใหม่ยังมีจำหน่ายอยู่
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828061.jpg)

ด้านหลัง
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828098.jpg)

ภายในแจ่มครับ.. ดูแน่นดี น่าจะใช้ลายปรินท์เดียวกับรุ่น M3000 เห็นมีช่องว่างเตรียมไว้
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828135.jpg)

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828175.jpg)

ชิพ DSP Motorola ที่จัดการเรื่องเสียงมีคุณสมบัติ 24bit ADC  sample 44.1kHz , 48kHz
(http://image.ohozaa.com/i/86c/77bbcr.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wKQD7oTq0PWjoe4K)

และชิพอื่นๆ ประกอบการทำงานอีกหลายตัว ไม่รู้อะไรบ้าง แต่ก็น่าเชื่อถือดี
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828217.jpg)

มี Slot แบบ RAM และมี socket IC ว่าง ดูไม่มีรอยเคยใส่ ไม่น่าใช่ชิพหาย (ถ้าใช่ก็..ฉิบหาย..)
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828263.jpg)

switching power supply กระทัดรัดเป็นสัดส่วนเรียบร้อยดี
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2010/11/27/12002_1290828299.jpg)


(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/26/12002_1296002158.jpg)

ขอแนะนำการใช้งาน M2000 ครับ.. (ขออภัยที่บางเรื่องอาจรู้อยู่แล้ว)

     ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจศัพท์บางคำ เพื่อความเข้าใจให้ตรงกันก่อนครับ

     "RECALL" คือการแสดงหน้าจอหลัก(Home page) และพร้อมให้เลือก Preset ของ Effect แบบต่างๆ ซึ่งถ้าเป็น COMBINED 1+2 ก็จะแสดง ROUTING ให้เห็นด้วย
     "Preset" คือโปรแกรม Effect เสียงแบบต่างๆของ ที่ Set ค่า Parameter สำเร็จรูปมาเรียบร้อยแล้ว ถ้ามาจากโรงงานจะมีคำว่า ROM , และถ้าเราทำเองจะมีคำว่า RAM
     "Parameter" คือค่าตัวแปรต่างๆ ที่อยู่ใน Preset เช่น ค่า Decay , Pre-Delay ฯลฯ ซึ่งจะแต่งเสียงให้เปลี่ยนไปตามความต้องการ และ Preset ต่างๆ ก็อาจมี Parameter ไม่เหมือนกันด้วย
     "ROUTING" คือทางเดินของสัญญาณ ตั้งแต่ Input ผ่าน Preset ต่างๆ จนออกไปที่ Output

     การต่อ เราต่อจาก Mixer ที่ AUX SEND กันอยู่แล้วซึ่งมันเป็น mono จึงต้องมาเสียบที่ช่อง L เท่านั้น

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/24/12002_1295829407.jpg)

     การใช้งานปุ่ม Control

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/24/12002_1295829276.jpg)

        - ลูกบิด ADJUST เป็นการเพิ่ม - ลด ค่า Parameter ต่างๆ หรือเปลี่ยนโปรแกรม Preset
        - ปุ่ม CURSOR เป็นการเลื่อนตัวชี้การทำงาน และถ้ากด SHIFT ก่อนแล้วใช้ปุ่ม CURSOR ก็จะเป็นการเปลี่ยนหน้า(Page)การทำงาน
        - ปุ่ม OK เป็นปุ่มยืนยัน ใช้กรณีที่มีไฟแสดง เช่น การเปลี่ยน Preset  เมื่อเราหมุนเปลี่ยนไปที่หมายเลขใดๆแล้ว มันยังไม่ทำงานทันทีนะครับ แต่มันจะมีไฟติดที่ปุ่ม OK  เพื่อถามว่าจะเอา Preset นี้หรือไม่ ถ้าเราเลือก เราจะต้องกดมันก่อน Preset หมายเลขนั้นถึงจะทำงาน
          สำหรับกรณีการ EDIT แก้ไข Parameter ใน Preset นั้น มันจะทำงานทันที และไม่ต้องกดปุ่ม OK ก็ได้ (ดูจากไม่มีไฟแสดง)
        - ปุ่ม TAP เป็นการป้อนค่าเวลาลงใน Parameter ที่กำหนดไว้ เช่น ถ้าเรากดครั้งแรกและกดอีกครั้งภายใน .5 วินาที มันก็จะใส่ค่า .5 วินาที ใน Parameter นั้นๆ (ว่างๆจะศึกษามาแนะนำอีก)
        - กดปุ่ม SHIFT แล้วบิดลูกบิด ADJUST ไปทางซ้าย เป็นการเลือก Preset แบบ ROM
        - กดปุ่ม SHIFT แล้วบิดลูกบิด ADJUST ไปทางขวา เป็นการเลือก Preset แบบ RAM

     การ SETUP (เอาแค่เรื่อง I/O , ROUTING และ LEVEL ก่อน)
  (http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/23/12002_1295747995.jpg)

     ตั้งค่า I/O (คู่มือหน้า 14)
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/23/12002_1295748150.jpg)

        - Input :  = ANA (ส่วนใหญ่เราใช้สัญญาณ Analog อยู่แล้ว)
        - Input Signal : = LEFT (เพราะเป็น Mono)
        - Samplerate : = 48.0 (ให้ละเอียดสูงสุด และให้เข้าพวกกับ Processor อื่นๆเผื่อเวลาเราต่อสัญญาณแบบ Digital ถึงกันจะ match กัน)
        - MIX : เคยแนะนำให้ตั้งค่าเป็น 100% ตายตัว แต่ปัจจุบันผมเปลี่ยนมาเลือกตั้งแบบ MIX เพื่อให้ตั้งค่าเปอร์เซนต์ได้จะดีกว่า
        - STATUS BIT : ถ้าไม่ใช้ Digital I/O ตั้งค่าใดก็ได้ (Default = SPDIF)

     การตั้งค่า ROUTING ส่วนใหญ่ต่อ Mono ก็เลือกแบบที่ 2 คือ PARALLEL น่าจะ OK (คู่มือหน้า 16)

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/23/12002_1295748619.jpg)

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/24/12002_1295830790.jpg)

     การตั้ง LEVEL  เป็นเรื่องสำคัญ อย่ามองข้าม ต้องตั้งให้เหมาะสมก่อนใช้งาน (คู่มือหน้า 15)

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/23/12002_1295748230.jpg)

        - ทั้ง Input และ Output ควรให้ = PRO: +4 dBu (สอดคล้องกับอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น)
        - ระดับสัญญาณ ตั้งตามความต้องการ หรือจะตั้งด้วยระบบ Auto Level การใช้ก็โดยในขณะที่นักร้องร้องเพลงตามปกติ ก็ให้กดปุ่ม Shift แล้วตามด้วยปุ่ม Level มันจะตรวจสัญญาณที่เข้ามาภายใน 3-5 วินาที แล้วจะปรับระดับให้เหมาะสมให้เองอัตโนมัติ ถ้าไม่พอใจก็ตั้งตามความต้องการได้อีก

     การเรียกใช้งาน Preset หรือโปรแกรม Effect ต่างๆ ที่มีในเครื่อง

(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/23/12002_1295748326.jpg)

        - เลือกกดปุ่ม RECALL จาก ENGINE 1,2 หรือ COMBINED 1+2
        - หมุนลูกบิด ADJUST เพื่อเลือก Preset ตามต้องการ
        - กด OK เพื่อยืนยันการเลือก Preset ที่ต้องการ

(http://image.ohozaa.com/i/270/ajN9Du.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wKMjgkM5UZ6uDGOo)

        * ENGINE 1,2 เลือกใช้ Preset จาก ROM ,  RAM ร่วมกัน จะมีอย่างละ 128 Presets
        * COMBINED 1+2 จะมี Preset ROM , RAM อีกอย่างละ 128 Presets ต่างหาก
        - เลือก Preset แบบ ROM : ได้โดยการกดปุ่ม Shift แล้วหมุนลูกบิดไปทางซ้าย
        - เลือก Preset แบบ RAM : ได้โดยการกดปุ่ม Shift แล้วหมุนลูกบิดไปทางขวา

     การใช้งาน SNAPSHOTS คือการเก็บค่า Preset ทั้ง 2 Engine มาเรียกใช้ สามารถเก็บได้ 4 ชุด เพื่อใช้งานด่วนๆ โดยเลือกหรือแก้ไข Preset ที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Shift ตามด้วยปุ่ม TAKE 1…4 เมื่อต้องการเรียกใช้งานก็เพียงเลือกกดปุ่ม TAKE 1…4 เท่านั้น

     การแก้ไข (EDIT)
        - สามารถแก้ไขได้ทั้งที่ ENGINE 1,2 หรือ COMBINED 1+2
        - สามารถแก้ไขจากโปรแกรม Preset ต่างที่มี ทั้งใน ROM และ RAM หรือกระทั่งใน SNAPSHOTS
        - โปรแกรม Preset เสียง Effect รูปแบบต่างๆ มันมีจำนวน/ประเภทของ Parameter ที่ให้เราปรับแต่งไม่เหมือนกัน บางอันมีน้อย บางอันมีมาก แล้วแต่ Algorithm ที่เขาคิด
        - และในแต่ละ Preset ของ t.c.M2000 มันยังมีการปรับแต่งแบบ Expert แบบละเอียด โดยเพิ่ม Parameter ย่อยเข้ามาให้เราปรับเล่นอีก (แค่ปกติก็ปวดหัวอยู่แล้ว)
        - อย่างที่เคยบอกไว้ เวลาเปลี่ยน Parameter โดยหมุนลูกบิดเปลี่ยนค่า มันจะกระทำตามค่าที่เราเปลี่ยนทันที และจะมีเครื่องหมายตัว "E" ให้เราเห็นว่า Preset นี้ได้มีการถูกแก้ไขแล้วนะ เตือนว่าชอบรูปแบบนี้หรือไม่ ถ้าชอบให้บันทึกไว้ใน RAM ซะ ถ้าเปลี่ยนไปมันจะหายไปเลย (การบันทึกคงไม่ต้องอธิบายนะครับ)

     Parameter ที่ควรทราบ (ผมยกตัวอย่าง Preset แบบ Reverb อย่างเดียว) ผิดถูกช่วยทักท้วงเช่นเคย

(http://image.ohozaa.com/i/863/ZqQ7Bt.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wPoVEaUtCbFWdOJ5)

        - Decay : เป็นระยะเวลาที่เสียงค่อยๆลดลง เป็นวินาที (Sec) มีผลในเรื่องความก้อง และหางเสียง ..
        - Pre-delay : เป็นระยะเวลาที่เสียงสะท้อนเสียงแรกได้ยิน (mS) ผมว่ามันมีผลเรื่องความรู้สึกคนร้อง , ความหนาของเสียง ถ้าเสียงสะท้อนเสียงแรกมาต่อกับเสียงจริงให้พอดีๆ จะรู้สึกว่าเสียงมันหนาดี ผมคิดอย่างนั้น .. 
        - Reverb Lo :  Reverb Mid : Reverb Hi : สามารถแยกปรับค่าของเสียงที่อยากให้สะท้อนได้ทั้ง Lo , Mid และ Hi อยากจะเน้นให้สะท้อนความถี่ไหนก็เลือกเอา
        - HighCut : เป็นจุดตัดกรองความถี่สูงออก
        - HighDamper : อัตราการลดลง หรือ Decay ของเสียงสูง ค่ามากจะลดลงเร็ว (dB)
        - Distant : จำลองระยะห่างจากต้นกำเนิดเสียง
        - Mix : การผสมระหว่างเสียงจริงกับ effect เคยแนะนำให้ตั้งค่า 100% (ปัจจุบันผมขอแนะนำให้ตั้งค่า ระหว่าง 25 - 40%)
        - Out Level : ตั้งระดับความดัง Output (ผมจะตั้งสูงสุดคือ 0 dB = มาเท่าไหร่ก็ไปเท่านั้น)
     Parameter แบบ Expert
        - Low Mult :
        - LowMid Mult :
        - High Mult : เป็นการแบ่งย่านเสียงของการ Decay เป็นจำนวนเท่า(Multiple) เช่น ถ้าตั้ง Decay = 1.5 Sec  และค่า High Mult = 2 แสดงว่า เสียง High จะ Decay = 3 Sec  (ช่วยทดลองด้วยว่าเป็นไปตามที่ว่าหรือเปล่า)
        - Lo Xovr : จุดตัดเสียงต่ำ
        - Mid Xovr : จุดตัดเสียงกลาง
        - Hi Xovr : จุดตัดเสียงสูง  (เจ๋งมากเลยมันมี Crossover ด้วย สำหรับการ Multiple ตามที่กล่าวไว้)
        - Diffuse : การแพร่กระจายของเสียง เขาบอกว่ายิ่งมากเสียงยิ่งไม่สมจริง (ทดลองเอาแล้วกัน)
        - Diff.Type : รูปแบบการแพร่กระจายของเสีย (ทดลองเอาแล้วกัน)
        - ประเภท Dynamic เช่น Threshold , Attack , Release
        - ฯลฯ อธิบายไม่หมด  Preset รูปแบบอื่นมันมี Parameter แปลกๆไม่เหมือนกันอีกด้วย (และก็ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเรียก Parameter Expert มาใช้ก็ได้ แค่ธรรมดาก็จะแย่อยู่แล้ว)

     การปรับแต่งนี่ เป็นเรื่องชอบใครชอบมัน ส่วนมากเราใช้ Effect ให้ทำงานแบบ Reverb การตั้งค่ามีมาก แต่ที่แนะนำก็มีไม่กี่ตัว ผมจะเลือกประเภท HALL ก็คือเสียงก้องเสียหล่อทั้งหลาย เอาให้มันทำงานทั้ง Engine 1 และ 2 เลย ถ้าตั้ง Preset เดียวกัน Parameter เหมือนกันก็ได้ จะรู้สึกว่าเสียงหนาเข้าไปอีก ค่าเหล่านี้จึงต้องทดลองกันเอง ถามเพื่อนที่ใช้เป็นแนวทางได้ แต่ก็ควรมีหลักการปรับ ทราบความหมายหรือวัตถุประสงค์ของ Parameter แต่ละตัวบ้าง จะได้ไปสู่เสียงที่ "ใช่" ได้เร็วขึ้น ตัวไหนไม่รู้ก็ลองปรับเดาเอาเองก่อน  ผมก็ใช้วิธีอ่านบ้าง ไม่เข้าใจก็ต้องเดาเอาบ้างมาตลอด ก็ยังมีไม่ค่อยเข้าใจอยู่เหมือนกัน จึงต้องมาแบ่งปันกันหน่อย เผื่อถ้าผิดเดี๋ยวก็มีผู้รู้มายืนยันอีกที ..  ยี่ห้ออื่นๆ ผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน..

     การใช้ Preset แบบ COMBINED 1+2 
        - น่าจะเป็น Preset ที่เหมาะแก่การใช้งานสำเร็จรูปทันที ดูจากที่มันมี Parameter ที่เข้าไปปรับได้เพียงไม่กี่ตัว และบางตัวผมก็ยังไม่เข้าใจ เช่น การ MORPHING ต้องศึกษาให้เข้าใจก่อน
        - การเลือกใช้ ก็ต้องเลือกให้ตรงกับ ROUTING ที่เราต่อ Input ด้วย   เช่น ผมต่อแบบ PARALLEL ก็ต้องเลือก Preset ของ COMBINED ที่เป็นแบบ PARALLEL ด้วย  ขอยกตัวอย่างที่ผมชอบ Preset แบบ COMBINED 1+2 หมายเลข 48  เป็นต้น
        - เราสามารถแปลง Preset แบบ COMBINED 1+2 ให้กลับมาเป็น Preset ธรรมดา 2 ตัวได้เหมือนกัน แต่วิธีการซับซ้อนหน่อย ผมค่อยมาเขียนอธิบายต่อไป
      ดังนั้น Preset แบบ COMBINED 1+2 นี้จึงเป็น Preset ที่มีการกำหนดใน ENGINE 1 และ 2 พร้อมทั้งกำหนด ROUTING ไว้ทีเดียว   ค่า Parameter ต่างๆ ถูกกำหนดค่อนข้างตายตัวแล้ว ปรับได้เพียงเล็กน้อย จึงเหมาะสำหรับใช้งานทันที ผมคิดจะหาทางตั้งแบบธรรมดา แล้วมา Save ให้เป็นแบบ COMBINED 1+2 อีกครั้ง ไม่รู้จะทำได้ตามที่คิดไว้หรือเปล่า มันลึกลับซับซ้อนน่าสนุกดี ..

  มาถึงตรงนี้ถ้าเทียบกับ Yamaha SPX 990 ผมขอให้คะแนน M2000  มากกว่าในเรื่องดังนี้
  1. ใช้งานง่ายกว่า เนื่องจากเป็น Graphic Display  ปุ่มกดที่อาจเยอะหน่อย แต่แยกเป็นสัดส่วน เปลี่ยนแปลง Preset หรือ Edit Parameter ได้ง่าย รวดเร็ว พอที่จะเข้าใจได้ไม่ยาก 
  2. เป็น 2 Engine แบบ Sterio แท้ๆ (Hardware & Software) ลองตั้งให้ Engine1 และ 2 เป็น Preset เดียวกันดูจะเห็นว่าเสียงหนาขึ้นเห็นๆเลย
  3. Hardware เป็นเทคโนโลยีปัจจุบัน และยังคงมีผลิตจำหน่ายในตลาดอยู่ และน้ำหนักเบากว่ากันเยอะ

      เรื่องเสียงผมแยกไม่ออกเท่าไหร่ โปรแกรมสำเร็จหรือ Preset ที่ตั้งสำเร็จรูปมาอาจไม่ลงตัวเหมือน Yamaha แต่ถ้าเราเข้าใจการปรับแต่งให้ชำนาญแล้ว ผมว่าเสียงต้องสู้ได้จนถึงกับดีกว่าแน่ ตอนนี้ผมใช้งานร่วมกันทั้งคู่ แยก AUX แยก RETURN เลย บางทีก็เปิด RETURN ให้ทำงานทั้งคู่เลย ตามอารมณ์ไม่มีหลักการ ถ้าชอบเน้น Effect เด่นๆ เสียงร้องคลอตาม ก็เป็น Yamaha คนร้องจะรู้สึกว่าเสียงดีขึ้น แต่ถ้านักร้องเสียงดีอยู่แล้วชอบเสียงร้องให้เด่นๆ แล้ว Effect เป็นตัวประกอบเสริม ก็เป็น TC2000 แล้วกัน บ้านเราคงชอบ Yamaha มากกว่า แค่นี้ก่อนครับ ..
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: หน่องซาวด์101 ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 11:13:47 am
เป็นบุญตาจริงๆๆครับ brow brow brow
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: matipon ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 08:30:41 am
สวยงามมากครับ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: yao ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 09:03:50 am
สวยงามครับ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: kraison ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 05:52:17 pm
เครื่องในแน่นจัง sinister
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างแอ้ด™ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:32:29 pm
ชิพยังอยู้ ๕๕  นานๆไปเจอ Humidity  กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนอาการแรมคอมพิวเต้ออ่ะซิครับ   
ไขควงไฟฟ้า 4.8v เนชั่นแนลยุคแรกๆนั่นมันทนนานจริงๆ brow
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร ที่ ธันวาคม 01, 2010, 10:17:41 am
ไขควงไฟฟ้า 4.8v เนชั่นแนลยุคแรกๆนั่นมันทนนานจริงๆ brow

จริงๆครับ ไขควงไฟฟ้าตัวนี้ผมใช้มาเกินกว่า 10 ปีแล้ว เปลี่ยนแต่ถ่าน Ni-Cad 4 ก้อนอย่างเดียว..
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒนา อุบล ที่ ธันวาคม 01, 2010, 08:40:38 pm
บุญตาจรีงๆ เข้าประจำการก็เปิดห้องเครื่องให้ดูกันเลยแล้ว ตัวเดิมพี่ใช้ตัวไหนหนออยู่ครับ จะปลดระวางรึยังครับ 
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: tuijabb ที่ ธันวาคม 02, 2010, 01:57:15 pm
แจ่มดีจริง
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: apisit sombutdee ที่ ธันวาคม 02, 2010, 08:33:28 pm
สวยๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: สุธี โปรโมชั่น ร้อยเอ็ด ที่ ธันวาคม 02, 2010, 09:13:03 pm
แจ่ม มากๆ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: chalat ★★★ ที่ ธันวาคม 03, 2010, 11:00:12 am
สวยงามครับ...ราคาคงแรงน่าดู
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: mitr ที่ ธันวาคม 07, 2010, 11:05:19 am
วันก่อนเจอตัว3000ไปแล้ว
มาวันนี้เจอพี่น้องกันอีก ระดับเทพทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร ที่ มกราคม 26, 2011, 07:37:25 am
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/01/26/12002_1296002158.jpg)

ผมแก้กะทู้(เพิ่มเติมการใช้งาน)นี้ไปรวมกับกะทู้แรกแล้วครับ..
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: dar232 ที่ มกราคม 26, 2011, 07:59:13 am
แจ่มจริงๆ
ถ้าได้ใช้งานงานร่วมกับ beat counter ด้วยยิ่งจะดีไปใหญ่ครับ brow
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: mymac101 ที่ มกราคม 26, 2011, 06:43:43 pm
ขอบคุณครับ  สำหรับวิธีการใช้งาน TC M2000
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงแกะ กำแพงเพขร ที่ มกราคม 27, 2011, 03:55:58 pm

ขอบคุณมาก ๆ ครับ 

ขออนุญาต  ก๊อป วิธีใช้งานไปไว้ศึกษา  นะครับ

หากมีเวลา  ช่วยแนะนำการใช้เพิ่มอีก นะครับ  ถูกใจคนแก่จัง
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: jgn ที่ มกราคม 28, 2011, 11:41:07 am
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: non ที่ มกราคม 31, 2011, 08:54:50 pm
ขอบคุณครับ  สำหรับวิธีการใช้งาน TC M2000 (ผมที่เคยโทรหาพี่นะครับ) ตอนนี้เริ่มเป็นแล้วครับพี่ smileyy smileyy
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: โก้ สระบุรี ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 08:29:22 am
พึ่งมีไว้ครอบครองแล้วได้ศึกษาเป็นความรู้ครับไม่ต้องงงเลยครับแล้ว ถ้ามีเพิ่มเติมเอามาไปอีกนะครับเป็นวิทยาทาน
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Kiat_Burapha ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2011, 10:31:02 am
            ขออีกครับ ได้ความรู้มากๆเลย

ผมก็มีอยู่ TC M2000 แต่ใช้ไม่ค่อยเป็น กำลังศึกษาคู่มืออยู่ เป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจยากมากๆเลย
 
แต่ที่ พี่ท่านอธิบายมาเข้าใจง่ายดีครับ และขอก๊อปไว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไปครับ
 
ต้องขอบคุณมากๆเลยนะครับ ที่ให้ความรู้และสิ่งที่ท่านเข้าใจในคู่มือมาแบ่งปันกัน มีอีกหลายท่านที่รอคู่มือภาษาไทยอยู่ แต่หาไม่มี

    ขอขอบคุณจากใจจริงครับผม
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: paulbyner ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 07:32:08 am
เป็นประโยชน์ในการนำไปวิเคราะห์ศึกษาระบบของตนเอง ผมมี m300 มีข้อความบางอย่างที่ผมยังไม่เข้าใจ ใช้ร่วมกันได้ แต่ที่ผมงงก็คือ mix = 100% นี่แหละ มันเป็นการต่อแบบอนุกรมหรือขนาน ตามที่ประธานนิมิตรสาธยายไว้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามได้อ่านบทความที่ท่านอุทิศเวลาถ่ายภาพและเขียนให้เพื่อนๆ ได้อ่านนับว่าเป็นประโยชน์มาก กุศลแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000 (เพิ่มเติมการใช้งาน)
เริ่มหัวข้อโดย: sattawat2912 ที่ พฤศจิกายน 05, 2012, 10:53:23 pm
การนำเสนอดีมาก ๆ เลยครับ มีคู่มือการใช้งานด้วย ขอบคุณมากกครับ ผมถึงจะไม่มีรุ่นนี้ใช้ ก็ยังพอเอาไปลูบ ๆ คลำ ๆ กับรุ่นที่มีอยู่ได้ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ

เป็นประโยชน์ในการนำไปวิเคราะห์ศึกษาระบบของตนเอง ผมมี m300 มีข้อความบางอย่างที่ผมยังไม่เข้าใจ ใช้ร่วมกันได้ แต่ที่ผมงงก็คือ mix = 100% นี่แหละ มันเป็นการต่อแบบอนุกรมหรือขนาน ตามที่ประธานนิมิตรสาธยายไว้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามได้อ่านบทความที่ท่านอุทิศเวลาถ่ายภาพและเขียนให้เพื่อนๆ ได้อ่านนับว่าเป็นประโยชน์มาก กุศลแรงจริงๆ

mix = 100% น่าจะเป็นแบบขนานครับ หมายถึงดึงเอาเสียงเอฟเฟคออกมาทั้งหมด ค่อยมาผสมกับเสียงไมค์ข้างนอก ถ้าแบบอนุกรม แค่ 20-25% ก็เหลือ ๆ แล้วครับ (ผมเอามาจากที่เคยลองใช้ ศึกษาเอาเอง เข้าใจเอาเอง บางสิ่งบางอย่างก็สมมติเอาเองว่าเข้าใจ ผิดถูกยังไงขออภัย และขอคำชี้แนะที่ถูกต้องจากทุกท่านด้วยครับ)
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: plecomputer ที่ พฤศจิกายน 07, 2012, 02:56:17 pm
ภายในสวยมากสมกับราคาจริงๆ brow
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: weerasuk ที่ มกราคม 29, 2013, 07:55:39 pm
อยากถามท่านอาจารย์ ต่ออีกนิดนึง ว่าท่านใช้ค่า พรีเซ็ต ที่เท่าใหร่ ผมเลือกไม่ถูกเลยมันเยอะมาก แต่ละค่าพรีเซ็ตก็ปรับแต่งไปอีก มันไม่เหมือนยามาฮ่า ที่มีค่าไกล้เคียงมาจากโรงงานเลยแค่ปรับแต่งนิดหน่อยก็ใช้ได้ แต่นี่มันเยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะเลือกตัวใหนมาปรับให้เหมาะสมกับรูปแบบเพลง ขอความรู้จากท่านที่ใช้งานด้วย ขอบคุณมากครับ smiley4
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: Panat Promotion ที่ มีนาคม 02, 2013, 12:58:07 am
ขอบคุณครับกำลังได้มาครับ
ลองๆๆ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: สะออน มิวสิค ที่ มีนาคม 09, 2013, 05:50:29 pm
 brow-ขอยคุณครับ สำหรับความรู้เรื่อง ค่าพารามิเตอร์ต่างๆ smiley4
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: te_sakon ที่ มีนาคม 10, 2013, 11:39:42 pm
สวยงามมากครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ ครับ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร ที่ เมษายน 17, 2013, 10:40:21 pm
- ถ้าพูดถึงการต่อสายภายนอก คือรับจาก Aux Send และส่งกลับไปที่ Return เป็นการต่อแบบอนุกรม หรือ Serial ครับ เป็นการอนุกรมของ Source เสียง ไปยัง Effect แล้วส่งกลับมาที่ Mixer
- แต่การตั้งค่าการทำงานภายในเครื่อง t.c.M2000 มันมี Engine ทั้ง 2 ตัว(แท้ๆ) ที่ทำงานอย่างอิสระภายใน เราจะเลือกทำงานแบบขนานหรืออนุกรมก็ได้ เพียงแต่ผมเลือกแบบขนาน หรือ Parallel
- นั่นคือเสียงวิ่งอนุกรมกันมา เมื่อมาถึงเครื่อง t.c.M2000 จะวิ่งขนานเข้าไปทำงานทั้ง 2 Engine แล้วรวมอีกครั้งออกไป Return จึงดูงงๆ นิดหน่อย

(http://image.ohozaa.com/i/079/C54FW5.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMbJXiLEKWVRX9MI)

- ผมขอเปลี่ยนแนวความคิดที่เคยนำเสนอ 1 เรื่องคือ การตั้งค่า I/O ของ t.c.electronic M2000

- แต่เดิมผมเคยแนะนำว่าการตั้งค่า Mix ผมชอบตั้งเต็มที่ 100% ไปเลย แล้วไปปรับการผสมที่ปุ่ม Return ที่ Mixer นั้น ผมพบว่าไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องสำหรับ Effect เสียงร้อง มีวิธีที่ดีกว่า

- ควรตั้งค่าให้มี Parameter ที่ปรับค่าได้ โดยเปลี่ยนจากเดิมที่เคยตั้งเป็น 100% ตายตัว ให้ไปเลือกที่คำว่า "Mix" (กรอบสีแดงตามภาพ) ซึ่งจะทำให้เรามี Parameter ที่จะกำหนดให้ Mix เสียงออกมาเป็น Effect กี่เปอร์เซนต์ จาก 0 - 100% และให้มีเสียงร้องปกติกี่เปอร์เซนต์ผสม Return กลับเข้ามาด้วย

(http://image.ohozaa.com/i/235/AEKSuh.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wM8W4ngT1PmhEPSn)

- และผมพบว่าถ้าตั้งประมาณ 25 - 40% เสียง Effect จะพอดีไม่มากเกิน และกลับจะได้เสียงร้องปกติปนเข้ามาเพิ่มจากส่วนของ 75 - 60% เมื่อ Return กลับมารวมกับเสียงร้องปกติที่ Mixer อีกครั้ง (บางยี่ห้อเรียกว่าสัญญาณ Wet กับ Dry) ผมรู้สึกว่าเสียงร้องหนาและชัดขึ้น
- แต่นั่นก็ต้องแลกกับความไวในการหอน หรือเกิด FeedBack ได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน ผมก็ต้องเตรียมตัวกันหอนคอยช่วย ก็จึงยอมเสี่ยงเพื่อแลกกับเสียงที่ชอบและ "ใช่"

- ทีนี้ก็ลองปรับแต่งค่าต่างๆ ได้ตามใจชอบตามตัวอย่าง Parameter แบบ Reverb ที่แนบมานี้ได้เลย

(http://image.ohozaa.com/i/ed9/kUzLl5.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wMhvFCNbkU6Of4gY)

- ผมยกตัวอย่างให้เลือก Preset ROM หมายเลข 5 ชื่อ Bright MidSide Hall (ไม่รู้จะตรงหรือเหมือนกับเครื่องอื่นๆ หรือเปล่า) ลองตั้งทั้ง Engine 1 และ 2 ให้มันใช้ Preset เดียวกันทำงานขนานกันทั้งคู่เลย ลองฟังเสียงสำเร็จดูก่อนว่าว่าชอบหรือไม่
   1) ผมเพิ่มค่า Decay ค่าเดิม 2.4 Sec เพิ่มเป็น 2.7 Sec ให้ความก้องหรือหางเสียงยาวขึ้น
   2) ผมลดค่า Pre-delay จาก 30 mS เป็น 20 mS ให้เสียงสะท้อนแรกได้ยินเร็วขึ้น... (สำคัญนะครับลองปรับไปมาดูจนกว่าจะชอบ)
   3) ผมเพิ่มค่า Reverb Mid จาก -1 เป็น 0 dB เพิ่ม 1 dB เพื่อให้มีเสียงกลางที่เป็นเสียงพูดชัดขึ้น
   4) ผมเพิ่มค่า Reverb Hi จาก -3 เป็น 0 dB เพิ่ม 3 dB เพื่อให้หางเสียง ซิบๆ หรือเสียงเอสใสขึ้น
   5) ค่า Mix ผมจะลองปรับตั้งแต่ 25 ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วแต่พื้นที่ที่เล่น เพื่อให้เสียง Effect กับเสียงร้องมันพอดีกัน
 (จะแต่งที่ Engine เดียว หรือแต่งทั้ง 2 Engine เลยก็ได้ ถ้าพอใจแล้วก็ Save เปลี่ยนชื่อใหม่ไปที่ Preset แบบ RAM เอาไว้ใช้งาน)

- Parameter ที่เครื่องผมบางอย่างก็ไม่ตรงกับคู่มือเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคู่มือมันเก่า หรือเครื่องผมมันเก่ากว่าคู่มือ

- และยังมีเสียงต่างๆ ให้เลือกปรับอีกมากมาย ลองผสมกันไปมามั่วๆก็จะได้ความรู้เอง ผมก็ไม่ค่อยได้เล่น ทิ้งไว้นานมากแล้ว เพิ่งมาเล่นใหม่เลยนำมาเสนออีกครั้งครับ ..
- ตอนนี้ผมคิดว่า t.c.M2000 แต่งเสียงให้ไปถึงเสียงที่ "ใช่" ได้ไม่แพ้ Yamaha 990 แน่นอน ส่วนจะดีกว่าหรือไม่ก็แล้วแต่คนชอบ .. ต้องขยันปรับเปลี่ยน Preset ไปมา ขยันแต่ง Parameter ให้เข้าใจ ก็จะสนุกกับมัน ..
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: chidan ที่ เมษายน 18, 2013, 02:13:29 pm
เสียงคงหนาน่าดู
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: Aoil ที่ พฤษภาคม 02, 2013, 10:09:13 pm
พอจะมีแนวทางอธิบาย การเลือก Routing ในแต่ mode ให้ผมเข้าได้มั๋ยครับ

ตอนนี้ผมยังงงๆ กับ Routing กับการต่อสายจาก effect มาที่ mix

เช่น ถ้าเลือก Routing mode นี้ การต่อสายสัญญาณเข้าออกจาก effect กับ mix ก็ต่อตามรูป

หรือว่าต่อแบบเดียว Aux sent&return แล้วเลือก Routing ใน Mode ที่เราจะให้ effect ทำงาน

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: ถาวร ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 10:37:03 pm
- ที่เขาให้มีการตั้ง Routing ของ Engine อ่อนตัวได้ขนาดนี้ น่าจะด้วยเหตุที่ M2000 มันเป็น 2 Engine Sterio แท้ๆ เหมือนมี 2 เครื่องในตัวเดียวกัน เขาจึงไม่ได้ออกแบบให้ทำงานเฉพาะ Effect ประเภท Reverb , Chorus , Delay , Pitch  สำหรับเสียงร้องหรือเสียงพูดเท่านั้น
 
- เขาโปรแกรมให้มันมี Preset ที่ให้ทำงานเป็น Digital Processor แบบ EQ , Crossover , Compressor-Lemiter-Gate-De'Esser ให้เลือกอีกด้วย

(http://image.ohozaa.com/i/8ac/tfr90M.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOcvsgmKwEDodSdV)


- เราจะจัดเจ้า 2 Engine นี้ให้มันทำงานในทาง Software อย่างไรก็ได้(ไม่ต้องต่อสายจริง เหมือน DriveRack  เขาจึงทำ Routing ให้เลือก) จะใช้ Effect ทั้ง 2 Engine หรือ Effect ทำงานร่วมกับ Processor หรือ ถ้าเลือกใช้ Precessor ทั้ง 2 Engine ก็ได้ถ้าอยากจะให้มันเป็น ซึ่งก็จะต้องต่อแบบเครื่องปรุง หรือ Processor ทั่วไปในแบบ Insert ได้เลย


- เราจะใช้ M2000 ทำอะไรก็เลือก Routing ให้เหมาะสม และตั้งค่า Input signal ให้ถูกต้อง
- ถ้าใช้กับเสียงร้องก็เลือก Parallel (ในกรอบสีน้ำเงิน) โดยตั้งค่า Input signal ให้เป็น Left

(http://image.ohozaa.com/i/988/JNuzRv.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOcvqutl6Drf8dcs)


- เมื่อเลือก Routing แล้วก็เลือกการเชื่อมต่อสัญญาณให้สอดคล้องกับ Routing
- ถ้าใช้กับเสียงร้องก็เลือก Serial Mode (ตามกรอบสีน้ำเงิน) เพื่อให้สอดคล้องกับ การเชื่อมสัญญาณ

(http://image.ohozaa.com/i/6bc/xstxiW.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wOni8ydPgvYcrxZw)


- ผมว่า Programmer ที่เขียนโปรแกรมเขาตั้งใจทำให้เป็นอย่างนี้เพื่อให้ระบบมีความอ่อนตัวและมีประสิทธิภาพ ทำได้หลายหน้าที่ในเครื่องเดียวกัน ทำให้มีความซับซ้อนในการตั้งค่าขึ้นมา แต่เมื่อเข้าใจแล้วก็จะตั้งและใช้งานได้ถูกต้อง ซึ่งใน Yamaha SPX-990 ไม่มีในส่วนนี้

- อยากให้มืออาชีพที่ปรับชำนาญ และเล่น Parameter ได้อย่างลึกๆ มานำเสนอแลกเปลี่ยนกันบ้าง ผมเพียงแค่เล่นส่วนตัวภายในบ้านเท่านั้น

- สุดท้ายเราคงซื้อมาทำ Effect เสียงร้องอย่างเดียว ก็ไม่ต้องสนใจการต่อสัญญาณ หรือการตั้ง Routing ที่ไม่เกี่ยวข้อง เอาที่ผมทำกรอบสีน้ำเงินนั่นแหละเป็นหลัก ..
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: Aoil ที่ พฤษภาคม 04, 2013, 07:23:55 am
ขอบคุณมากครับ

ผมจะศึกษาและทดลองประยุกต์ใช้กับ M one XL ครับเพิ่งจะได้มาครับ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: tiontoon ที่ มิถุนายน 21, 2017, 05:53:52 pm
ผมใช้ตัวm one xl  โปรแกรม มันคล้ายกันไหมครับ จะลองทำดูครับ
หัวข้อ: Re: t.c.electronic M2000
เริ่มหัวข้อโดย: prawat ที่ สิงหาคม 19, 2017, 09:57:38 pm
ขอบคุณครับความรู้ล้วนๆ smileyy