-
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/02/25/48801_1298575153.jpg)
สวัสดีครับตามที่ผมได้กล่าวไว้ในกระทู้ของเว็ปทิกเกอร์เมื่อหลายวันก่อน พอดีวันนี้ไม่มีลูกค้าเลยปิดร้านเร็วหน่อย ก็เลยมานั่งปันต้นฉบับเรื่องกลอง สำหรับพี่น้องชาวรากหญ้าโดยเฉพาะ เราก็ต้องยอมรับกันนะครับว่าพี่น้องเรามีหลายกลุ่ม บางกลุ่มก็มีโอกาสได้สัมผัสกับเครื่องไม้เครื่องมือราคาแพง แต่บางกลุ่มทุนทรัพย์มีน้อยเครื่องไม้เครื่องมือคุณภาพอาจจะสู้เค้าไม่ได้ ไม่เป็นไรครับผมมีวิธีการ โดยนำประสบการณ์ของตัวเองมาเล่าสู่กันฟัง ส่วนใครจะนำไปดัดแปลงต่อยอดหรือลองทำก็เชิญได้เลยครับ ทำแล้วประสบผลอย่างไรก็นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
ตอนเริ่มเล่นดนตรีใหม่ๆ ผมไม่ค่อยจะมีทุนทรัพย์สักเท่าไหร่ เก็บเงินได้เจ็ดพันกว่าบาท ก็ขึ้นกรุงเทพไปหาซื้อกลองชุด ก็ต้องเป็นกลองราคาถูกอยู่แล้วละครับ เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ตกไปเกือบสองพันบาทครับที่หลับที่นอนก็อาศัยพักกับญาติที่ไปเรียนที่กรุงเทพครับ
เจอร้านแรกซื้อเลยครับจำได้แถวๆ เวิ้งนครเขษมประมาณนั้นแหละครับ เป็นกลองถูกๆ ครับ ซื้อแล้วก็ขนใส่ ตุ๊กๆ มาหัวลำโพงเลยครับ
-
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/02/25/48801_1298575904.jpg) (http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/02/25/48801_1298575153.jpg) (http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/02/25/48801_1298576466.jpg)
กลับมาถึงบ้านก็ยังไม่เอาเข้าประจำการที่คาเฟ่หลังคามุงจาก นำมาประกอบลองตีอยู่ที่บ้านสองสามวัน เสียงไม่ดีครับมันก้องไม่มีสำเนียงของกลองเลยครับ ทีนี้ผมก็ใช้จินตนาการของผมเองครับเรียกว่าจินตนาการในการแต่งกลองครับ
เริ่มจากเบสดรัมหนังกลองก้องก็ต้องหาอะไรยัดเข้าไป ถ้าจะหมอนยัดข้างในมันธรรมดาพอดีตอนนั้นทีมงานทำห้องอัด ไปเจอเข้าพอดีครับฟองน้ำรังไข่ ผมเคยเอาฟองน้ำสำหรับถูพื้นที่เป็นก้อนหนาๆใส่มาก่อนแล้วครับแต่เป็นชุดอื่นไม่ใช่ของผมดังดีเหมือนกันแต่หลายบาทเพราะต้องใช้หลายก้อนบุรอบกลองเลยครับจนถึงหนังหน้ากลองครับให้ฟองน้ำยันหนังกลองเอาไว้เสียงแน่นดีครับ แต่ความรู้สึกของผม มันไม่กังวานครับทึบไปแต่มิกซ์ออกมาแล้วสุดยอดครับ
เหมือนเสียงกลองที่ออกจากห้องอัดยังไงยังงั้นเลยครับ แต่ตอนเราตีถ้าเราตีในห้องเล็กๆ ไม่เหนื่อย แต่พอตีเวทีกลางแจ้งหรือเวทีใหญ่ๆ เหนื่อยครับมันไม่ได้ยินเสียงของตัวเอง เพราะพวกผมเล่นดนตรีไม่เคยมีลำโพงมอนิเตอร์ครับ วงคนยากครับ
ก็เลยไม่เอาฟองน้ำก้อนที่ใช้ถูพื้นมาบุ ได้ฟองน้ำบุซับเสียงห้องอัดก็เลยนำมาบุข้างในตัวกลองมากลองเหยียบกระเดื่องกลองดู เสียงที่ออกมาหน้าตู้ลำโพงชุดหน้าดีครับออกครบทุกโทนเสียงครับทั้งทุ้มกลางแหลมแล้วลงลึกด้วยครับ (บุเหมือนในภาพประกอบนี้ ตอนนี้จ้าวนี้ได้จดลิขสิทธิ์แล้วครับ แต่ผมทำมาสิบกว่าปีแล้ว)
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/02/25/48801_1298576803.jpg)
-
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/02/25/48801_1298577869.jpg)
วันไหนอยากจะให้เสียงออกเสียงแท็ปๆ ก็เอาเหรียญห้าแปะเข้าไปแล้วเอาเทปกาวปิดทับ(สมัยนั้นเหรียญห้าเป็นเหรียญใหญ่ครับ) บอกก่อนครับว่าเมื่อก่อนเสียงกลองที่ออกมาจากห้องอัดมีหลายแบบครับ แล้วแต่แนวของดนตรี ไม่เหมือนสมัยนี้คล้ายๆกันหมดแต่ว่าเหรียญที่ติดหน้ากลองหายบ่อยครับ พรรคพวกแกะเอาไปซื้อบุหรีครับเมื่อก่อนห้าบาทซื้อได้สามตัวครับ ก็เลยเลิกติดเหรียญที่หน้ากลอง เป็นอันว่าตัวกระเดื่องผ่านครับ
ทีนี้มาปรับปรุงเรื่องกลองทอมทุกใบ ตอนนิยมกลองไฟฟ้ากันครับเสียงกลองสดไม่ค่อยใช้กัน
ก็เลยหาวิธีการที่จะทำให้หนังสั่นน้อยที่สุดติดโน่นติดนี่ก็ไม่ผ่านเจอหันไปเห็นลังใส่กลองลองนี่ดีกว่าคนมีเงินเค้าซื้อ Mute มาติดหน้ากลองเราวงคนยาก เอากระดาษลังตัดให้เป็นวง ความกว้างของวงกว้างประมาณหนึ่งนิ้วครับ วงนอกชนขอบกลองพอดีครับ เสร็จวางบนหนังกลองทีนี้ก็จูนเสียงกลองหรือขึ้นหนังกลองไปเรื่อยๆ ครับพอได้ที่เอาไมค์จ่อแล้วลองตีดู เสียงที่ออกมาเหมือนกับกลองไฟฟ้าผสมกับกลองราคาแพงเลยครับ ก็เลยทำทุกใบ ผลที่ออกมาหน้าพอใจมาครับ ส่วนกลองสะแนร์จูนแล้วเสียงยังบางก็เลยหาฟองน้ำบางๆ บุข้างในได้ผลครับเสียงไม่ก้องตีแล้วไม่มีหางเสียงเสียงแส้กับเสียงกลองออกมากลมกลืนกันดีครับ เสียงกลองทุกใบโอเคครับผลเป็นที่น่าพอใจเกินคาดครับ เสียงเหมือนกลองราคาเป็นแสนครับ
-
(http://tiggersound2.com/upload/imagesMember/2011/02/25/48801_1298577294.jpg)
จูนเสร็จตอนกลางคืนก็หาม้วนเทปมาบันทึกแล้วนำไปเปิดกับเครื่องเสียงบ้าน แล้วก็เปิดกับวอล์คแมนดู เสียงที่ออกมาเมื่อเทียบกับม้วนต้นฉบับ ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ครับ เสียง ซ่า เสียงอัม ไม่มีเพราะช่วงที่แต่งกลองสายนำสัญญาณทุกเส้นนำมาเช็คหมดเส้นไหนมีเสียงซ่าหรือเสียงอัม ตัดออกประมาณสามนิ้วแล้วบัดกรีใหม่ ข้างในสายจะมี ฮ๊อคไซค์ สีเขียวๆของโลหะ หรือที่เรียกว่าขี้เกลือ ใช้ได้ผลครับสายนำสัญญาณทุกเส้นไม่มีเสียงซ่าหรือเสียงอัม
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนหนึ่งของนักดนตรีคนยาก เราไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาเครื่องมือราคาแพงๆ เครื่องมือที่เรามีที่เราหามาได้ นำมาดัดแปลง บางทีคุณภาพที่ออกมาอาจจะดีกว่าเครื่องมือราคาแพงๆ ด้วย
-
smileyyสุดยอดกำลังหาวิธีแต่งกลองราคาถูกๆอยู่เลยเพิ่งไปได้มา เสียงกระป๋องมากเลย เดี๋ยวจะเอาวิธีนี้ไปโมซะหน่อย
-
ขอบคุณครับได้ความรู้จริงๆ แต่ว่าการขันหนังกลองเบสดรัม หน้าหลัง ต้องมีความตึงประมาณไหนหรอครับ
-
ขอบคุณครับ ชอบตรงที่ใช้เหรียญห้าติดแล้วเพื่อนแกะไปซื้อบุหรี่ครับ อิอิ สุดยอดครับ
ประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงๆ...
-
ขอบคุณมากครับความรู้ดีๆต้องลองดูซะแล้ว smileyy
-
(http://image.ohozaa.com/i/ab2/dsc09355.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=5ea291aeebf3fdf70c488b0cc7718671)
-
ขอบคุณครับได้ความรู้จริงๆ แต่ว่าการขันหนังกลองเบสดรัม หน้าหลัง ต้องมีความตึงประมาณไหนหรอครับ
แล้วแต่ชอบครับ ผมชอบหนังหน้าตึงกว่าหนังกระเดื่องครับเพราะจะมีโทนเสียงแหลมปลายๆ ออกไปด้วยครับ ผมคิดอัตราส่วนแบบนี้ฟังจากเสียงที่ออกมาหน้าตู้ เบส กลาง แหลม 60-25-15 ครับ
-
(http://image.ohozaa.com/i/ab2/dsc09355.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=5ea291aeebf3fdf70c488b0cc7718671)
สมัยโบราณตอนผมเด็กๆ กลองที่อัดมาจากห้องอัดก็จะมีหลายรูปแบบ ที่เป็นวันรุ่นหน่อยก็จะมีเสียงออกมาทั้งเบส กลาง แหลม แต่เสียงกลางจะออกเสียงแต๊ปๆ สงสัยว่าน่าจะอัดมาจากพวกกลองไฟฟ้าครับ ลองนึกภาพดูครับเสียงเหมือนเอาไม้อัดตัดให้เท่าหนังกลองแล้วมาแปะไว้ที่ตัวกลอง ตอนเหยียบกระเดื่องกลองเสียงก็จะออกมาเสียงแบบที่ผมบอกครับเพราะเมื่อผ่านมิกซ์แล้วอัตราการขยายของเสียงเบสจะเยอะมากจึงทำให้เสียงที่ออกมาไม่แข็งครับ ทุกอย่างที่ผมเล่ามานี้ผ่านขั้นตอนการบันทึกเสียงแล้วลองไปเปิดกับเครื่องเล่นที่บ้านหรือ วอล์คแมนเปรียบเทียบกับม้วนต้นฉบับมาแล้วครับ ส่วนไมค์จ่อกลองก็คัดสรรค์เอามาจากไมค์ที่นักดนตรีที่เล่นตามคาเฟ่หรูๆ ไม่ใช้แล้ว ตัวใหนที่ขดลวดเบียดกับแม่เหล็กออกเสียงแหลมๆ ก็เอามาจ่อ ไฮแอท หรือฉาบ ถ้าหาไม่ได้ก็เอาวิธีการเชื่อมสายไลน์ไมค์ให้ติดฝอยทองแดงน้อยๆ เมื่อไมค์รับคลื่นเสียงแล้วแปลงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สัญญาณที่ส่งไปตามสายก็จะส่งไปไม่เต็มที่เสียงแหลม จะไปสะดวกกว่าสงสัยซ้อนท้าย มอ,ไซค์(สังเกตุจากการที่เมื่อสายไมค์ขาดหรือส่วนที่บัดกรีมีเส้นลวดติดไม่มาก)
ผมไม่เคยซื้อไมค์กลองมาใช้ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ตีกลอง มีแต่ไมค์บริจาคทั้งนั้นครับแล้วเอามาคัดเลือกเอาครับ ถูกโรคถูกยากับตัวใหนก็จำเอาไว้ พอตอนใช้หลายตัวก็เขียนแปะเอาไว้ครับ พรรคพวกที่มีแนวทางมิกซ์เสียงเหมือนผม(แต่งเสียงให้เฟล็ตหรือทางบ้านผมเรียกว่าอคุสติกครับ)ยังเคยยืมไปใช้เลยครับ
ได้ไมค์มาแต่ละตัวก็จะทดสอบด้วยการอัดแล้วไปเปิดครับเครื่องเสียงบ้านทุกครับ
-
(http://image.ohozaa.com/i/ab2/dsc09355.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=5ea291aeebf3fdf70c488b0cc7718671)
สมัยโบราณตอนผมเด็กๆ กลองที่อัดมาจากห้องอัดก็จะมีหลายรูปแบบ ที่เป็นวันรุ่นหน่อยก็จะมีเสียงออกมาทั้งเบส กลาง แหลม แต่เสียงกลางจะออกเสียงแต๊ปๆ สงสัยว่าน่าจะอัดมาจากพวกกลองไฟฟ้าครับ ลองนึกภาพดูครับเสียงเหมือนเอาไม้อัดตัดให้เท่าหนังกลองแล้วมาแปะไว้ที่ตัวกลอง ตอนเหยียบกระเดื่องกลองเสียงก็จะออกมาเสียงแบบที่ผมบอกครับเพราะเมื่อผ่านมิกซ์แล้วอัตราการขยายของเสียงเบสจะเยอะมากจึงทำให้เสียงที่ออกมาไม่แข็งครับ ทุกอย่างที่ผมเล่ามานี้ผ่านขั้นตอนการบันทึกเสียงแล้วลองไปเปิดกับเครื่องเล่นที่บ้านหรือ วอล์คแมนเปรียบเทียบกับม้วนต้นฉบับมาแล้วครับ ส่วนไมค์จ่อกลองก็คัดสรรค์เอามาจากไมค์ที่นักดนตรีที่เล่นตามคาเฟ่หรูๆ ไม่ใช้แล้ว ตัวใหนที่ขดลวดเบียดกับแม่เหล็กออกเสียงแหลมๆ ก็เอามาจ่อ ไฮแอท หรือฉาบ ถ้าหาไม่ได้ก็เอาวิธีการเชื่อมสายไลน์ไมค์ให้ติดฝอยทองแดงน้อยๆ เมื่อไมค์รับคลื่นเสียงแล้วแปลงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สัญญาณที่ส่งไปตามสายก็จะส่งไปไม่เต็มที่เสียงแหลม จะไปสะดวกกว่าสงสัยซ้อนท้าย มอ,ไซค์(สังเกตุจากการที่เมื่อสายไมค์ขาดหรือส่วนที่บัดกรีมีเส้นลวดติดไม่มาก)
ผมไม่เคยซื้อไมค์กลองมาใช้ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ตีกลอง มีแต่ไมค์บริจาคทั้งนั้นครับแล้วเอามาคัดเลือกเอาครับ ถูกโรคถูกยากับตัวใหนก็จำเอาไว้ พอตอนใช้หลายตัวก็เขียนแปะเอาไว้ครับ พรรคพวกที่มีแนวทางมิกซ์เสียงเหมือนผม(แต่งเสียงให้เฟล็ตหรือทางบ้านผมเรียกว่าอคุสติกครับ)ยังเคยยืมไปใช้เลยครับ
ได้ไมค์มาแต่ละตัวก็จะทดสอบด้วยการอัดแล้วไปเปิดครับเครื่องเสียงบ้านทุกครับ
สุดยอดครับ ประสพการณ์ล้วนๆ
-
ความรู้ใหม่อีกแล้ว ขอบคุณครับ
-
สมัยโบราณตอนผมเด็กๆ กลองที่อัดมาจากห้องอัดก็จะมีหลายรูปแบบ ที่เป็นวันรุ่นหน่อยก็จะมีเสียงออกมาทั้งเบส กลาง แหลม แต่เสียงกลางจะออกเสียงแต๊ปๆ สงสัยว่าน่าจะอัดมาจากพวกกลองไฟฟ้าครับ ลองนึกภาพดูครับเสียงเหมือนเอาไม้อัดตัดให้เท่าหนังกลองแล้วมาแปะไว้ที่ตัวกลอง ตอนเหยียบกระเดื่องกลองเสียงก็จะออกมาเสียงแบบที่ผมบอกครับเพราะเมื่อผ่านมิกซ์แล้วอัตราการขยายของเสียงเบสจะเยอะมากจึงทำให้เสียงที่ออกมาไม่แข็งครับ ทุกอย่างที่ผมเล่ามานี้ผ่านขั้นตอนการบันทึกเสียงแล้วลองไปเปิดกับเครื่องเล่นที่บ้านหรือ วอล์คแมนเปรียบเทียบกับม้วนต้นฉบับมาแล้วครับ ส่วนไมค์จ่อกลองก็คัดสรรค์เอามาจากไมค์ที่นักดนตรีที่เล่นตามคาเฟ่หรูๆ ไม่ใช้แล้ว ตัวใหนที่ขดลวดเบียดกับแม่เหล็กออกเสียงแหลมๆ ก็เอามาจ่อ ไฮแอท หรือฉาบ ถ้าหาไม่ได้ก็เอาวิธีการเชื่อมสายไลน์ไมค์ให้ติดฝอยทองแดงน้อยๆ เมื่อไมค์รับคลื่นเสียงแล้วแปลงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สัญญาณที่ส่งไปตามสายก็จะส่งไปไม่เต็มที่เสียงแหลม จะไปสะดวกกว่าสงสัยซ้อนท้าย มอ,ไซค์(สังเกตุจากการที่เมื่อสายไมค์ขาดหรือส่วนที่บัดกรีมีเส้นลวดติดไม่มาก)
ผมไม่เคยซื้อไมค์กลองมาใช้ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ตีกลอง มีแต่ไมค์บริจาคทั้งนั้นครับแล้วเอามาคัดเลือกเอาครับ ถูกโรคถูกยากับตัวใหนก็จำเอาไว้ พอตอนใช้หลายตัวก็เขียนแปะเอาไว้ครับ พรรคพวกที่มีแนวทางมิกซ์เสียงเหมือนผม(แต่งเสียงให้เฟล็ตหรือทางบ้านผมเรียกว่าอคุสติกครับ)ยังเคยยืมไปใช้เลยครับ
ได้ไมค์มาแต่ละตัวก็จะทดสอบด้วยการอัดแล้วไปเปิดครับเครื่องเสียงบ้านทุกครับ
ชอบมากครับ ประสบการณ์ตรง ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน
-
ผมยังไม่เคยลองเอาฟองน้ำบางๆแบบที่บุในตู้แร็คมาตัดทำเป็น mute แบบเป็นวงติดไว้ที่หน้ากลองทอม ท่านใดลองทำรายงานผลให้ทราบหน่อยครับ เพราะว่ากลองชุดนี้ผมขายไปแล้วครับเฉพาะตัวกลอง หมื่นสอง ส่วนเครื่องประกอบหลวงไก่ยืมไปตั้งแต่สมัยยังไม่ดังจนป่านนี้ดังเป็นพลุแตกยังไม่เห็นเอามาคืนเลยครับ
-
สุดยอดไปเ้ลยครับท่านพี่ ถ้าให้ผมคิดค้นหาประสบการณ์เองต้องใช้เวลานานมาก หรืออาจจะไม่เจอเทคนิืึคที่ท่านบอกเลยก็ได้ ผมจะลองนำไปใช้กับกลองที่บ้านครับ ขอบคุณหลายๆครับ
-
ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่ากลองถูกหรือกลองแพง ก็ต้องจูนกันทั้งนี้แหละครับ
แต่ว่ากลองแพงๆ จะจูนง่ายกว่าครับ ผมว่ากลองเป็นเครื่องมือที่นักดนตรีต้องใช้ความมานะพยายามมากกว่าเครื่องดนตรีชิ้นอื่นครับ
-
(http://image.ohozaa.com/i/ab2/dsc09355.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=5ea291aeebf3fdf70c488b0cc7718671)
เหรียญ5ที่ว่า มันเป็นทริกหรือปล่าวคับ
-
(http://image.ohozaa.com/i/ab2/dsc09355.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=5ea291aeebf3fdf70c488b0cc7718671)
เหรียญ5ที่ว่า มันเป็นทริกหรือปล่าวคับ
ประมาณนั้นครับ เพราะว่าเราต้องเลียนแบบเสียงกลองจากโปรแกรม หรือกลองไฟฟ้า ว่ากันไปตามยุคนะครับ ยุคนั้นเสียงกระเดื่องจะออกแต็ปๆ
-
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากเลย
-
ขอบคุณท่านมากครับผม
ขอเก็บไว้ละครับ
-
จากเวปเพื่อนบ้านครับพอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้ครับ
เทคนิคการตั้งเสียงกระเดื่องเบื้องต้น
เทคนิคการตั้งเสียงกระเดื่องเบื้องต้น
ผมขอแบ่งเป็น 4 เรื่องหลักๆ นะครับ ขอตัดประเด็นเรื่อง ตัวถังกลอง และ เทคนิคการเล่น หรือเนื้อไม้ออกไปนะครับ
1. หนังกลอง
2. การจูนเสียง และการตั้ง Bass Drum
3. การซับเสียง
4. กระเดื่อง
หนังกลอง
หนังกลองเป็น สิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุดครับ เพราะเป็นแหล่งกำเนิดเสียงโดยตรง หนังแบ่งเป็นสองชนิดคือ Batter Head (หนังด้านที่เหยียบ) กับ Resonance Head (หนังด้านที่หันออกข้างหน้า) โดยหนัง Batter Head จะมีผลมากกว่าหนัง Resonance Head ครับ ปกติแล้ว ถ้าต้องการเสียงแบบปานกลาง สามารถเล่นได้หลากหลายแนว ก็เลือกหนัง Batter Head แบบที่เค้าใช้กันธรรมดาทั่วไป พวกหนังชั้นเดียวหนาๆ หรือหนังสองชั้น ฯลฯ (ตอนนี้ แก่แล้ว จำยี่ห้อชื่อรุ่นไม่ค่อยได้แล้วครับ)
ปกติแล้ว หนัง Batter Head ที่แถมมากับกลองชุดเลย จะเป็นหนังใสชั้นเดียว แบบ ความหนาบาง ถึง ปานกลาง ซึ่งให้เนื้อเสียงที่ไม่ค่อยเต็มซักเท่าไหร่ แต่ หนัง Resonance Head ไม่ค่อยซีเรียสมาก สามารถใช้ของที่มากับกลองชุดได้ครับ
การจูนเสียง
สำหรับการจูนเสียงก็เป็นปัจจัยสำคัญ ที่รองลงมาครับ ไม่มีสูตรตายตัว แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล... ปกติแล้ว สำหรับ Batter Head ผมจะเริ่มจากการไขหนังกลอง ให้สัมผัสกับขอบกลองโดยรอบโดยไม่มี แรงกด แล้วจากตำแหน่งนั้น ผมจะไขเข้าไป ประมาณครึ่งรอบครับ ค่อยๆ ไล่ไขตามสูตรการจูนกลองปกติ 1 รอบ จากนั้น ผมจะไล่คลายแล้วไขครึ่งรอบใหม่ ทีละหลัก อีก 1 รอบ แล้วลองดูว่า ตึงมากไปหรือน้อยไป โดยการกดด้วยมือ และลองเหยียบด้วยกระเดื่อง จากนั้นจะค่อยๆ ปรับทีละ 1/8 หรือ 1/4 รอบ ครับ
หนังด้าน Resonance Head ผมก้อปรับไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน เอาเป็นว่า ผมก้อจะไขตึงพอๆ กันกับ Batter Head หนะครับ เพราะว่า มันก้อฟังค่อนข้างยากเหมือนกัน แหะๆๆ แต่การเจาะรูหนัง Resonance Head นี่ มีผลเยอะครับ ถ้าไม่เจาะเนี่ย มันจะให้เสียงที่เต็ม และหางเสียงยาวขึ้น แต่ว่าเล่นได้ยากขึ้น เพราะจะมีแรงสะท้อนที่หัวกระเดื่อง เยอะ เวลาเล่น เพราะว่า มันจะเหมือนกับกลองทอม
โดยทั่วไปเลย การเจาะรู เพื่อสำหรับจับไมค์ และมันลดแรงสะท้อนที่หัวกระเดื่องไปในตัวด ้วยครับ แต่ว่าการเจาะที่ดี ไม่ควรเจาะรูใหญ่มาก ปกติ จะเจาะรูวงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-6 นิ้ว โดยไม่เจาะตรงกลางหนังครับ มักจะเอียงมาด้านใดด้านหนึ่ง เพราะว่า หนังบริเวณกลางนั้น ทำหน้าที่อุ้มแรงสะท้อนที่มาจากหนัง Batter Head ขณะเหยียบ ทำให้เกิดเนื้อเสียงที่อิ่มขึ้น ถ้าเจาะหนังตรงกลางออกไป ในบริเวณที่ หัวกระเดื่องส่งแรงผ่านมา ก้อจะทำให้เสียงแห้งลงไปครับ
มีอีกนิดนึงครับผม การตั้งตัวถัง Bass Drum ควรจะให้ ตัวถังด้านหน้า ลอยจากพื้นขึ้นมานิดนึงครับ โดยยื่นขาหยั่งให้ตัวถังลอยขึ้นมา จะทำให้การสั่นสะเทือนของตัวถังกลองดีขึ้น ซึ่งมีผลกับเสียงที่อิ่มขึ้นครับ
การซับเสียง
การซับเสียงจริงๆ แล้วจะใช้ในกรณีที่ ต้องการตัด หรือลดเสียง Overtone ที่เราไม่ต้องการออกไป ครับ... ซึ่งหมายความว่า เราจะซับเสียงต่อเมื่อมีเสียงที่ไม่ต้องการอย ู่ และซับเท่าที่เราต้องการลดมันจริงๆ การซับเสียงที่มากเกินจำเป็น จะทำให้เสียงห้วน และเบาลง ทำให้ Acoustic Balance (สมดุลของเสียง โดยไม่ผ่านระบบขยายเสียง) ในชุดกลองเสียไปครับ
ทั้งนี้ การซับเสียงโดยทั่วไป ยังคงหมายรวมถึง การแต่งเสียงกลองให้ เข้าระบบขยายเสียง และอัดเสียงได้ง่าย เนื่องจากหางเสียงที่เกินมา สามารถตัดออกได้ยาก แต่ หัวเสียงที่ขาดๆ มา สามารถเติมให้อิ่มได้มากขึ้น โดยคนไทยจะนิยมมาก ซึ่งจริงๆ แล้วค่อนข้างจะผิดหลักการของ Sound Engineer ซักหน่อย คือ พยายามขยายเสียงจริงให้ออกมาเหมือนธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งบางค รั้งมันไม่ค่อยตึ๊บสะใจวัยรุ่นเท่าไหร่
บางครั้งเราจะรู้สึกว่า เสียงกระเดื่องตึ๊บมาก แต่ไม่สอดคล้องกับเสียงทอมเลย พอเล่นออกมาจริงๆ จะทำให้ไม่ได้อารมณ์เท่าที่ควร แต่เค้าก้อจ ะมีวิธีแก้ปัญหาที่ปลายเหตุกันก้อคือ เพิ่มเสียง Bass Drum เข้าไปใน Monitor ของมือกลองหนะครับ
พล่ามมายืดยาว เข้าประเด็นดีกว่า 55555 ปกติแล้ว เสียง Overtone ที่เราต้องการลด มันมักจะเกิดจากบริเวณขอบหนังกลอง ที่สัมผัสกับขอบกลองนั่นแหละครับ ฉะนั้น การนำวัสดุซับเสียงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าห่ม ผ้านวม ฟองน้ำ ฯลฯ บุในตัวถังกลอง และสัมผัสบริเวณนั้น โดยรอบ จะตรงประเด็นมากที่สุดครับ โดยปกติผมจะใช้ผ้าห่มธรรมดา ที่ไม่ใช่ผ้านวม (เพราะผ้านวมมันฟูเกินไป และบังคับรูปร่างได้ยากกว่า) พับแล้วม้วน เป็นแท่งกลม ยาวประมาณ 1 เมตร แล้วบุบริเวญ Batter Head โค้งโดยรอบขอบกลองด้านล่าง ก้อจะได้ประมาณ ครึ่งตัวถังพอดีครับ
หรือถ้าง่ายกว่า คือ สั่งตัดฟองน้ำ หนาประมาณ 5 cm กว้างประมาณ 50 - 80 cm ยาวเท่ากับความลึกของตัวถังกระเดื่อง แล้วบุโค้งๆ เหมือนกัน โดยให้หน้าตัดฟองน้ำ ชนกับหนังทั้งสองด้าน ก้อจะช่วยซับเสียงได้ดีพอสมควรครับ
พยายามหลีกเลี่ยง การยัดวัสดุซับเสียงที่มีขนาดใหญ่ แล้วขวาง ทางวิ่งของแรงกดของหัวกระเดื่องจาก Batter Head ไปที่ Resonance Head นะครับ มันทำให้เสียงตึ๊บ จากตำแหน่งคนเล่นจริง แต่ว่า เสียง Balance โดยรวมจะแย่ลง เนื่องจากปริมาตรว่างในตัวถังกลอง มีผลโดยตรงกับความดังของเสี ยง นอกจากนั้น ถ้าวัสดุซับเสียงไม่สัมผัสกับขอบหนังกลองโดยตรง ก้อยังมีโอกาสเกิด Overtone ที่ไม่ต้องการอยู่ครับ
(หนังกลองมีความสำคัญต่อเสียงมากกว่า แต่ไหงอธิบายเรื่องการซับเสียงยาวกว่าหละเนี่ย 5555)
กระเดื่อง
มาถึงประเด็นที่บางคนมองข้ามไปนะครับ บางทีหัวกระเดื่องเองก้อ มีผลกับเสียงได้พอสมควรเหมือนกัน ขอตัดเรื่องการจูนน้ำหนักสปร ิง และเทคนิคการเหยียบนะครับ เอาหัวกระเดื่องอย่างเดียว หัวกระเดื่องที่ดี ควรจะมีน้ำหนักพอประมาณครับ สำหรับหัวกระเดื่องบางรุ่นที่มีดี ไซน์ทันสมัย แต่หัวกระเดื่องมีน้ำหนักเบา ทำให้ขาดความลึกของเสียงไปครับ
พื้นที่หน้าตัดของหัวกระเดื่องที่สัมผัสกับหนังกลอง จะมีผลกับ ควาอ้วนของหัวเสียงครับ ถ้าเป็นหัวกระเดื่องกลมแบบพิมพ์นิยม จะไม่ค่อยมีปัญหาซักเท่าไ หร่ แต่ถ้า เป็นหัวกระเดื่องหน้าตัดแบน บางรุ่น ถ้าตั้งหัวกระเดื่องเอียงไปนิดเดียว จะทำให้พื้นที่หน้าตัดลดลงอย่างมาก (เหลือแต่ขอบๆ ที่จิกโดนหนังกลอง) จะทำให้หัวเสียงบางลงมาก
วัสดุ ที่ใช้ทำหัวกระเดื่อง ก้อมีผลกับเสียงเหมือนกันครับ วัสดุ ที่นิ่มกว่า ก้อจะให้เสียงที่นิ่มกว่า แต่ถ้าใช้หัวยาง จะทำให้เสียงแข็งขึ้นมา และให้ระวัง หัวกระเดื่องจะกินหนังกลองด้วยครับ หัวกระเดื่องบางรุ่นทำจากไ ม้ครับ ได้น้ำหนัก กับอารมณ์ไปอีกแบบนึง
หัวกระเดื่องที่ผมใช้อยู่ ยี่ห้อ Danmar รุ่นธรรมดาครับ เป็นยี่ห้อที่เค้านิยมใช้กันมาก ไม่ว่าจะใช้กระเดื่องยี่ห้ออะ ไรก้อตาม ให้น้ำหนักเสียงที่ดี และน้ำหนักการเล่นที่ดีครับ
Credit By Kyopi Vintage
-
สักวัน คงได้ขึ้นไปเซ็ตกลองบ้าง เหมือนกันครับ เพราะบางที เช่าเครื่องดนตรีมาแล้วไม่ผ่าน
ขอบคุณครับพี่โส
-
ความรู้ใหม่
-
สุดยอด smiley4
-
จากมืดมน เริ่มมองเห็นแสงสว่างส่องนำทางบ้างแล้วครับ ขอบคุณ
-
วันนี้ต้องไป ม่างกลองออกก่อน....ขอบคุณมากครับ
-
ขอบคุณครับ ว่างๆจะลองรื้อ ทำดู
-
ขอบคุณมากคับ..ความรู้ที่ให้มา..ถือว่าท่านได้ทำบุญความรู้ครั้งใหญ่คับ....
-
เทพมากสุดยอดเลย smileyy
-
สิ่งดีๆที่น่าศึกษา
-
งามๆๆๆๆๆๆครับ
-
ขอบคุณมากครับ
-
smiley4
กดไลให้หลายๆที
-
ช่วยเสริมให้น้าเสริม อีกนิดครับ
การติดเหรียญห้า บนหนังกลองเบสนั้น จุดประสงค์เพื่อต้องการ ให้เสียงกระเดื่องฟังชัดเจนขึ้น สมัยนั้นยังไม่มี PA ไม่มีไมค์กลอง สดๆครับ กลองไม่มีตู้ลำโพง เหมือนเครื่องอื่น เสียงเลยเบากว่า ปัจจุบันใช้มิกซ์ แต่งเสียงได้หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องติดเหรียญ
กรรมวิธีของผม หาหนังกลองเก่าที่แตกแล้ว มาตัดเป็นเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด4x4นิ้ว ซ้อนกัน 4-5 ชั้น วางเหรียญ ลงตรงกลาง ยึดเหรียญ ให้ติดกับหนังด้วย แร๊คซีน หรือกาว แล้วนำไปยึดกับหนังกลองเบส ให้ตรงกับจุด หัวกระเดื่อง
หมายเหตุ ถ้าไม่ใช้หนังเก่า รองหลายๆชั้น หนังกลองเบส จะแตกเร็ว เพราะเหรียญ จะถูกกดด้วยหัวกระเดื่อง จนหนังกลองทะลุ เป็นรู ถ้าต้องการเสียงแบบนี้ อีกวิธีหนึ่งที่ง่าย สะดวกกว่า คือเปลี่ยนหัวกระเดื่อง เป็นแบบ หัวไม้ ครับ ตับๆๆๆๆๆๆ เลย.....
-
ช่วยเสริมให้น้าเสริม อีกนิดครับ
การติดเหรียญห้า บนหนังกลองเบสนั้น จุดประสงค์เพื่อต้องการ ให้เสียงกระเดื่องฟังชัดเจนขึ้น สมัยนั้นยังไม่มี PA ไม่มีไมค์กลอง สดๆครับ กลองไม่มีตู้ลำโพง เหมือนเครื่องอื่น เสียงเลยเบากว่า ปัจจุบันใช้มิกซ์ แต่งเสียงได้หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องติดเหรียญ
กรรมวิธีของผม หาหนังกลองเก่าที่แตกแล้ว มาตัดเป็นเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด4x4นิ้ว ซ้อนกัน 4-5 ชั้น วางเหรียญ ลงตรงกลาง ยึดเหรียญ ให้ติดกับหนังด้วย แร๊คซีน หรือกาว แล้วนำไปยึดกับหนังกลองเบส ให้ตรงกับจุด หัวกระเดื่อง
หมายเหตุ ถ้าไม่ใช้หนังเก่า รองหลายๆชั้น หนังกลองเบส จะแตกเร็ว เพราะเหรียญ จะถูกกดด้วยหัวกระเดื่อง จนหนังกลองทะลุ เป็นรู ถ้าต้องการเสียงแบบนี้ อีกวิธีหนึ่งที่ง่าย สะดวกกว่า คือเปลี่ยนหัวกระเดื่อง เป็นแบบ หัวไม้ ครับ ตับๆๆๆๆๆๆ เลย.....
ตอนนั้นผมทำเมื่อปี 2529 เริ่มมีการใช้มิกซ์กับเครื่องดนตรีแล้วครับน้าบรรณ
-
ช่วยเสริมให้น้าเสริม อีกนิดครับ
การติดเหรียญห้า บนหนังกลองเบสนั้น จุดประสงค์เพื่อต้องการ ให้เสียงกระเดื่องฟังชัดเจนขึ้น สมัยนั้นยังไม่มี PA ไม่มีไมค์กลอง สดๆครับ กลองไม่มีตู้ลำโพง เหมือนเครื่องอื่น เสียงเลยเบากว่า ปัจจุบันใช้มิกซ์ แต่งเสียงได้หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องติดเหรียญ
กรรมวิธีของผม หาหนังกลองเก่าที่แตกแล้ว มาตัดเป็นเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด4x4นิ้ว ซ้อนกัน 4-5 ชั้น วางเหรียญ ลงตรงกลาง ยึดเหรียญ ให้ติดกับหนังด้วย แร๊คซีน หรือกาว แล้วนำไปยึดกับหนังกลองเบส ให้ตรงกับจุด หัวกระเดื่อง
หมายเหตุ ถ้าไม่ใช้หนังเก่า รองหลายๆชั้น หนังกลองเบส จะแตกเร็ว เพราะเหรียญ จะถูกกดด้วยหัวกระเดื่อง จนหนังกลองทะลุ เป็นรู ถ้าต้องการเสียงแบบนี้ อีกวิธีหนึ่งที่ง่าย สะดวกกว่า คือเปลี่ยนหัวกระเดื่อง เป็นแบบ หัวไม้ ครับ ตับๆๆๆๆๆๆ เลย.....
ตอนนั้นผมทำเมื่อปี 2529 เริ่มมีการใช้มิกซ์กับเครื่องดนตรีแล้วครับน้าบรรณ
ปีเกิดผมเลยนะครับ
ผมลองเคยลองนำเหรียญมาติดทุกใบกลอง (ติดตรงด้านล่างของกลองนะยกเว้นกระเดื่องนะครับ)
เสียงดีอย่าบอกใครเลย
เสียงออกครบน่าฟังแบบกลองราคาหลังหมืนนะครับ
-
ประสบการณ์ล้วนๆ เลยครับ
-
สุดยอดครับ
-
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
-
ขอสรุปที่ชัดเจนนิดนึงนะครับ พึ่งเริ่มทำกลองเล่นสดครับ
1หมอนที่ยัดเข้าไปไม่ใช่เพื่อลดปริมาตรห้องในกลองแต่เพื่อยันขอบหนังกลองด้านริมที่ติดขอบกลองทั้งสองด้านหน้าหลังถูกต้องไหมครับ
2งั้นเอาหมอนออก (ผมยัดไปบานเลย)แล้วไปหาฟองน้ำอะคูสติกแบบในรูปตัดให้ลึกพอจะยันติดหนังกลองทั้งสองด้านได้และยาวแบบหัวชนหางเพื่อที่จะติดทับตัวถังกลองแบบสนิทไม่ให้เห็นพื้นไม้ของตัวถังกลองถูกต้องไหมครับ