..การใช้ YAMAHA รุ่น TG-100 TONES GENERATOR
.
หน้าที่ของปุ่มกดต่างๆ
ปุ่ม PLAY กดเพื่อกลับสู่หน้าหลักปรกติ หลังจากกดปุ่มอื่นๆแล้ว.
ปุ่ม PARY กดเพื่อเปลี่ยน Part ที่มีอยู่ทั้งหมด 1-16 Part.
ปุ่ม EDIT กดเพื่อแก้ไขข้อมูลต่างๆ ในแต่ละ Part นั้นๆ.ในโหมดนี้มีพารามิเตอร์มากมายครับแต่ไม่ค่อยได้ปรับอะไร
ปุ่ม CURSOR กดเพื่อเลื่อนแถบบาร์หรือเส้นขีดด้านล่าง ให้อยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการแก้ไขข้อมูลต่างๆ.
ปุ่ม -/NO กดเพื่อ ลดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เมื่อเข้าในหมวดที่ต้องการแก้ไขหรือยกเลิกข้อมูล.
ปุ่ม +/YES กดเพื่อ เพิ่มค่าพารามิเตอร์ต่างๆเมื่อเข้าในหมวดที่ต้องกเรแก้ไขหรือยอมรับข้อมูล.
ลูกบิด INPUT มีไว้สำหรับเพิ่ม/ลดสัญญานขาเข้าที่ด้านหน้าเพื่อให้สัญญานออกพร้อมกับซาวด์ในตัวเครื่อง.
ลูกบิด MASTER VOLUMEสำหรับเพิ่ม/ลดสัญญานขาออกของซาวด์ทั้งหมดที่จะเข้าไปที่มิกซ์.
PHONES ช่องสำหรับเสียบหูฟังและเป็นช่องสัญญานเดียวกันกับสัญญานขาออ L/R ที่ด้านหลัง.
......ด้านหลังของเครื่อง......
ช่อง MIDI จะมีทั้งหมด 3 ช่องมีการใช้งานดังนี้.
IN เพื่อรับสัญญานจาก midi ต่างๆที่เป็นหัวกลมๆ 5 ขา ซึ่งจะเป็นมาตรฐานของแจ๊ค 5 ขา.
OUT เพื่อนำสัญญานไปต่อกับเครื่องเล่นอื่นๆที่เล่น midi ร่วมกัน.
THRU เพื่อนำสัญญานทั้งหมดไปต่อพ่วงอุปกรณ์ซาวด์ตัวอื่นเหมือนกับช่อง OUT แต่มีเงื่อนไขอยู่ที่ว่า ถ้าเราใช้ MIDI IN
เป็นหัวกลมใหญ่ 5 ขา สัญญานต่อพ่วงซาวด์ตัวอื่น จะใช้ช่อง THRU เท่านั้น แต่ถ้าใช้ MIDI IN เป็นแจ๊คกลมขนาดเล็ก
ก็จะใช้ช่อง TO HOST เป็นสัญญาน MIDI IN และขาออกก็จะใช้ OUT เพื่อต่อพ่วงซาวด์ตัวอื่นต่อไป.
CONTRAST ปรับความเข้มของหน้าจอและรุ่นนี้ไม่มีไฟเรืองแสงที่หน้าจอ.
HOST SELECT มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
MIDI ตำแหน่งนี้ใช้กับสัญญาน midi หัวกลมแบบ 5 ขาเท่านั้น
PC1/2 ตำแหน่งนี้ใช้กับสัญญาน midi หัวกลมเล็ก ที่ตำแหน่ง TO HOST เท่านั้นและการใช้งานต้องลง Driver ให้กับคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งจะแตกต่างกับหัวกลมใหญ่ชนิด 5 ขา ไม่ต้องใช้ Driver เพราะเสียบแล้วเล่นได้เลย แต่ต้องเซ๊ตค่าซาวด์ที่คอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องเสียก่อน.
MAC ตำแหน่งนี้จะใช้สาญแบบพิเศษสำหรับเครื่อง PC ที่เป็นตระกูล MAC เท่านั้นบ้านเราไม่นิยมกัน.
LINE OUT สัญญานขาออก L, R เพื่อเข้าที่ MIXER.
การใช้งานเบี้องต้น
1.ให้ต่อสาย MIDI ที่ติดมาโดยเอาขั่วที่เขียนว่า MIDI OUT เข้าที่ตำแหน่ง IN ของเครื่อง แล้วเลื่อนสวิทช์มาที่ตำแหน่ง MIDI
2. สายที่เหลืออีก 1 ปลายปล่อยลอยไว้เฉยๆก็ได้ไม่เป็นไร.
3. เปิดสวิทช์ไฟที่ตัวเครื่อง รอหน้าจอโหลดสักนิด จนหน้าจอแสดงปรกติ.
4. ในการเสียบสาย USB ครั้งแรก เครื่อง PC อาจจะใช้เวลาสักนิดเพื่อตรวจสอบอุปกรณืเชื่อมต่อว่ามีอะไรเข้ามา และเมื่อต่อเสร็จก็อาจจะรีบูตส์เครื่องสักหนึ่งครั้งครับ เพื่อให้เครื่อง PC ทำงานสมบูรณ์แบบ.
5. ในเล่นเพลงผ่านซาวด์โมดูลภายนอกอาจมีการเซ๊ตอุปกรณ์ต่อพ่วงให้ตรงกันเสียก่อน มิเช่นนั้นการเล่นเพลงอาจทำให้ไม่มีสัญญานผ่านตัว USB ได้ ในการตั้งค่าซาวด์นั้นสายที่เป็น USB TO MIDI จะใช้ชื่อว่า USB Audio Device 2. ถ้าเข้าไปในหมวดการตั้งค่าซาวด์หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงตัว USB จะใช้ชื่อนี้ แล้วเข้าไปมาร์คเพื่อเลือกในการเล่นซาวด์ภายนอก.และเมื่อต่อพ่วงสำเร็จที่สายพ่วงหลอดไฟสีแดงจะติดและเมื่อป้อนเพลงเข้ามาหลอดไฟสีเขียว จะกระพริบตามจังหวะของเพลงครับ ส่วนดวงกลางสำหรับสัญญานขาเข้าครับ.
6. การตั้งค่าซาวด์เพื่อรีเซ๊ตอัตโนมัติเมื่อจบเพลง ก็อาจจะตั้ง เป็นค่า MIDI COMMAND หรือ YAMAHA XG Reset ก็ได้ลองดูครับเพื่อทดสอบว่าเสียงมันเพี้ยนหรือเปล่าเท่านั้นเอง เพราะตัวเล่นเพลงแต่ละค่ายไม่เหมือนกันตรงนี้ต้องลองตั้งค่าดูครับ.
การตั้งค่าต่างๆภายในเครื่องส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นต้องตั้งอะไรกันมากครับ เพราะส่วนใหญ่เขาจะตั้งเป็นมาตรฐานอยู่แล้วและค่าต่างๆก็จะถูกรีเซ๊ตทุกครั้งเมื่อเพลงจบหรือมีการตั้งค่าใหม่ทุกๆครั้งเมื่อเพลงเริ่มเล่นครับ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะ MUTE Part 10 ของกลองเพื่อใช้กลองภายนอกมาเสริมความหนักแน่นเท่านั้นเองครับ. ส่วน Part อื่นๆก็ไม่ค่อยได้ปรับแต่งอะไรเพราะอย่างที่บอกเครื่องมันจะจัดการให้เรียบร้อยอยู่แล้ว.
ในการตั้งเพื่อที่จะ MUTE แทร็กต่างๆที่ต้องการก็มีขั้นตอนการเซ๊ตดังนี้ครับ.
1.ให้เครื่องอยู่ที่หน้าจอปรกติก่อน ถ้าไม่มั่นใจให้กดปุ่ม PLAY สัก 2 ครั้งก็ได้ แต่ในขณะเล่นเพลงหน้าจอจะแสดงเป็นแถบไฟวิ่ง ในการปรับก็ควรจะหยุดในการเล่นเพลงก่อนก็จะดี ไม่เช่นนั้นตอนเล่นเพลงเมื่อกด ปุ่ม PLAY หน้าจอสู่หน้าปรกติแต่ทิ้งไว้สัก 3 วินาทีหน้าจอก็จะแสดงไฟวิ่งอีกอาจทำให้ไม่เข้าใจในการปรับแต่งได้ครับ.
2. ให้กดปุ่ม Part ไปเรื่อยๆจนเจอ G 10* 1 Standard หลังจากนั้นกดปุ่ม Edit ไปเรื่อยๆ จนเจอคำว่า 10> RxChannel: 10 หลังจากนั้นให้กดปุ่ม +/YES ไปเรื่อยๆจนเจอคำว่า Off. แล้วลองเล่นเพลงดูก็จะเห็นว่า Part 10 ซึ่งเป็นเสียงกลองจะหายไป. เราอาจจะใช้การปิดโวลลุ่มก็ได้ครับเพราะความดังแต่ละ Part ก็อยูในหมวดนี้ (การปิดโวลลุ่มจะไม่เกี่ยวกับเมนโวลลุ่มที่หน้าปัดนะครับ)
3.ในการ MUTE นั้นในบางครั้งเมื่อเริ่มต้นเพลงใหม่ Part 10 ก็อาจจะกลับมาอีกหรือที่เรียกว่า MUTE แบบถาวรไม่ได้เนื่องจากค่า Reset ไม่ตรงนั่นเอง ให้อ่านดูหัวข้อที่ 6 ข้างบนดูครับ. ในการตั้งอาจใช้ MIDI COMMAND แต่ถ้าหากเราไม่มีกลองนอกมาพ่วงการ MUTE ก็ไม่มีประโยชน์ครับ.
4. ในขณะที่เริ่มต้นเล่นเพลงครั้งแรก หน้าจอจะแสดงข้อมูลของ Part ที่ทำงานค้างไว้ครั้งสุดท้ายครับ เช่นเรามีการเล่นที่ Part 10 ค้างไว้เมื่อเริ่มเล่นเพลง หน้าจอก็จะบอกว่าใช้กลองชื่ออะไรอยู่ สัก 2 วินาทีเครื่องก็จะกลับไปแสดงที่ไฟวิ่งแต่ละ Part ต่อไป.
ในเรื่องซาวด์โมดูลนี่ของ YAMAHA ไม่เป็นรองใครครับ ในส่วนตัวผมเอง ผมชอบ ยามาฮ่า มากกว่า โรแลนด์ ครับเนื่องจากเสียงที่ได้ไม่อับ และเป็นธรรมชาติดีครับ แต่ในส่วนที่ครูใช้ซาวด์ฟร้อนอยู่ก็โอเคครับแล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลนะครับ แต่ตัวผมเองกลับไม่ชอบครับเพราะเสียงที่ได้มันถูกกำหนดตายตัวเสียงซ้ำๆไม่เปลี่ยนไม่เหมือนซาวด์ในโมดูลมันจะเปลี่ยนเสียงไปเรื่อยไม่เบื่อครับ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับส่วนในการ MUTE Part อื่นๆก็ทำเหมือนกันครับ ไม่ยากอะไร แต่โดยทั่วไปแล้วการตั้งเสียงต่างๆก็ไม่ค่อยทำกันหรอกครับ นอกจากการ MUTE กลองช่อง 10 เท่านั้นเอง ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ลองโทรมาคุยดูนะครับ ให้คำปรึกษาทุกเรื่องครับ
........... K-ONE Music
ท่ามะกา กาญจนบุรี........