ปราก...นี้ฝนก๊ตกทุกวันเหมือนกัน พี่เสริมเห้อ

เขียวมาแหล่วหลาวบาวเห้อ!!!!!
แหล่วพันพรือ วันนี่ เย็นเนอรัลแมคเนเจอร์มิตรไปไหน ม้ายโหร่เข็ดเอวหลาวหวาพรือ
มีคนคิดถึงกอต้องเข้ามาแลหล่าว
ชาด! งานถ่ายเอกสารเต็มไปม็อด นี่กอเพิ่งได้นั่งเพิ่งได้ตั้งวาน
แหรกวา ว่างๆก็ลองถอดดอกe15-300sจากตู้ไซคลอป ออกมาแล ตรวจสภาพทั่วไปก็ปกติดีไม่เห็นว่ามีไอไหรเสียหาย ลองต่อเครื่องเสียงส่งสัญญาณเข้าเพียวๆแบบฟูลเร็นซ์เข้าไปเลยไม่ต้องมีเน็ตเวิร์ค20Hz-20kHz ต่อสายลำโพงมาเสียบสปีคโฟนเข้าตู้ไซคลอป เสียบไม่ค่อยเข้าฝืดมากเสียบแล้วเสียงไม่ออก ทั้งสองตู้เป็นเหมือนกัน วันกอนเท่ลองในป่ายางก็มีปัญญหากับขั้วสปีคโฟน ต้องถอดออกมาแลทีละตู้ ปรากฎว่า แหรกเดี๋ยวนั้นดันจนพลาสติคปิดขั้วท้ายสปีคโฟนหลุด ขั้วเท่บัดกรีหลุดตามมากัน เพราะว่าตอนบัดกรีใช้ความร้อนมากเกินไปมาย เพราะว่าสายเท่เชื่อมโยงกันมาลงเท่ขั้วของสปิคโฟนทั้งเพ คือเท่ขั้วสปีคโฟนมีสายไฟมาเชื่อมต่อมีสองเเส้นและสามแส็นก็เลยต้องใช้ความร้อนของหัวแร้งมากด้วย ต้องรื้อใหม่ม็อดครับ แล้วก็ต้องถอดขั้วสปีคโฟนตัวเมียออกมาหมุนสลับกันด้วยเพราะว่าแบบที่มาจากโรงงานนั้นเวลาเสียบตัวผู้เข้าไปแล้วตอนถอดมันถอดยากปุ่มปล็ดล็อคมันติดขอบ รวมๆแล้วต้องรื้อหมด แล้วมาบัดกรีกันใหม่ ใช้ขั้วต่อของจุดต่อแบบขันเกลียวเป็นจุดหลัก+,-(จุดต่อมันใหญ่)จากจุดนี้เราก็แยกขั้ว+ไปสปีคโฟนตัวที่หนึ่งเข้าที่ขั้ว+1, สปีคโฟนตัวที่สอง+1,ไปขั้ว+ดอกลำโพง สายขั้ว - ก็ต่อลักษณะเหมือนกันเห็นมั้ย จุดต่อของสปีคโฟน+1,-1 แต่ละอันใช้สายแค่เส้นเดียวต่อจุด
อ้อ!มีข้อสังเกตว่า ของเดิมที่ท่านๆต่อมาให้นั้น สปึคโฟนหนึ่งและสอง สายที่ต่อมาสลับกันทั้งสองตู้ ความหมายคงจะเอาไว้เสียบเมื่ออยากจะให้ดอกลำโพงกลับเฟสหรือปล่าว เป็นเจตนาที่ดี แต่ผมไม่รู้ อิอิ...