ดอกลำโพงที่มีในบ้านเรา เหมือนที่เล่าสู่กันฟังในตอนต้นดอกลำโพงแต่ละเสียงที่มีความสามารถคนละอย่างทั้งหมดอยู่ที่ความเร็วการสั่น เสียงซับก็สั่นช้าหน่อย เสียงกลางมากหน่อย เสียงแหลม ไวขึ้นไปอีก วัสดุก็แตกต่างกัน เสียงกลางมวลกระดาษยิ่งเบาและบางเสียงยิ่งใส ส่วนเสียงแหลมยิ่งเบายิ่งบาง ยิ่งใสเข้าไปอีก แต่ราคาก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวครับ เคยสังเกตุเสียงจิ้งหรีดไหมครับความถี่เสียงที่จิ้งหรีด ส่งออกมามันทำได้อย่างไรกัน ก็เนื่องมาจาการขยับปีกที่ความถี่จำเพาะของมัน ปีกอันบางเบาและความเร็วของการสั่นคือคำตอบครับ ดังนั้นเสียงแหลมที่ดีวัสดุที่ทำเป็นโดมหรือไดอะแฟรมต้องดีเป็นพิเศษครับ ว้อยคือเครื่องยนต์ ไดอะเฟรมคือตัวรถ ยิ่งเบาเครื่องยิ่งแรงย่อมตอบสนองได้ดีกว่าครับ ชนิดของว้อยลำโพงทั้งแท้และเทียมสำหรับลำโพงเสียงแหลม ที่มีตามท้องตลาดแบบแรกคือ
ไดอะแฟรมแบบผ้าผสมเรซิ่น พวกนี้เสียงจะออกทึบครับถ้ายูนิตเสียงแหลมที่มีว้อยอย่างนี้ ให้เลือกเป็นอันดับท้ายสุดครับ
ส่วนลำโพงฮอนส์สำหรับโฆษณาก็ยังนิยมใช้ว้อยอย่างนี้อยู่เนื่องจากราคาไม่แพงและเน้นโทนเสียงที่เป็นกลางครับ ดีขึ้นมาคือเบบไททาเนี่ยม จะมีไดอะแฟรมสีเงินบ้างหรือสีำ้น้ำเงินก็มีครับ แต่ปลอมเยอะครับต้องสังเกตุดีๆบางค่ายลักไก่ ใช้พาสติกพ่นสีบรอน์เอามาใส่ก็มีครับ
หากดีกว่าไททาเนี่ยมคือแบบ ไมล่าร์ หรือ pen สีจะโปรงใสเหมือนกระจก ลำโพงเสียงแหลมถ้าไดอะแฟรมเป็นแบบไมล่าร์นี้หายากครับและน่าจะ ดีที่สุดในท้องตลาดในยุคนี้ครับ

ว้อยลำโพงเสียงแหลมที่ติดกับไดอะเฟรมทั้งสามแบบตามลำดับ รูปที่สามเป็นรูปแทนครับ หารูปยากมากแต่
ไดอะแฟรมไมล่าก็จะมีลักษณะคล้ายกันแบบนี้
ข้อดีข้อด้อยของเสียงแหลมที่ขนาดต่างกัน
สำหรับยูนิตเสียงแหลม ที่มีในท้องตลาด บางท่านอาจคิดว่าถ้ามีเงินซื้อก็เลือกให้มีขนาด ใหญ่โตไว้ก่อน ทั้งทนและเสียงดี อย่างนี้ผิดครับ ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องตามเสียงที่ต้องการและให้สอดคล้องกับความถี่ของดอกลำโพงเสียงกลางด้วย ลองมาฟังทางนี้ครับ
ยูนิตเล็กก็มีข้อได้เปรียบยูนิตใหญ่อยู่ครับ ตามหลักการและธรรมชาติของว้อยลำโพงเสียงแหลม คือ เส้นผ่านศูนย์กลางของว้อยมีผลกับความถี่ที่ลำโพงตัวนั้นจะให้ประสิทธิ์ภาพเสียงที่ออกมาด้วย หากลำโพงเสียงแหลมมีว้อยที่ใหญ่เกินไป จะทำให้การขยับของว้อยเป็นไปได้ช้า พูดง่ายง่ายคือขึ้นไม่ถึงความถี่สูงๆหรือไม่มีหางเสียง แต่ในทางตรงข้าม ก็จะมีข้อดีในการลงความถี่ได้ต่ำกว่ายูนิตที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กๆ ส่วนยูนิตเล็กปลายเสียงแหลมดี มีหางเสียงแล่ลงความถี่ต่ำกว่ายูนิตใหญ่ไม่ได้ ดังนั้นก่อนซื้อควรจะพิจารณา ขนาตของยูนิตกับดอกเสียงกลางด้วยให้สอดคล้องกัน
อาธิเช่นกลาง15 สองดอกดอก15เสียงมิดไฮ (เสียงกลางค่อนแหลม)ไม่ค่อยมี ก็ใช้ยูนิต ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของว้อยคลอย์ ตั้งแต่ 51มม 75มม ไปจนถึง 99มม 1ตัวสำหรับ15สองดอก ก็จะช่วยเสริมตรงเสียงกลางที่ขาดไปได้พอดีและไม่แย่งกันทำงาน แต่อย่าลืมนะครับยูนิตยิ่งว้อยใหญ่เท่าใดปลายเสียงแหลมก็จะหายไปมากเป็นเงาตามตัว ส่วนมากที่นิยมก็น่าจะยูนิตที่มีว้อยขนาดซัก75มม 1ตัว ต่อเสียงกลาง15นิ้ว สองดอก ใส่ในตู15นิ้วเบิ้ลคางหมูทรงสูง
ปากฮอนส์อยู่ด้านบน ตามภาพ

ส่วนตู้ 12 นิ้วสองดอก ธรรมชาติของดอกลำโพง12 นิ้ว คือเสียงกลางค่อนไปทางแหลม ก็จะมากกว่าดอก 15" แน่นอน ดังนั้นควรเลือกยูนิตเล็กอาจจะ 2 ตัวถ้ายูนิตขนาดเล็กหรือ 1ตัวถ้ายูนิตขนาดกลางๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางของว้อยประมาณ 35-45 มม ซึ่งเดี๋ยวนี้ตู้ไลน์อาเรย์ขนาด12นิ้วก็นิยมใส่เสียงแหลมตัวเล็กตู้ละสองตัวกันแล้วครับ ขึ้นความถี่ได้สูงมากครับ ปลายเสียงแหลมอยู่หน้าตู้เรียกได้ว่าขนลุกครับ ปลายเส้นผมกระดิกกันเป็นแถวครับ

ส่วนลำโพงเสียงกลางที่มีขนาดเล็กลงมา เช่น 8"-10" ก็ค่อนข้างหายูนิตได้ง่ายครับเพราะยูนิตเล็กราคาก็ถูกลงแถมใช้งานด้วยกันได้ดีอีกด้วย ดังนั้นการเลือกใช้เสียงแหลมให้เข้ากันกับเสียงกลางก็ต้องดูดีๆ ไม่ใช่ว่าซื้อยูนิตขนาดใหญ่เกินไปมาใส่ตู้ เสียงที่ออกมากลายเป็นแหลมล้นจนต้องหรี่ หรือต้องเอาตัวต้านทานค่ามากเกินปรกติ กั้นเสียงไว้ไม่ให้ดังเกินลำโพงเสียงเสียงกลาง
อย่างนี้ ถือว่าผิดแล้วครับ เพราะซื้อมาใช้งานก็ได้ไม่เต็มร้อยครับ
ก่อนซื้อก็ควรดู ข้อมูลทางเทคนิคการตอบสนองความถี่ของดอกลำโพง ทั้งกลางและแหลม ช่วงความถี่เสียงที่ลำโพงทำงานควรต่อเนื่องพอดีกัน ไม่ให้ความถี่ที่ตอบสนอง ทับกันเกินไปหรือห่างกันเกินไปครับ ระหว่างลำโพงเสียงกลางกับแหลม เพียงเท่านี้เบื้องต้นเราก็ได้เลือกดอกมาใส่ตู้ที่การทำงานสอดคล้องกันในเบื้องต้นแล้ว ทีนี้การจูนหรือเซตอัพเน็ตเวริค์ ก็จะง่ายขึ้นมากครับ