แบ่งเวลาเพื่องานและชีวิตให้ลงตัว
ชีวิตของคนทำงานต้องยอมรับกันว่า วันวันนึงนั้นมีงานยุ่งนุงนังกันน่าดู โอกาสที่จะหาเวลาว่างไปดูแลตัวเองหรือคนที่ตัวเองรักและครอบครัวย่อมเหลือน้อยตามไปด้วย แล้วยิ่งสมัยนี้สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจก็ไม่ได้อู้ฟู่ซู่ซ่า จนทำให้คนทำงานมีรายได้เหลือกินเหลือเก็บซะด้วย เราจึงมักได้ยินคนทำงานบ่นถึงเรื่องของแพงบ้าง, เรื่องหนี้สินไปจนถึงเรื่องไม่มีเวลาเจอแฟนให้ได้ยินเป็นประจำ ล่าสุดมีผู้เปรยขึ้นมาว่า คนทำงานจะสามารถ สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการงานกับชีวิตส่วนตัวได้ไหม? โอ๊ะ โอ ถือว่าเป็นคำถามที่ดีทีเดียว เพราะถ้าชีวิตของใครไม่ถูกสถานการณ์รอบด้านบังคับ (หรือบางทีก็ทำตัวเอง) ให้สับสนวุ่นวายเกินไป ละก็ ทุกคนย่อมสามารถเอนจอยกับชีวิตการทำงานได้พอๆ กับหรรษากับชีวิตส่วนตัวทั้งนั้น
งั้นมาดูกันว่า เราจะสร้างบาลานซ์ หรือความสมดุลให้แก่ชีวิตการงานกับชีวิตส่วนตัวได้อย่างไร เริ่มจากข้อแรกเลย
1. ใครที่บ่นว่าไม่ค่อยมีเวลาดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน เพราะต้องฝากท้องเอาไว้ที่ร้านข้าวแกงข้างบ้าน, ข้างออฟฟิศหรือร้านค้ารถเข็น ซึ่งก็อย่างว่า มักมีขายแต่อาหารมันๆ ทอดๆ เพราะเป็นอาหารยอดนิยม ขายง่าย สะดวกกิน เช่น ไก่ทอด, หมูทอด, หมูปิ้ง, ไข่เจียวหมูสับ ฯลฯ ไปยันร้านขายข้าวมันไก่มีเยอะมาก ดังนั้น ในเมื่อวันธรรมดาต้องรับประทานอาหารสะดวกซื้อที่ไขมันสูง และไม่ค่อยมีผักหรือผลไม้สดเป็นองค์ประกอบแล้ว งั้นพอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ แวะไปซุปเปอร์มาร์เกต ซื้อผัก+ผลไม้มาทำสลัดรับประทานบ้างสิ แล้วอย่าลืมทำแบ่งปันให้สมาชิกคนอื่นในครอบครัวด้วยนะ
2. คนทำงานมักได้รับเชิญไปงานต่างๆเป็นประจำ บางงานอยากไป บางทีก็ไม่อยาก ฉะนั้น ถ้าคุณชั่งน้ำหนักดูแล้วว่างานไหนไม่ควรไป ก็บอกปัดหรือปฏิเสธไปเลย แน่ล่ะบางครั้งเราก็เกรงใจที่จะบอกว่าไม่ แต่ลองนึกดูว่า ถ้าเรานำเวลาที่จะออกงาน ไปออกกำลังกายแทน จะมีประโยชน์กว่ากันไหม?
3. หาให้เจอว่าจะมีความสุขในชีวิตทำงานได้อย่างไร? เพื่อไม่ทำให้รู้สึกเซ็งกับงานที่ทำ เช่น คิดซะว่ามีงานให้ทำก็ยังดีกว่าตกงาน หรืองานนี้ก็ดีนะ เพราะมีเพื่อนร่วมงานดี ไม่ใส่ร้ายป้ายสีกัน เป็นต้น
4. คนทำงานที่ฉลาดจะรู้ว่าควรกลับบ้านเมื่อไหร่ ในเมื่อคุณอุทิศเวลาให้กับการทำงานพอสมควรแล้ว ไม่จำเป็นที่จะอยู่ออฟฟิศค่ำๆมืดๆทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ แน่ล่ะควรอยู่ดึกบ้าง เพื่อทำงานให้เสร็จตามโปรเจกต์ที่วางไว้ แต่คงไม่มีโปรเจกต์เร่งด่วนให้ทำทุกวันหรอกใช่ปะ ดังนั้น กลับไปหาคนที่คุณรักที่บ้านได้แล้ว
5. เมื่ออยู่บ้าน จงให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก แต่ถ้าจะคว้างานมาทำที่บ้านบ้างก็ไม่เป็นไร เพียงแต่แบ่งเวลาว่า ทานข้าวกับลูกและดูละครกับลูก แล้วหลังจากละครจบ เมื่อพาเด็กเข้านอน คุณค่อยเริ่มทำงานที่บ้าน แต่อย่านอนดึกมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะตื่นไม่ทันไปทำงานล่ะยุ่งเลย
สุดท้าย รู้จักให้รางวัลกับตัวเอง ด้วยการหาดอกไม้หรือรูปสวยๆมาประดับไว้ที่โต๊ะทำงาน, นัดหวานใจไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง, ไปทำผม ทำเล็บ, ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ หรือทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองแฮปปี้ก็นั่นแหละ.
ที่มา:
http://www.thairath.co.th/column/life/prateep/239399