Tigger Sound
สังคมออนไลน์คุณภาพของคนรักเครื่องเสียง
ทดสอบเสียง HK1.1 By Tiggersound https://www.facebook.com/tiggersound/videos/10218510874389162

เหตุไฉนจึงไม่นิยมมอสเฟทครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaistudio

  • สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
  • มือเบส
  • ***
    • กระทู้: 84
เรื่องรายละเอียดของเสียงครับ
นายกันต์พงษ์  จิตต์ธีรวุฒิ  เลขที่ 281 ม.1 บ.เหล่าใหญ่ ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ 46110   <br />เลขที่บัญชี 416-1-34036-2 ธนาคารกรุงไทย สาขากุฉินารายณ์  จ.กาฬสินธุ์<br />มือถือ  090-3367987  AIS วันทูคอล


ออฟไลน์ pupan

  • มือกลอง
  • *****
    • กระทู้: 634
นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนผมเถียงขาดใจเลยนะครับเนี่ย

แอมป์คลาส H หลาย ๆ เครื่องก็ยังใช้มอสเฟตทำงานเป็นสวิทช์ไฟสูง
บอกแล้วว่า มอสเฟตส่วนมากเกิดมาเพื่องานสวิทช์โหมด

ที่เกิดมาเพื่องานลิเนียร์มันมีน้อย
พอมีน้อยที่ทำมากำลังสูง ๆ แรงดันเยอะ ๆ ก็ดันมีน้อยอีก
ก็เลยถือโอกาสแพง

ทำใมมอสเฟตค่อยเห็นมาทำแอมป์คลาส H
ก็เพราะมอสเฟตกำลังสูง ๆ แรงดันสูง ๆ ก็ดันมีซีกเดียว
ไอ้ที่มีคู่ก็ดันมีแต่ทนกระแสต่ำ ๆ กำลังตกคร่อมได้นิดเดียว ทำคลาส H ก็คงไม่ได้ประโยชน์นัก

เอ ตกลงผมอยู่ข้างใหนหว่า มอสเฟต หรือ ทรานซิสเตอร์ อิ ๆ
มันก็พี่น้องคลานตามกันมานั่นแหละครับ

ในแง่เทคนิคดีทั้งคู่นั่นแหละครับ แล้วแต่ละเลือกใช้ให้ถูกงาน และก็ใช้ให้เป็น

สำหรับเรื่องรายละเอียดเสียง โทนเสียง มักไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรานซิสเตอร์กำลังอย่างเดียวครับ มันขึ้นอยู่กับวงจรโดยรวมเสียมากกว่า
สุรพันธ์  กิจพานิ
โทรฯ ทวงหนี้อัตโนมัติไม่ต้องโทรนะครับ  ไม่มีบัญชี ไม่มีหนี้ และไม่มีตังค์


ออฟไลน์ pupan

  • มือกลอง
  • *****
    • กระทู้: 634
เคยอ่านเจอในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ครับ มี อ.ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้เกี่ยวกับราคาของมอสเฟสที่แพง เพราะบริษัทที่ผลิตเค้าไม่ได้ผลิตออกมาเพิ่ม หยุดการพัฒนาค้นคว้าเพิ่ม ที่จริงราคาต้นทุนก็พอๆ กับไบโพล่านี่ละครับ น่าจะเกี่ยวกับเสียงที่วิศวกรเสียงต้องการมากกว่า เพราะบริษัทเครื่องเสียงเจ้าดังๆ ของเมืองนอกส่วนมากนิยมใช้ไบโพล่านะครับ ทีนี้พอของมีน้อยไม่พอกับความต้องการราคาก็แพงเป็นธรรมดา เหมือนหลอดไงครับ


ขออนุญาตคุยประเด็นนี้นะครับ

มอสเฟตไม่ได้หยุดการพัฒนา และไม่ได้หยุดผลิตครับ
แต่ปัจจุบันจะเห็นว่ามีการพัฒนาไปใช้งานสวิทช์โหมด  ซึ่งส่วนมากจะพบในภาคจ่ายไฟไม่ว่าจะคอมพิวเตอร์ ทีวี เครื่องเสียงต่าง ๆ  รวมไปถึงเครื่องขยายเสียงกำลังสูงรุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังสูงมาก ๆ ที่ทำงานในโหมด PWM ครับ

เครื่องเสียงมันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์  บางครั้งสิ่งที่ดีของคน ๆ หนึ่งก็ไม่ได้ตอบโจทก์ของทุก ๆ คนเสมอไป
สุรพันธ์  กิจพานิ
โทรฯ ทวงหนี้อัตโนมัติไม่ต้องโทรนะครับ  ไม่มีบัญชี ไม่มีหนี้ และไม่มีตังค์


ออฟไลน์ เจมส์ หนองฉาง

  • หนุ่มลุ่มน้ำสะแกกรังครับ
  • มือกีตาร์
  • ****
    • กระทู้: 193
  • คนเมืองพระชนกจักรี
ตอนนี้มีตัวแรงที่มาแทนมอสเฟต นั่นคือ IGBT  brow
หรือว่ามอสเฟตไม่มีวันตายนะ



ออฟไลน์ maicro

  • ไมโครมิวสิค
  • มือกีตาร์
  • ****
    • กระทู้: 178
  • งานบริการคือพวกเรา
    • https://www.facebook.com/profile.php?id=100002432086836



ผมก็ยังใช้มอสเฟตครับ10  กว่าปีแล้ว smiley4 smiley4
นาย อรรถวุฒิ แก้วนรสิงห์  (ช่างวุฒิ) เลขที่ 119 หมู่ 6 ตำบล ตะดอบ อำเภอ เมือง จังหวัด ศรีสะเกษ 33000 TEL : 082-209-4269  ธ.กสิกรไทย 910-2-04024-1
ที่ทำงาน บริษัท เอบีซีคอมพิวเตอร์ เลขที่ 862/13 ตำบล เมืองใต้ ถนน กสิกรรม อำเภอ เมือง จังหวัด ศรีสะเกษ 33000


ออฟไลน์ kapook2518

  • นักร้อง
  • ******
    • กระทู้: 1134
ต้องขออภัยกับการพาดพิง AJ3000VZ ถ้าเป็น Zenken แพงแน่ครับ ผมก็ดันลืมนึกไปว่าเป็น Zenken
คิดแต่ C5200 , A1943  แต่ผมยังไม่ได้บอกว่า AJ เสียงไม่ดี
TR output คู่ละ 400 บาท แสดงว่าไม่เอาเปรียบลูกค้าให้ของมาดี

ลูกค้าที่เลือก AMP TR เหตุผลส่วนมากบอกซ่อมถูกก็แสดงว่าลูกค้าเข้าใจผิดสิครับคู่ละตั้ง 400 บาท


 
  

ออมสิน อุตมัง  18/111 การเคหะบางนาเฟลต6ชั้น4  ถ.บางนาตราด ซอยบางนาตราด46 เขตบางนา กทม. 10260  Tel 0639575060  ,   0870773220
ธ.กรุงไทย สาขากรมศุลกากร 181-1-13434-3


ออฟไลน์ narinke

  • มือเบส
  • ***
    • กระทู้: 87
    • http://nkerdkaew@gmail.com
ศึกร่วมสายพันธุ์  Bipolar VS MOSFET

สรุปการประมวลผลจากการอ่านของหลาย ๆ ท่าน

1. เรื่องน้ำหนัก ??



ตัวแปลเรื่องหนักมากหรือหนักน้อย ขึ้นอยู่กับหม้อแปลงครับ หม้อแปลงใหญ่มากก็หนักมากเป็นธรรมดา ความใหญ่ของหม้อแปลงบ่งบอกถึงพละกำลังที่จะจ่ายให้กับภาคขยายครับ ไม่ว่าจะเป็นภาคขยายอะไรก็ตาม (IC, หลอด, Transistor ประเภท MOSFET, Transistor ประเภท BJT (Bipolar Junction Transistor), หรืออุปกรณ์สารกึ่งตัวนำใหม่ ๆ ที่ทยอยออกกันตามมา และอีกประเด็นหนึ่งเรื่องน้ำหนักก็คือประเภท (Class) ของวงจรขยายด้วย ซึ่งน้ำหนักขึ้นอยู่กับขนาดของ Heat-sink ครับ class A. class AB ก็ใช้ Heat-sink เยอะหน่อยก็เท่านั้น

เข้าเรื่อง : Transistor ประเภท Bipolar ยุคแรก ๆ มีการนำมาใช้งานในระบบขยายเสียงก่อน Transistor ประเภท MOSFET ซึ่ง ฺBipolar ดั้งเดิมประสิทธิภาพต่ำทนไฟได้น้อยทำให้คุณภาพเสียงและกำลังในการขยายน้อยดังนั้นจึงใช้หม้อแปลงขนาดเล็ก (จะให้ใหญ่ไปทำไมไม่มีประโยชน์)
    จากนั้น  เมื่อ MOSFET เริ่มเ้ข้ามามีบทบาทเพราะตอบโจทย์ซึ่งเป็นข้อด้อยของ Bipolar ได้ สำหรับเรื่องเสียงขึ้นอยู่บุคคลิกของ MOSFET ที่เลือกใช้และอีกหลายปัจจัยครับ (โปรดอ่านข้อ 2.)



แต่ที่แน่ ๆ กำลังวัตต์ได้เพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะคุณสมบัติของ MOSFET(ไปหาอ่านเอง) แต่คร่าว ๆ ทนทานซะด้วยเพราะมีการจำกัดกระแสตามการเปลี่ยนแปลงทางด้านความร้อนที่เพิ่มขึ้น และเอื้อในการขนานกันหลาย ๆ ตัว ไม่เกี่ยงเรื่อง hfe (อัตราการขยาย) เพื่อช่วยกันทำงานครับ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ต้องใช้หม้อแปลงขนาดใหญ่เพื่อเป็นต้นกำลังในการขยายเสียงครับ และอีกประเด็นก็คือเรื่องเทคโนโลยีของหม้อแปลง อันนี้ไม่ต้องพูดถึงจะเลือกใช้ประเภท EI อย่างเดียว ซึ่งก็รู้ ๆ กันอยู่หนักและใหญ่ มีความร้อนแถมมาด้วย ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอแอมป์ขยายเสียงหนัก ๆ ทีี่ใช้ MOSFET ครับเฮ้อ !!! (แต่เมืองนอกเค้าอาจจะเบากว่าบ้านเรานะครับ อิ อิ คงไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร) แต่ถึงอย่างไรยุคนั้นน้ำหนักสำหรับคนไทยไม่ใช่อุปสรรคครับ ดังนั้นนักเล่นเครื่องเสียงจึงเห็น MOSFET ด้านงานขยายเสียงเป็นทองคำ ผลคือ ราคาแพงมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในงานประเภทอื่น ๆ ราคาก็ไม่ต่างกับ Bipolar ครับ...



    อยู่มาวันหนึ่ง Bipolar กลับมาเก่งกว่าเดิม คุณสมบัติเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และพัฒนาไ่ม่หยุดยั้งได้เบอร์ใหม่ ๆ มาอีกเพียบ ถูกกว่า MOSFET อีกนะจะบอกให้้... แต่รู้ไม๊ไอ้ที่แพงกว่า MOSFET ก็มีนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและชนิดของการใช้งานครับ แต่เรื่องของความทนทานนี่สิ... สุดท้าย Bipolar ก็คือ Bipolar ครับตัวเค้าเองไม่สามารถจำกัดกระแสของเค้าเองได้ (ระเริงกับการนำกระแสซะเหลือเกิน) สิ่งที่ตามมาคือร้อนจนพัง แต่ไม่ต้องตกใจ คนใช้งานเก่งครับก็ออกแบบวงจรให้ Bipolar ทำงานแค่พอดีและใส่วงจร Protect นู่นนี่นั่น และวงจรตรวจจับอะไรต่อมิอะไรเข้าไปเพื่อให้มันทำงานแบบไม่ถูลู่ถูกังครับ อิ อิ



ส่วนเรื่องน้ำหนักสุดท้ายก็จบที่ไอ้หม้อแปลงอยู่ดีแต่ยุคนี้ดีหน่อยเทคโนโลยีหม้อแปลงมันเจ๋งขึ้น C-Core, เทอร์รอยด์, และอีกอัน Switching ที่ว่ามานี้เรื่องขนาดและน้ำหนักลดลงไปเยอะครับ จึงเห็นว่า Amp. ที่ใช้ Bipolar จึงมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่าครับ
แต่แท้ที่จริงแล้วหากเราสร้าง Amp. MOSFET และใช้่ภาคจ่ายไปแบบ Switching ก็เบาไม่แตกต่างกันครับ



(เกร็ดความรู้ : ทราบไหมความจริงแล้ว Transistor ตระกูล FET ทั้งหลายแหล่ (J-FET, MESFET, MOSFET) ได้ริเริ่มค้นคว้าที่จะสร้างขึ้นมาก่อน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จากนั้นคนที่ริเริ่มดังกล่าวได้ล้มตายไปเสียก่อน FET จึงถูกหยุดไว้แค่นั้น จากนั้น Transistor ประเภท BJT ก็ออกมาฮือฮาสู่ตลาดเพราะทำหน้าที่แทนหลอดได้ หลังจากนั้นไม่นานนักคนที่ริเริ่มสร้าง FET ที่ได้ตายไปกลับมาเกิดใหม่และพัตนาต่อจนถึงปัจจุบัน)

อนาคตประเด็นเรื่องน้ำหนักจะหมดไปหากเราสร้าง amp โดยไม่ต้องใช้หม้อแปลงเพื่อลดทอนแรงดันจาก 220Vac นำไฟ 220Vac นี้เข้าภาคขยายโดยตรงได้ครับ หากต้องการวัตต์เยอะหน่อยก็เกี่ยวหรือต่อพ่วงกับสายไฟแรงสูงได้เลยจะเอากี่กิโลโวลต์ก็ว่ากันไปแต่อย่าลืมแจ้งการไฟฟ้าละ 555



2. เรื่องคุณภาพเสียง ??
อันนี้บอกยากครับว่าใครดีกว่าใครเอาเป็นว่า ถูกทุกข้อถูกทุกความเห็นแล้วแต่ชอบดีกว่า อิ อิ
แต่จะขอกล่าวถึงบุคคลิกของเสียงของทั้ง 2 ที่เคยอ่านในกระทู้ที่วิจารย์กันเยอะไปหมดและที่ฟังมานะครับ
ก่อนอื่นต้องอ้างอิงระบบเสียงในการทดสอบซึ่งเป็นชุดเดียวกันก่อนเพื่อให้การฟังสามารถแยกแยะได้ออกครับว่าแนวเสียงเป็นเช่นไร
MOSFET: เสียงย่าน LOW ดุดันสะทกสะท้านทะลุทะลวง แต่ถ้าจะให้ลงลึกหรือนุ่มที่ความถี่ต่ำต้องออกแบบวงแบบวงจรดี ๆ หน่อยหรือปรับแต่งที่ต้นทางของระบบเสียงครับ
              เสียงย่าน MidLow พุ่งแรงทะลุทะลวงทุกวงจรเหมือนกันหมด ไม่ต้องปรับแต่งอันนี้แนวเค้าจริง ๆ เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 55
              เสียงย่าน Mid โปร่งโล่งพุ่งไกลแรงไม่ตกยิ่งเร่งยิ่งขึ้นลำโพงไม่เจ๋งจริง พัง เพราะมันเร่งติดมือ มันดีครับ
              เสียงย่าน Mid High และ High อันนี้จะดังตามต้นฉบับของเสียงเลย ต้นทางเป็นไงก็เป็นงั้นครับ ดีก็ดี ไ่ม่ดีก็ฟังน่ารำคาญครับ เพราะ MOSFET เป็นอุปกรณ์ที่มีความไวในการทำงานที่ความถี่สูงครับ ซึ่งผมเคยฟังของนอกเหมือนกัน เสียงใสและละเอียดดีครับ (ARX ของ ออสเตเรีย)
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเบอร์ของ MOSFET ที่เลือกใช้ด้วยนะครับแต่ก็จะไม่หนีกันมาก แต่มีอยู่คู่หนึ่งที่่่ค่อนข้างแหวกแนวคือ K2221/J352 จะออกแนว Bipolar อยู่เหมือนกันครับ
คนที่ได้ฟัง Amp. MOSFET จะมีสีหน้าประมาณนี้ครับ อึ้งทึ่งดีใจ 555



ฺBipolar :  เสียงย่าน LOW นุ่่มสะท้านสะเืทือนความถี่ต่ำลงลึกดีจะถ้าจะให้อัดได้แรง ๆ ไฟต้องสูงและต้องให้อัตราขยายของภาคไดร์แรงหน่อยครับ... ปรับแต่งง่าย
              เสียงย่าน MidLow ออกแนวโล่ง นวล ๆ ดังไม่รำคาญ แต่ไ่ม่พุ่งเท่าไรนัก
              เสียงย่าน Mid โปร่งโล่ง นวล ๆ ไม่พุ่งเ่ท่าไรนัก ต้องหาลำโพงความไวสูง ๆ หน่อยจึงจะอัดมัน
              เสียงย่าน Mid High ไม่จัดจ้านไม่ฉุดฉาด กังวาล ไม่ค่อยพุ่งนัก ต้องหาตัวที่วัตต์เยอะหน่อยจะดี
              เสียงย่าน High อันนี้ก็.... ใสแบบอ่อน ๆ ไม่โฉ่งฉ่าง หากลำโพงดี ๆ หน่อยฟังเพราะครับ
ส่วนคนที่ได้ฟัง Amp.ฺBipolar จะมีสีหน้าประมาณนี้ครับ อมยิ้มภูมิใจ อิ อิ



หมายเหตุ :  อันนี้เป็นความเห็นที่ประมวลผลมาจากที่ได้แจ้งแล้วข้างต้นนะครับ  และเรื่องรายละเอียดหรือจะเป็นเรื่องความหวานของเสียงไม่ได้อยู่ที่ amp. อย่างเดียว ตัวแปลที่สำคัญที่สุดของระบบเสียงก็คือตัวเปล่งเสียงครับ (ลำโพง) ลองลงมาก็แหล่งกำเนิดเสียง และส่วนอื่น ๆ เช่นเครื่องปรุ่งแต่ง,ชุดควบคุมเสียง,สายสัญญาณ,amp. สภาพแวดล้อม อื่น ๆ อีกเพียบ หรือจะกล่าวให้ดูดีและครอบคลุมก็คือ มันเป็นเรื่องของ "การบริหารทางด้านศาตร์และศิลป์" ครับ

ข้อสังเกตุ :
-  การที่จะบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดีนั้น โดยทั่วไปจะประเมินจากสถิติที่ได้ผลออกมาในลักษณะที่คงเส้นคงวาครับ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Transistor ประเภท Bipolar ที่นำมาใช้ในงานขยายเสียงมิได้มีการหยุดพัฒนา เพียงแต่อาจจะมี Transistor ประเภทอื่น ๆ เช่น MOSFET ที่เข้ามาแทรก มาสร้างความฮือฮาและมีบทบาทมากเหมือนกัน ซึ่งเจ้า Bipolar ช่วงหลัง ๆ ก็ไม่ยอมแพ้มีตัวเก่ง ๆ มาสมทบอีกเพียบ อันนี้เป็นสถิติที่บ่งบอกว่า Bipolar คือ Technology ที่เกิดก่อนและยังคงมีความนิยมจนปัจจุบันครับ (คำตอบอยู่ในใจท่านแล้ว)



-  Amp. ราคาเป็นแสน หรือระดับชั้นนำของโลก ไปดูภาคขยายเถอะครับ เป็น Bipolar แทบทั้งสิ้น แต่ Bipolar ที่เค้าใช้ไม่ใช่แบบที่เราใช้นะ ของเค้า Spec เทพครับสร้างเป็นกรณีพิเศษ หรืออาจเรียกว่า Supper Bipolar ก็ได้ครับ นำสิ่งที่ดี ๆ ของ Transistor ประเภทต่าง ๆ มาหล่อหลอมรวมกันจนได้สิ่งที่ดีที่สุด จน spec เหนือกว่า MOSFET ที่ดีที่สุดครับ (เฉพาะด้านงานขยายเสียงนะครับ) ทำไมจึงเลือกมาสร้าง Spec เทพ ๆ ที่ Bipolar ??? ก็เพราะข้อเสียของ Bipolar ที่ว่า "ทำงานจนตัวเองพัง" นั่นล่ะ... ถ้ามองให้ลึก ๆ สิ่งนี้คือข้อดีนะครับไม่ใช่ข้อเสียเพราะมันไม่อู้งานเหมือน MOSFET เสียงที่ออกมาจึงมีความเป็นเชิงเส้นดีกว่า เนื่องจากค่า Impedance (ค่าความต้านทางการ Active) ไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่ความร้อนสูงขึ้นความเพี้ยนจึงไม่เกิด แต่ตรงกันข้ามกับ MOSFET สิ่งที่ได้มาคือความคงทนเพราะ Impedance ของตัวมันสูงขึ้นในขณะที่อุณภูมิสูงขึ้นดังนั้นจึงทำให้กระที่ไหลผ่านตัวมันลดลงตามสมการ กฏของโอห์ม และส่งผลให้ความเพี้ยนเกิดขึ้นตรงช่วงนี้ครับ เรา ๆ อาจไม่รู้สึกอะไร แต่พวกนักออกแบบชั้นนำของโลกเค้าคิดครับ อะไรก็ตามที่ทำให้แรงและเสียงดีเค้าทำหมดล่ะครับ แต่ทั้งหมดนี้จะเก่งเฉพาะพระเอก Bipolar อย่างเดียวไม่ได้นะครับ มีอีกเยอะครับหลายส่วนมากประกอบกันยุ่งยากสลับซับซ้อนพันกันอีรุงตุงนังไปหมด จนเป็นเหตุให้เราไม่สามารถทำให้เจ้า Bipolar ที่ Spec เทพ (เด็ก ๆ) ตามท้องตลาดบ้านเราหรือของชั้นนำของโลก (หากหาได้) ซึ่งไม่ว่าจะเป็น Amp ยี่ห้อไหนของนอกหรือในประเทศก็เปล่งอนุภาพไม่ได้เช่นระดับโลกครับ และไอ้ยี่ห้อต่าง ๆ เหล่านี้ก็แพงนะครับ แพงกว่า Amp MOSFET ที่เราบอกว่าแพงซะอีกครับ



ก็เลือกเอาแล้วกันตามเงื่อนไขต่อจากนี้
MOSFET มันเก่งฉลาดด้วยตัวมันเองไม่ต้องพึ่งใครมากมายก็เจ๋งแล้ว แต่แค่ระดับนึง
ฺBipolar มันไม่ค่อยเก่งแต่มันขยันตรงไปตรงมา (ซื่อ) จึงต้องมีคนช่วยแนะนำชี้ทางและควบคุมการทำงาน งานที่ออกมาจึงเนี๊ยบและเจ๋งจนถึงสุดยอดที่เป็นได้ในปัจจุบันครับ แต่เราไม่สามารถหาคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงเจ้า Bipolar ดังกล่าวได้นะสิ (เฮ้อ) หากได้คงแพงกว่าซื้อ MOSFET เป็นหลายเท่าแน่นอน คุ้มหรือป่าว ?

เรื่องธุรกิจกับความถูกต้องในระบบงานเครื่องเสียง
ตามธรรมชาติของจุดประสงค์ของการทำธุรกิจคือผลประกอบการหรือกำไรนั่นล่ะครับ การที่จะทำให้ผลประกอบการดีมี 2 วิธีครับ
  1. พัฒนาตนเองทั้งองค์กรไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบหรือผลิตภัณฑ์
  2. ทำลายคู่แข่งขันหรือชิงและฉวยโอกาสทางด้านเทคนิคและการตลาด

ความถูกต้องของคนซื้ออาจจะไม่ถูกใจคนขาย และการถูกต้องของคนขายก็อาจจะไม่ถูกใจคนซื้อเหมือนกัน
แต่ที่แน่ ๆ ขนาดพี่น้องท้องเดียว ยังไม่เกี่ยวกับสตังค์เลย นับประสาอะไรกับคนซื้อคนขาย
ทิศทางการตลาดกับการสร้างกระแสเท่านั้นที่คือความจริง ที่จะตอบโจทย์ของการทำธุรกิจได้
ส่วนความชอบกับเงินในกระเป๋าเท่านั้นที่จะตอบโจทย์ของลูกค้าได้

ถ้าความชอบอยู่ในกระแสหรือทิศทางการตลาดที่ถูกต้องและถูกใจ ก็ลงตัวครับ (จบ)

และปัจจุบันสังเกตุว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกชนิดจะเสียเร็ว... ถ้าไม่เสียเร็วจะขายของใหม่ได้ไง อันนี้เงียบไว้นะครับ
ความจริงผมกำลังจะบอกว่า ถึงแม้ตามหลักการ MOSFET มีความทนทานแต่เงื่อนไขและกระบวนการผลิตปัจจุบันไม่เหมือนก่อนนะครับ มีหลายเกรดมาก แท้/เทียม ยี่ห้อนู้น ยี่ห้อนี้ ผลิตที่นู่น ผลิตที่นี่... เยอะแยะเต็มไปหมด รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทนะครับ... ไหน ๆ จะสร้างจะซื้ออะไรซักที ทบทวนจุดประสงค์ของเราก่อนว่าเราต้องการอะไร ยอมรับได้แค่ไหน อันนี้เป็นสิ่งสำคัญครับ

เอาไงดีล่ะทีนี้ !?

สรุปครับ
ไอ้นู่นก็ดีไอ้นี่ก็ใช่แต่ไม่มีตังค์ ก็ฟังเท่าที่มีละกัน อิ อิ ทำใจให้สบายและบอกตัวเองและคนที่ฟังว่า....นี่ละดีที่สุดแล้วครับ...  ผมเคยฟังวิทยุคลื่น AM เช่น ธานินทร์ สมัยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ดังค่อย ๆ ไม่ชัดความเพี้ยนเพียบสัญญาณแทรกยังรู้สึกว่ามันเพราะเลย ทำไมละครับ คำตอบคือ "เราฟังเพื่อความสุนทรีครับ ไม่ใช่ฟังเพื่อจับผิด"

แต่ที่แน่ ๆ ที่สุดของที่สุดเรื่องการได้ยินเสียงคือ "หูและใจ" ของเราครับ
หากคุณเป็นคนที่คันหูบ่อยหรือใจง่ายคุณก็จะอยากลองฟังและิวิจารย์ไปเรื่อย ไม่จบไม่สิ้นแน่ครับ !?
แหะ แหะ แซวเล่นคร้าบบบบบบบ

เราโชคดีกว่าคนหูหนวกตั้งเยอะที่เค้าไม่มีโอกาสฟังแม้กระทั่งเสียงตด ดังเช่น สาว ๆ ด้านล่างนี้พวกเธอหูหนวกนะครับ อิ อิ





ขอให้โชคดีกับการฟังเสียงนะครับ
นรินทร์ เกิดแก้ว 081-5771682
111/11(ม.วิวเขา) ม.1 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110 (ปัจจุบัน)
บ้านเกิด 29/8 ม.6 ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 13110 เลขที่บัญชี 2080041266 ธนาคารกรุงไทย


ออฟไลน์ kittipool

  • ชีวิตคือการเรียนรู้
  • มือเบส
  • ***
    • กระทู้: 52
  • นักรบเอกา
ศึกร่วมสายพันธ์  Bipolar VS MOSFET

สรุปการประมวลผลจากการอ่านของหลาย ๆ ท่าน

1. เรื่องน้ำหนัก ??



ตัวแปลเรื่องหนักมากหรือหนักน้อย ขึ้นอยู่กับหม้อแปลงครับ หม้อแปลงใหญ่มากก็หนักมากเป็นธรรมดา ความใหญ่ของหม้อแปลงบ่งบอกถึงพละกำลังที่จะจ่ายให้กับภาคขยายครับ ไม่ว่าจะเป็นภาคขยายอะไรก็ตาม (IC, หลอด, Transistor ประเภท MOSFET, Transistor ประเภท BJT (Bipolar Junction Transistor), หรืออุปกรณ์สารกึ่งตัวนำใหม่ ๆ ที่ทยอยออกกันตามมา และอีกประเด็นหนึ่งเรื่องน้ำหนักก็คือประเภท (Class) ของวงจรขยายด้วย ซึ่งน้ำหนักขึ้นอยู่กับขนาดของ Heat-sink ครับ class A. class AB ก็ใช้ Heat-sink เยอะหน่อยก็เท่านั้น

เข้าเรื่อง : Transistor ประเภท Bipolar ยุคแรก ๆ มีการนำมาใช้งานในระบบขยายเสียงก่อน Transistor ประเภท MOSFET ซึ่ง ฺBipolar ดั้งเดิมประสิทธิภาพต่ำทนไฟได้น้อยทำให้คุณภาพเสียงและกำลังในการขยายน้อยดังนั้นจึงใช้หม้อแปลงขนาดเล็ก (จะให้ใหญ่ไปทำไมไม่มีประโยชน์)
    จากนั้น  เมื่อ MOSFET เริ่มเ้ข้ามามีบทบาทเพราะตอบโจทย์ซึ่งเป็นข้อด้อยของ Bipolar ได้ สำหรับเรื่องเสียงขึ้นอยู่บุคคลิกของ MOSFET ที่เลือกใช้และอีกหลายปัจจัยครับ (โปรดอ่านข้อ 2.)



แต่ที่แน่ ๆ กำลังวัตต์ได้เพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะคุณสมบัติของ MOSFET(ไปหาอ่านเอง) แต่คร่าว ๆ ทนทานซะด้วยเพราะมีการจำกัดกระแสตามการเปลี่ยนแปลงทางด้านความร้อนที่เพิ่มขึ้น และเอื้อในการขนานกันหลาย ๆ ตัว ไม่เกี่ยงเรื่อง hfe (อัตราการขยาย) เพื่อช่วยกันทำงานครับ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ต้องใช้หม้อแปลงขนาดใหญ่เพื่อเป็นต้นกำลังในการขยายเสียงครับ และอีกประเด็นก็คือเรื่องเทคโนโลยีของหม้อแปลง อันนี้ไม่ต้องพูดถึงจะเลือกใช้ประเภท EI อย่างเดียว ซึ่งก็รู้ ๆ กันอยู่หนักและใหญ่ มีความร้อนแถมมาด้วย ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอแอมป์ขยายเสียงหนัก ๆ ทีี่ใช้ MOSFET ครับเฮ้อ !!! (แต่เมืองนอกเค้าอาจจะเบากว่าบ้านเรานะครับ อิ อิ คงไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร) แต่ถึงอย่างไรยุคนั้นน้ำหนักสำหรับคนไทยไม่ใช่อุปสรรคครับ ดังนั้นนักเล่นเครื่องเสียงจึงเห็น MOSFET ด้านงานขยายเสียงเป็นทองคำ ผลคือ ราคาแพงมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในงานประเภทอื่น ๆ ราก็ไม่ต่างกับ Bipolar ครับ...



    อยู่มาวันหนึ่ง Bipolar กลับมาเก่งกว่าเดิม คุณสมบัติเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และพัฒนาไ่ม่หยุดยั้งได้เบอร์ใหม่ ๆ มาอีกเพียบ ถูกกว่า MOSFET อีกนะจะบอกให้้... แต่รู้ไม๊ไอ้ที่แพงกว่า MOSFET ก็มีนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและชนิดของการใช้งานครับ แต่เรื่องของความทนทานนี่สิ... สุดท้าย Bipolar ก็คือ Bipolar ครับตัวเค้าเองไม่สามารถจำกัดกระแสของเค้าเองได้ (ระเริงกับการนำกระแสซะเหลือเกิน) สิ่งที่ตามมาคือร้อนจนพัง แต่ไม่ต้องตกใจ คนใช้งานเก่งครับก็ออกแบบวงจรให้ Bipolar ทำงานแค่พอดีและใส่วงจร Protect นู่นนี่นั่น และวงจรตรวจจับอะไรต่อมิอะไรเข้าไปเพื่อให้มันทำงานแบบไม่ถูลู่ถูกังครับ อิ อิ



ส่วนเรื่องน้ำหนักสุดท้ายก็จบที่ไอ้หม้อแปลงอยู่ดีแต่ยุคนี้ดีหน่อยเทคโนโลยีหม้อแปลงมันเจ๋งขึ้น C-Core, เทอร์รอยด์, และอีกอัน Switching ที่ว่ามานี้เรื่องขนาดและน้ำหนักลดลงไปเยอะครับ จึงเห็นว่า Amp. ที่ใช้ Bipolar จึงมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่าครับ
แต่แท้ที่จริงแล้วหากเราสร้าง Amp. MOSFET และใช้่ภาคจ่ายไปแบบ Switching ก็เบาไม่แตกต่างกันครับ



อนาคตประเด็นเรื่องนี้จะหมดไปหากเราสร้าง amp โดยไม่ต้องลดทอนแรงดันจาก 220Vac นำไฟ 220Vac นี้เข้าภาคขยายโดยตรงได้ครับ หากต้องการวัตต์เยอะหน่อยก็เกี่ยวหรือต่อพ่วงกับสายไฟแรงสูงได้เลยจะเอากี่กิโลโวลต์ก็ว่ากันไปแต่อย่างลืมแจ้งการไฟฟ้าละ 555



2. เรื่องคุณภาพเสียง ??
อันนี้บอกยากครับว่าใครดีกว่าใครเอาเป็นว่า ถูกทุกข้อถูกทุกความเห็นแล้วแต่ชอบดีกว่า อิ อิ
แต่จะขอกล่าวถึงบุคคลิกของเสียงของทั้ง 2 ที่เคยอ่านในกระทู้ที่วิจารย์กันเยอะไปหมดและที่ฟังมานะครับ
ก่อนอื่นต้องอ้างอิงระบบเสียงในการทดสอบซึ่งเป็นชุดเดียวกันก่อนเพื่อให้การฟังสามารถแยกแยะได้ออกครับว่าแนวเสียงเป็นเช่นไร
MOSFET: เสียงย่าน LOW ดุดันสะทกสะท้านทะลุทะลวง แต่ถ้าจะให้ลงลึกหรือนุ่มที่ความถี่ต่ำต้องออกแบบวงแบบวงจรดี ๆ หน่อยหรือปรับแต่งที่ต้นทางของระบบเสียงครับ
              เสียงย่าน MidLow พุ่งแรงทะลุทะลวงทุกวงจรเหมือนกันหมด ไม่ต้องปรับแต่งอันนี้แนวเค้าจริง ๆ เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 55
              เสียงย่าน Mid โปร่งโล่งพุ่งไกลแรงไม่ตกยิ่งเร่งยิ่งขึ้นลำโพงไม่เจ๋งจริง พัง เพราะมันเร่งติดมือ มันดีครับ
              เสียงย่าน Mid High และ High อันนี้จะดังตามต้นฉบับของเสียงเลย ต้นทางเป็นไงก็เป็นงั้นครับ ดีก็ดี ไ่ม่ดีก็ฟังน่ารำคาญครับ เพราะ MOSFET เป็นอุปกรณ์ที่มีความไวในการทำงานที่ความถี่สูงครับ ซึ่งผมเคยฟังของนอกเหมือนกัน เสียงใสและละเอียดดีครับ (ARX ของ ออสเตเรีย)
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเบอร์ของ MOSFET ที่เลือกใช้ด้วยนะครับแต่ก็จะไม่หนีกันมาก แต่มีอยู่คู่หนึ่งที่่่ค่อนข้างแหวกแนวคือ K2221/J352 จะออกแนว Bipolar อยู่เหมือนกันครับ
คนที่ได้ฟัง Amp. MOSFET จะมีสีหน้าประมาณนี้ครับ อึ้งทึ่งดีใจ 555



ฺBipolar :  เสียงย่าน LOW นุ่่มสะท้านสะเืทือนความถี่ต่ำลงลึกดีจะถ้าจะให้อัดได้แรง ๆ ไฟต้องสูงและต้องให้อัตราขยายของภาคไดร์แรงหน่อยครับ... ปรับแต่งง่าย
              เสียงย่าน MidLow ออกแนวโล่ง นวล ๆ ดังไม่รำคาญ แต่ไ่ม่พุ่งเท่าไรนัก
              เสียงย่าน Mid โปร่งโล่ง นวล ๆ ไม่พุ่งเ่ท่าไรนัก ต้องหาลำโพงความไวสูง ๆ หน่อยจึงจะอัดมัน
              เสียงย่าน Mid High ไม่จัดจ้านไม่ฉุดฉาด กังวาล ไม่ค่อยพุ่งนัก ต้องหาตัวที่วัตต์เยอะหน่อยจะดี
              เสียงย่าน High อันนี้ก็.... ใสแบบอ่อน ๆ ไม่โฉ่งฉ่าง หากลำโพงดี ๆ หน่อยฟังเพราะครับ
ส่วนคนที่ได้ฟัง Amp.ฺBipolar จะมีสีหน้าประมาณนี้ครับ อมยิ้มภูมิใจ อิ อิ



หมายเหตุ อันนี้เป็นความเห็นที่ประมวลผลมาจากที่ได้แจ้งแล้วข้างต้นนะครับ และเรื่องรายละเอียดหรือจะเป็นเรื่องความหวานของเสียงไม่ได้อยู่ที่ amp. อย่างเดียว ตัวแปลที่สำคัญที่สุดของระบบเสียงก็คือตัวเปล่งเสียงครับ (ลำโพง) ลองลงมาก็แหล่งกำเนิดเสียง และส่วนอื่น ๆ เช่นเครื่องปรุ่งแต่ง,ชุดควบคุมเสียง,สายสัญญาณ,amp. สภาพแวดล้อม อื่น ๆ อีกเพียบ หรือจะกล่าวให้ดูดีและครอบคลุมก็คือ มันเป็นเรื่องของ การบริหารทางด้านศาตร์และศิลป์ ครับ

ข้อสังเกตุ :
-  การที่จะบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดีนั้น โดยทั่วไปจะประเมินจากสถิติที่ได้ผลออกมาในลักษณะที่คงเส้นคงวาครับ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Transistor ประเภท Bipolar ที่นำมาใช้ในงานขยายเสียงมิได้มีการหยุดพัฒนา เพียงแต่อาจจะมี Transistor ประเภทอื่น ๆ เช่น MOSFET ที่เข้ามาแทรก มาสร้างความฮือฮาและมีบทบาทมากเหมือนกัน ซึ่งเจ้า Bipolar ช่วงหลัง ๆ ก็ไม่ยอมแพ้มีตัวเก่ง ๆ มาสมทบอีกเพียบ อันนี้เป็นสถิติที่บ่งบอกว่า Bipolar คือ Technology ที่เกิดก่อนและยังคงมีความนิยมจนปัจจุบันครับ (คำตอบอยู่ในใจท่านแล้ว)



-  Amp. ราคาเป็นแสน หรือระดับชั้นนำของโลก ไปดูภาคขยายเถอะครับ เป็น Bipolar แทบทั้งสิ้น แต่ Bipolar ที่เค้าใช้ไม่ใช่แบบที่เราใช้นะ ของเค้า Spec เทพครับสร้างเป็นกรณีพิเศษ หรืออาจเรียกว่า Supper Bipolar ก็ได้ครับ นำสิ่งที่ดี ๆ ของ Transistor ประเภทต่าง ๆ มาหล่อหลอมรวมกันจนได้สิ่งที่ดีที่สุด จน spec เหนือกว่า MOSFET ที่ดีที่สุดครับ (เฉพาะด้านงานขยายเสียงนะครับ) ทำไมจึงเลือกมาสร้าง Spec เทพ ๆ ที่ Bipolar ??? ก็เพราะข้อเสียของ Bipolar ที่ว่า "ทำงานจนตัวเองพัง" นั่นล่ะ... ถ้ามองให้ลึก ๆ สิ่งนี้คือข้อดีนะครับไม่ใช่ข้อเสียเพราะมันไม่อู้งานเหมือน MOSFET เสียงที่ออกมาจึงมีความเป็นเชิงเส้นดีกว่า เนื่องจากค่า Impedance (ค่าความต้านทางการ Active) ไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่ความร้อนสูงขึ้นความเพี้ยนจึงไม่เกิด แต่ตรงกันข้ามกับ MOSFET สิ่งที่ได้มาคือความคงทนเพราะ Impedance ของตัวมันสูงขึ้นในขณะที่อุณภูมิสูงขึ้นดังนั้นจึงทำให้กระที่ไหลผ่านตัวมันลดลงตามสมการ กฏของโอห์ม และส่งผลให้ความเพี้ยนเกิดขึ้นตรงช่วงนี้ครับ เรา ๆ อาจไม่รู้สึกอะไร แต่พวกนักออกแบบชั้นนำของโลกเค้าคิดครับ อะไรก็ตามที่ทำให้แรงและเสียงดีเค้าทำหมดล่ะครับ แต่ทั้งหมดนี้จะเก่งเฉพาะพระเอก Bipolar อย่างเดียวไม่ได้นะครับ มีอีกเยอะครับหลายส่วนมากประกอบกันยุ่งยากสลับซับซ้อนพันกันอีรุงตุงนังไปหมด จนเป็นเหตุให้เราไม่สามารถทำให้เจ้า Bipolar ที่ Spec เทพ (เด็ก ๆ) ตามท้องตลาดบ้านเราหรือของชั้นนำของโลก (หากหาได้) ซึ่งไม่ว่าจะเป็น Amp ญี่ห้อไหนของนอกหรือในประเทศก็เปล่งอนุภาพไม่ได้เช่นระดับโลกครับ และไอ้ญี่ห้อต่าง ๆ เหล่านี้ก็แพงนะครับ แพงกว่า Amp MOSFET ที่เราบอกว่าแพงซะอีกครับ



ก็เลือกเอาแล้วกันตามเงื่อนไขต่อจากนี้
MOSFET มันเก่งฉลาดด้วยตัวมันเองไม่ต้องพึ่งใครมากมายก็เจ๋งแล้ว แต่แค่ระดับนึง
ฺBipolar มันไม่ค่อยเก่งแต่มันขยันตรงไปตรงมา (ซื่อ) จึงต้องมีคนช่วยแนะนำชี้ทางและควบคุมการทำงาน งานที่ออกมาจึงเนี๊ยบและเจ๋งจนถึงสุดยอดที่เป็นได้ในปัจจุบันครับ แต่เราไม่สามารถหาคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงเจ้า Bipolar ดังกล่าวได้นะสิ (เฮ้อ) หากได้คงแพงกว่าซื้อ MOSFET เป็นหลายเท่าแน่นอน คุ้มหรือป่าว ?

เรื่องธุรกิจกับความถูกต้องในระบบงานเครื่องเสียง
ตามธรรมชาติของจุดประสงค์ของการทำธุรกิจคือผลประกอบการหรือกำไรนั่นล่ะครับ การที่จะทำให้ผลประกอบการดีมี 2 วิธีครับ
  1. พัฒนาตนเองทั้งองค์กรไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบหรือผลิตภัณฑ์
  2. ทำลายคู่แข่งขันหรือชิงและฉวยโอกาสทางด้านเทคนิคและการตลาด
และปัจจุบันสังเกตุว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกชนิดจะเสียเร็ว... ถ้าไม่เสียเร็วจะขายของใหม่ได้ไง อันนี้เงียบไว้นะครับ
ความจริงผมกำลังจะบอกว่า ถึงแม้ตามหลักการ MOSFET มีความทนทานแต่เงื่อนไขและกระบวนการผลิตปัจจุบันไม่เหมือนก่อนนะครับ มีหลายเกรดมาก แท้/เทียม ญี่ห้อนู้น ญี่ห้อนี้ ผลิตที่นู่น ผลิตที่นี่เยอะแยะเต็มไปหมด รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทนะครับ... ไหน ๆ จะสร้างจะซื้ออะไรซักที ทบทวนจุดประสงค์ของเราก่อนว่าเราต้องการอะไร ยอมรับได้แค่ไหน อันนี้เป็นสิ่งสำคัญครับ

เอาไงดีล่ะทีนี้ !?

สรุปครับ
ไอ้นู่นก็ดีไอ้นี่ก็ใช่แต่ไม่มีตังค์ ก็ฟังเท่าที่มีละกัน อิ อิ ทำใจให้สบายและบอกตัวเองและคนที่ฟังว่า....นี่ละดีที่สุดแล้วครับ...  ผมเคยฟังวิทยุคลื่น AM เช่น ธานินทร์ สมัยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ดังค่อย ๆ ไม่ชัดความเพี้ยนเพียบสัญญาณแทรกยังรู้สึกว่ามันเพราะเลย ทำไมละครับ คำตอบคือ เราฟังเพื่อความสุนทรีครับ ไม่ใช่ฟังเพื่อจับผิด



แต่ที่แน่ ๆ ที่สุดของที่สุดของการได้ยินเสียงคือ "หูและใจ" ของเราครับ
หากคุณเป็นคนที่คันหูบ่อยหรือใจง่ายคุณก็จะอยากลองฟังและิวิจารย์ไปเรื่อย ไม่จบไม่สิ้นแน่ครับ !?
แหะ แหะ แซวเล่นคร้าบบบบบบบ

เราโชคดีกว่าคนหูหนวกตั้งเยอะที่เค้าไม่มีโอกาสฟังแม้กระทั่งเสียงตด ดังเช่น สาว ๆ ด้านล่างนี้พวกเธอหูหนวกนะครับ อิ อิ





ขอให้โชคดีกับการฟังเสียงนะครับ

คำตอบแบบนี้เข้าใจที่สุดครับ
นายกิตติพงษ์  แพวประเสริฐ  226/1 หมู่ 8 ตำบลดอนทอง  อำเภอเมือง  จังหวัดพิษณุโลก  65000  ธ.ทหารไทย  สาขาโคกมะตูม-พิษณุโลก  บัญชีเลขที่ 496-2-24032-3  โทร 086-9303527


ออฟไลน์ M-tech.

  • " ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย "
  • นักร้อง
  • ******
    • กระทู้: 1144
อย่าบังคับคนอื่นให้เชื่อตามตัวเองครับ ถ้าท่านชอบแบบไหนก็ชอบไป( mosfet )ไม่ใช่มาออกอาการจนตาเหลือกว่าmosfet ต้องดี transistor ไม่ดี(เพราะท่านนั้นชอบ mosfetอยู่แล้ว และที่สำคัญ ประกอบแอมป์mosfetเป็นอาชีพ) ทุกท่านมีความรู้ในการติดสิน ว่าดีไม่ดี กระทู้นี้ท่านอรุณตั้งเพื่ออยากแชร์ความคิดเห็นเพื่อนสมาชิกเช่นไร ครับ สรุปแล้วทุกอย่าง มีข้อดีและมีข้อเสีย แล้วแต่คนชอบครับ ส่วนตัวผมแล้วชอบ transistor เพราะราคาถูกหาซื้อง่าย รอท่านอื่นแสดงความคิดเห็นครับ  ขอบคุณครับ smileyy

เมธี  สิงห์บรบือ 599/38 ถ.สมหวัง-สังวาลย์ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น 40110  โทร. 084-6007092 
ธ.กรุงไทย สาขาบ้านไผ่ ชื่อบัญชี เมธี สิงห์บรบือ เลขที่ 406-0-45364-1


ออฟไลน์ narinke

  • มือเบส
  • ***
    • กระทู้: 87
    • http://nkerdkaew@gmail.com
อย่าบังคับคนอื่นให้เชื่อตามตัวเองครับ ถ้าท่านชอบแบบไหนก็ชอบไป( mosfet )ไม่ใช่มาออกอาการจนตาเหลือกว่าmosfet ต้องดี transistor ไม่ดี(เพราะท่านนั้นชอบ mosfetอยู่แล้ว และที่สำคัญ ประกอบแอมป์mosfetเป็นอาชีพ) ทุกท่านมีความรู้ในการติดสิน ว่าดีไม่ดี กระทู้นี้ท่านอรุณตั้งเพื่ออยากแชร์ความคิดเห็นเพื่อนสมาชิกเช่นไร ครับ สรุปแล้วทุกอย่าง มีข้อดีและมีข้อเสีย แล้วแต่คนชอบครับ ส่วนตัวผมแล้วชอบ transistor เพราะราคาถูกหาซื้อง่าย (แต่ชอบแอมป์คลาสดีครับ เอ๊ะ.ยังไง.งง) รอท่านอื่นแสดงความคิดเห็นครับ  ขอบคุณครับ smileyy

งง มีใครไปบังคับคุณพี่ตรงไหนเหรอจ๊ะ อิ อิ
นรินทร์ เกิดแก้ว 081-5771682
111/11(ม.วิวเขา) ม.1 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110 (ปัจจุบัน)
บ้านเกิด 29/8 ม.6 ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 13110 เลขที่บัญชี 2080041266 ธนาคารกรุงไทย


ออฟไลน์ M-tech.

  • " ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย "
  • นักร้อง
  • ******
    • กระทู้: 1144
อย่าบังคับคนอื่นให้เชื่อตามตัวเองครับ ถ้าท่านชอบแบบไหนก็ชอบไป( mosfet )ไม่ใช่มาออกอาการจนตาเหลือกว่าmosfet ต้องดี transistor ไม่ดี(เพราะท่านนั้นชอบ mosfetอยู่แล้ว และที่สำคัญ ประกอบแอมป์mosfetเป็นอาชีพ) ทุกท่านมีความรู้ในการติดสิน ว่าดีไม่ดี กระทู้นี้ท่านอรุณตั้งเพื่ออยากแชร์ความคิดเห็นเพื่อนสมาชิกเช่นไร ครับ สรุปแล้วทุกอย่าง มีข้อดีและมีข้อเสีย แล้วแต่คนชอบครับ ส่วนตัวผมแล้วชอบ transistor เพราะราคาถูกหาซื้อง่าย (แต่ชอบแอมป์คลาสดีครับ เอ๊ะ.ยังไง.งง) รอท่านอื่นแสดงความคิดเห็นครับ  ขอบคุณครับ smileyy

งง มีใครไปบังคับคุณพี่ตรงไหนเหรอจ๊ะ อิ อิ
งง? ผมก็ว่าก็ไม่ได้เกี่ยวกับท่านพี่ตรงไหนเลยนี่ครับและไม่ได้พาดพิงท่านพี่ด้วย อย่าร้อนตัวซิครับ

เมธี  สิงห์บรบือ 599/38 ถ.สมหวัง-สังวาลย์ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น 40110  โทร. 084-6007092 
ธ.กรุงไทย สาขาบ้านไผ่ ชื่อบัญชี เมธี สิงห์บรบือ เลขที่ 406-0-45364-1


ออฟไลน์ narinke

  • มือเบส
  • ***
    • กระทู้: 87
    • http://nkerdkaew@gmail.com
...
นรินทร์ เกิดแก้ว 081-5771682
111/11(ม.วิวเขา) ม.1 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110 (ปัจจุบัน)
บ้านเกิด 29/8 ม.6 ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 13110 เลขที่บัญชี 2080041266 ธนาคารกรุงไทย


ออฟไลน์ martt

  • มือกีตาร์
  • ****
    • กระทู้: 242
  • คน 101 ขับออฟโหลดแต่ชอบเพลงหมอลำ
ขอบคุณได้ความรู้ดี....           
             1. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
             2. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะถือสืบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
             3. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะเล่าลือ  (มา  อิติกิราย)
             4. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะอ้างตำราหรือคัมภีร์  (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
             5. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะตรรก (มา  ตกฺกเหตุ)
             6. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะคาดคะเน (มา นยเหตุ)
             7.อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะตรึกตามอาการ (มา อาการปริวิตกฺเกน)
             8. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะเข้ากันได้กับความเห็นของตน  (มา  ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
             9. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะผู้พูดสมควรเชื่อได้  (มา  ภพฺพรูปตาย)
             10. อย่าเพิ่งรีบเชื่อเพียงเพราะนับถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา (มา  สมโณ โน  ครุ)
                   
สมมาตร  ราษี     บ.ไวส์วูดส์  จำกัด 109  หมู่ 6 ต.หนองชุมพลเหนือ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี 76140    tel 086-2763304  
ธนาคาร กสิกรไทย  สาขาเพชรบุรี  เลขบัญชี 014-3-36286-8 ออมทรัพย์
[img]http://www.uppic.org/image-1107_5039B8AA.j


ออฟไลน์ สมเจตน์ ★

  • มือกลอง
  • *****
    • กระทู้: 795
เหมือนมันจะร้อนขึ้น

แต่วันนี้อากาศหนาวนะครับ
สมเจตน์   แสนเพียร
28 ม.4 ต. กระเบื้องนอก อ. เมืองยาง จ. นครราชสีมา 30270
เบอร์โทร D-tac 089-6251882 Line ID : jetbackstage

ธนาคารกรุงไทย
เลขที่ 334-0-35911-3
ชื่อบัญชี นายสมเจตน์ แสนเพียร


ออฟไลน์ diode

  • มือกีตาร์
  • ****
    • กระทู้: 157
ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรดีกว่าอะไร ขอให้ถูก เสียงดี ทนทาน เป็นพอคับ จะเลือกใช้ตัวไหนแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลคับ แต่หัวข้อก็บอกอยู่ว่า เหตุไฉนจึงไม่นิยมมอสเฟท ก็แค่อยากให้เพื่อนๆสมาชิกแสดงความคิดเห็น ไม่ได้ปิดกั้นความคิดเห็น แต่ก็ไม่อยากให้มาเถียงกันคับ เราจะได้ความรู้เพิ่มเติมคับ...
นายวรวุฒิ ศาลางาม (วุฒิ) เลขที่ 549(927) ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120
: tel: 0837924451,0934814271 Email:diode025@gmail.com