ผู้หญิงคนนี้ผมได้รู้จักเธอใน facebook ได้ใช้ชื่อ face ว่า..นพเก้า เปิ้นมั่นคง (ชื่อเล่น ต้น) เมื่อปีที่แล้ว ก่อนน้ำท่วมปี 54 ผมได้ตั้งกองกฐินขึ้น คุณต้น ก็ได้เข้ามาขออนุโมทนาบุญ เป็นรองประธานทอดกฐินด้วย ในครั้งนี้ เธอได้โทรมาบอกว่าตอนนี้ได้รับเหมางานย้ายเครื่องจักรที่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดนลูกจ้าง กลั่นแกล้ง ทำให้งานเสีย ต้องโดนเสียค่าปรับจนหมดตัว ไม่มีเงินไปเช่า รถ โฟคลิฟท์ ที่จะดำเนินงานต่อเพราะทำงานเสร็จจะได้รับเงินก้อนในส่วนที่เหลือ จึงได้โทรมาปรึกษาผม ผมก็ได้ให้การช่วยเหลือไปเป็นเงิน จำนวนหนึ่ง ผมกับเธอได้ตกลงกันว่า เมื่องานรับเหมาเสร็จแล้ว เธอจะคืนเงินให้ ต่อมาเมื่องานเสร็จแล้ว ก็ยังไม่ได้ เงินคืน ต่อมาเธอ ได้ชวนผมเข้าร่วมลงทุนงานประมลูงานเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม แถว บางพลี แต่ก่อนหน้านั้นผมได้เคยทำงานประมลูแบบนี้มาก่อน จึงได้ตัดสินใจร่วมลงทุน ประมลูงานกับเธอ เลยเลยโอนเงินไปให้เธอ จำนวนหนึ่ง การประมูลงานครั้งนี้เป็นการประมูลแบบ ไม่ผ่านโรงงาน แต่ ยักยอก เครื่องจักรออกมาให้เรา ด้วยการแลกเงินจำนวน หนึ่ง ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีสายไฟ 14 ม่วนใหญ่ และเครื่อง อีก หนึ่งรถ เทรนเลอร์ (ไม่ได้ระบุจำนวนเครื่องจักร) ต่อมาเธอก็โทรมาบอกว่า โดน BOI
ได้ยึดสินค้าทีประมูลมาในโกดังแถว บางพลี ไปหมดแล้ว ต่อมาเธอได้โทรมาบอกว่า
จะขายบ้านที่หมู่บ้านราชพฤกษ์ ถนน ลาดกะบัง เป็นจำนานเงิน 9000000 บาท
แล้วก็จะคืนให้ ซึ่งเธออ้างว่า สามีได้ เสียชีวิตไป 2 ปีแล้ว ทิ้งบ้านหลังนี้ใว้ให้ แต่ ติดที่แม่ สามี เธอ ไม่ให้ขาย เธอได้บอกว่า เธอยังมีบ้านที่ เชียงใหม่ อ.สันกำแพง อีกหนึ่งหลัง จะให้ผมทำขายฝากให้ และ ก็มีรถยนต์ CRV อีก 1 คันจะเอาเข้า ไฟแนนท์ ให้
แล้วเธอก็ได้เดินทางมาหาผมที่บ้าน เพื่อที่ จะมาเอาเงินค่าเดินทางไปเชียงใหม่
เพื่อที่จะได้ไป ทำประเมินที่บ้าน ผมจึงได้เอาเงินสด ให้เธอ ไปจำนวนหนึ่ง ต่อมาเธอโทรมาบอกว่า ถึงเชียงใหม่แล้ว พา ย่า ของเธอเข้า โรงพยาบาล เพราะเดินทางไกลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเธอโดนหมากัน ได้โอนเงินไปให้อีก เพื่อที่จะได้ใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล ระหว่างเดินทางไป โรงพยาบาล ได้ขับรถชนเด็ก ต้องเสียค่าปรับ ค่าทำขวัญเด็ก อีก ผมก็ได้โอนเงินไปให้อีกจำนวนหนึ่ง ด้วยความสงสารและเห็นใจ
ย่าก็มาตาย ตัวเองก็โดนหมากัดขับรถชนเด็กอีก ไม่มีเงินเสียค่าปรับ ก็ต้องโดนจับติดคุก เงินทำ ศพ ย่าก็ไม่มี ต่อมาอีกไม่นานคุณต้นก็โทรมาบอกว่า จะได้เงินประกันย่าแล้ว ให้เรารอก่อนนะ เดี๋ยวจะเอาเงินมาคืนให้หมด ผมก็รอมาเป็นเวลา 1 ปีที่ได้หลอกลวงผมมาตลอด ยังมี พวกของเธอได้โทรมาหลอกผม อีก 5 คน จะให้เล่า เรื่องราวทั้งหมดคงจะยาว จะขอ สรุปย่อ ตัวละครอีก 5 ตัวให้ฟัง ดังนี้ คนที่ 1 แม่เลี้ยงรัตน์ เป็นเจ้าแม่ปล่อยเงินกู้อยู่ อยู่ อ. สันกำแพง ได้โทรมาหาผมว่า คุณต้น มากู้เงินไป 20000 บาท ไปทำศพย่า ผมได้สอบถามแม่เลี้ยงรัตน์ ว่า บ้านที่ เชียงใหม่มีจริงไหม เธอก็บอกว่ามีจริง ประเมินมา 15 ล้าน เป็นบ้านทรงไทยหลังใหญ่ 2 หลังติดกัน อยู่ติดกับแม่น้ำ ปิง และ บ้านที่ กทม. ก็มีจริง คนที่ 2 เป็นสามี ของแม่เลี้ยงรัตน์ ได้โทรมาบอกว่า บ้านที่ เชียงใหม่ และที่ กทม มีจริง แม่เลี้ยงรัตน์จะขอซื้อ ในราคา 15 ล้านบาท ซึ่งต้อง ยัดเงินประเมินที่ดินอีก 5000 บาทผมก็ได้โอนเงินไปอีกจำนวนหนึ่ง ตัวที่ 3 ชื่อ เอื้องพึ่ง
เป็นเด็กที่ยากจนไม่มีจะกิน จะถูกแม่เลี้ยงเอาไปขาย แล้วเด็กคนนี้ก็ได้โทรมาหาผม ผมก็ได้สอบถามถึงเรื่อง เกี่ยวกับคุณต้น ย่าตายจริงไหม มีบ้านที่เชียงใหม่และที่ กทมจริงไหม เด็กคนนี้ก็ได้บอกว่า เป็นเรื่องจริงทั้งหมด แล้วแม่เธอก็ได้กูเงิน แม่เลี้ยงรัตน์มา เพื่อทำแคปหมู ขาย แล้ว ก็ไม่มีเงินส่งให้แม่เลี้ยงรัตน์ผมก็โอนเงินไปให้อีกจำนวนหนึ่ง พ่อโดนแม่เลี้ยงรัตน์รุมตีไม่มีเงินไปรักษา เสื้อผ้านักเรียนก็ไม่มีใส่ ซึ่งผมสงสาร ผมก็ไปตามหาเด็กผู้หญิงคนนี้ที่เชียงใหม่ แล้วเธอก็ได้หลอกผมอีก ตัวที่ 4 พ่อเลี้ยงคุณต้น ได้โทรมาหาผมอีก บอกว่าคุณต้นให้โทรมา เรื่องหนี้สิน จะใช้แทนให้ ผมก็ได้ถามว่า เรื่องบ้าน เรื่อง รถ ทั้งหมดนั้นมีจริงไหม เค้าก็ได้บอกว่ามีจริง กำลังรอเอาเงินแม่เลี้ยง รัตน์ ที่จะซื้อบ้าน ที่ เชียงใหม่ 15 ล้าน ซึ่งมันก็หลอกผมอีก คนที่ 5 ชื่อ ม่อน คุณต้นบอกว่า เป็นหลาน ม่อนก็ได้โทรมาคุยกับผมอีก ผมก็ถามเหมือนเดิม คำตอบก็บอกว่ามีจริง ทุกอย่างเหมือนเดิม จนเพื่อน มาเยี่ยมที่บ้านเมื่อเดือนที่แล้ว
ผมก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เพื่อนผมได้ คัดข้อมูลไปที่ ทะเบียนราฎษ์ จึงรู้ว่าไม่ได้อยู่ที่ หมู่บ้าน ราชพฤกษ์ แต่ที่จริงแล้วเธอ อาศัย ทะเบียนบ้านของญาติอยู่ ผมก็ได้ไปหาเธอตามที่ บัตรประชาชน ที่ระบุ ซึ่งญาติของเธอก็ได้พาไปหาที่ อาพาตท์เม้น ที่เธอได้เช่าอยู่กับสามีที่เธออ้างว่าตายมา2ปีแล้ว ภรรยากับเพื่อนผม ได้เจอเธอแล้วพาไปที่ สถานีตำรวจ สน. ประเวช ได้แจ้งความดำเนินตาม กฎหมายไป พอตำรวจได้สอบถามแล้ว เธอก็ได้บอกว่าเธอเป็น โรคจิต ชอบโกหกหลอกลวงชาวบ้านเป็นนิสัยแก้ไม่หาย สรุปแล้วให้สามีที่อ้างว่าตายแล้วเป็นคนรับผิดชอบให้ เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 36 เดือน
(ย่าก็ไม่ได้ตาย บ้านที่เชียงใหม่และ กทม ก็ไม่มีรถยนต์ CRV ก็ไม่มี ซึ่งเรื่องทั้งหมดที่ คุณต้น กับเพื่อน ทั้ง 5 คน ได้พูดมาทั้งหมดในระยะเวลา 1 ปี เป็นการหลอกลวงทั้งหมด .....ที่ร้ายแรงที่สุด คือ เงินสงฆ์ เป็นเงินทอดกฐินที่ตกค้าง ตอนน้ำท่วมปีที่แล้ว ก็โดนหลอกเอาไปอีก 20,000 บาท ถึงเวลาที่ผมต้องเอาเงินไปทอดผ้าป่า เพื่อเอาเงินไปคืนหลวงพ่อ แต่ก็ไม่มีคืน ผมต้องขายรถเพื่อนำเงินไปคืนหลวงพ่อตอนทอดผ้าป่าเดือนเมษายนแทน ทั้งที่คุณต้นรู้ว่าเป็นเงินกฐินแต่ก็ไม่นำเงินมาคืนให้ ... ที่ผมพูดทั้งหมด ไม่ได้เอาความโง่มาอวดแต่ผมอยากให้เป็นอุทาหรณ์