สะเทือนวงการหมอลำไทย หลังแกรมมี่ประกาศกร้าวเก็บค่าลิขสิทธิ์ทำเอาชาวหมอลำป่วน เกิดการรวมตัวเพื่อแสดงจุดยืน ไม่จ่าย ไม่ร้อง ห้ามนักร้องแกรมมี่ขึ้นเวที ประกาศศึกกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่างไม่กลัว
แกรมมี่ลั่น 250,000 แลกเพลง
ดูเหมือนเหตุการณ์เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จากแกรมมี่ในราคาแพงหูฉี่ กำลังจะกลายเป็นไฟลามทุ่งเสียแล้ว หลังมีการต่อต้านออกมาจากชาวหมอลำ กรณี ค่ายเพลง แกรมมี่ ใช้นโยบายเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง ในอัตรา 250,000 บาท ต่อการนำเพลงของบริษัทฯ ไปใช้ในการแสดงบนเวทีไม่เกิน 20 เพลง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา หากเกินกว่านั้นต้องเสียเพิ่ม โดยในขณะนี้ มีข้อสรุปเบื้องต้นว่า หากบริษัทแกรมมี่ยังยืนยันเก็บค่าลิขสิทธิ์ในอัตรานี้ อาจไม่มีการเล่นเพลงของบริษัทฯ รวมไปถึงการไม่ให้ศิลปินแกรมมี่ขึ้นเวทีหมอลำคนอีสานด้วย
กระนั้น เสียงเล็กๆ จากเหล่าคนหมอลำก็หาได้กระเทือนกับค่ายเพลงนี้แต่อย่างใด หนำซ้ำ กษม อดิศัยปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายลิขสิทธิ์ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ยังกล่าวแบบไม่สะทกสะท้านอีกด้วยว่า การค้า เจ้าของสิทธิ์คือผู้สร้างสรรค์นั้นๆ ก็ต้องได้ผลประโยชน์ด้วย ส่วนบุคคลอื่นๆ ถ้าจะนำเพลงไปใช้ทางการค้าก็ต้องถูกเก็บค่าลิขสิทธิ์
ส่วนที่บอกว่า จะไม่จ่าย ไม่เล่น และไม่ให้นักร้องแกรมมี่ขึ้นเวที ผมนับถือเขานะ เพราะถ้าคุณไม่เล่นเพลงเรา คุณก็ไม่ต้องจ่ายเรา มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว ส่วนที่จะไม่ให้ศิลปินเราขึ้นเวที หรือไม่ให้ใช้เวที แสง สี เสียงของคุณ คุณต้องคุยกับผู้จัดงานว่าจะเอากันแบบนี้หรือเปล่า ขอฝากทางผู้จัดงานด้วยว่าเงื่อนไขแบบนี้ทางผู้จัดงานเห็นด้วยหรือไม่ ผมขอฝากไว้ว่า เพลงเป็นหัวใจของการแสดงสด คุณไปทุ่มเรื่องแสงสีเสียงเวทีให้อลังการได้ แต่คุณไม่มีการพูดหรือนึกถึงเรื่องลิขสิทธิ์เพลงเลย ผมว่ามันงงนะครับ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงนี้ต่างประเทศทำกันมานานแล้ว แต่บ้านเรายังเป็นเรื่องใหม่อยู่ ยังไงขอย้ำว่าเราพร้อมเจรจาเป็นรายๆ หรือรวมกันมาเพื่อเจรจาก็ได้ เพราะนี่เป็นประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย
อีกประการหนึ่งคือจำนวนเงินที่ต้องแลกค่ากับลิขสิทธิ์ ถึงแม้จะมีการออกมาแก้ข่าวแล้วว่าตัวเลขหลักแสนแลกกับค่าลิขสิทธิ์เพลงไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่สรุปสุดท้ายก็ต้องจ่ายอยู่ดี จะมากจะน้อยก็ต้องพิจารณากันไป กรณีการนำงานเพลงไปขับร้องและทำการแสดงที่เป็นข่าวทาง Social Media นั้นผิดเพี้ยนจากความจริงมาก เนื่องจากบริษัทฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการคิดค่าตอบแทนอัตราค่าลิขสิทธิ์ภายใต้หลักสากล คือ คำนวณจากราคาบัตรคูณด้วยจำนวนบัตรเพื่อคิดมูลค่ารายได้ แล้วนำมูลค่ารายได้คูณด้วยอัตราค่าลิขสิทธิ์เพลงละ 0.5% เพื่อคิดค่าลิขสิทธิ์ ตัวอย่างเช่น ราคาบัตรใบละ 60 บาท คูณจำนวนบัตร 1,000 ใบ เท่ากับมีมูลค่ารายได้ 60,000 บาท คูณด้วย 0.5% ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 300 ซึ่งหมายถึงค่าลิขสิทธิ์ต่อเพลง
อย่างไรก็ดี ชาวคณะหมอลำทั้งหลายก็เสียความรู้สึกกับพ่อค้าหน้าเลือดค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง แกรมมี่ ไปเสียแล้ว ในเมื่อรายได้จากการเล่นหมอลำแต่ละครั้ง ต้นทุนก็สูงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเวที อุปกรณ์แสง-สี-เสียง ยิ่งถ้ากับคณะหมอลำเล็กๆ กำไรยิ่งหาแทบไม่มี ดังนั้นจึงมีการนำเสนอทางออกให้ค่ายเพลงพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป อย่าเหมารวม จนทำให้ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านวิถีท้องถิ่นที่เขาสืบทอดกันมานานต้องล่มสลายเพราะคำว่าลิขสิทธิ์เท่านั้น........
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000126151http://morning-news.bectero.com/post.php?pml=3021