เรามาเรียนรู้วิธีการติดตั้งระบบเครื่องเสียงกันดีกว่า
การติดตั้งและวางระบบอยู่ว่างๆ งานการไม่มี ชีวิตนี้ไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังดีที่ไม่เป็นภาระแก่สังคม ความรู้เดิมมีอยู่ก็น้อยนิด
ไปเจอความรู้ใหม่ก็คิดว่ารู้คนเดียวอาจจะลืมได้ เอามาเผยแพร่แก่สังคมและสมาชิก
ดีกว่าทำตัวไร้แก่นสารไปวันๆ เอาแต่นอนเหมือนบังอร ของอัสนี วสันต์
ซึ่งดังเป็นพลุแตกเมื่อหลายปีก่อน จัดคอนเสริตแต่ละครั้งมิตรรักแฟนก็มากมายเกือบจะเหยียบกันตายก็มี
ส่วนวงผมเล่นทีหนึ่งคนสองสามร้อยคนก็หรูแล้ว มันแตกต่างกันครับทั้งชื่อเสียงและเครื่องมือ
เวลาไปตั้งระบบเสียงก็จะมี พี่ๆ น้องๆ ลุงป้าน้าอา มาชวนคุยถามโน่นถามนี่
เวลาแสดงก็กระชั้นชิด มองนาฬิกาเหลือก็ไม่กี่นาที ติดตั้งไปอธิบายไป งานช้าไม่เสร็จตามเวลาเจ้าภาพบ่นเหมือนหมีกินผื้ง
แต่พอตอนเลิกไม่เห็นมีใครมาถามหนีกันหมด อยากจะบอกวิธีเก็บและขนสักหน่อย
แต่ไม่มีใครอยากรู้เลย สงสัยการเก็บเครื่องและขนเครื่องเป็นเรื่องไม่ยาก
การติดตั้งระบบเสียงไม่ยากครับเพ้อเจ้อมานานลองมาติดตามดูหลักการกันหน่อย
การติดตั้งเครื่องขยายเสียงหรือระบบเสียงเครื่องขยายเสียงหรือระบบเสียงใช้ในงานมักจะเกี่ยวข้องกันในสองลักษณะคือ
1. เครื่องขยายเสียงหรือระบบเสียงที่ใช้ฟังตามบ้าน (domestic system)
ไม่เหมาะสมกับระบบเสียงใหญ่ๆ ที่มีบริเวณกว้าง ๆ
2. เครื่องขยายเสียงหรือระบบเสียงสำหรับการแสดง (sound reinforcement system)
ระบบเสียงสำหรับการแสดงที่เราจะกล่าวถึงนี้แยกเป็นส่วนย่อยอีกระบบหนึ่งคือ
ระบบกระจายเสียงในที่สาธารณะ (Public Address) ซึ่งเรามักจะคุ้นเคยกับชื่อย่อของมันที่ว่า ระบบพีเอ (P.A. system)
ระบบเครื่องขยายเสียงเป็นระบบเสียงที่เน้นหนักด้านการกระจายเสียงพูด เช่น ในการอภิปรายปาฐกถา การหาเสียง เป็นต้น
ระบบเสียงสำหรับการแสดงจะมีจุดมุ่งหมายในการกระจายเสียงทั้งเสียงพูดและเสียงดนตรี คือมีทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรีควบคู่ไปด้วย ดังนั้นระบบเสียงสำหรับการแสดงจะมีความยุ่งยากและละเอียดอ่อนมากกว่าระบบพีเอ

ระบบเสียงทั้งสองนี้มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ผู้ชมคนดูจะอยู่ในบริเวณเดียวกับผู้แสดง สภาพเช่นนี้เราถือว่าผู้ชมและผู้แสดงอยู่ในสภาพธรรมชาติของเสียงแบบเดียวกัน เช่น ถ้าอยู่ในห้องประชุมทั้งคนดูและคนแสดงจะอยู่ในสภาพเสียงก้องเสียงสะท้อนแบบเดียวกัน ถ้าอยู่ในสนามหญ้าก็จะพบปัญหาเดียวกัน ถ้าอยู่ในสนามหญ้าก็จะพบปัญหาเสียงรบกวนจากลมและสิ่งอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน แตกต่างจากการเปิดเครื่องรับ (receiver) หรือเป็นสัญญาณที่ถูกบันทึกไว้ โดยในขณะบันทึกนั้นสภาพธรรมชาติของเสียงในห้องบันทึกกับห้องที่เรานั่งฟังนั้นแตกต่างกัน
ระบบพีเอเบื้องต้น ถึงแม้ว่าจะใช้ไมโครโฟนหลายตัวแต่ใช้เฉพาะเสียงพูดเรายังถือว่าเป็นระบบพีเอเช่นกัน กระจายเสียงไปยังคนดูโดยตรงแต่มันยังคงทำหน้าที่ขยายเสียงจากเครื่องดนตรีเพื่อให้ผู้แสดงเองได้ยินเท่านั้น
ระบบพีเอหลายชิ้นเป็นระบบเสียงสำหรับการแสดง จะเห็นว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เริ่มมากขึ้น โดยเฉพาะไมโครโฟนซึ่งต้องเลือกใช้กับเครื่องดนตรีเฉพาะแบบ เครื่องดนตรีต่าง ๆ เหล่านี้มีทั้งแบบที่ใช้ไฟฟ้าและไม่ใช้ไฟฟ้า สัญญาณจากเครื่องดนตรีเหล่านี้จะนำเข้าสู่วงจรมิกเซอร์ อีควอไลเซอร์และอื่นๆ แล้วนำเข้าสู่เครื่องขยายเสียงเพื่อนำออกกระจายเสียงยังคนฟัง เราจะไม่ใช้เครื่องขยายของเครื่องดนตรีชิ้นนั้น (ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ไฟฟ้า) กระจายเสียงไปยังคนดูโดยตรงแต่มันยังคงทำหน้าที่ขยายเสียงจากเครื่องดนตรีเพื่อให้ผู้แสดงเองได้ยินเท่านั้น
ระบบพีเอเบื้องต้นคุณภาพของเสียงคุณภาพของอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ใช้ว่าจะให้ความขัดเจนมากน้อยเพียงใด ความเพี้ยนของอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในระดับที่พอเพียงหรือเปล่า คุณภาพของเสียงขึ้นกับความเป็น Hi-Fi ของอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ใช้ นอกจากนี้ผลตอบเชิงความถี่ยังเป็นตัวกำหนดความชัดเจนด้วย ดังนั้นการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีความเพี้ยนต่ำและผลตอบเชิงความถี่ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณภาพของเสียงดีขึ้นได้

เครื่องเสียงที่ใช้ไม่จำเป็นต้องครอบคลุมช่วงความถี่ที่ประสาทหูของคนรับรู้ได้ เพราะเสียงคนไม่เหมือนเสียงดนตรี สำหรับเสียงพูดผลตอบเชิงความถี่ควรจะราบเรียบในช่วง 150 Hz ถึง 7 kHz ก็พอ ดังนั้น เวลาเราเลือกใช้ไมโครโฟนเพื่อรับเสียงคนอย่างเดียวก็พยายามเลือกชนิดที่ให้ผลตอบเชิงความถี่ในช่วงดังกล่าวก็พอแล้ว สำหรับระบบเสียงที่ต้องการทั้งเสียงนักร้องและเสียงดนตรีผลตอบเชิงความถี่อยู่ในช่วง 50 Hz ถึง 12 kHz การเลือกไมโครโฟนหรือสิ่งอื่น ๆ ก็ควรจะเลือกให้อยู่ในช่วงนี้
นอกจากนี้แล้วยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้คุณภาพของเสียงไม่ดีพอ สาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ก็คือ สายนำสัญญาณต่าง ๆ ถ้าใช้กับไมโครโฟนอิมพีแดนซ์สูงสายไมโครโฟนควรจะยาวไม่เกิน 20 ฟุต และถ้าจำเป็นต้องใช้สายไมโครโฟนยาวกว่านี้ก็ควรเปลี่ยนมาใช้ไมโครโฟนแบบอิมพีแดนซ์ต่ำ ลำโพงที่ใช้ควรมีผลตอบเชิงความถี่ทั้งในแนวตรง (on axis) จากลำโพง และในแนวที่เยื้องออกไปจากลำโพง นั่นคือมีผลตอบเชิงมุม (polar response) ที่ดี

คุณภาพของเสียงจากแบบของไมโครโฟนแบบของไมโครโฟนควรจะเลือกแบบที่มี่ผลตอบเชิงความถี่ที่เหมาะสมกับงานนั้น ๆ เช่น เมื่อใช้กับเสียงคน เสียงดนตรี งานกลางแจ้ง รายละเอียด สำหรับแบบของไมโครโฟนที่ใช้หาได้จากบริษัทผู้ผลิต ที่กล่าวมาเป็นการเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องเสียงเพื่อให้ได้ผลตอบเชิงความถี่ที่เหมาะสม (เกี่ยวกับทางด้านวงจร)

แต่ยังมีองค์ประกอบที่สำคัญที่แม้จะใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมแล้วก็ตาม คือสภาพธรรมชาติของเสียงในบริเวณนั้นหรือในห้องไม่เหมาะสมทำให้เสียงความถี่สูงหรือต่ำมีระดับความดังที่ผิดปกติไป หรือค่อยกว่าปกติไป การแก้ไขโดยมากจะใช้อุปกรณ์เสริมแต่งเสียงเพิ่มเติม ซึ่งได้แก่ อีควอไลเซอร์ ฟิลเตอร์ อื่นๆ อีกมากมาย
โปรดติดตามตอนต่อไป